ฉันเป็นเจ้าสาวของเเวมไพร์
ณ เวลาเที่ยงคืนตรง รถครูคันสีดำย่อมเดินทางไปตามป่าที่โดดเดี่ยวโดยด้านในยังคงมีหญิงสาวในชุดเจ้าสาวที่เเดงหรูหราหนึ่งคน
ฉันต้องเป็นตัวตายตัวเเทนของพี่วีร่า
นี่ฉัน...ต้องกลายเป็นเครื่องสังเวยเเละเจ้าสาวของผีดิบจริงๆสินะ ต่อให้หลอกตนเองตอนนี้ก็ไม่ทันเเล้วล่ะ
เมื่อนานเเล้วบรรพบุรุษของเราเกิดมีเรื่องพิพาทกับเเวมไพร์ชั้นสูง ตระกูลของเราเสียจำนวนคนไปมากมายตั้งเเต่ปีค.ศ1870 สงครามนี้กินระยะเวลามามากจนถึงสิบปี
สุดท้ายทั้งผู้นำตระกูลเเวมไพร์เเละบรรพบุรุษของฉันจึงยุติสงครามลง
พวกเขาทำสัญญากัน เมื่อยามใดในเวลาเที่ยงคืนวันศุกร์ หากหญิงสาวใดในตระกูลซึ่งคือเเม่ของฉันให้กำเนิดทายาทเเฝดใดออกมาเป็นผู้หญิงสองคน จะต้องนำทายาทคนเล็กเป็นเครื่องสังเวยเลือดให้กับเเวมไพร์ หากไม่ทำเช่นนั้นก็อาจจะชดเชยด้วยการมีบุตรเเทนหรือการมีลูกนั่นเอง เเต่ถ้าหากไม่ส่งไป
จะเกิดสงครามเเละการสูญเสีย
อันที่จริงฉันเเละพี่วีร่าไม่ได้คลอดออกมาพร้อมกัน พี่เกิดก่อนฉันสามปี จากนั้นเเม่จึงกำเนิดฉันขึ้นมา เพราะฉันเป็นเด็กผู้หญิงที่ไม่มีใครต้องการ พวกเขาจึงส่งฉันมาที่นี่
ที่ตระกูลเราไม่สามารถมีเด็กสองคนได้เพราะกลัวการจะเกิดสงครามเเย่งชิงอำนาจเมื่อใครคนนึงตายลง
เเละตอนนี้ฉันกำลังเป็นเจ้าสาวของเเวมไพร์
ในตระกูลของเราสืบต่อกันมายาวนานนับร้อยปี โดยกฏนึงที่ว่าให้เจ้าสาวนำสมบัติชิ้นหนึ่งใดก็ได้ติดตัวตามไปด้วย ท่านทวดของครอบครัวเราเองตอนที่ท่านอายุครบสิบเเปดปีเเละถูกส่งมาก็ได้นำเอาอาวุธไปเช่นกัน
ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับท่าน
เธอหายตัวไปเเละไม่กลับมาอีกเลย
ส่วนของที่ฉันนำมาคงจะเป็นจี้เพชสีเเดงอันเล็ก
ท่านพ่อเล่าว่าเมื่อฉันยังเด็ก มีหญิงเเก่คนนึงนำจี้นี้มาขายให้ครอบครัวเราในราคาสูงลิบลิ่ว ท่านพ่อของฉันนึกสงสารจึงซื้อมันมา เเต่หล่อนบอกกับท่านพ่อฉันว่า 'มันจะมีประโยชน์ หากเด็กของคุณถูกส่งตัวไปในท่ามกลางผีดิบ'
เพราะงั้นท่านพ่อเลยให้ฉันมา
บางที...นี่อาจจะดีกว่าการตายเเบบอุบัติเหตุ
้เราไม่สามารถรู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น
"..."
"ถึงเเล้วครับคุณหนูไวโอเล็ต"
ฉันชะงัก เงยหน้ามองที่หน้าต่างนอกรถ คฤหาสสีดำเด่นระหง่าอยู่กลางป่าที่โดดเดี่ยว บรรยากาศดูน่ากลัวเเละวังเวงจนร่างกายของฉันก้าวออกไปไม่ได้
ตึกตัก ตึกตัก
ฉันได้ยินเสียงหัวใจของตนเองที่เต้นบ้าระห่ำอยู่ด้านใน
น่ากลัว
น่ากลัวจัง
"คุณวินสัน พาฉันไปที่วิหารก่อนได้ไหมคะ"
"เเต่คุณหนูครับ...เรามาถึงที่นี่เเล้ว กระผมเกรงว่าจะไม่ได้ครับ"
"..." ฉันเผยรอยยิ้มฝืนๆให้กับเขา มันเป็นรอยยิ้มที่เเฝงไปด้วยความรู้สึกเศร้าเเละหวาดกลัว คุณวิลสันมีท่าทางกระสับกระส่ายเป็นอย่างมาก
ถ้าหากเลยเวลาเที่ยงคืนเเต่เจ้าสาวยังไม่เข้าหอจะเกิดปัญหาใหญ่อีกครา
เอาเถอะ ถึงคราจบชีวิตเเล้ว พรที่ฉันนำมาในกระดาษคงจะไม่ได้ส่งไปถึงพระเจ้าเเละท่านพ่อ
"ชั่งมันเถอะค่ะ ฉันไม่เป็นไรค่ะ" ฉันยิ้มพลางเอื้อมมือไปจับประตูรถเเละเปิดมันออก จากนั้นก็เอื้อมหยิบกล่องสมบัติสีน้ำตาลทรงไทยอันเล็กตามติดมา
"เอ่อ คุณหนูครับ"
"..?"
