ต่อทอดเรือเดินทางผ่านทะเล หากนับวันเดินทางวันนี้เข้าเป็นวันที่ 2 เรือสำราญใหญ่บรรจุคนได้กว่าร้อยชีวิต ลมทะเลพัดโชย ท้องฟ้าและน้ำทะเลสีครามสวยมากจนอยากจะเชยแต่ว่า
ข้าขอโทษนะเจ้าทะเล ตอนนี้ข้า…..
“อ๊วกกก!!!”
ไม่ไหวแล้ว
ฮู่ยหมิงโก่งตัวออกไปด้านนอกเรือสุดตัวก่อนจะสำรอกทุกอย่างจากท้องออกมาจนหมด
“แค่ก โอย”
ฮุ่ยหมิงเกาะก่อนจะค่อยๆหย่อนตัวเอนพิงกับขอบเรือ ยอมรับว่าครั้งนี้หนักมาก เดิมทีหากจะต้องขึ้นเรือฮุ่ยหมิงจะกินขิงก่อนที่จะออกเดินทางเพราะตนนั้นเมาเรือค่อนข้างหนัก แต่ด้วยเพราะเหตุเมื่อวันก่อนทำให้ขิงนั้นหายไป ฮุ่ยหมิงทำอะไรไม่ได้นอกจากต้องทนจนกว่าจะถึงต้าหัว
“เจ้าไหวหรือป่าว”
ซานถิงเอ่ยทักเมื่อเห็นว่าอีกคนสภาพดูแทยไม่ได้ ฮุ่ยหมิงที่อ่อนแรงพยักหน้าเล็กน้อย ปากบอกไหวแต่สภาพไม่น่ารอด ซานถิงเดินกลับครู่หนึ่งก่อนจะกลับมาพร้อมกับถ้วยหนึ่ง
“นี่น้ำขิงแก้เมาเรือ กินซะ” ฮุ่ยหมิงรับมันมาก่อนจะค่อยๆยกซด น้ำขิงที่ร้อนกำลังดีดื่มแล้วสร่างเมา
“ดูเจ้าจะชอบนะ”
ซานถิงเอ่ยแซว ฮุ่ยหมิงพยักหน้าตอบขณะกำลังซด เดิมทีเขาก็ชอบดื่มน้ำขิงอยู่แล้วน้ำขิงของที่นี่กลับดีกว่าหลายเท่า! ยอมรับเลยว่านี่เป็นน้ำขิงที่ดีที่สุดตั้งแต่ที่เคบลิ้มลองมา
“เหวอ!!”
ยังไม่ทันจะหมดผลจากที่เรือโครงเครงทำให้น้ำขิงในมือหกเสียหมด ฮุ่ยหมิงมองน้ำขิงในถ้วยสลับกับซานถิงก่อนจะขยับตัวเองแล้วก้มขอโทษจนหน้าแนบกับพื้น
“ข้าขอโทษซานถิง ข้าทำน้ำขิงสุดอร่อยของท่านหก”
การกระทำของฮุ่ยหมิงเล่นเอาซานถิงไปต่อไม่ถูก ซานถิงจับตัวของฮุ่ยหมิงให้ลุกขึ้นก่อนเอ่ยกล่าวว่าไม่เป็นไร
“เจ้าจะขอโทษข้าทำไม เรื่องแค่นี้ทำไมข้าต้องโกรธเจ้าล่ะ”
“แต่…”
“เจ้าไม่จำเป็นต้องขอโทษข้า เพราะเจ้าไม่ผิด ตกลงมั้ย” ฮุ่ยหมิงพยักหน้าตอบรับแม้ในใจจะยังรู้สึกผิดเรื่องน้ำขิงหกก็ตามที
“เริ่มเห็นแล้ว”
เสียงหนึ่งในทหารเอ่ยขึ้น ทุกบนเรือต่างหันไปมอง เมืองที่เต็มไปด้วยหมอกค่อยๆเผยให้เห็นชัดเจนมากขึ้น ริมเกาะเต็มไปด้วยเรือเล็กใหญ่เรียงกันไปตามขนาด ขนาดของเกาะน่าจะมากเรียกได้ว่าสุดลูกหูลูกตาเลย
“ถึงแล้วล่ะ”
“หู\- อ๊วกกกกก”
ข้าอยากจะเชยชมนะ แต่ไม่ไหวจริงๆ
เรือจอดที่ท่าจนสนิท ทุกคนต่างทยอยลงจากเรือ ฮุ่ยหมิงที่หมดเรี่ยวแรงค่อยๆเดินลงมาอย่างช้าๆ ในที่สุดเขาก็เป็นอิสระเสียที
“นี่เจ้าน่ะ ฮุ่ยหมิงใช่มั้ย”
ฮุ่ยหมิงหันไปตามเสียงด้วยแรงอันเหลือน้อยก่อนจะพยักหน้า ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาหาเขา ถ้าจำไม่ผิดผู้คนนี้น่าจะเป็นรองแม่ทัพเหว่ยหมิง ใช่มั้ย?
“เจ้า…เหว่ยหมิง?”
