“ปล่อยข้า!!!”
เสียงตะโกนจากด้านนอกส่งผลให้ทุกคนตกใจตื่นรวมถึงฮุ่ยหมิง ทุกคนที่อยู่ภายในห้องเริ่มพากันหวาดกลัว ไม่สามารถรู้ได้ว่าด้านนอกเหตุการณ์ใด เสียงปะทะรีมฝีปากของคนด้านนอกยังคงดังขึ้นต่อเนื่องจนกระทั่งมีเสียงร้องหนึ่งดังขึ้น
“อ๊ากกกกก!!!”
เสียงโอดโอยที่ฟังแล้วดูทรมาน พวกโจรพวกนั้นมิใช่ฆ่าแกงใครไปแล้วหรือ ทุกคนภายในห้องเริ่มจับกลุ่มกันด้วยความหวาดกลัว ไม่คิดเลยว่าการเดินทางในครั้งนี้จะต้องมาพบเรื่องแบบนี้
ประตูห้องถูกเปิดออกเผยให้เห็นใครบางคน ร่างสูงใหญ่มีบากที่หน้าแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีโทนเดียวกับกับพวกโจร
“พวกเจ้านี่มันเสียงดังน่ารำคาญเสียจริง”
ด้วยท่าทางที่สุขุมที่สามารถทำให้คนเกรงกลัวดูท่าจะไม่ใช่โจรธรรมดาเสียแน่ ฮุ่ยหมิงจ้องเขม็งเขามิได้เกรงกลัวแม้แต่น้อยต้องการถุงเงินคืนต่างหาก
เงินข้าน่ะ!!! เอาคืนมา!!!
เหมือนโจรผู้นั้นจะสัมผัสได้ เขาเดินตรงมาที่ฮุ่ยหมิงนั่งยองลงตรงหน้าก่อนจะเชยคางขึ้น
“เจ้ามองหน้ามีปัญหารึไง”
“เอาถุงเงินข้าคืนมา”
ฮุ่ยหมิงตอบกลับอย่างไม่เกรงกลัว ความทะเยอทะยานนี้ทำให้โจรผู้นี้ถึงกับหลุดขำ
“เจ้านี้น่าสนใจเสียจริง”
ผู้จบเขาก็โดนกระชากตัวขึ้น ฮุ่ยหมิงพยายามดิ้นให้หลุดแต่ไม่ว่าจะดิ้นอย่างไรก็ไร้ผล
“ปล่อยข้านะ!!”
ออกมาด้านนอกสายตาเหลือบเห็นร่างปริศนานอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้น ชุดสีเขียวเข้มนั่นหากจำไม่ผิดคือหัวหน้าคนม้า เจ้าคนพวกนี้ทำอะไรเขากัน
“โอ๊ย!”
ฮุ่ยหมิงถูกเหวี่ยงลงพื้นอย่างเต็มแรง เขายกแขนขึ้นมาปัดป่ายให้ตายสิแม้เขาจะเพียงแค่ตัวประกันแต่อย่างน้อยก็ทะนุถนอมกันบ้าง ฮุ่ยหมิงหันตัวกลับแต่สายตาของเขาดันไปเห็นอะไรที่ไม่ควร กองซากศพทั้งสัตว์และมนุษย์ที่กองพะเนินอยู่ไม่ไกลจุดที่เขานั่ง ทั้งกลิ่นเหม็นสาบจนแทบอยากอ้วก นี่อีกไม่นานตัวเขาจะต้องกลายเป็นแบบนี้น่ะหรือ ไม่เอานะ!!!
“นี่เจ้าจะทำอะไรข้า”
“หืม? สงสัยงั้นรึ”
ฮุ่ยหมิงถามด้วยน้ำเสียงสั่น ตอนนี้เขาเริ่มไม่สู้ดี โจรผู้นี้หรือถ้าเรียกตามูกน้องของมันก็คือกวางฉามีศักดิ์เป็นหัวหน้าโจร กวางฉาย่างก้าวมาอีกคนก่อนจะนั่งยองลงตรงหน้า
“ตอนแรก ข้าก็กะว่าจะทำให้เจ้าเป็นแบบเจ้าพวกนั้น…” กวางฉาชี้ไปที่กองศพที่อยู่มุมห้อง
“แต่ตอนนี้ ข้าเปลี่ยนใจแล้ว อยากสนุกสักเสียหน่อย กับโอเมก้าอย่างเจ้า ฮ่าๆๆ”
สิ้นประโยคกวางฉาหัวเราะร่าทันที เขาไม่อยากเป็นแบบนั้น เขายังไม่อยากมาตายที่นี่!!!
ฮุ่ยหมิงฮึดสู้ปล่อยหมัดเล็กชกเข้าที่หน้าของกวางฉาสบโอกาสวิ่งหนี แต่เพียงแค่แรงหมัดนั้นไม่สามารถที่จะทำอะไรหัวหน้าโจรอย่างเขาได้ กวางฉาคว้าตัวฮุ่ยหมิงทุ่มลงพื้นจนอีกคนร้องออกมาด้วยเจ็บ
“อั่ก!!!”
เมื่อเห็นว่าเขาเริ่มอ่อนแรงกวางฉาก็จัดการฉีกชุดบนร่างออกเป็นชิ้นๆ ฮุ่ยหมิงที่ตอนนี้แรงแทบไม่เหลือไม่สามารถต่อกรหรือดิ้นหนีได้เขาได้แต่ใช้มือเล็กๆปัดป้อง
“ย\-อย่า”
น้ำเสียงสั่นยิ่งทำให้อารมณ์ของอีกฝ่ายพุ่งพล่านกว่าเดิม กวางฉาจัดการตึงแขนอีกฝ่ายขึ้นเหนือศรีษะ ฮุ่ยหมิงพยายามใช้แรงทั้งหมดเพื่อให้หลุดจากการจับกุม แต่ด้วยแรงที่น้อยกว่าไม่ว่าจะดิ้นสักเท่าใดก็ไม่มีทีท่าว่าจะหลุด เพียงเสี้ยววินาทีที่กลางฉาจะลงมือกระทำลูกธนูคันยาวก็พุ่งเสียบทะลุศรีษะของหัวหน้าโจรทันที ร่างของกวางฉาล้มแน่นิ่งบนตัวของฮุ่ยหมิง ด้วยความช็อคจู่ๆน้ำตาของเขาก็เอ่อล้นมาทันที
ประตูห้องถูกเปิดออกเผยให้เห็นชายคนใหม่ในชุดเกราะเต็มยศพร้อมกับดาบเล่มยาวในมือ ทันทีที่ชายผู้นั้นพบเห็นก็รีบรุดตรงมาหาเขาทันที
“เจ้าปลอดภัยดีใช่มั้ย”
ไม่รู้ว่าชายผู้นี้คือใครแต่ฮุ่ยหมิงรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก ร่างของกวางฉาถูกยกออกจาตัวเขา เนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือดของหัวหน้าโจร ชายชุดเกราะหยิบผ้าผืนหนึ่งออกมาจากเสื้อเกราะก่อนจัดการห่มให้
“เจ้าคลุมผ้าผืนนี้ไม่ก่อนนะ”
ฮุ่ยหมิงที่ใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำจาพยักหน้าหงึกก่อนจะค่อยๆลุกจากแรงดึงของชายชุดเกราะ เดินออกมาด้านสายตาของเขาก็กวาดสำรวจ ถุงสัมภาระกับถุงเงินของเขาล่ะ
“ของข้าล่ะ ถุงเงินล่ะ”
“ของเจ้า?”
“ข้ามีถุงสัมภาระอยู่ในห้องนั้น แล้วก็…ถุงเงินของข้า พวกโจรมันเอาไป”
“เจ้าไม่ต้องห่วงเรื่องนั้น เจ้าออกไปรอที่ด้านนอกกับคนอื่นๆ ข้าจะจัดการหาให้”
ฮุ่ยหมิงพยักหน้ารับคำก่อนจะค่อยๆพยุงตัวเองออกมา
“ตายแล้ว เจ้าเป็นอะไรหรือไม่”
ทันทีที่ออกมาป้าแม่ลูกอ่อนก็เข้าสวมกอดทันที รวมถึงคนอื่นต่างพากันมามุงดู
“ข้าไม่เป็นไร”
เหล่าพวกของชายชุดเกราะทยอยกันออกมาพร้อมกับพวกโจรที่บ้างก็บาดเจ็บบ้างก็โดนฆ่าตาย
“พวกจ้าไม่มีใครเป็นอะไรใช่หรือไม่”
ทุกคนขานรับ ต่างกับฮุ่ยหมิงที่ชะเง้อมองหาใครบางคน ไม่นานชายชุดเกราะก็ออกมาพร้อมกับถุงสัมภาระและถุงเงินของเขา
“นี่ของหรือไม่”
“ใช่ๆ”
เมื่อได้ของของตนคืนสีหน้าของเขาก็ดูเปลี่ยนไปทันที ฮุ่ยหมิงตรวจสอบว่าทุกอย่างยังอยู่ครบดีก่อนจะถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“งั้นทีนี้พวกเจ้าทุกคนก็ขึ้นรถม้าไปได้เลย เดี๋ยวพวกข้าจะพาข้ามทะเลไปส่งยังปลายทาง”
ทุกคนต่างดีใจรวมถึงฮุ่ยหมิง อย่างน้อยตัวเขาก็ไม่ต้องมาตายที่นี่ ทุกคนทยอยพากันขึ้นรถม้าเตรียมออกเดินทาง เหลือเพียงแม่ทัพหลวงที่คอยยืนตรวจตราความเรียบร้อย
“ท่านดูสนอกสนใจเด็กคนนั้นนะ”
“เจ้าหมายถึงอะไร”
ซานถิงเอ่ยถาม เขาไม่เข้าใจที่อีกฝ่ายต้องการจะสื่อ
“ก็นั่นไง มีไปตามหาถุงสัมภาระให้ด้วย ถ้าท่านไม่สนใจแล้วจะเรียกว่าอะไรล่ะ”
“ข้าก็แค่ช่วยเหลือเขาเท่านั้นเอง”
แม่ทัพหลวงเอ่ยคำตอบ ซานถิงรู้แก่ใจดีว่าสิ่งที่เขาทำนั้นมันก็แค่ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์กันเอง แล้วอีกอย่าง ในสภาวะเช่นนั้นอีกคนตื่นกลัวเหตุการณ์ที่คนตายต่อหน้าจะให้เขานิ่งเฉยไม่ช่วยเหลือได้อย่างไร ว่าแล้วก็ขึ้นม้าพร้อมกับตามขบวนรถม้าไปทิ้งให้เหว่ยเมี่ยงยืนพรรณนาอยู่เพียงลำพัง
“ปากแข็งเสียจริงเชียว”
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 28
Comments