"ขอให้โชคดี"
"มีชีวิตโดยสันติภาพนะครับ"
"..!"
นี่เป็นคำลาที่ดูจริงใจที่สุดในชีวิตของฉัน รอบกายมีเเต่คนใส่หน้ากากเข้าหาเต็มไปหมด ฉันคิดในเเง่ลบตลอดเวลา เเต่ทำไมกัน...
"คุณวิลสัน"
ทำไมฉันหยุดยิ้มไม่ได้เลย มันช่างเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขในรอบสิบเเปดปี
"ขอบคุณที่ดูเเลฉันมานะคะ"
"ครับ"
คุณวิลสั้นระบายยิ้มอ่อนตอบกลับฉันมาเล็กน้อยก่อนที่เขาจะปิดประตูเเละล็อครถแย่างรวดเร็ว ตัวรถหรูสีดำเคลื่อนที่ไปอย่างช้าๆพร้อมกับไอหมอกจางๆ ไม่กี่นาทีต่อมาฉันไม่ได้เห็นเเสงสว่างจากรถอีกเลย
"ฉันเองก็หวังว่าคำขอของคุณวิลสันจะเป็นจริง" ฉันก้มหน้าลงเล็กน้อย ในมือกระชับกล่องสมบัติเเน่นขึ้นก่อนที่จะตัดสินใจก้าวเท้าเดินเข้าไปในคฤหาสสีเลือด
ภายในตัวคฤหาสไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ภาพบรรพบุรุษในตระกูลเป็นระเบียบเรียบร้อย้เถมยังมีเฉดโทนสีที่ดูจางกว่าปกติ นั่นทำให้ดูสบายตา
ฉันเดินมาถึงห้องๆหนึ่ง เมื่อเปิดประตูเข้าไปด้านใน กลิ่นเทียนหอมรวมถึงดอกไม้มากมายกลับเตะจมูกฉันเหลือเกิน
ถึงว่าทำไมบรรพบุรุษของเราไม่มีเเม้เเต่เรี่ยวเเรงที่จะต่อสู้ ถึงจะนำอาวุธไปก็ตาม
"เทียนหอมปลุกอารมณ์กับดอกไม้พิษนี่เอง ที่ทำให้ร่างกายอ่อนเเรง..."
ฉันเดินคลำสิ่งของไปเรื่อยๆจนกระทั่งเจอกับช็อกโกเเลตกล่องหนึ่ง ด้านในมีช็อกโกเเลตเเละโน้ตที่เเปะเอาไว้ว่าให้กิน
ฉันตัดสินใจหยิบช็อกโกเเบตนั้นขึ้นมาหนึ่งชิ้นจากนั้นก็กินมันเข้าไป รสชาติมันถึงจะขมนิดหน่อยเเต่ฉันเองก็ชอบดี...
ไปชำระกายเเละรอเจ้าบ่าวก่อนดีกว่า
เเอ๊ด
"..!" ฉันชะงักทันทีที่เห็นขายร่างสูงโปร่งเดินเข้ามาด้านใน เส้นผมของเขาเป็นสีน้ำเงินปนดำ ในมือของชายหนุ่มถือหนังสืออยู่รวมถึงสวมเเว่นตาอีกเข่นกัน
"..."
ดูดีกว่าที่คิดเอาไว้เเละ
น่ากลัวเช่นกัน...
เขาไล่สายตามองเรือนร่างของฉันเล็กน้อยก่อนจะตวัดตากลับไปที่อย่างอื่น ชายหนุ่มก้าวเท้าเข้ามาใกล้กับฉันก่อนที่เขาจะวางหนังสือเล่มนั้นลง
เขา ชื่อคริสเตียนสินะ
"คุณคริสเตียนคะ คือว่า..."
เขาไท่ได้ปล่อยให้ฉันได้พูดคำใดๆออกมาจากปากจนหมด ริมฝีปากนั่นช่วงริมฝีปากของฉันไปจนหมด มันทั้งอุ่นเเละนุ่มจนรู้สึกถอนตัวไม่ขึ้น
พอได้รับสิ่งนี้เเล้ว ความคิดของฉันก็พลันนึกถึงช็อกโกเเลตกล่องนั้นทันที
หรือว่า...
"ไม่ต้องห่วง"
"ผมไม่ทำอะไรรุนเเรงกับคุณหรอก" เขาถอนริมฝีปากออก นิ้วเรียวที่มีสีขาวซีดเอื้อมมือไปหยิบช็อกโกเเลตหนึ่งชิ้นจากกล่องนั้นก่อนที่อีกมือจะค่อย ๆ เลื่อนมาปลดเดรสราตรีของฉันออก
"เพราะคืนนี้คุณจะเป็นเจ้าสาวของผม"
ถ้าเขาพูดเเบบนี้...จะให้ฉันปฏิเสธได้ยังไงไหวเล่า
โธ่ ทำไมเจ้าบ่าวคนนี้ถึงดูเซ็กซี่ขนาดนี้นะ :(
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments