วุ่นวาย

เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นเป็นเวลาตี​ 5​ หญิงสาวผู้มาใหม่จัดการตนเองให้ทันก่อนไปทานข้าวเช้าพร้อมหน้าพร้อมตากับคนในบ้าน​

"ชุดนักศึกษาอยู่ไหนนะ​ จำได้ว่าก็เอาไว้ในนี้นี่หน่า" หญิงสาวพ่นลมหายใจออกมาอย่างเนื่อยๆ​

"บ้าจริง​ ลืมรีดชุดได้ไง​" ม่านฟ้าไม่รอช้า​ นำเครื่องแต่งกายมารีดจัดทรงให้เป็นระเบียบ​ กระโปรงพีทยาวถึงตาตุ่มเผยให้มองถึงบุคลิกว่าเป็นคนเรียบร้อย

"6​ โมงกว่าแล้วมาทานข้าวเถอะม่านฟ้า​ เดี๋ยวจะต้องไปมหาวิทยาลัยอีกจะสายเอาได้​" ฤดีผายมือให้ม่านฟ้ามานั่งข้างตนอย่างที่เคย​ เดชณรงค์นั่งที่มุมหัวโต๊ะ​ ส่วนลิษานั่งทางขวามือของเดชณรงค์

"ค่ะคุณอา" ม่านฟ้ารวบกระโปรงก่อนนั่งรับประทานอาหารเช้า

"หลับสบายดีหรือเปล่าม่านฟ้า" เดชณรงค์เอ่ยถามผู้ที่เข้ามาอาศัยใหม่

"ค่ะคุณลุง"

"คุณเดชคะ​ ฤดีจะให้ป้านวลดูแลม่านฟ้าด้วยคุณจะว่าอะไรหรือเปล่า"

"แล้วแต่คุณเลยครับ​ ความเรียบร้อยภายในบ้านคุณจัดการได้ทุกอย่างตามความเหมาะสม"

"คุณน้าคะ​ ป้านวลเป็นคนของคุณน้าไม่ใช่หรอคะทำไมคุณน้าถึงจะไปให้ป้านวลไปดูแลยัยม่านฟ้าด้วย" ลิษาพูดเชิงไม่พอใจ​ปากเบ้ไปมาด้วยความหมั่นไส้

"เพราะน้าไว้ใจป้านวลไง​"

"คุณน้าคะ" 

"ป้านวลคะ​ ดูแลม่านฟ้าให้เหมือนดูแลฤดีด้วยนะคะ​ เพราะม่านฟ้าก็คือคุณหนูของบ้านหลังนี้ด้วยอีกคน"

"ค่ะคุณหญิง" สาวรับใช้ตอบรับด้วยความเต็มใจ

"คุณน้าคะ​ ทำไมต้องให้ใครไม่รู้ไม่ใช่ครอบครัวของเรามาเป็นคุณหนูของบ้านเราด้วยคะ​ ลิษาไม่ยอมหรอกนะคะ" 

"ลิษา​ มีมารยาทหน่อยสิ​ ม่านฟ้าเขาเป็นลูกของเพื่อนคุณอาของหลานนะ"

"ลิษา​ อาว่าก็ดีนะหลานจะได้มีเพื่อนด้วยไงล่ะ" เดชณรงค์พูดเสริม

"ไม่ค่ะ​ มันจะมาแย่งความรักของคุณอากับคุณน้าของลิษาไป​ ลิษาไม่ยอม​คุณอาจัดการให้ลิษาหน่อยสิคะ​ บอกคุณน้าให้หน่อยว่าลิษาไม่ยอม"

"ลิษาฟังอานะ​ บ้านหลังนี้เป็นบ้านของคุณน้าฤดีไม่ใช่บ้านของอา แถม​บริษัท​ก็เป็นของน้าฤดี​ ลืมไปแล้วหรอ!!! ที่เรามีทุกวันนี้เพราะใคร"

"คุณอาไม่เข้าข้างลิษา​ หรือว่าคุณอาจะรักมันมากกว่าลิษา"

"อาไม่ได้คิดแบบนั้นนะหลานรัก"

"คุณน้าคะ" ลิษาหันไปพูดเสียงอ้อนกับฤดี

"ลิษาหลานน้าไม่คิดแบบนี้สิ ยังไงลิษาก็ยังเป็นหลานของน้า ทำไมคิดแบบนี้คะไม่มีใครมาแทนที่ลิษาของน้าได้หรอกนะ" ฤดีลุกจากเก้าอี้อ้อมไปโอบกอดลิษาจากด้านหลัง

"ลิษากลัวคุณน้าไม่รักลิษา"

"น้ารักลิษาที่สุด​ ทานข้าวนะคะ"

"ลิษาก็รักคุณน้าค่ะ" ลิษาหอมแก้มคุณน้าของเธอด้วยความน้อยใจ​ ม่านฟ้าก็นั่งเงียบนึกแต่โทษตัวเองที่เป็นคนทำให้คนในบ้านทะเลาะกันเพราะเธอหรือเปล่า

📞สายเรียกเข้า📞

ม่านฟ้าก้มมองโทรศัพท์​ของตนที่มีเพื่อนของเธอโทรมา​ ม่านฟ้ามองหน้าฤดีและเดชณรงค์เพื่อเป็นการขอนุญาต

"รับสายก่อนเถอะ" เดชณรงค์ตอบรับความปราถนาของม่านฟ้า​ หญิงสาวย่ำสาวเท้าไปยังพื้นที่โล่งทันที

ว่ายังไงญาดา : ม่านฟ้า

ญาดา​ : ฉันได้ข่าวเรื่องพ่อของแก

เห้อ... ฉันเครียด​ : ม่านฟ้า

ญาดา​ : วันนี้แกมาเรียนมั้ย

อื้ม​ แล้วจะเล่าให้ฟัง​ : ม่านฟ้า

ญาดา​ : โอเค

"คุณอา" ม่านฟ้ารีบเก็บโทรศัพท์​ทันที​ "ฟ้าอิ่มแล้วค่ะคุณอา"

"แต่อาเห็นว่าหนูฟ้ายังไม่ได้ทานสักคำเลยนะ​ เป็นอะไรหรือเปล่า"

"เปล่าหรอกค่ะ" ม่านฟ้าตอบปฏิเสธแม้ในใจเธอไม่ได้คิดอย่างนั้น

"อาดูออกนะว่าฟ้าไม่โอเค​ อาต้องทำอย่างไงให้หนูฟ้าไม่ต้องกังวล"

"ถ้าลิษาเขาเลิกพูดจาแบบนั้น​ค่ะ แต่คงจะเป็นไปไม่ได้หรอกค่ะ​ เพราะลิษาเป็นหลานรักของคุณอากับคุณลุง"

"ม่านฟ้า​" ฤดีได้แต่ถอนหายใจเพราะมันก็เป็น​อย่างที่หล่อนพูด

"ช่างเถอะค่ะ ฟ้าก็​พูดอะไรไม่ได้ทำได้แค่อดทน​ ทำเป็นไม่รู้สึกอะไรแม้ในใจจะรู้สึกอยู่ไม่น้อยก็ตามค่ะ"

"ไปเรียนเถอะนะ​ อ่ะ!!! เอาเงินไปใช้​" ฤดีหยิบเงินจำนึงหนึ่งใส่มือของม่านฟ้า

"คุณอาคะ​ ฟ้าว่ามันเยอะเกินไปแค่ฟ้ามาอยู่ฟ้าก็เกรงใจจะแย่อยู่แล้วค่ะ"

"อาบอกแล้วไงว่าอาจะดูแลเราให้เสมือนคนในครอบครัว​ ฟ้าเป็นหลานอา​เงินนี่​อาให้เราเอาไปใช้เดือนละ​ 40000​ พอไหม"

"พอค่ะ​ ขอบคุณค่ะคุณอา" ม่านฟ้ายกมือไหว้ขอบคุณอย่างเกรงใจ

"ตั้งใจเรียนนะ​ ตอนเย็นเจอกัน"

"ค่ะคุณอา"

"ป่ะเดี๋ยวอาไปส่งขึ้นรถ​ ป่านนี้คนขับรถรอแย่แล้ว " ฤดีเดินมาส่งม่านฟ้าและลิษาขึ้นรถเพื่อให้ทั้งสองนั้นทำหน้าที่ของตนเองนั่นก็คือการเรียนหนังสือ

มหาวิทยาลัยสินธนบุรี

"ยังไงเล่ามายัยฟ้า" ญาดาแก๊งค์​เพื่อนสาวที่สนิทถามขึ้น

"พ่อฉันถูกฟ้องล้มละลาย​ แถมเป็นหนี้อีกตั้งหลายล้านพ่อก็เลยเอาฉันไปอยู่กับเพื่อนพ่อ"

"อ้าวหรอ!!! จากคนที่บ้านรวยมากๆ"

"อื้ม​ ชีวิตก็แบบนี้แหละ"

"แล้วคนที่บ้านนู้นเขาดูแลแกดีไหม"

"ดีนะ​ แต่หลานของบ้านนั้นไม่ชอบฉันนะสิ​ เพราะกลัวว่าฉันจะไปแย่งความรัก"

"หื้ม... เด็กไม่รู้จักโตนะสิ​"

"เรียนที่นี่อ่ะ​ ปี​ 1​ คณะนิเทศศาสตร์​"

"ทนเอาหน่อยนะแก"

"ไม่รู้จะอดทนไปได้แค่ไหน แค่เมื่อวานกับวันนี้ทำฉันอึ้งพูดไม่ออกเลย"

"แกมาอยู่กับฉันไหมล่ะ"

"ขอบใจมากนะดา​ แต่พ่อกับแม่ฉันให้อยู่กับคุณลุงกับคุณอา​ ก็ไม่อยากขัดใจเดี๋ยวพ่อกับแม่จะไม่สบายใจเอา" ม่านฟ้าพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนใจ

"แล้วนี่แกมีเงินใช้ไหม​ไม่มีบอกพวกเราได้นะ​"

"ฉันมี​ คุณอาให้ฉันใช้เงินเดือนละ​ 4000​0"

"40000​ เลยหรอ​ เขาคงเอ็นดูแกมาก"

"แต่มากไปก็ไม่ได้​ หลานคุณอาจ้องแต่จะหาเรื่องมาให้ฉัน"

"เห้อ!!! ชีวิตแกนี่นะ"

"ไม่สนุกเอาซ้ะเลย" เวลาผ่านไปพอสมควรถึงเวลาพักเที่ยงนักศึกษาต่างคณะก็พากันมารับประทานอาหาร​ มีนักศึกษากลุ่มหนึ่งหยุดอยู่ตรงที่โต๊ะของม่านฟ้า

"เนี่ยคนนี้แหละที่ฉันบอกว่าที่บ้านล้มละลาย​ หนีหัวซุกหัวซุนมาอาศัยบ้านคุณน้าของฉัน​ แถมยังอยากจะเป็นหลานรักด้วยมั้ง​ ไม่รู้ว่าไปขออะไรคุณน้าฤดีถึงได้ยอมให้ป้านวลคนรับใช้ข้างกายคุณน้ามาดูแลตัวเองด้วย​ แถมคุณน้าฤดียังบอกให้คนในบ้านเรียกมันว่าคุณหนูเหมือนฉัน" ลิษาพูดประณามกล่าวลือม่านฟ้าอย่างเสียหาย​ หารู้ไม่ว่าเรื่องที่ตนกล่าวไม่เป็นความจริง

