ณ เวลาเที่ยงคืนตรง รถครูคันสีดำย่อมเดินทางไปตามป่าที่โดดเดี่ยวโดยด้านในยังคงมีหญิงสาวในชุดเจ้าสาวที่เเดงหรูหราหนึ่งคน
ฉันต้องเป็นตัวตายตัวเเทนของพี่วีร่า
นี่ฉัน...ต้องกลายเป็นเครื่องสังเวยเเละเจ้าสาวของผีดิบจริงๆสินะ ต่อให้หลอกตนเองตอนนี้ก็ไม่ทันเเล้วล่ะ
เมื่อนานเเล้วบรรพบุรุษของเราเกิดมีเรื่องพิพาทกับเเวมไพร์ชั้นสูง ตระกูลของเราเสียจำนวนคนไปมากมายตั้งเเต่ปีค.ศ1870 สงครามนี้กินระยะเวลามามากจนถึงสิบปี
สุดท้ายทั้งผู้นำตระกูลเเวมไพร์เเละบรรพบุรุษของฉันจึงยุติสงครามลง
พวกเขาทำสัญญากัน เมื่อยามใดในเวลาเที่ยงคืนวันศุกร์ หากหญิงสาวใดในตระกูลซึ่งคือเเม่ของฉันให้กำเนิดทายาทเเฝดใดออกมาเป็นผู้หญิงสองคน จะต้องนำทายาทคนเล็กเป็นเครื่องสังเวยเลือดให้กับเเวมไพร์ หากไม่ทำเช่นนั้นก็อาจจะชดเชยด้วยการมีบุตรเเทนหรือการมีลูกนั่นเอง เเต่ถ้าหากไม่ส่งไป
จะเกิดสงครามเเละการสูญเสีย
อันที่จริงฉันเเละพี่วีร่าไม่ได้คลอดออกมาพร้อมกัน พี่เกิดก่อนฉันสามปี จากนั้นเเม่จึงกำเนิดฉันขึ้นมา เพราะฉันเป็นเด็กผู้หญิงที่ไม่มีใครต้องการ พวกเขาจึงส่งฉันมาที่นี่
ที่ตระกูลเราไม่สามารถมีเด็กสองคนได้เพราะกลัวการจะเกิดสงครามเเย่งชิงอำนาจเมื่อใครคนนึงตายลง
เเละตอนนี้ฉันกำลังเป็นเจ้าสาวของเเวมไพร์
ในตระกูลของเราสืบต่อกันมายาวนานนับร้อยปี โดยกฏนึงที่ว่าให้เจ้าสาวนำสมบัติชิ้นหนึ่งใดก็ได้ติดตัวตามไปด้วย ท่านทวดของครอบครัวเราเองตอนที่ท่านอายุครบสิบเเปดปีเเละถูกส่งมาก็ได้นำเอาอาวุธไปเช่นกัน
ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับท่าน
เธอหายตัวไปเเละไม่กลับมาอีกเลย
ส่วนของที่ฉันนำมาคงจะเป็นจี้เพชสีเเดงอันเล็ก
ท่านพ่อเล่าว่าเมื่อฉันยังเด็ก มีหญิงเเก่คนนึงนำจี้นี้มาขายให้ครอบครัวเราในราคาสูงลิบลิ่ว ท่านพ่อของฉันนึกสงสารจึงซื้อมันมา เเต่หล่อนบอกกับท่านพ่อฉันว่า 'มันจะมีประโยชน์ หากเด็กของคุณถูกส่งตัวไปในท่ามกลางผีดิบ'
เพราะงั้นท่านพ่อเลยให้ฉันมา
บางที...นี่อาจจะดีกว่าการตายเเบบอุบัติเหตุ
้เราไม่สามารถรู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น
"..."
"ถึงเเล้วครับคุณหนูไวโอเล็ต"
ฉันชะงัก เงยหน้ามองที่หน้าต่างนอกรถ คฤหาสสีดำเด่นระหง่าอยู่กลางป่าที่โดดเดี่ยว บรรยากาศดูน่ากลัวเเละวังเวงจนร่างกายของฉันก้าวออกไปไม่ได้
ตึกตัก ตึกตัก
ฉันได้ยินเสียงหัวใจของตนเองที่เต้นบ้าระห่ำอยู่ด้านใน
น่ากลัว
น่ากลัวจัง
"คุณวินสัน พาฉันไปที่วิหารก่อนได้ไหมคะ"
"เเต่คุณหนูครับ...เรามาถึงที่นี่เเล้ว กระผมเกรงว่าจะไม่ได้ครับ"
"..." ฉันเผยรอยยิ้มฝืนๆให้กับเขา มันเป็นรอยยิ้มที่เเฝงไปด้วยความรู้สึกเศร้าเเละหวาดกลัว คุณวิลสันมีท่าทางกระสับกระส่ายเป็นอย่างมาก
ถ้าหากเลยเวลาเที่ยงคืนเเต่เจ้าสาวยังไม่เข้าหอจะเกิดปัญหาใหญ่อีกครา
เอาเถอะ ถึงคราจบชีวิตเเล้ว พรที่ฉันนำมาในกระดาษคงจะไม่ได้ส่งไปถึงพระเจ้าเเละท่านพ่อ
"ชั่งมันเถอะค่ะ ฉันไม่เป็นไรค่ะ" ฉันยิ้มพลางเอื้อมมือไปจับประตูรถเเละเปิดมันออก จากนั้นก็เอื้อมหยิบกล่องสมบัติสีน้ำตาลทรงไทยอันเล็กตามติดมา
"เอ่อ คุณหนูครับ"
"..?"
"ขอให้โชคดี"
"มีชีวิตโดยสันติภาพนะครับ"
"..!"
นี่เป็นคำลาที่ดูจริงใจที่สุดในชีวิตของฉัน รอบกายมีเเต่คนใส่หน้ากากเข้าหาเต็มไปหมด ฉันคิดในเเง่ลบตลอดเวลา เเต่ทำไมกัน...
"คุณวิลสัน"
ทำไมฉันหยุดยิ้มไม่ได้เลย มันช่างเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขในรอบสิบเเปดปี
"ขอบคุณที่ดูเเลฉันมานะคะ"
"ครับ"
คุณวิลสั้นระบายยิ้มอ่อนตอบกลับฉันมาเล็กน้อยก่อนที่เขาจะปิดประตูเเละล็อครถแย่างรวดเร็ว ตัวรถหรูสีดำเคลื่อนที่ไปอย่างช้าๆพร้อมกับไอหมอกจางๆ ไม่กี่นาทีต่อมาฉันไม่ได้เห็นเเสงสว่างจากรถอีกเลย
"ฉันเองก็หวังว่าคำขอของคุณวิลสันจะเป็นจริง" ฉันก้มหน้าลงเล็กน้อย ในมือกระชับกล่องสมบัติเเน่นขึ้นก่อนที่จะตัดสินใจก้าวเท้าเดินเข้าไปในคฤหาสสีเลือด
ภายในตัวคฤหาสไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ภาพบรรพบุรุษในตระกูลเป็นระเบียบเรียบร้อย้เถมยังมีเฉดโทนสีที่ดูจางกว่าปกติ นั่นทำให้ดูสบายตา
ฉันเดินมาถึงห้องๆหนึ่ง เมื่อเปิดประตูเข้าไปด้านใน กลิ่นเทียนหอมรวมถึงดอกไม้มากมายกลับเตะจมูกฉันเหลือเกิน
ถึงว่าทำไมบรรพบุรุษของเราไม่มีเเม้เเต่เรี่ยวเเรงที่จะต่อสู้ ถึงจะนำอาวุธไปก็ตาม
"เทียนหอมปลุกอารมณ์กับดอกไม้พิษนี่เอง ที่ทำให้ร่างกายอ่อนเเรง..."
ฉันเดินคลำสิ่งของไปเรื่อยๆจนกระทั่งเจอกับช็อกโกเเลตกล่องหนึ่ง ด้านในมีช็อกโกเเลตเเละโน้ตที่เเปะเอาไว้ว่าให้กิน
ฉันตัดสินใจหยิบช็อกโกเเบตนั้นขึ้นมาหนึ่งชิ้นจากนั้นก็กินมันเข้าไป รสชาติมันถึงจะขมนิดหน่อยเเต่ฉันเองก็ชอบดี...
