.../it’s hurt, when I know it’s you/...
การสร้างเกมมันก็คือการสร้างเรื่องราวหนึ่ง เรื่องราวเหนือจินตนาการที่ในชีวิตจริงมันไม่สามารถเจอได้ มีแค่เกมเท่านั้น ที่ผมจะทำอะไรก็ได้กับตัวละคร ขอแค่ตอนจบมันสวยงามและน่าพึงพอใจก็พอ
การทำเกมยังคงดำเนินต่ออีกไม่กี่อึดใจก็ใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว ผมจัดการเคลียร์บั๊คที่มีปัญหาเพื่อให้ตัวเกมออกมาสมบูรณ์และเจอปัญหาน้อยที่สุด
“ฮัลโหล…เอ้าพี่…ได้ๆค่ะพี่…โอเคค่ะหวัดดีค่ะ”
“ใครวะ”
“พี่ที่รู้จักอ่ะ เดี๋ยวเขาแวะเอาขนมมาให้”
“อ๋อ”
เสียงบทสนทนาแจ้วของสองสาว วันนี้พวกเราเปลี่ยนบรรยากาศมาทำงานที่คอนโดของจาแทน เอาจริงๆจะเรียกว่าเปลี่ยนบรรยากาศมันก็ไม่ใช่หรอกเพราะเจ้าของห้องดันซุ่มซ่ามทำแจกันแตกแล้วมันดันบาดขาเลยเปลี่ยนมาทำที่นี่แทน
ทุกคนหันกลับมาสนใจงานตัวเองต่อไม่นานเสียงกริ่งจากด้านนอกละให้ทุกคนหันไปสนใจ จาลุกออกไปเปิดประตูเผยให้เห็นคนหน้าประตู หญิงสาวผมสีน้ำตาลยาวประมาณกลางในชุดเดรสสีครีมดูจากไกลเธอสวยไม่น้อยเลย
“พี่มารบกวนเราหรือเปล่า”
“ไม่หรอก นี่ก็ทำกันใกล้จะเสร็จแล้วแหละ”
“พี่เห็นว่าเราเจ็บเป็นอะไรมากมั้ยเนี่ย”
“ก็เจ็บนิดหน่อยอ่ะ ไม่กี่วันก็คงหายแหละ”
เสียงสนทนาของแขกและจาดำเนินไปเรื่อยๆ จาเริ่มแนะนำเธอให้ทุกคนได้รับรู้ เธอชื่อเนยเป็นรุ่นพี่พวกเขาอยู่ประมาณสองปี แล้วก็เป็นแฟนเก่าของเร็นด้วยถามว่าผมสนใจมั้ย ก็ไม่ แฟนเก่าแล้วไงเลิกแล้วก็เลิกไปดิทำไมผมต้องสนด้วย
เสียงสั่นจากมือถือผมหยิบมันขึ้นมาเช็คหน้าจอขึ้นชื่อของคนที่พึ่งนึกถึงไป
\[อ๊ะ พี่เวย์\~\~\]
แต่เสียงมันไม่ใช่แฮะ
“อ่าว ไงไอ้แสบ”
\[งือ คิดถึง\]
“จริงป่าว วันก่อนยังงอนพี่อยู่เลย”
\[ป่าวนะ\]
“แล้วไปเอาเบอร์พี่มาได้ไงฮึ”
\[ขอพี่เร็น\]
“หือ?” คำตอบของจิมมี่ทำให้ผมสงสัย เดิมทีแม้ทั้งผมและเร็นจะรู้จักกันหรือแค่มีเซ็กส์กันบ่อยแต่เราก็ไม่มีช่องทางติดต่อของกันและกันอย่างมากก็มีแค่เฟสบุ๊คที่เอาไว้แค่ติดตามไลฟสไตล์ของกันและกันก็แค่เท่านั้น แต่การที่ผมได้ยินว่าอีกฝ่ายมีเบอร์ของมันก็กลับยิ่งให้ภายในอกมันเต้นเร็วยิ่งไปใหญ่
บ้าแค่อีกฝ่ายมีเบอร์เอง
ผมเดินแยกตัวออกมาที่นอกระเบียงก่อนจะหย่อนตัวนั่งลงที่เบาะโซฟา เอาล่ะตอนนี้มีเพียงแค่ผมกับคนในสายแล้วไร้คนวุ่นวายแน่นอน
