เช้ารุ่งอรุณแสงแดดผ่านม่านกระทบเปลือกตาของฤดี เธอค่อยๆลืมตาแต่จะขยับตัวก็ครั้นจะขยับตัวยาก จึงรู้ว่าเด็กสาวนอนกอดตนอยู่นั่นเอง ฤดีมองเด็กสาวอย่างหลงไหลมือปัดเป่าปอยผมที่คอยแต่จะบดบังใบหน้าสวย
"ม่านฟ้าตื่นได้แล้ว" เสียงของหล่อนช่างนุ่มนวลเสียจริง มือเรียวไล่ไปตามกรอบรูปหน้าของหญิงสาว
"ค่ะคุณอา" ม่านฟ้าพูดขณะที่ตนเองก็ยังไม่ลืมตา
"ลุกขึ้นเร็วเช้าแล้วเดี๋ยวจะสายเอานะ" มือเรียวของฤดีก็ยังคงไล่ไปตามกรอบรูปหน้าอย่างเอ็นดู
"ค่ะ" ม่านฟ้าจับมือของอาฤดีที่กำลังจับใบหน้าของตนอยู่
"ไปอาบน้ำจะได้ลงไปทานข้าว"
"ค่ะ" ม่านฟ้าลุกขึ้นพรางบิดขี้เกียจมองดูช่างน่ารักเสียจริง คุณหญิงของบ้านเห็นก็เอ็นดูกับท่าทางของหญิงสาวเมื่อครู่
"คุณอายิ้มอะไรหรอคะ" ม่านฟ้าถามด้วยน้ำเสียงงัวเงียยังไม่ตื่นนอนเท่าไรนัก
"ยิ้มให้เด็กแถวนี้ นอนขี้เซาจริง"
"คุณอา ฟ้าไปอาบน้ำดีกว่า" ม่านฟ้าพูดอย่างเขินๆเมื่อถูกคุณหญิงของบ้านมองเธอด้วยสายตาหวานหยาดเยิ้ม เธอพลิกตัวลุกขึ้นเดินไปยังห้องน้ำทันที
"บ้าเอ้ยไอ้ฟ้า แกนี่ทำตัวเป็นเด็กให้คุณอาเห็นได้ไงเนี่ยอายุก็ตั้ง20แล้ว" ม่านฟ้าคิดในใจตัวบิดเขินไปมาปากกัดผ้าขนหนูที่จะมาห่มกายที่เปลือยเปล่า
ณ โต๊ะอาหาร
"คุณฤดี ผมต้องไปทำงานต่างจังหวัดหนึ่งอาทิตย์นะครับ ฝากดูแลหลานๆด้วย"
"ค่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะคุณเดช คุณก็ดูแลตัวเองด้วยนะ"
"ครับ ผมไปก่อนนะ" เดชณรงค์ลุกขึ้นและเดินออกจากโต๊ะอาหารไปทันที
"คุณน้าคะ วันนี้วันศุกร์ลิษาขอไปเที่ยวกับเพื่อนได้ไหมคะลิษาอยากไปทะเลไปเย็นวันนี้กลับเช้าวันอาทิตย์" ลิษาทำน้ำเสียงออดอ้อนคุณน้าผู้ใจดีของเธอ
"ได้สิ เรียนมาทั้งอาทิตย์แล้วไปพักผ่อนบ้างก็ดี เราก็อย่าลืมดูแลตัวเองล่ะโตเป็นสาวแล้ว"
"ค่ะ ขอบคุณค่ะคุณน้า ลิษารักคุณน้าที่สุด" ลิษาลุกจากเก้าอี้หอมแก้มฤดีอย่างเอาอกเอาใจ
"แล้วเราล่ะม่านฟ้าจะไปไหนหรือเปล่า จะไปเที่ยวกับเพื่อนบ้างไหม"
"ไม่ค่ะ ฟ้าไม่อยากไปเที่ยวอยู่บ้านจะดีกว่าค่ะ" ม่านฟ้าตอบปฏิเสธเพราะถ้าเธอไปนอนบ้านเพื่อนคุณอาของเธอคงต้องเหงาแน่ถ้าอยู่บ้านกับคนรับใช้
"ทำไมล่ะไม่อยากไปเที่ยวหรอ หรือเกรงใจอะไรหรือเปล่าบอกอาได้นะ"
"เปล่าค่ะคุณอา ฟ้าไม่ได้อยากไปไหนแต่ว่าวันนี้ฟ้าเลิกเรียน 2 ทุ่มนะคะ" ม่านฟ้าพูดพร้อมกับเปิดตารางสอนให้ฤดีดู
