เหมือนครอบครัว - 04

.../it’s hurt, when I know it’s you/...

การสร้างเกมมันก็คือการสร้างเรื่องราวหนึ่ง เรื่องราวเหนือจินตนาการที่ในชีวิตจริงมันไม่สามารถเจอได้ มีแค่เกมเท่านั้น ที่ผมจะทำอะไรก็ได้กับตัวละคร ขอแค่ตอนจบมันสวยงามและน่าพึงพอใจก็พอ

การทำเกมยังคงดำเนินต่ออีกไม่กี่อึดใจก็ใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว ผมจัดการเคลียร์บั๊คที่มีปัญหาเพื่อให้ตัวเกมออกมาสมบูรณ์และเจอปัญหาน้อยที่สุด

“ฮัลโหล…เอ้าพี่…ได้ๆค่ะพี่…โอเคค่ะหวัดดีค่ะ”

“ใครวะ”

“พี่ที่รู้จักอ่ะ เดี๋ยวเขาแวะเอาขนมมาให้”

“อ๋อ”

เสียงบทสนทนาแจ้วของสองสาว วันนี้พวกเราเปลี่ยนบรรยากาศมาทำงานที่คอนโดของจาแทน เอาจริงๆจะเรียกว่าเปลี่ยนบรรยากาศมันก็ไม่ใช่หรอกเพราะเจ้าของห้องดันซุ่มซ่ามทำแจกันแตกแล้วมันดันบาดขาเลยเปลี่ยนมาทำที่นี่แทน

ทุกคนหันกลับมาสนใจงานตัวเองต่อไม่นานเสียงกริ่งจากด้านนอกละให้ทุกคนหันไปสนใจ จาลุกออกไปเปิดประตูเผยให้เห็นคนหน้าประตู หญิงสาวผมสีน้ำตาลยาวประมาณกลางในชุดเดรสสีครีมดูจากไกลเธอสวยไม่น้อยเลย

“พี่มารบกวนเราหรือเปล่า”

“ไม่หรอก นี่ก็ทำกันใกล้จะเสร็จแล้วแหละ”

“พี่เห็นว่าเราเจ็บเป็นอะไรมากมั้ยเนี่ย”

“ก็เจ็บนิดหน่อยอ่ะ ไม่กี่วันก็คงหายแหละ”

เสียงสนทนาของแขกและจาดำเนินไปเรื่อยๆ จาเริ่มแนะนำเธอให้ทุกคนได้รับรู้ เธอชื่อเนยเป็นรุ่นพี่พวกเขาอยู่ประมาณสองปี แล้วก็เป็นแฟนเก่าของเร็นด้วยถามว่าผมสนใจมั้ย ก็ไม่ แฟนเก่าแล้วไงเลิกแล้วก็เลิกไปดิทำไมผมต้องสนด้วย

เสียงสั่นจากมือถือผมหยิบมันขึ้นมาเช็คหน้าจอขึ้นชื่อของคนที่พึ่งนึกถึงไป

\[อ๊ะ พี่เวย์\~\~\]

แต่เสียงมันไม่ใช่แฮะ

“อ่าว ไงไอ้แสบ”

\[งือ คิดถึง\]

“จริงป่าว วันก่อนยังงอนพี่อยู่เลย”

\[ป่าวนะ\]

“แล้วไปเอาเบอร์พี่มาได้ไงฮึ”

\[ขอพี่เร็น\]

“หือ?” คำตอบของจิมมี่ทำให้ผมสงสัย เดิมทีแม้ทั้งผมและเร็นจะรู้จักกันหรือแค่มีเซ็กส์กันบ่อยแต่เราก็ไม่มีช่องทางติดต่อของกันและกันอย่างมากก็มีแค่เฟสบุ๊คที่เอาไว้แค่ติดตามไลฟสไตล์ของกันและกันก็แค่เท่านั้น แต่การที่ผมได้ยินว่าอีกฝ่ายมีเบอร์ของมันก็กลับยิ่งให้ภายในอกมันเต้นเร็วยิ่งไปใหญ่

บ้าแค่อีกฝ่ายมีเบอร์เอง

ผมเดินแยกตัวออกมาที่นอกระเบียงก่อนจะหย่อนตัวนั่งลงที่เบาะโซฟา เอาล่ะตอนนี้มีเพียงแค่ผมกับคนในสายแล้วไร้คนวุ่นวายแน่นอน

“พี่เร็นมีเบอร์พี่ในเครื่องด้วยหรอ”

[งือ หนูเห็นเลยกด]

“แล้ว…เขาตั้งชื่อพี่ว่าอะไรหรอ”

[ตั้งว่าเวย์คนเลว]

“ฮ่าๆๆๆ แหม พี่เร็นเรานี่ใจร้ายจังแฮะ”

[ใช่ๆ พี่เวย์ จะมาหาหนูอีกมั้ยอ่ะ]

“ถ้าหนูอยากให้ไปพี่ไปครับ แต่ไม่รู้พี่เราจะให้เข้ารึป่าวนะ”

[ต้องให้เข้าจิ ก็พี่เวย์ต้องทดสอบ]

“ทดสอบอะไรหรอ”

[เป็นพ่อวัวไง พี่เวย์อยากเป็นหนิ หนูจำได้]

รอยยิ้มผุดขึ้นเล็กน้อย เมื่อคราวนั้นผมขอสมัครเป็นพ่อวัวแต่จิมมี่ไม่ยอมเพียงเพราะจาเคยสั่งไว้ แต่ก็นั่นแหละ ก็กินแม่วัวไปแล้วน้องมันคงไม่รู้หรอกเนาะ

“นั่นสิพี่เกือบลืมเลย”

[พี่ห้ามลืมนะ พี่ต้องมาทดสอบก่อน]

“ทำไมถึงอยากให้พี่ทดสอบเป็นพ่อวัวล่ะ”

[หนูไม่อยากให้คนอื่นเป็น หนูกลัว] ประโยคเสียงเด็กน้อยทำให้ผมขมวดคิ้ว

“หนูกลัวอะไรครับ บอกพี่ได้มั้ย”

[หนูกลัวคนอื่นมากินพี่เร็น]

แต่พอได้ยินคำตอบของจิมมี่มันก็ทำให้ผมหลุดขำทันที เอ้อ เด็กน้อเด็ก

[เมื่อตอนนู้นหนูฝันด้วย]

“ฝันอะไรหรอ”

[หนูฝันว่าพี่เร็นโดนกิน โดนกินตุ๋งๆด้วย]

“ฮะ…อ๋อ อ่อ”

ศัพท์ของจิมมี่ฟังดูยากแต่ผมก็พอจะจับทางได้อยู่แหละ

[พี่เวย์งั้นหนูไปก่อนนะ พี่เร็นเรียกกินข้าวแล้ว บ๊ายบาย]

“ครับ บ๊ายบาย”

วางสายเสร็จเวย์เอนหลังล้มตัวพิงกับพนักพิงก่อนจะถอนหายใจออกมาเล็กน้อยความรู้สึก อยากพูดว่าอยากคุยกับเขาแต่ก็กลัวแต่จะงอแงแต่เอาเถอะๅ

“ขอโทษนะคะ เราขอนั่งด้วยคนได้มั้ยคะ”

เสียงเรียกจากใครบางคนที่ประตูให้ผมหันไปสนใจมองเนยที่ชะโงกหน้าออกมาเล็กน้อย ผมพยักหน้าก่อนจะหันไปมองด้านในเห็นว่าไม่มีใครอยู่ หายไปหมดเลย

“พวกนั้นหายไปไหนล่ะครับ”

“เห็นว่าออกไปซื้อของกินน่ะค่ะ”

“อ๋อ” เสียงเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้งต่างฝ่ายต่างก็ไม่รู้จะเริ่มคุยอะไรกันดี

“คุณเวย์เป็นเพื่อนของน้องจาหรอคะ” เนยเริ่มเปิดบทสนทนาก่อน

“ครับ แล้วคุณล่ะ สนิทกับจามันได้ยังไง”

“เราเป็นแฟนเก่าเร็นน่ะ เลยรู้จักจาด้วย”

ผมพยักหน้าตอบช้าๆก็รู้เพราะจามันบอกแล้ว ไม่รู้ทำไมแต่ใจเจ็บชิบหาย

“อ่า งี้เอง ผมถามได้มั้ย ว่าทำไมพวกคุณถึงเลิกกัน”

ผมไม่อยากยุ่งกับความสัมพันธ์ของคนอื่นสักเท่าไหร่หรอก แต่เพราะเป็นความสัมพันธ์ของเร็น เลยอยากรู้

อยากรู้ ≠ อยากเสือก

“พ่อแม่เรากีดกันน่ะค่ะ จริงๆเรารักกันมากนะคะแต่ครอบครัวเราไม่โอเคกับเร็น แล้วบวกกับตอนนั้นเราต้องไปเรียนที่ต่างประเทศด้วยเลยเป็นเหตุผลที่ทำให้เราเลิกกันน่ะค่ะ”

“อ๋อ”

“คุณเวย์รู้จักกับเร็นหรอคะ”

“ก็…รู้จักครับ”

รู้จักมากเลยล่ะ

“คุณว่าเร็นเป็นคนแบบไหนหรอครับ”

“เร็นเป็นคนค่อนข้างเงียบน่ะค่ะ แต่บางทีเขาก็มีมุมอ่อนโยนนะคะ แล้วก็น่ารักด้วย แล้วคุณล่ะคะ”

“เร็นหรอครับ เขาก็…น่ารักดี”

ผมกับเนยนั่งคุยกันอยู่สักพักเธอก็ขอตัวกลับก่อนเห็นบอกว่าต้องไปทำธุระต่อผมเลยย้ายตัวเองเข้ามานั่งข้างในทำงานที่ค้างต่อเพราะมันจะได้เสร็จสักที เสียงประตูห้องเปิดออกให้เห็นคนที่พึ่งออกไปข้างนอกจากลับมาคนเดียวพร้อมกินที่เต็มมือ

“อ่าว พี่เนยกลับไปแล้วอ่อ”

“อือ ไอ้มีนอ่ะ”

“มีธุระด่วนอ่ะ กลับไปแล้ว”

ผมพยักหน้าเบาๆสายตายังคงจดจ้องกับงาน จู่ๆความอยากรู้เรื่องบางอยากก็ผุดขึ้นในหัว

“ไอ้จา กูถามอะไรหน่อยได้มั้ย”

“อ่าฮะ” จาตอบขณะที่กำลังง่วนกับการดูแผลที่ขาอยู่

“ทำไมพี่เนยถึงเลิกกับเร็นวะ”

จาเงยหน้ามองผมด้วยสีหน้าที่นิ่งสนิทก่อนที่จะหลังหลังตรงแล้วหยิบหมอนใบข้างๆขึ้นมากอด

“อยากเสือกหรอ”

“อือ”

“พี่เนยนอกใจเร็น”

คำตอบที่ออกจากปากเล่นทำเอาผมงงเลย ไหนฝั่งนั้นลอกกับเขาว่าพ่อแม่กีดดันไง ไหนบอกว่าไปเรียนต่างประเทศไง สรุปผมโดนหลอกหรอ

“ทำหน้าแบบนี้ได้ยินมาแบบไหนล่ะ”

“เขาบอกกูว่าเลิกพ่อแม่กีดกันแล้วก็ไปเรียนต่างประเทศ”

“โหวววว โคตรตอแหลเลยคนเรา”

ใช่ โคตรตอแหลเลย

“แล้วที่เขานอกใจพี่มึงคือยังไง”

“เมื่อสองปีก่อนตอนที่เร็นกับพี่เนยยังคบกับอยู่ มันมีวันนึงถ้าจำไม่ผิดวันนั้นมันเป็นงานกินเลี้ยงของสาขา พวกกูก็ไปงานกันตามปกติอ่ะแหละแต่ทีนี้ตอนที่เร็นขอไปเข้าห้องน้ำดันไปเจอพี่เนยกำลังเอากันกับรุ่นพี่ในสาขา ตอนนั้นคือเร็นช็อคมากอ่ะ แถมยังรัองไห้ไม่หยุดเลยด้วย คือรู้เลยว่าเร็นเจ็บขนาดไหนอ่ะ เร็นรักพี่เนยมากเลยนะแต่ไม่คิดว่าสุดท้ายคนที่รักจะหักหลังตัวเอง”

ผมฟังมันเล่าจนจบ ผมเข้าใจดีว่าการที่คนที่เรารักหักหลังมันเจ็บทรมานขนาดไหน แต่มันก็มีสิ่งหนึ่งหนึ่งผมโคตรจะไม่เข้าใจ…

“มึงรู้แบบนี้แล้วพาเขามาที่นี่ทำไม”

“อ่ะ…”

“ไม่ต้องมาอ่ะ ตอบกู”

ผมจ้องจาในขณะที่มันเลือกที่จะหลบสายตาผม แม่งโคตรจะเลิ่กลั่กเลยตอนนี้ อาการของมันดูยังไงก็เหมือนคนทำผิดที่กำลังหาทางเลี่ยง

“จา ตอบกู”

“งืออออ”

“ไม่ต้องมางือ ตอบ”

ผมเริ่มกดเสียงต่ำจางุดหนัาลงกับหมอนก่อนจะตอบด้วยเสียงอู้อี้

“กูอยากกินขนมอ่ะ”

“สัส” พูดจบผมก็ขว้างรีโมททีวีที่วางอยู่ข้างตัวปาใส่หัวมันทันที ได้เพื่อนเวรเห็นแก่แดก

“มึงให้เขาเข้ามาทั้งๆที่มีรู้ดีว่าเขาทำร้ายพี่มึงขนาดนั้นเพียบเพราะขนมไม่กี่ถุงเนี่ยนะ มึงบ้าป่าว”

“…”

“มึงรู้ดีว่าเขาหักหลังพี่มึง มึงรู้ดีว่าเขานอกใจพี่มึง มึงรู้ทุกอย่างจาแต่มึงก็ยังทำ”

“กูขอโทษ” จาเอ่ยเสียงเบา

“มึงไม่ต้องขอโทษกูไปขอโทษพี่มึงนู่น”

“ฮือออออ สำนึกผิดไม่ทันแล้ว”

“จา มึงโตแล้วนะ มึงก็อายุยี่สิบห้าอีกไม่กี่ปีก็จะเข้าเบญจเพสแล้วทำตัวเป็นผู้ใหญ่หน่อย ไม่ใช่เอะอะเอาขนมเป็นที่ตั้ง มึงต้องนึกถึงอย่างอื่นที่จะตามาด้วย เข้าใจมั้ย”

“เข้าใจ”

เสียงกดออดจากนอกบ้านให้ผมละสายตาจากการทำอาหาร ผมหันไปมองนาฬิกาที่เข็มชี้ว่าตอนนี้เวลาทุ่มกว่าแล้ว ใครมันมาเอาป่านนี้วะ ผมจัดการเบาไฟบนเตาให้อ่อนลงเช็ดมือให้สะอาดก่อนจะตรงดิ่งไปยังประตู มือเรียวเปิดประตูรั้วออกเผยให้เห็นคนคุ้นเคยที่ยืนอยู่หน้าบ้าน เวย์ในชุดเสื้อยืดสีขาวกางเกงยีนส์สีน้ำดำเข่าขาดตามแฟชั่นในมือถือบะหมี่เกี๊ยวอยู่ประมาณสามถุง

“ถามจริงนะ ปกติเปิดเร็วแบบนี้เคยส่องตาแมวบ้างมั้ย”

“แล้วมานี่ทำไม”

“อย่าเมินดิเธอ”

เสียงนิ่งเอ่ยราวกับว่าคล้ายจะดุอย่างไงอย่างงั้น เวย์ดันตัวเองเข้ามาด้านในบ้านเหมือนอย่างกับเป็นเจ้าของบ้านโดยไม่ถามผมสักคำ

“มาหาตัวแสบน่ะ”

“น้องหลับป\-”

“พี่เวย์\~\~\~” เสียงแจ้วมาแต่ไกลผมหันมองจิมมี่ในชุดนอนวิ่งมาพร้อมกับถือตุ๊กตาลิงตัวโปรดห้อยมาด้วย แต่ก่อนหน้านี้ผมส่งน้องเข้านอนแล้วไม่ใช่หรอ

“ไงไอ้แสบ หืม? มาให้หอมหัวสิ”

เวย์อุ้มเจ้าตัวแสบขึ้นอ้อมอกก่อนจะหอมหัวอย่างหมั่นเขี้ยวก่อนจะเดินเข้าไปในตัวบ้านแล้ววางถุงบะหมี่ลงที่โต๊ะกระจกหน้าทีวี

“ได้กลิ่นหอมด้วย ทำกับข้าวหรอ”

“อือ”

“โห น่ากินแฮะ”

“นี่…”