“พี่เร็นมีเบอร์พี่ในเครื่องด้วยหรอ”
[งือ หนูเห็นเลยกด]
“แล้ว…เขาตั้งชื่อพี่ว่าอะไรหรอ”
[ตั้งว่าเวย์คนเลว]
“ฮ่าๆๆๆ แหม พี่เร็นเรานี่ใจร้ายจังแฮะ”
[ใช่ๆ พี่เวย์ จะมาหาหนูอีกมั้ยอ่ะ]
“ถ้าหนูอยากให้ไปพี่ไปครับ แต่ไม่รู้พี่เราจะให้เข้ารึป่าวนะ”
[ต้องให้เข้าจิ ก็พี่เวย์ต้องทดสอบ]
“ทดสอบอะไรหรอ”
[เป็นพ่อวัวไง พี่เวย์อยากเป็นหนิ หนูจำได้]
รอยยิ้มผุดขึ้นเล็กน้อย เมื่อคราวนั้นผมขอสมัครเป็นพ่อวัวแต่จิมมี่ไม่ยอมเพียงเพราะจาเคยสั่งไว้ แต่ก็นั่นแหละ ก็กินแม่วัวไปแล้วน้องมันคงไม่รู้หรอกเนาะ
“นั่นสิพี่เกือบลืมเลย”
[พี่ห้ามลืมนะ พี่ต้องมาทดสอบก่อน]
“ทำไมถึงอยากให้พี่ทดสอบเป็นพ่อวัวล่ะ”
[หนูไม่อยากให้คนอื่นเป็น หนูกลัว] ประโยคเสียงเด็กน้อยทำให้ผมขมวดคิ้ว
“หนูกลัวอะไรครับ บอกพี่ได้มั้ย”
[หนูกลัวคนอื่นมากินพี่เร็น]
แต่พอได้ยินคำตอบของจิมมี่มันก็ทำให้ผมหลุดขำทันที เอ้อ เด็กน้อเด็ก
[เมื่อตอนนู้นหนูฝันด้วย]
“ฝันอะไรหรอ”
[หนูฝันว่าพี่เร็นโดนกิน โดนกินตุ๋งๆด้วย]
“ฮะ…อ๋อ อ่อ”
ศัพท์ของจิมมี่ฟังดูยากแต่ผมก็พอจะจับทางได้อยู่แหละ
[พี่เวย์งั้นหนูไปก่อนนะ พี่เร็นเรียกกินข้าวแล้ว บ๊ายบาย]
“ครับ บ๊ายบาย”
วางสายเสร็จเวย์เอนหลังล้มตัวพิงกับพนักพิงก่อนจะถอนหายใจออกมาเล็กน้อยความรู้สึก อยากพูดว่าอยากคุยกับเขาแต่ก็กลัวแต่จะงอแงแต่เอาเถอะๅ
“ขอโทษนะคะ เราขอนั่งด้วยคนได้มั้ยคะ”
เสียงเรียกจากใครบางคนที่ประตูให้ผมหันไปสนใจมองเนยที่ชะโงกหน้าออกมาเล็กน้อย ผมพยักหน้าก่อนจะหันไปมองด้านในเห็นว่าไม่มีใครอยู่ หายไปหมดเลย
“พวกนั้นหายไปไหนล่ะครับ”
“เห็นว่าออกไปซื้อของกินน่ะค่ะ”
“อ๋อ” เสียงเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้งต่างฝ่ายต่างก็ไม่รู้จะเริ่มคุยอะไรกันดี
“คุณเวย์เป็นเพื่อนของน้องจาหรอคะ” เนยเริ่มเปิดบทสนทนาก่อน
“ครับ แล้วคุณล่ะ สนิทกับจามันได้ยังไง”
“เราเป็นแฟนเก่าเร็นน่ะ เลยรู้จักจาด้วย”
ผมพยักหน้าตอบช้าๆก็รู้เพราะจามันบอกแล้ว ไม่รู้ทำไมแต่ใจเจ็บชิบหาย
“อ่า งี้เอง ผมถามได้มั้ย ว่าทำไมพวกคุณถึงเลิกกัน”
ผมไม่อยากยุ่งกับความสัมพันธ์ของคนอื่นสักเท่าไหร่หรอก แต่เพราะเป็นความสัมพันธ์ของเร็น เลยอยากรู้