“เหว่ยเมี่ยงต่างหาก เจ้านี่ความจำน้อยเสียจริง”
“อ่อ”
เขาจะไปจำอะไรได้ล่ะ เมาเรือเสียขนาดนั้นแค่จำจุดประสงค์ในการเดินทางได้ก็ถือว่าเยอะพอแล้ว ขนาดตอนนี้ตัวเขาเองยังจำไม่ได้เลยว่าผืนแผ่นดินที่เขาเหยียบคือที่ไหน
“จะว่าไปข้าพึ่งสังเกต เจ้าตัวเล็กกว่าที่คิดอีกนะ”
“ต้องขอโทษด้วยที่ข้าเกิดมาเตี้ยเกินไป”
“ฮ่าๆๆๆ”
เหว่ยเหมี่ยงหัวเราะออกมาด้วยตลก เขาคิดไม่ถึงว่าเด็กคนนี้นอกจากจะความน่ารัก กล้าหาญยังมีความตลกเสียด้วย
“เจ้านี่ ตลกเสียจริงเชียว”
เหมือนเหว่ยเมี่ยงจะดูสนุกเกินตัว เขาหัวเราะพลางตีแขนหลังฮุ่ยหมิง แต่เหมือนจะตีแรงไปหน่อยทำให้ฮุ่ยหมิงเกือบจะสำรอกออกมาอีกครั้ง
“ฮุ่ยหมิงเจ้าไหวหรือไม่”
ซานถิงรีบเข้ามาดูอาการเมื่อเห็นว่าเขาเหมือนจะสำรอกอีกครั้ง ซานถิงคอยยพยุงก่อนจะหันไปมองเหว่ยเมี่ยงด้วยสายที่ดุดัน
“เจ้าแกล้งฮุ่ยหมิงหรือ”
“ข้าเปล่า แค่พูดคุยเล่นเฉยๆ”
เหว่ยพอรู้ว่าจะโดนดุขอปลีกตัวหนีไปทันที ฮุ่ยหมิงยืดตัวพร้อมกับสูดลมหายใจเข้าลึก กลิ่นของทะเลบวกกับกลิ่นของดอกเหมยโพยพุ่งเข้าจมูกกลิ่นพวกนี้ทำให้เขารู้สึกสดชื่นมากขึ้น
“ข้าดีขึ้นแล้ว เดี๋ยวคงต้องเดินทางต่อ”
“ข้าไปส่งเจ้าเอง แม้เจ้าจะดีขึ้นแต่ก็ยังไว้วางใจไม่ได้”
ฮุ่ยหมิงหันมามองคนข้างตัวด้วยใบหน้าจิ้มลิ้ม ซานถิงเป็นห่วงอีกคน ฮุ่ยหมิงมาในเมืองด้วยตัวคนเดียวกลัวว่าหากเดินทางอาจโดนหลอกหรือโดนทำร้ายได้
“จะดีรึ ข้าเกรงใจ”
“ไม่ต้องเกรงใจ อีกอย่างเจ้าพึ่งมาที่นี่ครั้งแรก เจ้าไปถูกรึ”
จะว่าไปก็ถูก เขาพึ่งจะมาที่นี่เป็นครั้งแรกถนนตรอกซอกซอยเขาก็ไม่รู้ หากไปคนเดียวมีหวังหลงแน่นอน
“เจ้าจะไปที่ใด ข้าจะไปส่ง”
“วังหลวงน่ะ”
“วังหลวง? เจ้าไปทำอะไรที่นั่น”
เมื่อถูกถามเหตุผลฮุ่ยหมิงหลบตาทันที เขายอมรับว่าไม่กล้าบอกคนตรงหน้า เขากลัว กลัวว่าอีกคนจะรังเกียจ
“คือ…ข้า…ไปรายงานตัว”
ซานถิงได้ยินถึงกับคิ้วขมวด เพราะเหตุนี้นี่เองทำให้ฮุ่ยหมิงถ่อมาถึงที่นี่ “ได้ ข้าจะไปส่งเจ้าให้”
ซานถิงดึงถุงสัมภาระจากมือก่อนจะไปเตรียมม้า ฮุ่ยหมิงเดินตามไปก่อนจะเอื้อมมือดึงชายเสื้อของอีกคนให้หันมา
“เจ้า…รังเกียจข้ามั้ย”
ฮุ่ยหมิงเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสั่น ซานถิงยิ้มตอบก่อนจะส่ายหน้า ใยเขาต้องรังเกียจ การมาของฮุ่ยหมิงเขารู้ว่าย่อมมีเหตุผล แม้จะอยากถามแต่หากอีกฝ่ายยังไม่พร้อมเขาก็จะไม่เค้น
“ใยข้าต้องรังเกียจเจ้า ข้ามิอาจเกลียดเจ้าได้ลงหรอก แม้สุดท้ายแล้วเจ้าจะเป็นโจรก็ตาม”
คำพูดของซานถิงทำให้คนซึ้ง ฮุ่ยหมิงเบะปากน้ำตาเอ่อด้วยความดีใจก่อนจะยกแขนเสื้อขึ้นปาดน้ำตา
ซานถิงทำไมเจ้าถึงใจดีเช่นนี้!!!
“รีบเถอะ ก่อนจะไม่ทันเวลา”
ซานถิงเอ่ยก่อนจะนำขึ้นขี่ม้า ด้วยที่ฮุ่ยหมิงนั้นตัวสั้นจึงลำบากยากเย็นแสนเข็ญ ฮุ่ยหมิงพยายามปีนขายังคงค้างชี้ฟ้า
“ข้า…ขึ้นไม่ได้”
ซานถิงขำออกมาเล็กน้อยลืมไปว่าอีกคนตัวเล็กว่า เขากระโดดลงก่อนจะอ้อมหลังดันตัวให้ขึ้นได้ถนัด
“ขอบคุณเจ้ามาก ข้าขึ้นได้แล้ว”
ซานถิงกระโดดขึ้นมาอย่างชำนาญโดยที่ฮุ่ยหมิงเป็นคนซ้อน
“ข้าไปล่ะนะ”
ฮุ่ยหมิงพยักหน้าม้าเริ่มออกตัวเขาจับชายเสื้ออีกคนแน่นกลัวว่าจะตก
รอก่อนนะวังหลวง!
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 28
Comments