"รออยู่นี่ก่อนนะ ฉันขอไปประชุมแปบนึง"
นาบีกดฉันให้นั่งบนโซฟาในห้องทำงานของเธอ ขายาวๆรีบเดินไปหยิบเอกสารบนโต๊ะทำงานก่อนจะออกไป...
"อ่าว..."
แล้วให้มาทำอะไรล่ะ เท้าเล็กๆเดินวนรอบห้องไปมาเพราะไม่รู้ว่าจะทำอะไรดี แฟ้มงานที่กองอยู่บนโต๊ะไม่มีวี่แววว่าเขาจะทำมัน มือเล็กถือวิสาสะเปิดดู
"บัญชีหรอ...ทำไมตัวเลขเยอะขนาดนี้"
เธอปิดมันลงเพราะได้ยินเสียงใครบางคนกำลังพูดอยู่หน้าห้อง เธอจึงรีบกลับไปนั่งที่โซฟาตามเดิม จนเสียงเงียบไป
'ปวดฉี่...'
เวรกรรมแท้ๆเลยเรา เธอเปิดประตูออกไปเพื่อจะไปเข้าห้องน้ำก็ต้องชะงัก เมื่อมีผู้ชายตัวสูงทำท่าจะเปิดประตูเหมือนกัน
"ขอโทษค่ะ ถ้ามาหานาบีล่ะก็ เธอออกไปประชุมค่ะ ขอตัว"
เท้าเล็กรีบวิ่งออกไปก่อนที่คนตรงหน้าจะเอ่ยปากถามอะไร ไม่ใช่ว่ากลัวหรอกนะ แค่ตกใจที่เรากับเขาจ้องหน้าแบบระยะประชิดขนาดนั้น
"นาบีเธอไปไหนกันเนี้ย"
ขาเล็กๆทั้งวิ่งและเดินไปในตัว ปากก็บ่นพึมพ่ำหาเพื่อนตัวดีของเธอ จนไม่ได้ดูทางชนกับใครคนนึงเข้า
"ขอโทษค่ะ"
ทั้งที่ตัวเองเซไปชนโต๊ะข้างๆ แต่ใครบางคนก็ดูไม่ได้สะทกสะเทือนอะไรเลย มือเล็กเอาผมที่บังหน้าทัดหูเพื่อจะเงยหน้ามองคนที่เดินชนแบบชัดๆ
"..."
เสื้อเชิ้ตสีขาวถูกปลดกระดุม3เม็ดอย่างตั้งใจ ผู้ชายคนนี้ตัวสูงมากๆรอยสักที่ปรากฏใต้สาปเสื้อ
'Do....?'
ตากลมโตมองได้เพียงเท่านี้เพราะเสื้อมันบังตัวอักษรเกือบทั้งหมด
"มัวทำอะไรอยู่"
ไม่ทันที่จะได้เงยมองหน้าเขา เท้ายาวๆก็เดินออกไปทันทีโดยไม่มีเสียงพูดอะไรออกมาจากชายตรงหน้า
เธอหันไปมอง เห็นเพียงแค่แผ่นหลังกว้างกับมือทั้งสองข้างที่ล้วงกระเป๋ากางเกง
"น่ากลัว..."
เธอหันหน้าหนีทันทีเมื่อคนข้างๆร่างสูงโปร่งหันมามองเธอ
เท้าเล็กๆรีบก้าวออกไปอีกครั้ง ลืมไปเลยว่าจะไปห้องน้ำ
ร่างสูงจัดเสื้อตัวเองใหม่หลังจากที่โดนตัวอะไรไม่รู้วิ่งมาชน เขาจัดแบบลวกๆก่อนจะเดินเข้าห้องประชุมพร้อมมือขวา
"มาช้าจังมึง กูนึกว่าไปห้องนาบี"
ซง ฮยอนจุน ที่นั่งอยู่ซ้ายของมุมห้องเอ่ยด้วยเสียงหน่ายๆเพราะทั้งห้องก็รอแค่คุณชายเพียงคนเดียว
"ใครเอาตัวอะไรเข้าบริษัท"
"คิม อูซอก พูดเกินไป ตัวอะไรคือ?"