อยากรู้ ≠ อยากเสือก
“พ่อแม่เรากีดกันน่ะค่ะ จริงๆเรารักกันมากนะคะแต่ครอบครัวเราไม่โอเคกับเร็น แล้วบวกกับตอนนั้นเราต้องไปเรียนที่ต่างประเทศด้วยเลยเป็นเหตุผลที่ทำให้เราเลิกกันน่ะค่ะ”
“อ๋อ”
“คุณเวย์รู้จักกับเร็นหรอคะ”
“ก็…รู้จักครับ”
รู้จักมากเลยล่ะ
“คุณว่าเร็นเป็นคนแบบไหนหรอครับ”
“เร็นเป็นคนค่อนข้างเงียบน่ะค่ะ แต่บางทีเขาก็มีมุมอ่อนโยนนะคะ แล้วก็น่ารักด้วย แล้วคุณล่ะคะ”
“เร็นหรอครับ เขาก็…น่ารักดี”
ผมกับเนยนั่งคุยกันอยู่สักพักเธอก็ขอตัวกลับก่อนเห็นบอกว่าต้องไปทำธุระต่อผมเลยย้ายตัวเองเข้ามานั่งข้างในทำงานที่ค้างต่อเพราะมันจะได้เสร็จสักที เสียงประตูห้องเปิดออกให้เห็นคนที่พึ่งออกไปข้างนอกจากลับมาคนเดียวพร้อมกินที่เต็มมือ
“อ่าว พี่เนยกลับไปแล้วอ่อ”
“อือ ไอ้มีนอ่ะ”
“มีธุระด่วนอ่ะ กลับไปแล้ว”
ผมพยักหน้าเบาๆสายตายังคงจดจ้องกับงาน จู่ๆความอยากรู้เรื่องบางอยากก็ผุดขึ้นในหัว
“ไอ้จา กูถามอะไรหน่อยได้มั้ย”
“อ่าฮะ” จาตอบขณะที่กำลังง่วนกับการดูแผลที่ขาอยู่
“ทำไมพี่เนยถึงเลิกกับเร็นวะ”
จาเงยหน้ามองผมด้วยสีหน้าที่นิ่งสนิทก่อนที่จะหลังหลังตรงแล้วหยิบหมอนใบข้างๆขึ้นมากอด
“อยากเสือกหรอ”
“อือ”
“พี่เนยนอกใจเร็น”
คำตอบที่ออกจากปากเล่นทำเอาผมงงเลย ไหนฝั่งนั้นลอกกับเขาว่าพ่อแม่กีดดันไง ไหนบอกว่าไปเรียนต่างประเทศไง สรุปผมโดนหลอกหรอ
“ทำหน้าแบบนี้ได้ยินมาแบบไหนล่ะ”
“เขาบอกกูว่าเลิกพ่อแม่กีดกันแล้วก็ไปเรียนต่างประเทศ”
“โหวววว โคตรตอแหลเลยคนเรา”
ใช่ โคตรตอแหลเลย
“แล้วที่เขานอกใจพี่มึงคือยังไง”
“เมื่อสองปีก่อนตอนที่เร็นกับพี่เนยยังคบกับอยู่ มันมีวันนึงถ้าจำไม่ผิดวันนั้นมันเป็นงานกินเลี้ยงของสาขา พวกกูก็ไปงานกันตามปกติอ่ะแหละแต่ทีนี้ตอนที่เร็นขอไปเข้าห้องน้ำดันไปเจอพี่เนยกำลังเอากันกับรุ่นพี่ในสาขา ตอนนั้นคือเร็นช็อคมากอ่ะ แถมยังรัองไห้ไม่หยุดเลยด้วย คือรู้เลยว่าเร็นเจ็บขนาดไหนอ่ะ เร็นรักพี่เนยมากเลยนะแต่ไม่คิดว่าสุดท้ายคนที่รักจะหักหลังตัวเอง”
ผมฟังมันเล่าจนจบ ผมเข้าใจดีว่าการที่คนที่เรารักหักหลังมันเจ็บทรมานขนาดไหน แต่มันก็มีสิ่งหนึ่งหนึ่งผมโคตรจะไม่เข้าใจ…
“มึงรู้แบบนี้แล้วพาเขามาที่นี่ทำไม”
“อ่ะ…”
“ไม่ต้องมาอ่ะ ตอบกู”
ผมจ้องจาในขณะที่มันเลือกที่จะหลบสายตาผม แม่งโคตรจะเลิ่กลั่กเลยตอนนี้ อาการของมันดูยังไงก็เหมือนคนทำผิดที่กำลังหาทางเลี่ยง
“จา ตอบกู”
“งืออออ”
“ไม่ต้องมางือ ตอบ”
ผมเริ่มกดเสียงต่ำจางุดหนัาลงกับหมอนก่อนจะตอบด้วยเสียงอู้อี้
“กูอยากกินขนมอ่ะ”
“สัส” พูดจบผมก็ขว้างรีโมททีวีที่วางอยู่ข้างตัวปาใส่หัวมันทันที ได้เพื่อนเวรเห็นแก่แดก
“มึงให้เขาเข้ามาทั้งๆที่มีรู้ดีว่าเขาทำร้ายพี่มึงขนาดนั้นเพียบเพราะขนมไม่กี่ถุงเนี่ยนะ มึงบ้าป่าว”
“…”
“มึงรู้ดีว่าเขาหักหลังพี่มึง มึงรู้ดีว่าเขานอกใจพี่มึง มึงรู้ทุกอย่างจาแต่มึงก็ยังทำ”
“กูขอโทษ” จาเอ่ยเสียงเบา
“มึงไม่ต้องขอโทษกูไปขอโทษพี่มึงนู่น”
“ฮือออออ สำนึกผิดไม่ทันแล้ว”
“จา มึงโตแล้วนะ มึงก็อายุยี่สิบห้าอีกไม่กี่ปีก็จะเข้าเบญจเพสแล้วทำตัวเป็นผู้ใหญ่หน่อย ไม่ใช่เอะอะเอาขนมเป็นที่ตั้ง มึงต้องนึกถึงอย่างอื่นที่จะตามาด้วย เข้าใจมั้ย”
“เข้าใจ”
เสียงกดออดจากนอกบ้านให้ผมละสายตาจากการทำอาหาร ผมหันไปมองนาฬิกาที่เข็มชี้ว่าตอนนี้เวลาทุ่มกว่าแล้ว ใครมันมาเอาป่านนี้วะ ผมจัดการเบาไฟบนเตาให้อ่อนลงเช็ดมือให้สะอาดก่อนจะตรงดิ่งไปยังประตู มือเรียวเปิดประตูรั้วออกเผยให้เห็นคนคุ้นเคยที่ยืนอยู่หน้าบ้าน เวย์ในชุดเสื้อยืดสีขาวกางเกงยีนส์สีน้ำดำเข่าขาดตามแฟชั่นในมือถือบะหมี่เกี๊ยวอยู่ประมาณสามถุง
“ถามจริงนะ ปกติเปิดเร็วแบบนี้เคยส่องตาแมวบ้างมั้ย”
“แล้วมานี่ทำไม”
“อย่าเมินดิเธอ”
เสียงนิ่งเอ่ยราวกับว่าคล้ายจะดุอย่างไงอย่างงั้น เวย์ดันตัวเองเข้ามาด้านในบ้านเหมือนอย่างกับเป็นเจ้าของบ้านโดยไม่ถามผมสักคำ
“มาหาตัวแสบน่ะ”
“น้องหลับป\-”
“พี่เวย์\~\~\~” เสียงแจ้วมาแต่ไกลผมหันมองจิมมี่ในชุดนอนวิ่งมาพร้อมกับถือตุ๊กตาลิงตัวโปรดห้อยมาด้วย แต่ก่อนหน้านี้ผมส่งน้องเข้านอนแล้วไม่ใช่หรอ
“ไงไอ้แสบ หืม? มาให้หอมหัวสิ”
เวย์อุ้มเจ้าตัวแสบขึ้นอ้อมอกก่อนจะหอมหัวอย่างหมั่นเขี้ยวก่อนจะเดินเข้าไปในตัวบ้านแล้ววางถุงบะหมี่ลงที่โต๊ะกระจกหน้าทีวี
“ได้กลิ่นหอมด้วย ทำกับข้าวหรอ”
“อือ”
“โห น่ากินแฮะ”
“นี่…”
เหมือนอีกคนไม่สนใจเสียงเรียกของ ผมยืนมองแผ่นหลังหนาที่สาละวนอยู่ในครัวพลางเล่นกับเจ้าตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมกอด ผมมองนิ่งคนตัวโตเล่นกับเด็กน้อยพลางหอมหัวพูดคุยอย่างมีความสุข เหมือนพ่อกับลูกที่กำลังเล่นกันเลย