"หื้มจริงหรอลิษา​ แล้วอย่างนี้คุณน้าของเธอจะยกมรดกให้มันหรือเปล่า" เพื่อนสนิทลิษาเอ่ยขึ้น

"ไม่มีทางฉันเป็นหลานของคุณน้า​ มรดกต้องตกเป็นของฉันคนเดียว"

"น้าของลิษาไม่มีลูกหรอ"

"ไม่มีคุณน้าฤดีทำหมันน่ะเลยไม่มีลูก​ คุณน้าเลยรักและเอ็นดูฉันเหมือนลูกคนนึง"

"เธอก็เป็นแค่หลานของคุณลุงเดช​ที่เป็นสามีของคุณอาฤดี​ ไม่ใช่หลานแท้ๆของคุณอาสักหน่อย" ม่านฟ้าเอ่ยโต้กลับ

"แต่คุณน้ากับคุณอาก็เป็นสามีภรรยาถูกต้องตามกฏหมาย​ และฉันเป็นหลานไม่ใช่คนอื่นที่มาอาศัยในบ้านเหมือนเธอ"

"แต่คุณลุงเดชกับคุณอาฤดีก็รับฉันเป็นหลานอีกคน"

"เธอมันก็แค่ลูกเพื่อนพ่อไม่ใช่หลานในไส้แท้ๆของคุณอา"

"ขอพูดไว้ก่อนเลยนะ​ ฉันไม่เคยคิดจะแย่งความรักของคนในบ้าน​ อีกอย่างคุณลุงก็อาสารับฉันมาดูแลเอง​ ฉันไม่ได้ขอร้องให้คุณลุงเอาฉันมาซ้ะเมื่อไหร่"

"แกไม่ได้ขอ​แต่พ่อกับแม่แกขอไง​ ลับหลังคุณอากับคุณน้าปากดีจังนะ​"

"แล้วทำไมฉันจะต้องยอมให้เธอมาว่าฉันอยู่คนเดียว" 

"พ่อกับแม่ไม่สั่งสอนหรอ​ หรือที่ผ่านมาเป็นผู้ดีจอมปลอม​ พ่อกับแม่แกจับฉลากมาเป็นผู้ดีหรอ"

"ว่าฉันได้แต่มาว่าพ่อกับแม่ฉันไม่ยอม" ถาดข้าวที่วางอยู่บนโต๊ะถูกสาดใส่ตัวของลิษาด้วยฝีมือของม่านฟ้า

"กรี๊ดดดด!!! ฉันจะฟ้องคุณอากับคุณน้า​ แกโดนไล่ออกจากบ้านแน่"

"เชิญ​" ม่านฟ้ากล่าวคำพูดหนักแน่นก่อนที่จะหลบหนีไป

ช่วงเวลาเลิกเรียนคนขับรถนั้นได้มารับเธอทั้งสองเมื่อลิษาขึ้นรถก็สั่งให้คนขับรถออกรถทันทีโดยไม่ให้รอม่านฟ้า​ เมื่อหญิงสาวเห็นรถที่บ้านขับออกไปก็พอจะเดาได้ว่าเป็นฝีมือของลิษาที่ไม่ยอมให้ตนนั้นขึ้นรถกลับด้วย

เวลาผ่านไปพอสมควรเป็นเวลาใกล้​ 6​ โมงเย็นม่านฟ้าเพิ่งจะกลับมาถึงบ้าน​ ทุกคนในบ้านต่างก็นั่งรอตรงโซฟาที่ห้องนั่งเล่น

"สวัสดีค่ะคุณลุง คุณอา" ม่านฟ้ายกมือไหว้โดยไม่รู้ว่าก่อนที่ตนจะมาถึงบ้านลิษานั้นฟ้องอะไรที่ไม่เป็นความจริงไปแล้วบ้าง