"2 ทุ่มเลยหรอ คงไม่ได้กลับพร้อมลิษา เดี๋ยวลิษาเขาต้องรีบกลับมาเก็บของอีก เดี๋ยว 2 ทุ่มอาไปรับเราที่มหาวิทยาลัยนะ"
"ไม่เป็นอะไรค่ะคุณอา ฟ้ากลับแท็กซี่ก็ได้ค่ะ มันดึกแล้วฟ้าเป็นห่วงคุณอามันอันตราย"
"แล้วมืดค่ำแบบนี้กลับแท็กซี่ไม่อันตรายกว่าหรือไง อาก็ทำงานอยู่ที่บริษัทก็ไม่ได้ห่างจากมหาวิทยาลัยของเรามากอย่าเกรงใจเลย"
"ค่ะคุณอา" ม่านฟ้าเม้มริมฝีปากไม่อยากจะขัดใจคุณเจ้าข้างบ้านสักเท่าไร
"ถ้าอิ่มแล้วก็พากันไปเรียนหนังสือได้แล้ว เดี๋ยวอาก็ต้องไปทำงานแล้วล่ะ"
"สวัสดีค่ะคุณน้า" ลิษายกมือไหว้อย่างเอาใจ
"สวัสดีค่ะคุณอา" ม่านฟ้าต่างก็ทำเช่นเดียวกับลิษา หากแต่ว่าลิษานั้นเบ้ปากใส่หล่อน รถตู้นั้นเคลื่อนตัวไปยังมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง ทั้งสองลงจากรถเพื่อที่จะเข้าไปยังห้องเรียนคณะของตนเองทว่ามาทะเลาะกันเรื่องทางเดิน
"ยัยม่านฟ้าแกก็ไปเดินตรงนั้นสิมาเดินเบียดฉันทำไม"
"ลิษาเธอก็เห็นว่าตรงนั้นมันมีแอ่งน้ำ เธอจะให้ฉันเดินไปหรือไง ถ้าเธอไม่อยากให้ฉันเบียดเธอเองนั้นแหละที่ต้องไปเดินตรงนั้น" ม่านฟ้าทำหน้าเบื่อหน่ายปลายนิ้วชี้เรียวชี้ไปทางเดินดังกล่าว
"ปากดีนักนะลับหลังคุณอากับคุณน้า"
"ก็แล้วทำไมฉันต้องยอมเธอ ขนาดต่อหน้าคุณลุงกับคุณอาเธอยังเล่นละครเสียงสองอยู่เลย"
"แล้วมันจะทำไม ยังไงคุณน้ากับคุณอาก็ต้องเชื่อฉันและก็เข้าข้างฉันอยู่แล้ว เพราะฉันเป็นหลานเธอมันก็แค่..คนอื่น" ลิษาเน้นย้ำน้ำเสียงที่จริงจัง
"นี่นะหรอ? ที่กล่าวหาว่าคนอื่นเป็นผู้ดีจอมปลอม แล้วผู้ดีที่ไหนทำตัวไร้ค่าดูถูกคนแบบนี้ เธอก็ผู้ดีจอมปลอมเหมือนกันนั่นแหละ"
"ยัยม่านฟ้า" ลิษาพูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม แววตาร้อนผ่าวเต็มไปด้วยความโกรธ
"ทำไม ฉันพูดแทงใจดำสินะ แต่ฉันก็ไม่ว่าอะไรหรอกนะถ้าเธอจะมาว่าฉันเป็นผู้ดีจอมปลอม เธอก็ไม่ต่างอะไรกับฉันหรอก"
"ฉันจะฟ้องคุณอากับคุณน้า"
"เชิญ!!! เธอมันก็ทำได้เท่านี้แหละ ฟ้องเก่งอย่างเดียว เชิญไปบอกเลยฉันท้า" ม่านฟ้าเน้นน้ำเสียงเอาจริงก่อนจะเดินฉีกหนีไปอีกทาง
ห้องเรียนคณะบริหารธุรกิจ B5
"เป็นอะไรทำไมหน้ามุ้ยมาเชียว" ญาดาเพื่อนสนิทเอ่ยถามอย่างกังวล
"ทะเลาะกับยัยลิษาอะไรนั่นหาเรื่องเก่ง" ม่านฟ้าพูดพร้อมน้ำเสียงหงุดหงิดคิ้วขมวดผูกกันจนจะเป็นโบว์
"อะไรกันอยู่ด้วยกันยังจะตีกันอีก" เพลงขวัญเพื่อนในกลุ่มถามขึ้น