ไม่ใช่ แค่คู่นอนต่างหาก
ใช่ เรา…ก็แค่…คู่นอน
ผมสะบัดหัวก่อนจะหันไปจัดการปิดประตูรั้วจนสนิทเดินเข้าบ้านดินเข้าครัวเพื่อไปทำอาหารที่ยังค้างไว้ต่อ ส่วนเวย์ก็ยังคงเล่นกับจิมมี่อยู่ที่โซฟาหน้าทีวี
“พี่เวย์มาหาพี่เร็นหรอ”
“ใช่ แล้วก็มาหาหนูด้วย”
“พี่มานี่จะมาทดสอบด้วยใช่มั้ย”
“ถูกต้อง จำเก่งจริงๆเลยเด็กคนนี้” เวย์พูดพลางใช้ฝ่ามือวนผิวแก้มด้วยความหมั่นเขี้ยว จิมมี่กระโดดลงจากโซฟาหายขึ้นไปบนชั้นสองอยู่ครู่ก่อนจะลงมาพร้อมกับถุงบางอย่าง เจ้าตัวเล็กปีนขึ้นโซฟาโดยมีเวย์คอยช่วยจับก่อนนจะยื่นชุดวัวให้อีกคน
“อย่างแรกพี่เวย์ต้องใช้ชุดวัวก่อน”
“ชุดนี้หรอ ได้สิ เดี๋ยวพี่ใส่เลย”
เวย์จัดการแกะถุงคลี่ชุดแล้วใส่มัน จัดการรูดซิปเสร็จสรรพพร้อมกับใส่หมวกให้ครบองค์ประกอบ
“เสร็จแล้วต้องทำไงต่อ เจ้าลูกวัว”
“ตอนนี้แม่กำลังทำกับข้าว พ่อวัวจะต้อง\-”
“มากินข้าวกันได้แล้ว”
ผมกันไปเรียกทั้งสองคนมากินข้าวผมจัดการวางจานขอาหารทั้งหมดรวมถึงบะหมี่ที่อีกคนซื้อมาวางลงบนโต๊ะกับข้าว เวย์และจิมมี่ต่างหันมองหน้ากันก่อนจะขยับตัวเองลุกจากโซฟา พวกเราต่างก้มหน้าก้มตาลงมือทานข้าวผมเหลือบมองอีกคนที่อยู่ในชุดวัวพลางขมวดคิ้ว เล่นอะไรกันอีกแล้วเนี่ย
“เล่นอะไรกันเนี่ย”
“พี่เวย์กำลังทดสอบจะเป็นพ่อวัว”
“อะไรนะ”
ผมมองอีกคนที่ยักคิ้วยกยิ้มอย่างพอใจก่อนจะหันไปมองเจ้าตัวแสบที่ยังคงดูร่าเริงเหมือนปกติ
“แล้วทำไมต้องเป็นพี่เวย์ด้วยล่ะ”
“ก็พี่เวย์เหมาะที่สุดเลย”
ผมถึงกับขมวดคิ้วมองอีกคนอย่างพิจารณา อะไรกันถึงมองว่าเขาเหมาะ หน้าเจ้าเล่ห์มันไม่ได้รับกับชุดบ๊องแบ๊วอันนี้เลยนะนั่น
“ใช่มะๆ”
“ไม่เข้าใจ ทำไมนายต้องอยากเป็นขนาดนั้นด้วย”
“ทำไมอ่ะ น่าสนุกดีออก”
“ยังไง”
“ก็เขาว่า นมแม่วัวมันจะอร่อยที่สุดตอน…” ขาเรียวเตะเข้าเพื่อยั้งไม่ให้อีกคนพูดมันออกมาแต่อีกคนทำเพียงขยับปากให้แค่ผมรู้เพียงคนเดียว
มีเซ็กส์
เวร
คำพูดนั่นแม้มันจะไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมาแต่มันกลับทำใบหน้าของผมสูบฉีดเลือดได้เป็นอย่างดีเลย
“อะไรอ่ะงือ”
“ตอนแต่งงานน่ะจิม”
“อ๋อ”
ร้ายกาจที่สุด
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 9
Comments