"ทำไมเพิ่งจะกลับมาถึงบ้าน​ ทำไมไม่ขึ้นมากับรถของที่บ้านเรา" เดชณรงค์ถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง

"รถไม่ได้รอฟ้าเลยนะคะ​ ฟ้ามาถึงหน้ามอ.รถก็ออกไปแล้ว"

"ไม่จริงค่ะคุณอาเดช​ ลิษาเห็นม่านฟ้ายืนคุยกับผู้ชายคนขับรถเรียกก็ไม่ยอมขึ้นบอกให้คนขับรถขับออกไปเลย" 

"ไม่เป็นความจริงค่ะ" ม่านฟ้าปฏิเสธทันควัน

"ลิษาถ่ายรูปมาด้วยค่ะ​ เผื่อคุณอากับคุณน้าไม่เชื่อ" ลิษาชูโทรศัพท์​เปิดภาพที่หล่อนกับผู้ชายยืนคุยกันอยู่หน้ามหาวิทยาลัย

"ม่านฟ้าตอบลุงมาหน่อยว่าเรื่องจริงไหม" เดชณรงค์ถามอย่างใจเย็นเธอคิดว่าม่านฟ้าเป็นเด็กดีเหมือนที่เพื่อนของตนเคยกล่าว

"ฟ้าคุยกับเพื่อนคนนี้จริงค่ะ​ แต่เขาเป็นสาวสอง​อีกอย่างเราก็แค่คุยงานกลุ่มที่พรุ่งนี้จะต้องนำเสนอ​ ราก็แค่แบ่งข้อมูลกันทำำ ​แล้วฟ้าก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้​ ฟ้าคุยกับเพื่อนเรื่องงานจริงๆค่ะ"

"อื้ม​ โอเคงั้นอีกเรื่องให้อาฤดีเขาจัดการนะ​ ผมจะไปอาบน้ำ"

"ค่ะ" ม่านฟ้าพ่นลมหายใจออกมาอย่างน้อยสิ่งที่เธอพูดก็มีคนเชื่อ

"ม่านฟ้าอาถามอะไรหน่อยสิ"

"ค่ะคุณอา"

"ฟ้าได้สาดอาหารใส่ลิษาหรือเปล่า" ฤดีถามยังเสียงเงียบ​ สุขุม​ ฟังดูน่ากลัวอยู่ลึกๆ

"ค่ะ" ม่านฟ้าไม่ได้ปฏิเสธแต่อย่างใดเพราะนั่นมันคือเรื่องจริง

"ทำไม" คิ้วของฤดีเริ่มขมวดผูกกันเป็นปม

"คุณอาฤดีก็ลองถามลิษาดูสิคะ​ ฟ้าก็อยากรู้ว่าลิษาเขาจะพูดว่าอย่างไร"

"ลิษา" เสียงเรียบต่ำเรียกชื่อหลานรักพลางเปยตามองอย่างสงสัย

"ก็ม่านฟ้ามันมาว่าลิษาก่อนนะคะ​ ลิษาทานข้าวอยู่แต่แม่นี่เดินมาจากไหนไม่รู้​ อวดอ้างว่าได้เข้ามาอยู่ในบ้านคุณน้า​ พูดกับลิษาว่าจะแย่งความรักของคุณอากับคุณน้าไปจากลิษา" ลิษาแสร้งเล่นบทละครน้ำเน่าใส่น้าฤดี

"ไม่จริงค่ะ​ ลิษานั่นแหละค่ะที่เดินมาต่อว่าม่านฟ้าที่กำลังทานข้าวอยู่​ บอกว่าม่านฟ้าคือผู้ดีจอมปลอม​พ่อกับแม่จับฉลากมาเป็นผู้ดี​ แถมยังว่าพ่อแม่ไม่สั่งสอน​ ม่านฟ้าก็เลยโมโหเลยสาดอาหารใส่ลิษาค่ะ"