"อื้ม!! หวงอาหวงน้ากลัวฉันจะไปแย่งความรัก ถามก่อนอายุก็ 19 แล้วมาหวงอะไรทำตัวเป็นเด็ก กลัวจะไปแย่งสมบัติมั้ง"
"อ่า!! ไม่แน่นะถ้าเกิดว่าคุณอาของแกเนี่ยเห็นว่าแกเป็นเด็กดีเค้าอาจจะยกสมบัติให้แกก็ได้"
"พูดตลกนะยัยเพลง คุณอาจะมายกให้ฉันทำไมกันฉันไม่ใช่ญาติพี่น้องเขาสักหน่อย"
"เออ... ไอ้เพลงมึงก็พูดเป็นเล่นไป" ญาดาพูดก่อกวนเสริม
"เอ้า!!ก็ใครมันจะไปคิด ถ้าเขายกให้แกจริงอ่ะ แต่ก็อย่างว่าแหละยังไงเขาก็ต้องยกให้ยัยลิษาอยู่ดีเพราะเป็นน้าหลานกัน ถึงจะเป็นหลานของลุงเดชก็เถอะ"
"แต่ลุงเดชกับคุณอาฤดียังไงมันก็ต้องตกไปเป็นของลิษาอยู่แล้วจะตกเป็นของใครก็ช่างเถอะ ฉันก็ไม่ได้อยากได้หรอก สมบัติเยอะปัญหาก็เยอะตามมา สู้ฉันทำงานเก็บเงินกู้บริษัทพ่อฉันคืนมาไม่ดีกว่าหรอ" ม่านฟ้าถอนหายใจคิดถึงแต่ช่วงเวลาเก่าๆที่บ้านของเธอนั้นเต็มไปด้วยเงินทองมากมายแต่โชคชะตากับผลิกผันทำให้บ้านจนภายในพริบตา
"ก็จริงอย่างที่แกพูดแหละฟ้า แล้วนี่พ่อกับแม่แกเป็นยังไงบ้าง"
"ไม่รู้เลย คืนนี้ฉันว่าจะโทรหาอยู่คิดถึง อย่างน้อยเวลาเจออะไรก็มีพ่อกับแม่คอยปลอบ คอยให้กำลังใจแม้แต่ตอนนี้ฉันเองก็อยากได้กำลังใจจากพ่อแม่อยู่ที่นั่นฉันไม่มีความสุขเลย ฉันโดนแต่ยัยลิษาหาเรื่องจิกกัดกันได้ทุกวัน ล่าสุดเมื่อวานที่ฉันเดินออกมาพร้อมไอ้เอ็มยังโดนหาว่าอ่อยผู้ชายเลย แถมยังบอกให้คนขับรถขับรถกลับบ้านโดยไม่รอฉันสักนิด ยังมีหน้าไปฟ้องคุณอาฤดีอีก"
"โอ้โห่ยัยลิษานี่มันร้ายจริงๆ นี่แกอดทนได้ไงเนี่ย"
"ทำไงได้ล่ะ ก็ยัยลิษาเป็นหลานของคนในบ้านหลังนั้น ฉันมันก็แค่คนอื่น"
"เห้อ!!! ชีวิตแกนี่มันตลกจริงๆเลยนะยัยฟ้า" เพลงขวัญถอนลมหายใจเมื่อฟังเรื่องราวของเพื่อนสาวของเธอ
"ยัยดา.. ยัยเพลง นี่ก็2ทุ่มแล้วกลับกันเถอะ วันนี้อาฤดีมารับไม่อยากให้รอนาน คุณอาน่าจะเพิ่งเลิกงานมาเหมือนกัน"
"โอเค เจอกันวันจันทร์นะฟ้า" ทั้งสามคนต่างแยกย้ายกันกลับบ้าน ม่านฟ้าเดินตรงปรี่ไปยังรถเก๋งสีดำคันหรู ฤดีล่นกระจกรถยนต์ลง
"ขึ้นรถสิดึกแล้ว" น้ำเสียงของฤดีเต็มปริ่มไปด้วยความอ่อนโยน
"ค่ะคุณอา"
"เรียนดึกอย่างนี้เหนื่อยหรือเปล่า" หล่อนถามม่านฟ้าพลางเหร่มองคนที่นั่งข้างๆ
"ไม่ค่ะคุณอา" และบรรยากาศก็ปกคลุมไปด้วยความเงียบ ฤดีก็คอยมองคนที่นั่งข้างตนว่าเป็นอะไรหรือเปล่าวันนี้ดูผิดแปลกไป
"เป็นอะไรหรือเปล่าม่านฟ้า"
