“มึง กูน้ำหนักขึ้นอ่ะ” ผมจ้องตัวเลขที่โชว์หราอยู่บนหน้าปัดที่ชั่งน้ำหนัก
“แล้ว”
“พี่คลื่นเขาจะรักกูมั้ยวะ ถ้ากูอ้วน”
“มึงยังไม่ได้คบกับเขาอย่าเพ้อเจ้อ”
“โถ่” ผมเบ้ปากให้อีกคน โถ่เมลมึงก็ให้กำลังเพื่อนหน่อยก็ได้
ผมก้าวลงจากเครื่องชั่งน้ำหนักเดินออกมาจากหน้าห้องน้ำ วันนี้พวกเรานัดกันมาเที่ยวที่ห้างสรรพสินค้าใกล้บ้านเพราะความว่างที่ทำให้เหงาจนต้องนัดออกมาเจอกัน ผมกับเมลเดินเปื่อยไปเรื่อยๆในหลากหลายโซน เข้านู่นทีเข้านั่นทีแต่ก็ยังไม่เจอของถูกใจ เดินกันจนมาถึงร้านหนังสือเราแยกเดินกันเมลไปเดินโซนนิยายส่วนผมก็ไปเดินโซของใช้ ดูของไปพลางสายตาเหลือบเห็นใครบางคนที่อยู่ไม่ไกล ผมเงยหน้าหันมองชายที่คุ้นเคยในชุดเสื้อยืดสีเทาธรรมดากับกางเกงยีนส์สามส่วน
พี่คลื่น!!!!
พอรู้ว่าคนๆนั้นเป็นพี่คลื่นหัวใจผมก็เต้นตุบตับทันที ยกมือขึ้นป้องปากแอบกรี๊ดกระโดดเหยงๆผมรีบหยิบมือถือในกระเป๋าออกมาส่งข้อความหาเพื่อนนสาวแต่ยังไม่ทันจะส่งเมลก็โผล่มาก่อน
“ป่ะ มึง”
“มึงๆๆๆๆๆๆๆ” ผมเขย่าแขนเมลสุดฤทธิ์มันมองหน้าผมพร้อมกับขมวดคิ้วใส่
“อะไร”
“พี่คลื่นๆ”
ผมส่งซิกไปทางด้านหลังให้อีกคน เมลชะเง้อมองดูก่อนจะร้องอ๋อนิ่งๆก่อนจะหันมาถามผม
“แล้ว”
“ฮืออออออ”
ผมเขย่าแขนเสื้อมันรัวๆพลางแอบเหลือบมองคนที่อยู่ด้านหลัง อยากกรี๊ดใจจะขาดแต่ติดที่อยู่ในห้างเนี่ยแหละ ไม่งั้นผมคงดิ้นลงพื้นไปแล้ว
“มึงงงงง กูเขิน”
“เขินห่าอะไรเขาไม่ได้คุยกับมึงสักหน่อย”
ไอ้เมลมึงขัดความฝันกูอีกแล้ว ว่าไปผมก็ตีแขนมันไปหนึ่งที ไม่ทันได้เขินเสร็จจู่ๆเมลมันก็ดึงแขนผมให้เดินตามอย่างงงๆ เดินลัดเลาะมาตามซอยผมสังเกตได้ว่าเริ่มเดินใกล้พี่คลื่นเรื่อยๆ
เดี๋ยวนะ ไอ้เมลมึงจะทำอะไรอ่ะ
ไม่ทันได้ถามเพื่อนสาวก็ผลักผมให้เซเล็กน้อยจนไปชนกับพี่คลื่น ผมรีบขอโทษโดยอัตโนมัติและเป็นจังหวะที่พี่คลื่นหันมาขอโทษผมเหมือนกัน
“ขอโทษครับ อ่าว เรา”
“เอ่อ สวัสดีครับ”
“เจอกันอีกแล้วนะ”
“ครับ” พี่คลื่นมองผมสลับกับคนข้างพึ่งสังเกตุพอยืนใกล้แล้วพี่คลื่นสูงมาก แล้วตัวก็หอมมากด้วย
“มาเที่ยวกันหรอ”
“ครับ แล้วพี่…”
“พี่มาซื้อของน่ะ แต่เดี๋ยวสักพักก็จะกลับแล้ว”
“อ๋อ”
ผมตอบด้วยเสียงที่เบาลง ฮือออออ ผมพึ่งจะเจอพี่คลื่นนะแต่พี่คลื่นจะกลับแล้ว
“พอดีหนูมีสิทธิแลกตั๋วหนังฟรีสามที่แล้วบังเอิญขาดคนพอดีค่ะ แล้ววันนี้มันก็เป็นวันสุดท้ายแล้วด้วยถ้าพี่ว่างสนใจไปดูหนังกับพวกหนูมั้ยคะ”
สิ้นเสียงของเมลทั้งผมและพี่คลื่นต่างหันไปมองอีกคน โหหหห เมลมึงสุดยอดขนาดกูหน้าด้านกูยังไม่กล้าเลย
“อืม…ก็น่าสนนะ โอเคพี่ตกลง”
เยส!!!! แอบดีใจข้างใน เมลมึงโคตรสุดยอดเลย
พวกเราเดินมาถึงโรงหนังชั้นบนสุดของห้างเมลเข้าไปต่อแถวเพื่อซื้อตั๋วหนังเหลือเพียงผมและพี่คลื่นที่ยืนรอ มือเรียวกำสายสะพายแน่นพลางเม้มปากด้วยความเขินสุดขีด ใจนึงก็อยากจะชวนเขาคุยแต่พอเอาเข้าจริงผมไม่กล้าอ่ะ เขิน
“จะว่าไปพี่ยังไม่รู้จักชื่อเราเลย”
“อ๋อ ผมชื่อบิลครับ ส่วนนั่นเมล”
“อื๋ม พี่คลื่นนะ”
พี่คลื่นเอ่ยพร้อมกับส่งยิ้มหวานมาให้ ผมส่งยิ้มกลับแต่หารู้ไม่ว่าตอนนี้ร่างกายผมอุณหภูมิพุ่งขึ้นจเกือบจะสุดปรอทแล้ว อ๊ากกกกก พี่คลื่นอย่ายิ้มแบบนั้นเดี๋ยวผมตาย
“แก้มเราแดงเลย ไม่สบายหรอ”
“เอ๊ะ? แดงหรอครับ”
ผมยกมือขึ้นปิดแก้มไม่รู้เลยว่าตัวเองแก้มแดง พี่คลื่นมองผมอยู่ครู่ก่อนจะใช้หลังมือหนานั่นแตะเบาๆที่แก้มผม
“แก้มนิ่มแฮะ”
ร่างกายนิ่งสนิทเหมือนหินผมค่อยๆหันไปหาคนข้างๆอย่างช้าๆเราได้สบตาหันอยู่ครู่ มือหนาของพี่คลื่นค่อยๆไล่วนอยู่ที่แก้มก่อนจะผละมือออกไป
“แก้มเนี่ย อย่าให้ใครจับง่ายๆนะ พี่หวง”
บู้ม!! กูตาย
“พี่ดูเรื่องนี้ได้มั้ยคะ”
พี่คลื่นเงยหน้าจากมือถือมองคนถามที่ชี้หนังแอ็คชั่นอยู่ที่หน้าจอก่อนจะพยักหน้าตอบ ส่วนผมก็ได้แต่ยืนนิ่งเม้มปากกำสายสะพานแน่น ไม่ใช่อะไรแต่ผมเขิน
เขินที่โดนแอคแทคพี่คลื่นเข้ากลางใจเมื่อตะกี้
“ส่วนเรื่องที่นั่งก็…ริมสุดก็พี่ กลางไอ้บิลส่วนตรงนี้กู”
ทันทีที่เมลพูดจบผมหันไปหาเพื่อนอีกคนทันที เมลหันมาสบตากับผมพร้อมกับทำหน้าประมาณว่ามีปัญหาอะไร
“อะไร”
“อย่าลืมซื้อขนมด้วย”
“อ๋อ”
เหมือนจะโอเคแต่ผมแอบเห็นนะหน้าตาแบบนั้นมันกำลังล้อเลียนผมอยู่ แต่ไม่เป็นไร เพราะเมลเป็นผู้สนับสนุนหลักเพราะฉะนั้นวันนี้ผมให้มันวันนึง
ไม่นานก็ได้ตั๋วหนังแต่ต้องรอเวลากว่าครึ่งชั่วโมงจนถึงเวลาฉาย สายตาเหลือบเห็นเกมส์เซ็นเตอร์อยู่ไม่ไกลผมหันไปเสนอให้กับอีกสองคน
“ระหว่างรอเราไปเล่นเกมส์เซ็นเตอร์มั้ยครับ”
“หืม? เกมส์เซ็นเตอร์หรอ ก็ได้นะ”
พี่คลื่นตกลงแล้วทีนี้เหลือเมล ผมชะเง้อไปมองเพื่อนสาวที่กำลังยืนกินข้าวโพดคั่วอ่างเอร็ดอร่อยพยักหน้าตอบเป็นอันตกลง พวกเราเดินตรงไปยังเกมส์เซ็นเตอร์จัดการแลกเหรียญให้พอเท่าที่จะเล่น เข้ามาด้านในถูกตกแต่งด้วยไฟหลากสีและลวดลายสีสันที่นี่บรรจุเครื่องเล่นมากมายหลายชนิด ผมเลือกตรงไปที่เครื่องเล่นหนึ่งไม่รู้ว่ามันเรียกว่าอะไรแต่เหมือนจะเป็นเกมส์ตีกระต่าย
ผมหยิบค้อนของเล่นที่เสียบไว้ข้างเครื่องมาถือหยอดเหรียญที่แลกมาจนครบก่อนจะกดสตาร์ท กระต่ายหลากหลายตัวผลุบๆโผล่ๆผมพยายามตีมันให้โดนสักตัวแต่ก็ไม่ผล
ไอ้เครื่องนี่มันโกงป่าววะ!
ผลสุดท้ายจบลงที่ผมตีได้แค่ตัวเดียว เซ็งเว้ย!
“ชิ”
“เป็นไง” หันมองพี่คลื่นที่เดินมาขนาบข้างพลางดูดแก้วเป๊ปซี่ แค่ดูดน้ำพี่คลื่นยังหล่อเลย
“ผมได้แค่ตัวเดียวอ่ะครับ”
“ฮ่าๆๆๆๆอย่างงั้นหรอ”
ผมเบ้ปากเล็กน้อยพี่คลื่นหัวเราะเยาะผมอ่ะ เหมือนอีกคนจะเห็นผมทำหน้าเศร้าพี่คลื่นเอื้อมมือหนาวางลงบนหัวผมก่อนจะจับโคลงไปมาเบาๆยกยิ้มให้เล็กน้อยพร้อมกับเอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้ม
“อย่าทำหน้าเศร้าสิ เดี๋ยวไม่น่ารักนะ”
โฮฮฮฮฮ พี่คลื่นทำดาเมจผมอีกแล้ว
“ฮ่าๆๆ เขินเลย”
ผมรีบยกมือปิดแก้มแดงงุดหน้ามองพื้นหลบสายตาของอีกคน สัมผัสได้เลยว่าอุณหภูมิในร่างกายร้อนรุ่มอย่างเห็นได้ชัด
“ไปเถอะ ใกล้จะได้เวลาหนังฉายแล้ว”
พี่คลื่นเอ่ยพร้อมกับเดินนำผมไปทิ้งให้ผมอยู่กับความเขินจากดาเมจของเขาเอง
พี่คลื่นขี้แกล้งอ่ะ แต่ก็ชอบนะ แอร้ยยยย
เดินเข้ามาในตัวโรงเหมือนว่าโฆษณาจะจบพอดี นั่งลงตรงที่นั่งริมขวาบนสุดของโรงส่วนที่อื่นเหมือนจะมีคนจับจองกันเต็มแล้ว ผมนั่งระหว่างกลางระหว่างพี่คลื่นกับเมล ในใจแอบเต้นตุบๆไม่รู้เพราะเสียงที่ดังสนั่นของหนังที่ฉายหรือเพราะคนข้างตัวกันแน่ หนังเริ่มฉายเรื่องดำเนินเข้มข้นขึ้นเรื่อยจนถึงฉากไคลแมกซ์กลุ่มพระเอกและกลุ่มตัวร้ายยิงกันสนั่นหวั่นไหวทั้งเสียงระเบิดและปืน ผมยกมืออุดหูเพราะผมไม่ชอบเสียงระเบิดมันดังมากจนหูแทบอื้อแต่ความซวยมือผมดันไปกระแทกกับที่วางแขนความเจ็บแล่นปรี๊ดขึ้นสมองแต่ร้องออกมาไม่ได้เดี๋ยวคนในโรงจะหันมาด่า
“เป็นไรหรอ”
“มือผมกระแทกกับที่วางแขนครับ โอ๊ย”
“ไหนดูสิ”
พี่คลื่นจับมือผมข้างที่กระแทกเอาไปวางที่ตั้ง มือหนาค่อยๆลูบไล่จุดที่แดงเถือกอย่างเบาๆก่อนจะยกขึ้นจุมพิต การกระทำของพี่คลื่นทำให้หัวใจผมแทบหยุดเสียงรอบข้างเหมือนจะอื้อจนไม่ได้ยินไปชั่วขณะหนึ่ง รอยจุมพิตอุ่นๆนั่นเหมือนยังไม่หายไปทั้งที่อีกคนแค่สัมผัสเบาๆแล้วผละออก พี่คลื่นหันมาอย่างช้าๆเหมือนภาพสโลวโมชั่นเหมือนในหนังแสงจากจอสาดเข้ามาให้เห็นใบหน้าเปื้อนยิ้มได้ชัดขึ้น
“พี่ใส่ยาแล้ว เดี๋ยวก็คงหายนะครับ”
แม่ผมเคยบอกว่าเมื่อเราเจอความรักมันจะเหมือนกับในหนัง ภาพทุกอย่างจะชัดขึ้น เวลาจะเหมือนมีคนมาหยุดเอาไว้ เสียงของอีกฝ่ายเราจะได้ยินอย่างชัดเจนแม้จะอยู่ในที่ที่เสียงดังจนแทบแยกไม่ออกก็ตามที
แม่ครับ ผมได้รู้จักกับความรักจริงๆเข้าให้แล้วครับ
“อ่าวไอ้บิล เป็นห่าอะไรนิ่งเชียว ฮัลโล่”
ความรักที่เดินอย่างช้าๆแต่เหมือนเล่นโรลเลอร์โคสเตอร์ตลอดเวลา
คิมิโนโตะครับพี่คลื่น
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 21
Comments