"ทำไมถึงทำอย่างนั้นล่ะลิษาไปว่าม่านฟ้าทำไม" 

"นี่คุณน้าเชื่อมันหรอคะ​ คุณน้ารักมันมากกว่าลิษาหรอคะ"

"ไม่ใช่อย่างนั้นนะ​ น้าแค่ไม่อยากให้เราไปพูดจาแบบนั้นใส่กัน"

"แต่ลิษาไม่ได้เป็นคนพูด​ คุณน้ารู้จักลิษาดีนะคะ​ แล้วมันเป็นใครมันพูดอะไรคุณน้าก็เชื่อมันแถมยังมองว่าลิษาเป็นคนผิด"

"น้ายังไม่ได้กล่าวหาว่าใครผิด​ ที่น้าถามว่ามันเกิดอะไรขึ้นแค่อยากจะรู้สาเหตุก็เท่านั้น"

"ถ้าคุณน้าเชื่อมันก็ไม่ต้องมาถามลิษา​ คุณน้าต้องรู้จักลิษาดีสิ" จริงอย่างที่ลิษาพูดที่ผ่านมาลิษาเป็นเด็กดีมาตลอดหรือลิษาพูดจะเป็นเรื่องจริง

"ม่านฟ้า​ สรุปจริงอย่างที่ลิษาพูดไหม​" ฤดีถามเสียงเรียบอีกครั้งไม่รู้จะเชื่อใครดี

"ก็สุดแล้วแต่คุณอาจะตัดสินใจเชื่อใครเลยค่ะ​ ฟ้าไม่ใช่หลานคุณอาพูดอะไรคุณอาก็คงไม่เชื่ออยู่แล้ว" 

"ม่านฟ้า​ อายังไม่ได้ตัดสินว่าใครถูกหรือผิด"

"แต่คุณอาก็เชื่อที่ลิษาพูดมากกว่าที่ฟ้าพูดใช่ไหมคะ​ เพราะที่ผ่านมาลิษาเป็นเด็กดีมาตลอด​ แต่พอวันนึงมีฟ้าเข้ามาเรื่องแบบนี้มันก็เกิดขึ้น​ ทุกคนคงจะมองว่าต้นเหตุ​ก็มาจากฟ้า"

"อาจะยังไม่ตัดสินใครทั้งนั้น​ แต่ขอรู้เหตุผลได้ไหมม่านฟ้าว่าทำไมถึงจะต้องทำรุนแรงโดยการสาดอาหารใส่กัน"

"คุณอาพูดแบบนั้นก็หมายความว่าเข้าข้างลิษาหรอคะ​ ถ้าคุณอาเชื่อแบบนั้นคุณอาก็ไม่ต้องถามอะไรม่านฟ้าหรอกค่ะ​ ในเมื่อลึกๆแล้วคุณอาก็มองฟ้าเป็นคนผิดที่ทำเกินกว่าเหตุใช่ไหมคะ"

"ไม่ใช่นะม่านฟ้า​ อาก็แค่ไม่เข้าใจว่าจะต้องทำกันถึงขนาดนี้เลยหรอ"

"ก็เขามาต่อว่าพูดถึงพ่อแม่ฟ้าอย่างเสียๆหายๆ​ จะให้ฟ้าทนฟังทั้งๆที่มันไม่ใช่เรื่องจริงหรอคะคุณอา" เสียงของม่านฟ้าเริ่มสั่นคลอน

"แต่ผู้ดีเขาไม่ทำกันอย่างนี้นะ​ฟ้า"

"ค่ะ​ ฟ้ามันผู้ดีจอมปลอมจับฉลากมาได้เหมือนที่ลิษาบอกนั่นแหละค่ะ" น้ำตาไหลนองอาบแก้มด้วยความน้อยใจที่ไม่มีความเห็นว่าเธอนั้นจะเป็นผู้ถูกกระทำ​ หากทว่าหลานรักยังไงก็เป็นหลานรัก​เรามันก็แค่คนอื่น

"คุณน้าคะ​ ลิษาไม่ถือโทษโกรธ​ม่านฟ้าหรอกค่ะ"

"ลิษาขึ้นไปอาบน้ำเถอะ​ ม่านฟ้าด้วย"

"ค่ะ" ม่านฟ้าถือกระเป๋าขึ้นไปบนห้องอย่างอิดโรยภายในใจแตกสลายเป็นเสี่ยงๆ​ หล่อนทิ้งตัวลงบนเตียงนอนคว่ำระบายความทุกข์ใจผ่านน้ำตาออกมา

"ฮึกๆๆ" เสียงสะอื้นผ่านลำคอ​ทำให้คนที่ย่างกายเข้ามาในห้องหยุดมองก่อนที่จะเดินไปนั่งที่เตียงเพื่อปลอบคนที่ร้องไห้

"ม่านฟ้า" เสียงนุ่มเรียกคนเล็กมือบางลูบศีรษะ​เป็นการปลอบให้คนร้องไห้นั้นหยุด

"คุณอา" ม่านฟ้ารีบเช็ดน้ำตาแล้วลุกขึ้นนั่งในท่าทีปกติ

"ร้องทำไมกัน​ อาไม่ได้ไม่เชื่อม่านฟ้านะ​ แค่อยากหาความจริง​แต่สิ่งที่ม่านฟ้ากระทำอาว่ามันไม่สมควร​ เราควรใช้วิธีอื่นที่ดีกว่านี้"

"คือเงียบๆให้เขาพูดต่อว่าฟ้าอยู่ฝ่ายเดียวหรอคะคุณอา"

"ไม่ใช่ค่ะ​ เราตอบโต้ได้ต้องเป็นวิธีของคนฉลาดเข้าใจไหม​ เราทำแบบนี้ต่อให้มีเหตุผลมากมายมันก็ฟังไม่ขึ้นเพราะรูปธรรมแล้วลิษาเข้าโดนกระทำเข้าใจที่อาพูดใช่ไหม"

"ค่ะ​ ขอโทษที่ทำให้คุณอาไม่สบายใจนะคะ​แล้วก็ขอโทษที่แสดงกิริยาที่ไม่น่ารักกับคุณอา"

"ไม่เป็นไรค่ะ​ อาไม่ถือโทษโกรธม่านฟ้าหรอกนะ"

"ขอบคุณนะคะ"

"ไม่ร้องแล้วนะคนดีของอา" ฤดีดึงม่านฟ้าเข้ามาโอบกอด​ ศีรษะ​ของม่านฟ้าอยู่ใต้หน้าอกของเธอ

"ไม่ร้องแล้วค่ะ"

"คืนนี้อาจะนอนเป็นม่านฟ้านะ"

ฤดีนอนข้างๆ ม่านฟ้าหญิงสาวซุกที่หน้าอกของหล่อนมือก็สวมกอด คุณหญิงของบ้านมองด้วยความเอ็นดู มือลูบผมดกดำเงางามอย่างทะนุถนอม "ฝันดีนะม่านฟ้า"

หญิงสาวข้างกายเธอเป็นหญิงผู้น่าสงสาร เพราะเธอนั้นไม่ได้อยู่ร่วมกับบิดามารดาเหมือนแต่ก่อน หากหญิงสาวจะคิดว่าตนเองไม่เหลือใครมันก็คงจะจริง แต่ทว่าฤดีอยากจะเปลี่ยนความคิดของม่านฟ้า เธอเองมองว่าหากใครมารังแกม่านฟ้าเธอแค่เพียงอยากจะปกป้อง เพราะในบ้านหลังนี้ไม่มีญาติพี่น้องของม่านฟ้าให้เป็นที่พึ่งทางจิตใจเสียเลย

เลือกตอน

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!