เหมือนอีกคนไม่สนใจเสียงเรียกของ ผมยืนมองแผ่นหลังหนาที่สาละวนอยู่ในครัวพลางเล่นกับเจ้าตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมกอด ผมมองนิ่งคนตัวโตเล่นกับเด็กน้อยพลางหอมหัวพูดคุยอย่างมีความสุข เหมือนพ่อกับลูกที่กำลังเล่นกันเลย

ไม่ใช่ แค่คู่นอนต่างหาก

ใช่ เรา…ก็แค่…คู่นอน

ผมสะบัดหัวก่อนจะหันไปจัดการปิดประตูรั้วจนสนิทเดินเข้าบ้านดินเข้าครัวเพื่อไปทำอาหารที่ยังค้างไว้ต่อ ส่วนเวย์ก็ยังคงเล่นกับจิมมี่อยู่ที่โซฟาหน้าทีวี

“พี่เวย์มาหาพี่เร็นหรอ”

“ใช่ แล้วก็มาหาหนูด้วย”

“พี่มานี่จะมาทดสอบด้วยใช่มั้ย”

“ถูกต้อง จำเก่งจริงๆเลยเด็กคนนี้” เวย์พูดพลางใช้ฝ่ามือวนผิวแก้มด้วยความหมั่นเขี้ยว จิมมี่กระโดดลงจากโซฟาหายขึ้นไปบนชั้นสองอยู่ครู่ก่อนจะลงมาพร้อมกับถุงบางอย่าง เจ้าตัวเล็กปีนขึ้นโซฟาโดยมีเวย์คอยช่วยจับก่อนนจะยื่นชุดวัวให้อีกคน

“อย่างแรกพี่เวย์ต้องใช้ชุดวัวก่อน”

“ชุดนี้หรอ ได้สิ เดี๋ยวพี่ใส่เลย”

เวย์จัดการแกะถุงคลี่ชุดแล้วใส่มัน จัดการรูดซิปเสร็จสรรพพร้อมกับใส่หมวกให้ครบองค์ประกอบ

“เสร็จแล้วต้องทำไงต่อ เจ้าลูกวัว”

“ตอนนี้แม่กำลังทำกับข้าว พ่อวัวจะต้อง\-”

“มากินข้าวกันได้แล้ว”

ผมกันไปเรียกทั้งสองคนมากินข้าวผมจัดการวางจานขอาหารทั้งหมดรวมถึงบะหมี่ที่อีกคนซื้อมาวางลงบนโต๊ะกับข้าว เวย์และจิมมี่ต่างหันมองหน้ากันก่อนจะขยับตัวเองลุกจากโซฟา พวกเราต่างก้มหน้าก้มตาลงมือทานข้าวผมเหลือบมองอีกคนที่อยู่ในชุดวัวพลางขมวดคิ้ว เล่นอะไรกันอีกแล้วเนี่ย

“เล่นอะไรกันเนี่ย”

“พี่เวย์กำลังทดสอบจะเป็นพ่อวัว”

“อะไรนะ”

ผมมองอีกคนที่ยักคิ้วยกยิ้มอย่างพอใจก่อนจะหันไปมองเจ้าตัวแสบที่ยังคงดูร่าเริงเหมือนปกติ

“แล้วทำไมต้องเป็นพี่เวย์ด้วยล่ะ”

“ก็พี่เวย์เหมาะที่สุดเลย”

ผมถึงกับขมวดคิ้วมองอีกคนอย่างพิจารณา อะไรกันถึงมองว่าเขาเหมาะ หน้าเจ้าเล่ห์มันไม่ได้รับกับชุดบ๊องแบ๊วอันนี้เลยนะนั่น

“ใช่มะๆ”

“ไม่เข้าใจ ทำไมนายต้องอยากเป็นขนาดนั้นด้วย”

“ทำไมอ่ะ น่าสนุกดีออก”

“ยังไง”

“ก็เขาว่า นมแม่วัวมันจะอร่อยที่สุดตอน…” ขาเรียวเตะเข้าเพื่อยั้งไม่ให้อีกคนพูดมันออกมาแต่อีกคนทำเพียงขยับปากให้แค่ผมรู้เพียงคนเดียว

มีเซ็กส์

เวร

คำพูดนั่นแม้มันจะไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมาแต่มันกลับทำใบหน้าของผมสูบฉีดเลือดได้เป็นอย่างดีเลย

“อะไรอ่ะงือ”

“ตอนแต่งงานน่ะจิม”

“อ๋อ”

ร้ายกาจที่สุด

เลือกตอน

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!