"ฟ้าก็แค่... คิดถึงพ่อกับแม่ค่ะ" หล่อนพูดพร้อมกับพ่นลมหายใจออกมาแววตาหันไปมองกระจกข้างรถ ฤดีเห็นอาการเด็กสาวเธอจึงขับรถชิดริมถนนและหยุดรถโดยทันที
"อาเข้าใจเรานะม่านฟ้า ตอนนี้พ่อกับแม่ของหนูกำลังต่อสู้กับปัญหาอยู่ ฟ้าเองก็ต้องสู้ๆนะพวกเขารักม่านฟ้ามากถึงได้ให้ฟ้ามาอยู่กับอา เพราะฉะนั้นเราต้องตั้งใจเรียนเป็นเด็กดี พ่อกับแม่ของฟ้าจะได้ไม่ลำบากใจ เข้าใจที่อาพูดใช่ไหม"
"ฟ้าเข้าใจค่ะ ขอบคุณนะคะคุณอา"
"วันนี้ไม่มีใครอยู่บ้านเลย หิวไหมคืนนี้จะกินอะไรอาจะได้ทำให้"
"คุณอาทานข้าวมาหรือยังคะ"
"ยังเลยค่ะ ทานข้าวต้มกุ้งไหม"
"ทานได้ค่ะ" รถยนต์คันสีดำก็ขับแล่นมาจนถึงหน้าบ้าน ทั้งสองคนต่างก็ไปทำธุระส่วนตัวของตนเอง ม่านฟ้าก็ขึ้นไปอาบน้ำทำการบ้าน ส่วนฤดีก็ไปทำข้าวต้มให้กับหลานสาวอีกคนของเธอ
"ข้าวต้มฝีมือคุณอาอร่อยจังเลยค่ะ"
"อร่อยก็ทานเยอะๆนะม่านฟ้า คงจะเรียนเหนื่อยละสิ กินเยอะขนาดนี้"
"ค่ะ วันนี้เรียนหนักค่ะแถมยังมีงานที่ต้องส่งอาจารย์อีกค่ะ"
"มีเยอะหรือเปล่า"
"มีไม่เยอะค่ะ แต่เป็นงานที่ต้องใช้เวลา คืนนี้ฟ้าขออนุญาตคุณอานอนดึกหน่อยนะคะ"
"ตามใจม่านฟ้าเลย อิ่มแล้วอาเอาจานไปเก็บให้นะเราขึ้นไปทำการบ้านเถอะ"
"ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวฟ้าทำเองคุณอาเพิ่งจะกลับมาเหนื่อยๆขึ้นไปพักเถอะนะคะ"
"ก็ได้ขอบใจนะฟ้า น่ารักจัง"
"ค่ะคุณอา" ม่านฟ้าส่งยิ้มให้ฤดีผู้เป็นอาของเธอ เธอเก็บอาหารบนโต๊ะให้เป็นระเบียบเรียบร้อย หญิงสาวเปิดตู้เย็นเห็นนมวัวจึงเทใส่แก้วแล้วขึ้นเอาไปให้คุณอาของเธอทันที
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูดังมาจากภายนอกห้องของฤดีเปิดประตูในทันทีเพราะรู้ว่าเป็นหลานของเธอ
"ฟ้าเอานมมาให้คุณอาดื่มก่อนนอนค่ะ"
"ขอบใจนะ อาคิดว่าเราขึ้นห้องไปแล้วซ้ะอีก"
"ยังค่ะ คุณอาทำอะไรอยู่หรอคะ"
"อาอ่านหนังสืออยู่นะ ดึกๆแบบนี้ไม่มีอะไรทำหาอะไรอะไรอ่านเพลินๆจะได้หลับง่ายหน่อย"
"แล้วคุณอาไม่เหงาหรอคะ อยู่บ้านคนเดียวแบบนี้"
"อาชินแล้ว คุณเดชเขาไม่ค่อยอยู่บ้านหรอกเขาต้องไปดูงานที่ต่างจังหวัดบ้างไปต่างประเทศบ้าง ส่วนลิษารายนั้นวันหยุดทีไรไม่เคยอยู่บ้านไปเที่ยวตลอดถึงเวลาเดี๋ยวเขาก็กลับเอง"
"คุณอาดูจะตามใจลิษานะคะ"
"ไม่หรอก อาแค่คิดว่าเรียนมาเหนื่อยๆก็อยากไปเที่ยวกับเพื่อน ช่วงนี้เป็นช่วงวัยรุ่นเขาก็อยากอยู่กับเพื่อนอยากไปเที่ยวทั้งนั้นแหละ อาก็ผ่านจุดนั้นมาแล้วเลยเข้าใจลิษา"