" ช่างเถอะ ต้องประชุมกันแล้วนะ น้องฉันอุตส่าห์ขอร้องให้มาช่วยมัน จะไปสนใจเรื่องอะไรอีก"
ร่างสูงโปร่งเดินไปนั่งที่ประจำของตนขายาวนั่งไขว่ห้างกระดิกเท้าอย่างสบายอารมณ์ เขาเพียงแค่เข้ามาฟังเพื่อนๆของเขาทะเลาะกันเฉยๆ
'เด็กนั่นเป็นใคร'
เสียงในหัวของเขาถามซ้ำๆแต่ก็เลิกคิดทันทีเมื่อมีสงครามขนาดย่อมๆเกิดขึ้นตรงหน้าเขา
"แก...ฉันจะร้องไห้แล้วนะเมื่อกี้จะออกไปห้องน้ำมีผู้ชายน่าตาน่ารักอยู่หน้าห้องของแก พอรีบเดินออกมาก็ไปชนกับใครไม่รู้น่ากลัวมากเลย แงงงง"
ปากเล็กสวดรัวๆเมื่อนาบีกลับเข้ามาในห้องได้สักพัก ใบหน้าสดใสตอนนี้กลับทำหน้าเบะเหมือนจะร้องไห้ใส่นาบี
"เอาน่าคิดมาก บริษัทฉันไม่มีนักเลงหรอกแกอีกอย่างห้องฉันอยู่ข้างๆแผนกแฟชั่นนะยะมีแต่ผู้หญิง"
"แล้วฉันเดินชนใครล่ะ"
"บริหารระดับสูงมั้ง"
ยิ่งแย่เข้าไปอีก
"จูนจะตายแน่วว"
"นี่ขอเรียกว่าจูนบ้างได้ป่าว"
นาบีทำสีหน้าจริงจัง
"ได้สิเรียกอะไรก็ได้ทั้งนั้นแหละ"
ยังไงชื่อก็ถูกใช้มานานแล้วแค่เดี๋ยวนี้ไม่มีใครรู้เฉยๆ
"จูนคืนนี้มีงานให้ทำอีกนะ ตอนนี้ช่วยดูนี่ที่ว่าดีไหม"
"ให้ฉันดูหรอ?"
"อืมนะๆช่วยดูหรือเช็คอะไรให้หน่อยนะ ขอร้อง"
.
.
.
.
.
"ฮัน ซึงอู มึงจะปล่อยแบบนี้หรอไอ้นาบีทำเป็นที่ไหนอวดเก่ง"
ฮยอนจุนกังวลอยู่ไม่น้อยเพราะแฟชั่นที่ถูกออกแบบมาถูกปัดทิ้งแถมเงินหล่นขนาดนั้น นาบีไม่ได้เรียนบริหารมาโดยตรงคงยาก
"เขารู้ว่ากำลังทำอะไรแหละ"
คิม โยฮัน นั่งหมุนเก้าอี้เล่น เขารู้ว่าซึงอูแค่แกล้งคนปากเก่งที่ไม่ยอมเอ่ยปากขอความช่วยเหลือจากเขา
"ล่มพอดีบริษัทกูพึ่งเปิดให้น้องแท้ๆ"
"เขารู้อยู่แล้วแหละว่าจะเป็นแบบไหน"
อูซอกพูดให้ชายซงสบายใจ แม้ว่าซึงอูจะไม่ปริปากพูดอะไรทั้งนั้นแต่เขารู้ดีเพราะอยู่ด้วยกันมานาน
"อี ฮันกยอลไปไหนอีกแล้วว่ะเมื่อกี้นั่งอยู่นี่"
"ไปเก็บงาน"
"อ่อ"
ฮยอนจุนพยักหน้าอย่างเข้าใจว่าเก็บงานคืออะไรแล้วจู่ๆเขาก็นึกอะไรขึ้นมาได้
"กูไม่แน่ใจนาบีพาใครมาด้วยว่ะกลัวจะเป็นเพื่อนที่แม่งหลอกมัน กูเจอในห้องทำงานนาบีพอดี"
"เลขาใหม่ป่าว"
โยฮันเสนอความคิดขึ้นมา
"ไม่น่าใช่เธอสวยโลลิตัวเล็กๆชุดเดรสสีขาวกูยังติดตาอยู่เลย"
"ซึงอูนั่นนะ..."
ซึงอูมองหน้าอูซอกเพื่อบอกว่าเขาเองก็จำได้ก้อนกลมๆขาวๆนิ่มๆที่วิ่งมาชนเขาช่วงที่กำลังมาประชุมตอนนั้น
"มึงเจออ่อ"
สายตาทุกคู่มองมาที่ซึงอู เขาลุกขึ้นติดกระดุมทุกเม็ดแล้วเดินออกไป
"มีประชุม"
เขาเอ่ยทิ้งไว้ก่อนจะปิดประตูไปพร้อมกับอูซอกซึ่งเป็นมือขวาของเขาเอง
"วันนี้ซึงอูพูดไป14คำ"
โยฮันนั่งนับนิ้วตัวเองคร่าวๆ ซึงอูเป็นคนขี้เกียจพูด ถ้าเขาอยากพูดก็จะพูดออกมาไม่เกิน100คำใน1วัน นอกจากทำงานที่เขาจะพูดเยอะเป็นพิเศษ
"เข้าใจนับนะมึงอ่ะ รีบกลับไปรับนัม โดฮยอน ซะด้วยมันไม่ได้เอารถไป"
ทุกอย่างก็จบลงทันที
.
.
.
...19.00...
ตอนนี้หุ้นกำลังค่อยๆประคองขึ้นสูงด้วยฝีมือเด็กสาวคนนึง ที่ใช่สมองอย่างหนักในการช่วยเพื่อนสนิทของเธอ
"ได้แล้ว!! จูนเก่งจังเลยวันหลังสอนมั้งสิไปเรียนมาหรอ"
"ฉันเป็นเด็กกำพร้านะแกไม่มีเงินไปเรียนหรอกแค่ลองจับต้นชนไปมั่วๆอ่ะ"
รอยยิ้มสดใสผุดออกมาเมื่อทำให้เพื่อนคนสวยสบายใจขึ้นมา
"ฉันส่งพี่เลี้ยงเด็กไปดูแลแล้วนะแทๆของเธอน่ะ"
"อย่าส่งใครไปเยอะนะแค่นี้พอให้คนรู้แค่นี้"
แววตาที่เป็นกังวลทำให้นาบีรับปาก ไม่รู้ว่าจูนจะกลัวอะไรแต่อาจจะเป็นเรื่องส่วนตัวจึงไม่ได้ถามออกไป
"เราจะกลับเลยไหมหรือจะให้ช่วยอะไรอีก"
บอกเลยว่าอยากตอบแทนแต่นาบีก็ให้เงินเธอตลอดบอกว่าให้เด็กๆเพราะว่าเธอชอบพวกเขา
"มีที่ๆฉันต้องไปน่ะไปต่อว่าคนที่ดูถูกฉัน ทั้งฮันกยอลทั้งโยฮัน"
นี่อาจจะเป็นคนที่ทำให้นาบียอมจ่ายหนักๆและอ้อนวอนเธอแบบสุดๆ ดวงตาที่เป็นประกายจ้องมองสายตาที่ดูโมโหและเคืองๆของอีกฝ่าย
"ไปกันไม่ไกลฉันจะพาไปเปิดโลกยามค่ำคืน"
...20.30...
ไม่ไกลเลยจริงงงงๆๆเป็นห่วงน้องๆจะแย่ แต่ถ้านาบีบอกว่าส่งพี่เลี้ยงไปก็สบายใจหน่อย
"จะพาไปไหน..."
"เข้ามาสิ้"
ทุกครั้งที่อยู่กับนาบีเธอชอบทำอะไรแบบนี้อยู่เรื่อยเธอรู้ว่าที่นี่คืออะไร แล้วเธอก็ยังไม่18ด้วยซ้ำ
"เข้าได้"
มือคู่สวยลากตัวเล็กเข้าไปทันที มียามสองคนท่าทางน่ากลัวยืนอยู่เหมือนไม่ให้เขา แต่เมื่อนาบีเงยหน้าขึ้นเขาก็ต่างหลบให้กันหมด จริงๆแล้วเพื่อนที่คบอยู่เป็นเด็กแบบไหนเนี้ย
"เธอนั่งนี่นะเดี๋ยวฉันมา"
"แกจะทิ้งฉันอีกแล้วหรอ"
ปากเล็กเบะเห็นจะร้องไห้ที่เวลามาสถานที่ใหม่นาบีมักหายตัวไปเสมอ
"หรือเธออยากจะเข้าไปอยู่ในห้องVVIPที่มีแต่ผู้ชายล่ะ?"
"งั้นนั่งนี่ก็ได้ เร็วนะๆ"
ที่อโคจรที่นาบีพามาคือ..."บาร์โฮส" สายตาคู่สวยมองไปรอบๆซึ่งมีผู้ชายหล่อๆมากมายและผู้หญิงหลายวัย ทั้งวัยรุ่น ทั้งแก่แล้วก็มานั่งดริ้งกับผู้ชาย
"เมื่อไหร่จะออกมาสักที...วังเวงชะมัด"
เป็นนิสัยเคยชิดของคนที่นั่งหลบเข้ามุมเธอมักจะบ่นพึมพำแบบนี้เสมอ
"ขออนุญาตนั่งนะครับ มาคนเดียวหรอ"
ผู้ชาย...มาได้ไงไม่ได้เรียกซะนิด เธอคิดในใจ
ร่างสูงโปร่งแผ่นหลังกว้างกับเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดกางเกงสีดำรองเท้าหนังสีดำ..การแต่งตัวที่ปกติแต่สามารถดึงดูดสาวๆหลายโต๊ะมากๆ
"เอ่อ..ค่ะ ฉันไม่ได้เรียกนะคะ"
เธอตอบแบบเก้งๆกังๆเพราะสายตาที่เซ็กซี่กำลังไล่มองคนที่นั่งชิดมุมเข้าไปอีก เหมือนรังเกียจเขา
"หยุดมองดเวยสายตาแบบนั้นสักที"
เธอขมวดคิ้วยุ่งเมื่อเห็นว่าเขาไม่ยอมหยุดมอง เธอหลบสายตาของเขามองไปที่เวทีที่กำลังร้องเพลงกันอยู่
"ทำไมล่ะครับ.."
เธอหันไปมองอย่างรวดเร็วเมื่อเสียงที่ได้ยินดันชัดเจนแม้ว่าดนตรีกำลังบรรเลง
สันจมูกอันสวยกระทบกันเขากับเธออยู่ห่างกันไม่ถึงคืบ ร่างกายที่เหมือนจะรวมกันเพราะถูกบีบเข้ามา
"จะจูบไหม"
เธอสะดุ้งตกใจหน้าที่ขาวนวลตอนนี้กลับแดงระเรื่อๆเธอรีบลุกขึ้นทันทีเพราะไม่มีที่ให้ขยับตัวแล้ว
"จะจูบไม่ใช่หรอครับ"
มือหนารั้งเอวให้นั่งลงบนตักแข็ง สายตาที่ดูตกใจไม่น้อยทำให้เขาอยากแกล้งเข้าไปอีก นี่อะไรคนที่ซื้อตัวท็อปแล้วจ่ายไม่อั้นอ่ะแต่กลับรักนวลสงวนตัวแบบนี้
"ดิ้นมากๆไม่ดีนะครับ"
ดวงตากลมโตที่จ้องเหมือนจะฆ่าเขาแต่ด้วยปากที่เม้มเเน่นๆนั่นทำให้เขาคิดว่าเธอเป็นแค่ลูกแมวที่กำลังขู่
"ปล่อยฉันสิ ฉันมารอเพื่อนนะ"
น้ำเสียงเรียบนิ่งส่งผ่านไปให้เขาทันทีหลังหยุดดิ้น เพราะถ้าดิ้นคงเจ็บตัวเปล่าๆจะร้องให้ช่วยก็ไม่ใช่เห็น
"ชื่ออะไรครับ"
ปลายเสียงนุ่มกระซิบที่ข้างหูเบาๆคางของเขาวางไว้บนไหล่เธออย่างถือดี
"ปล่อยก่อนถึงจะบอก"
เขายกยิ้มกับความฉลาดของเธอ ตัวเท่านี้เองแต่กลับรู้จักต่อลอง อายุถึงรึป่าวก็ไม่รู้
"งั้นไม่อยากรู้แล้ว"
"นายชื่ออะไร"
"จูบก่อนเดี๋ยวบอก"
เธอตีไปที่ขาแข็งอย่างอดไม่ได้ หน้าสวยไม่กล้าแม้แต่จะขยับไปไหน พอขยับเหมือนกับว่าสันจมูกของเขากำลังเล่นกับซอกคอของเธออยู่
"อะไร?"
ยังจะถามอีกงั้นหรอคนอะไรก็ไม่รู้!
"ใครจะจูบกับคนที่ไม่รู้จักแม้กระทั่งชื่อ"
เขายิ่งนึกอยากสนุกเขาไปอีกเมื่อเห็นการต่อลองของเธอ
"รู้ชื่อจะจูบได้?"
"ไม่มีทาง"
เธอตอบแบบทันควันสายตาคู่สวยพยายามมองหาเพื่อนสนิทของเธอตลอดเวลาแต่ก็ไม่มีวี่แววจะมา
"จะเข้าห้องน้ำ"
"ไปสิ"
"มืออ่ะ"
ร่างสูงปล่อยมือที่ยังรั้งเอวอยู่ เธอหันมามองหน้าเขาแบบเคืองๆ แต่ชายหนุ่มก็ยิ้มรับเหมือนไม่มีอะไรเกินขึ้น
"ฉันชื่อ คัง มิจู เพื่อนๆฉันเรียกจูน"
พูดจบเธอก็ออกไปทันทีโดยไม่รอให้เขาพูดอะไร ร่างสูงได้แต่มองคนตัวเล็กหายไปกับผู้คน เขาประหลาดใจนิดหน่อยที่เธอมาบอกกับเขา แต่ก็อดยิ้มไม่ได้ที่เธอรักษาคำพูดแม้ว่าเขาไม่ได้ตั้งใจจะปล่อยเธอ
"ผู้จัดการคะ มีเอกสารให้เซ็นค่ะ"
"เดี๋ยวไป"
เขาเดินออกไปจากโต๊ะนั้นทันที เขาคงไม่นั่งรอเธอจะเดินเข้ามาหรอกเพราะรู้ว่าคงกลัวเขาไปอีกนาน
.
.
.
"ไงคะ พี่ชายสนุกไหม"
"ก็ดี"
คนที่สั่งให้เขาไปเล่นกับคนที่ทุ้มเงินเยอะที่สุด ก็คือซงนาบี เขาแพ้พนันเธอเข้าเต็มๆ แต่ก็คุ้มดี
"เห็นว่าจับเธอนั่งตักด้วยนะแล้วก็...ทำท่าจะจูบ"
"พี่ชอบแบบแก่ๆหรอ"
"เด็กเกินไปด้วยซ้ำ"
เขาที่นั่งไขว้ห้างบนโซฟาเอ่ยขึ้น
"พี่ซึงอูผิดคนรึป่าวคนที่ทุ้มเงินเยอะๆเป็นหญิงแก่ๆนะ"
นาบีตกใจสุดขีดเมื่อพี่ซึงอูของเขาบอกว่าเด็กเธอก็นึกถึงเพื่อนที่ทิ้งไว้คนเดียว
"คนที่ทุ้มมากกว่าคือเด็กผู้หญิงเดรสขาว"
อูซอกพูดเสริมแล้วยื่นไอแพตให้เธอดู ท่าทางเธอเปลี่ยนไปทันทีเพราะไม่รู้ตัวเองจ่ายเยอะกว่าหญิงคนนั้นซะอีก
"นั้นคัง มิจู เพื่อนหนูนะ!!เธอพึ่งจะ15!!!"
"ห๊ะ!! ยัยบ้าพาเธอเข้ามาในที่แบบนี้อะนะ"
โยฮันทำหน้าตกใจสุดขีด
"โช ซึงยอน ไม่คิดจะพูดอะไรหน่อยหรอ"
โดยปกติจะตกใจที่เห็นสาวเอาะๆมาในที่แบบนี้เพราะนี้พ่อแม่มา หมอนี่ตัวท็อปในการเข้าไปเต๊าะเลยล่ะ
"ไม่ล่ะ เด็กๆก็อร่อยดีแต่นั่นนะดูเหมือนซึงอูจะถูกใจ"
สายตานิ่งหยุดมองไปที่ซึงอู เขาเห็นทุกอย่างที่ซึงอูทำทั้งรอยยิ้มนั่นพึ่งเคยได้เห็นเป็นครั้งแรกแท้ๆ
"หยุดคิดอะไรแปลกๆเลยนะ หนูไปดีกว่าฝากบอกพี่ฮันกยอลกับดงพโยด้วย ช่วยเอาของมาคืนสักที"
ขาสวยๆเดินพุ่งตรงออกไปที่โต๊ะแล้วคว้ามือเพื่อนตัวเล็กทันที
"ขอโทษจริงๆนะ"
คนถูกลากงงกับคำพูดของเพื่อนตัวเองเธอปล่อยให้เพื่อนจูงเธออกมาจากร้านทันที
"ไม่รู้ว่าเรื่องอะไร แต่ไม่เป็นไรนะไม่โกรธหรอก"
รอยยิ้มบางๆจากคนตัวเล็กส่งให้เพื่อนคนสวยของเธอ นาบียิ้มตอบกลับมา เขารู้ดีว่าฮัน ซึงอูเป็นคนยังไงเขาไม่อยากให้เธอไปยุ่งกับพี่ชายคนนั้น
"ฉันไปส่งบ้านนะ พรุ่งนี้คงไม่ได้ไปหา"
"อื้อ ขอบใจนะแกไปทำงานบ้างก็ได้เดี๋ยวหุ้นก็ร่วงอีกหรอก"
...23.00...
ฉันเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างเหนื่อยหน่าย เด็กๆพากันหลับไปหมดแล้วเพราะมีพี่เลี้ยงเล่นด้วยจนดึก
ฉันปูที่นอนของตัวเองแล้วล้มตัวลง
'ผู้ชายคนนั้น...โฮสนั่นชื่ออะไรนะหล่อขนาดนั้นมาเป็นโฮสทำไม'
เธอได้แต่คิดเรื่องผู้ชายที่หยาบคายคนนั้นจนหลับไป....
^^^Comment \= เป็นกำลังใจให้กันนะ:)^^^
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 8
Comments