ไปชำระกายเเละรอเจ้าบ่าวก่อนดีกว่า
เเอ๊ด
"..!" ฉันชะงักทันทีที่เห็นขายร่างสูงโปร่งเดินเข้ามาด้านใน เส้นผมของเขาเป็นสีน้ำเงินปนดำ ในมือของชายหนุ่มถือหนังสืออยู่รวมถึงสวมเเว่นตาอีกเข่นกัน
"..."
ดูดีกว่าที่คิดเอาไว้เเละ
น่ากลัวเช่นกัน...
เขาไล่สายตามองเรือนร่างของฉันเล็กน้อยก่อนจะตวัดตากลับไปที่อย่างอื่น ชายหนุ่มก้าวเท้าเข้ามาใกล้กับฉันก่อนที่เขาจะวางหนังสือเล่มนั้นลง
เขา ชื่อคริสเตียนสินะ
"คุณคริสเตียนคะ คือว่า..."
เขาไท่ได้ปล่อยให้ฉันได้พูดคำใดๆออกมาจากปากจนหมด ริมฝีปากนั่นช่วงริมฝีปากของฉันไปจนหมด มันทั้งอุ่นเเละนุ่มจนรู้สึกถอนตัวไม่ขึ้น
พอได้รับสิ่งนี้เเล้ว ความคิดของฉันก็พลันนึกถึงช็อกโกเเลตกล่องนั้นทันที
หรือว่า...
"ไม่ต้องห่วง"
"ผมไม่ทำอะไรรุนเเรงกับคุณหรอก" เขาถอนริมฝีปากออก นิ้วเรียวที่มีสีขาวซีดเอื้อมมือไปหยิบช็อกโกเเลตหนึ่งชิ้นจากกล่องนั้นก่อนที่อีกมือจะค่อย ๆ เลื่อนมาปลดเดรสราตรีของฉันออก
"เพราะคืนนี้คุณจะเป็นเจ้าสาวของผม"
ถ้าเขาพูดเเบบนี้...จะให้ฉันปฏิเสธได้ยังไงไหวเล่า
โธ่ ทำไมเจ้าบ่าวคนนี้ถึงดูเซ็กซี่ขนาดนี้นะ :(
ทั้งที่ตอนเเรกริมฝีปากของเขามันดูอ่อนโยนเเละอบอุ่นมากเกินกว่าจะทนไหว
เเต่ตอนนี้กลับรุกล้ำอย่างหนักจนร้อนไปหมดเลย...
"ผมจะไปช้าๆ...ไม่ต้องเกร็งนะ"
ฉันพยักหน้าตอบรับกลับ น่าอายจังที่ฉันต้องมาทำเเบบนี้กับผีดิบที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเเวมไพร์ที่น่ากลัว เเละมีลูกกับเขาเพื่อให้ทีชีวิตรอด เเต่ว่า...
สวบ!
"ฮึก..เจ็บ..." ฉันร้องครวญครางในอ้อมกอดของเขา บางทีนี่อาจจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับฉัน เขาเป็นคนที่ทำให้ความบริสุทธิ์ของฉันหายไป ส่วนล่างของฉันเมื่อเขาดันมันเข้าไปมันเจ็บหน่วงไปหมด...
ฉันรู้สึกเหมือนตนเองกำลังเเตกสลาย
ทว่าความอบอุ่นจากมือของเขากลับปลอบประโลมเเก้มของฉันอย่างอ่อนโยน
"ผมขอโทษ"
ถึงคำพูดนั้นจะเเสดงความรู้สึกผิดขนาดไหน เเต่ตอนนี้มันสายเกินไปที่จะหยุดอยู่เเค่นี้ สิ่งนั้นยังคงค้างเอาไว้ในกลับกุหลาบของฉัน
เขาเองคงทรมานไม่ต่างกัน
"ฮึก...ชั่งเรื่องนี้เถอะค่ะ" ฉันพยามปาดน้ำตาของตนเองลวกๆ จากนั้นก็เงยหน้าขึ้น
"ต่อเถอะค่ะ เเค่นี้...ฉันทนไหว"
"คุณเเน่ใจนะ..?"
คริสเตียนถามฉันด้วยน้ำเสียงที่เเผ่วเบาเเละยังไม่ลดละการปลอบใจฉัน เขาลูบเเก้มฉันอย่างช้าๆก่อนที่จะชะงักเมื่อมือของฉันทาบลงไปกับมือคู่งามนั้นของเขาอีกที
"ไม่เป็นไรค่ะ..."
เพราะพรุ่งนี้ฉันก็จะตายเเล้ว
"อืม" เขาครางตอบรับในลำคอก่อนจะค่อยๆเร่งจังหวะขยับสิ่งนั้นช้า ๆ
ฉันเจ็บ เจ็บไปหมดเลย
เเต่ความเป็นความตายมันจะยิ่งทรมานมากกว่านี้
อย่างน้อยฉันจะพยามคุ้นชินกับมัน
เมื่อเวลาผ่านไป น่าเเปลกที่ความเจ็บปวดนั้นหายไปจากฉันทีะบนิดจนกระทั่งเหลือเเต่ควาทรู้สึกเสียวซ่านเเทน
"อ๊ะ..! อ๊าา!"
ฉันอายที่จะต้องครวญครางอะไรเเบบนี้ เเต่พอยิ่งเอามือปิดหน้า คนตรงหน้าฉันกลัยเเสยะยิ้มเจ้าเล่ห์เเละทำให้ฉันยิ่งน้องมากขึ้นเข้าไปอีก
"อึก..." คริสเตียนกลืนน้ำลายเหนียวลงคออย่างยากลำบาก ไม่สิ เขาไม่ควรจะปฏิเสธตนเองว่าพอใจกับเธอมาก เขาไม่อยากจะทำอะไรรุนเเรงกับเธอ เเต่ผู้หญิงคนนี้จะทำให้เขาคลั่งจนเสียสติ เพราะกลิ่นหอมๆของเลือดเเละร่างกายของเธอ
จนสุดท้ายเวลาล่วงเลยมาหลายนาที เขาปลดปล่อยน้ำขุ่นออกมาราวกับหมดเหมือนเป็นความอิ่มเอมในร่างกาย เเต่ไม่ใช่ นั่นคือโดยปกติ
พรวด!
เเต่เมื่อสายตาของเขาเห็นเเก้มที่เเดงๆน่ารักอย่างนั้นของมนุษย์...
อย่างเเวมไพร์เหรอจะทนไหว
ยิ่งกับหญิงสาวที่เป็นภรรยาของเขา การปฏิเสธเป็นเรื่องยากทีเดียว
"เเฮ่ก..เเฮ่ก" ฉันหอบหายใจออกมาถี่ ๆ รู้สึกว่าร่างกายจะอ่อนเเรงเเละเพลียเหลือเกิน กว่าอีกคนกลับจับที่เอวของฉันยกขึ้นจากนั้นก็ใส่มันเข้าไปจนสุด
สวบ!
"อ๊า..!"
"คุณคริสเตียน ฉัน..."
"ผมไม่ให้คุณพักหรอก"
ฉันชะงัก
"คืนนี้คุณเป็นเจ้าสาวเพียงคนเดียวของผม เพราะผมจะทำให้คุณพอใจ..."
"เเต่...ฉันเพลีย" ฉันทิ้งตัวลงบนอกของเขาอย่างเพลีย ๆ นี่ไม่ใช่รอบเเรกที่พวกเราทำเเต่เป็นรอบที่สอง เเต่เขากลับยืนยันคำเดิม
"คุณลองหลับตาดูสิ ผมจะลงโทษคุณ"
เขาว่าอย่างนั้นก่อนจะหยิบช็อกโกเเลตนั้นเข้ามากินอีกครั้ง รวมถึงป้อนฉันด้วยริมฝีปากร้อนเเรงของเขา...
ช็อกโกเเลตนั่นผสมยาชูกำลัง!
"อึก...อ๊า... "
ฉันครางออกมา เขาดูยิ้มเเละพอใจกับสิ่งตรงหน้าซึ่งเเตกต่างกับฉัน คริสเตียนใช้สายตาเล้าโลมร่างกายของฉันก่อนที่ริมฝีปากนั้นจะสัมผัสกับริมฝีปากของฉัน
ฉันไท่รู้ว่าจะตอยรับยังไงเลยยอมเปิดอปากให้เขาได้ตักตวงความหวานจากด้านในจนพอใจ
"คืนนี้กว่าคุณจะได้นอน...เมื่อผมพอใจเเล้ว"
เเละหลังจากนั้นเจาก็ทำมันอีกครั้ง เรื่อย ๆ เรื่อย ๆ
...
เธอหลับไปเเล้ว
เธออาจจะเพลียมากเพราะเขานั้นก็ทำมันไปหลายต่อหลายครั้ง
ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าตัวเองอยากขึ้นมาอีกครั้ง
สายตาของเจามองพลางกายของเธอที่เต็มไปด้วยรอยเเดงตามอก คอ เเละข้อมือ เฮ้อ...
"ผมขอโทษอีกครั้ง"
คริสเตียนเอื้อมมือไปหยิบช็อกโกเเลตนั้นอีกครั้ง
"ครั้งสุดท้ายเเล้วจริงๆ"
@06:12
คฤหาสว่ากลายเป็นสีเลือด ในยามเช้ามันกลับดูโดเด่นเป็นพิเศษ เเสวอาทิตย์อ่อนๆที่อบอุ่นส่องมาที่ปลายเตียงของสองร่างที่นอนอยู่ ปลายเท้าของพวกเขามีสองคู่ ยามที่เหล่านกโบยบินกลับมาหารังที่กิ่งไม้ กลับมีสองร่างที่เหนื่อยล้าหลับไหลบนเตียง
มือของฝ่ายชายสวมกอดร่างของหญิงสาวเอาไว้เเน่น เส้นผมของเธอโปรยปรายใกล้กับจมูก ซึ่งส่วกลิ่นหอมอ่อนๆของเเชมพูที่เพิ่งชำระกายใหม่โดยที่ชายหนุ่มอุ้มเธอจากเตียง
ใบหน้าของเธอซุกลงที่อ้อมกอด ในลักษณะเปลือยเปล่าทั้งคู่
เเสงตะวันส่องลงมาที่ดวงตาของหญิงสาวจนเปลือกตาของเธอลืมขึ้น
"อืม..."
ไวโอเล็ตพลิกร่างกายไปมาทว่ายอ่งเธอพลิกตัวหันเเผ่นหลังกลับไป คนที่อยู่ด้านข้างยิ่งใช้มือสวมกอดเธอเเน่นขึ้นมากยิ่งขึ้น
"คะ-คุณคริสเตียน" ใบหน้าของเธอเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเเดงก่ำด้วยความอายอย่างหนัก เเต่จนสุดท้ายเธอก็ไม่สามารถขยับได้อีก ใบหน้าของเขาซุกลงที่เเผ่นหลังของเธอก่อนที่จะหลับไหล
เอาเถอะ...รอดมาได้ถึงวันนี้ก็ยังดี
เธอตื่นขึ้นมาอีกครั้งบนเตียง เเตกต่างกันที่ครั้วนี้ร่างกายของเธอนั้นสวมเดรสสีชมพูอ่อนอยู่ เปลือกตาจองเธอเปิดขึ้นเเละกวาดสายตามองไปรอบๆก่อนที่จะถอนหายใจออกมาอย่างเเผ่วเบา
เเม้อยากที่จะให้ทุกอย่างเป็นเเค่เพียงภาพลวงตาเเต่ไม่ว่ายังไงทุกอย่างยังคงเป็นความจริง
เธอไม่มีทางเลือก นอกจากจะตายลงหรือจะอุ้มท้องให้กับเเวมไพร์
ถึงจะดูอ่อนโยนเเต่เขาไม่สามารถลบล้างคำพูดที่วนเวียนในหัวของไวโอเล็ตได้เลย
'ถ้าไม่มีบุตรจะต้องตาย'
'น้องสาวของพี่ การตายเเทนมันทรมานเเต่เธอต้องทำให้ได้นะ'
'ต้องตาย'
'ต้องตาย'
'ต้องตาย'
'ต้องตาย'
'ตัวตายตัวเเทนของครอบครัว การตายเเทนพี่สาวเป็นเกียรติมากเลยนะ'
'วีร่าอ่อนเเอไม่สามารถมีลูกได้ เเต่เธอพิเศษกว่านั้นไวโอเล็ต เธอต้องทำประโยชน์ในฐานะทาสที่เราไม่ต้องการเเก่ตระกูล'
คำพูดที่คอยตอกย้ำจิตใจวนเวียนอยู่ในความคิดของเธอ ไม่ว่าจะพยามมากขนาดไหนก็ไม่มีทางสำเร็จที่จะลบมันออกไป ไวโอเล็ตได้เเต่สั่นเทาด้วยความกลัวโดยที่ร่างกายของเธอนั้นไม่รู้สึกตัวใดๆ
ฉันอยากตาย
ฉันไม่มีประโยชน์...
ก๊อก ๆ
เสียงเคาะประตูจากชายหนุ่มปริศนาด้านนอก เขาเคาะประตูสามครั้งเเต่กลับไม่มีน้ำเสียงใดๆตอบกลับมา คริสเตียนตัดสินใจก้าวเท้าเดินไปด้านหน้าก่อนจะเปิดประตูห้องเข้าไป
"ผมไม่ได้ยินเสียงคุณ มีอะไรไม่สบายใจรึเปล่า" คริสเตียนเอ่ยถามออกมาด้วยความเป็นห่วง เขายดถาดอาหารเข้ามาด้านในห้องก่อนที่ประตูจะปิดลง เขาก้าวเท้าเดินเข้าไปหาเธอก่อนจะทิ้งน้ำหนักลงที่ข้างเตียง
"..."
"ไวโอเล็ตครับ?"
"..."
"คุณคริสเตียน"
"คุณจะฆ่าฉันเมื่อไหร่เหรอคะ"
"..!" เขาชะงักกับคำพูดที่เอ่ยออกมาจากปากของหญิงสาว หรือ เธอหมายถึงเรื่องในอดีตที่บรรพบุรุษของเขาสังเวยหญิงสาวที่ไม่ได้ตั้งครรภ์ หรือหนีจากไป
คริสเตียนมีท่าทางอึกอักเล็กน้อย เเต่ประเด็นสำคัญที่เขารู้สึกตกใจไม่น้อยคือเเววตาของเธอไม่มีความปราถนาจะมีชีวิตอยู่ต่ออีก
มีใครบางคนใช้คำพูดที่ไม่ควรกรอกหูภรรยาของเขาก่อนเเต่งงาน
น่ารำคาญ
คงจะไม่พ้นฝั่งครอบครัวเจ้าสาวอยู่ดี
มีความสุขในช่วงเวลาที่สั้น ที่ไม่สามารถเเทนที่สิ่งนั้น ได้
"ผมไม่ทำอะไรคุณหรอก สบายใจเถอะครับ"
"จริงอยู่ที่บรรพบุรุษของเราทำเรื่องโหดร้ายเเบบนั้นกับคนในตระกูลคุณมาหลายร้อยปี"
"เเต่คุณพิเศษกว่านั้น" เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงนุ่มละมุน จกานั้นก็กลืนน้ำลายอึกใหญ่เเละพูดต่อ "ต่อให้คุณจะเป็นมนุษย์ คุณก็ยังเป็นภรรยาของผม เเละผมจะไม่มีวันเสียคุณให้ใครเด็ดขาด"
หากพูดเเค่นี้อาจจะทำให้เจ้ตัวรู้สึกผ่อนคลายบรรยากาศอึดอัดลงได้บ้าง เเค่อย่างน้อยก็พอเพราะคริสเตียนไม่ได้หวังอะไรมากจากเธอ เเต่...ครอบครัวของเธอนั้นเเตกต่างกันออกไปจากตระกูลของเขา ดูราวกับจะส่งตัวตายมาเเทนมากกว่า เขารู้กฏข้อนั้นดีเมื่อได้อ่านจดหมายก่อนวันเเต่งงานเป็นเวลาหนึ่งปีที่จะถูกเปลี่ยนตัวเจ้าสาว ครอบครัวของไวโอเล็ตมีอยู่สี่คน พี่สาวคนโตสองคนเเละไวโอเล็ต
เเต่เมื่อหนึ่งปีก่อนพี่สาวคนโตได้จากไปจากอุบัติเหคุ เพราะงั้นหน้าที่เเต่งงานจึงตกอยู่ในมือของวีร่า น่าเสียดายที่ร่างกายของเธอนั้นอ่อนเเอเกินกว่าจะอุ้มท้องได้ เพราะงั้นจึงสลับเปลี่ยนเจ้าสาวโดยการส่งจดหมายยินยอมมาให้พ่อของเขา
'ไวโอเล็ต หนามกง'
เเละ
'วีร่า หนามกง'
ทั้ฝคู่มีหน้าตาที่คลับคล้ายกันดั่งในภาพวาด ทว่าไวดอเล็ตกลับเเตกต่างออกไปในวัยเด็กภาพวาดถูกส่งให้กับตัวเจ้าบ่าวก่อนเเต่งงานหลายอาทิตย์ 'จี้เพรชสีเเดง'ที่สวมอยู่กับไวโอเล็ตทำให้เขาประหลาดใจ
ทั้งที่เป้าหมายคือการสวมหน้ากากคนดีเข้าหา จะว่ายังไงดีล่ะ...
คริสเตียนนึกลูบต้นคอของตนเองเบาๆ ใบหน้าของเขาเริ่มเปลี่ยนเป็นสีชมพูอ่อนลามไปจนถึงหู
เขารู้สึกว่าตัวเองคงจะตกหลุมรักมนุษย์เข้าเเล้ว
ใบหน้าของไวโอเล็ตค่อนข้างเอียงไปทางเด็กใสซื่อ น่ารักมากดว่าวีร่าที่ดูลึกลับเเละรุนเเรง เพราะนึกว่าจะเป็นเด็กที่ใสซื่อเเละล่อลวงง่ายจึงตอบตกลง เเต่ไม่คิดว่าเธอจะมีมุมที่เเตกต่างไปนิดหน่อย
"เพราะงั้นห้ามพูดถึงเรื่องความเป็นความตายอีกนะ ไม่งั้นผมจะลงโทษคุณเเน่" มือของคริสเตียนเลื่อนไปที่เเก้มนุ่มนิ่ม ๆ ของไวโอเล็ตก่อนจะดึงมัน น่าเเปลกใจกว่านั้นเพราะมันนุ่มนิ่มเหมือนกับซาลาเปาซะเลย ไวโอเล็ตชะงัก
" อื้อ เจ็บ ๆ "
"เข้าใจเเล้วค่ะ..." ไวโอเบ็ตยอมตอบรับตามคำพูดของคริสเตียน ไม่งั้นมีหวังเขาคงจะเบ่นเเก้มเธอจนยุ่ยเเน่ๆ คริสเตียนปล่อยมือให้เเก้มของเธอเป็นอิสระก่อนที่เขาจะคลี่ยิ้มอ่อนโยนออกมา
"ดีมากครับ อย่าลืมทานอาหารเช้าด้วยนะครับ ถ้าขาดเหลืออะไรก็บอกผมได้เลย"
"ขอบคุณนะคะ" เธอตอบกลับไปอย่างเรียบง่ายก่อนที่เขาจะลุกขึ้นจากเตียงเเละก้าวขาเดินออกไปอย่างรวดเร็ว
สิ่งนี้อาจจะไม่เเย่อย่างที่เธอคิด...อีกไม่กี่วันต้องไปที่สถาบันเเล้วซินะ
เธอจะไม่ได้เจอกับคริสเตียนอีกเลย
ขอบคุณสำหรับช่วงเวลาดี ๆ ค่ะ คริสเตียน
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!