"คุณอาใจดีจังเลยนะคะ"
"แล้วเราล่ะทำไมถึงไม่อยากไปเที่ยว ไม่อยากไปหรอ"
"ช่วงนี้ฟ้าไม่ได้อยากไปไหนค่ะ อยากอยู่เงียบๆทำอะไรคนเดียว อีกอย่างไม่มีใครอยู่บ้านเลยฟ้ากลัวคุณอาจะเหงาเลยอยากอยู่บ้านกับคุณอาค่ะ"
"ไม่หรอกม่านฟ้า อาไม่เหงาหรอก"
"ค่ะ ฟ้าขอตัวไปทำการบ้านก่อนนะคะ"
"ไปเถอะจ้ะ" ม่านฟ้าเดินกลับไปยังห้องของตนเธอนั่งลงที่โต๊ะทำงานมีเปิดโน๊ตบุ๊คขึ้นมาพิมพ์งานอย่างรวดเร็ว หล่อนเปิดเพียงแค่โคมไฟเล็กๆนั่งทำงานเวลาก็เดินผ่านไปอย่างรวดเร็ว ม่านฟ้านั้นก็เผลอฟลุบหลับบนโต๊ะที่หล่อนนั่งทำงาน
"ตี 2 แล้วม่านฟ้ายังไม่นอนอีกหรอ" ฤดีพูดในใจ หล่อนเคาะประตูแต่ก็ไร้วี่แววเสียงตอบรับจากทางด้านในห้อง เธอจึงถือวิสาสะเปิดประตูเข้าไปเธอเห็นหญิงสาวฟลุบหลับจึงเข้าไปปลุก
"ม่านฟ้า ม่านฟ้า หนูคะ" ฤดีทั้งเรียกทั้งปลุกคนที่นอนอยู่แต่ก็ไม่อาจทำให้คนนอนอยู่รู้สึกตัวได้เลย
"ฟ้าคะ หนูไปนอนดีๆ"
"ค่ะคุณอา" ม่านฟ้าลุกขึ้นไปที่เตียงเธอหลับในทันทีเพราะความง่วง ฤดีเดินตามไปห่มผ้าห่มให้คนเล็ก
"เหนื่อยไหมคนเก่งของอา" ฤดียิ้มให้กับคนที่หลับเธอรู้ว่าพูดอะไรไปคนที่หลับก็คงไม่ได้ยิน เธอลูบผมคนที่นอนหลับอย่างสนิท
"ฝันดีนะม่านฟ้า" ฤดีมองคนที่หลับอย่างหลงไหล หล่อนไล่มองตรงแต่ใบหน้าจรดที่ขา เธอยิ้มที่มุมปากเอ็นดูคนที่นอนหลับ "ขนาดตอนหลับยังน่ารักเลย" เธอคิดในใจ
ฤดีมองอย่างคนตรงหน้าอย่างไม่คาดสายตาเธอจ้องมองไปยังริมฝีปากสีชมพูอวบอิ่ม ไม่รู้เหตุผลอะไรดลใจให้ฤดีโน้มใบหน้าเข้าไปจูบม่านฟ้า เธอจูบอย่างอ่อนโยนและละมุน สัมผัสพิศสวาทก่อเกิดโดยไม่รู้ตัวแรงสั่นสะท้านจากก้อนเนื้ออกข้างซ้ายเต้นแรงและเร็วอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ฤดีผละจูบออก "นี่เราทำอะไรลงไป" เธอสลัดความคิดนั้นออกก่อนจะออกจากห้องของม่านฟ้าไปยังห้องของตนเองทันที เธอจับที่ริมฝีปากของตนเองพลางหวนนึกย้อนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ ขณะที่ฤดีนั้นกลับห้องของตนไปม่านฟ้าก็ลืมตาขึ้นทบทวนเหตุการณ์ดังกล่าว เธอขึ้นมานอนบนเตียงแต่ฤดีหารู้ไม่ว่าม่านฟ้านั้นยังไม่ได้หลับสนิท และเหตุการณ์ที่คุณอาจูบเธอยังชวนให้สงสัยว่านี่คือความจริงหรือว่าความฝัน
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments