ระหว่างเชนกับอะตอมจะกลับบริษัทของตนหลังประชุมเสร็จแล้วนั้น ก็ถูกเสียงหนึ่งร้องทัดทานไว้ จากด้านหลัง
"คุณเสกครับรอก่อนครับ"
ทั้งสองหันมาทางเสียงนั้นพร้อมกัน เมื่อทั้งคู่เดินมาหยุดอยู่หน้าบริษัทพอดี เป็นเชนนั่นเอง
"คือ ท่านประทานอยากนัดคุณสองคนทานข้าวเป็นการส่วนตัว คุณสองคนพอจะสะดวกไหมครับ คือทางเรามีเรื่องจะคุยเพิ่มเติมด้วยนิดหน่อยน่ะครับ"
เชนพูดอย่างมีมารยาทกับคนทั้งสอง แต่ทั้งสองถึงกับงง เพราะรู้ในข่าวลือดีว่า บอสคนนี้หยิ่งแค่ไหน ถ้างานไม่สำคัญกับเขาจริง เขาจะไม่ยอมลดตัวลงมาคุยด้วยเลย และยังสงสัยว่ามีอะไรติดค้างในข้อเสนอที่ตกลงกันเรียบร้อยแล้วอีก
"เอ่อ ถือว่าเป็นเกียรติกับพวกเราสองคนมากครับ เราสองคนยินดีครับ"
เป็นเสกที่ตอบรับคำเชิญนี้ อะตอมเองก็ยังคงยืนทำหน้างง ถึงอะตอมจะเป็นคนสดใสร่าเริง เรียนเก่ง ได้ถึงเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง แต่เพราะความใสซื่อ ท่าทีภายนอกของเขาจึงดูเหมือนไม่ค่อยทันคนสักเท่าไหร่ เขาจึงได้แต่ยิ้มหวานมีเสน่ห์ประจำตัวของเขาออกไปเท่านั้น
"งั้นเดี๋ยวผมแชร์โลเคชั่นให้นะครับ แล้วเราไปเจอกันที่นั่นอีกครึ่งชั่งโมง"
เชนพูดแล้วเดินจากไป เมื่อคนทั้งสองพยักหน้ารับรู้เข้าใจตรงกันเรียบร้อยแล้ว
"จะดีหรอพี่ ผมว่ามันแปลกๆอยู่นะ"
อะตอมถามเสกพร้อมทำสีหน้ากังวล ในความไม่แน่ใจในคนคนนี้ ที่เขาจะได้ร่วมงานด้วย ซึ่งเป็นงานแรกของเขา เมื่อขึ้นรถมาแล้ว เสกเป็นคนขับ
"ทำไมอ่ะ เราคิดว่ายังไงหรอ พี่ว่ามันเป็นโอกาสดีนะ ที่จะได้คุยกับเขาเป็นการส่วนตัว เพราะทางเราก็ทำผิดกับเขาไว้เยอะเลย แม้เราจะไม่ได้ตั้งใจก็เถอะ ดีแค่ไหนที่เขารับข้อเสนอของเรา ให้เราได้แก้ตัวใหม่อีกครั้งง่ะ"
เสกพูดให้อีกคนได้คิด ซึ่งมันเป็นทางออกที่ดีของบริษัทเขาในตอนนี้ คือต้องยอมฝ่ายนั้นไปก่อน
"มันก็ใช่ ก็เพราะเราทำผิดกับเขาไง ทำไมเขายังให้โอกาสเราอีกอ่ะ แถมยังนัดคุยส่วนตัวอีกผมว่า... ไม่รู้สิ ผมรู้สึกแปลกๆยังไงบอกไม่ถูกอ่ะ"
เซ้นของอะตอมทำงานเพราะรู้สึกแปลกๆจริงๆ ยิ่งสายตาของเขาที่มองตนนั้น มันแปลกมาก ซึ่งตนเองก็รู้ดีว่าตัวเองน่ะเป็นที่สนใจของใครหลายๆคนอยู่แล้ว แต่ตนเองก็ไม่เข้าใจสายตาแบบนั้นของเขาอยู่ดี
"เอาน่า อย่าคิดมาก พี่ว่าเราคิดมากไปแล้ว พี่อยู่กับเราตรงนี้จะกลัวอะไร พี่จะคอยช่วยเราเต็มที่อยู่แล้ว ไม่งั้นจะมีผู้ช่วยไว้ทำไมถูกไหม"
เสกเป็นรุ่นพี่ที่สนิทและเป็นเครือญาติของอะตอม ซึ่งเขาทำงานที่บริษัทของพ่ออะตอมมาหลายปีแล้ว และเป็นผู้ช่วยของอะตอมทันทีที่เข้ามารับผิดชอบโปรเจคนี้หลังจากเรียนจบ
เพราะบริษัทกำลังเดือดร้อน จากนักออกแบบคนก่อนซึ่งเป็นญาติห่างๆของพ่อ และบริษัทสายฟ้าโปรดักชั่นเป็นของพ่อของอะตอมนั่นเอง
"มันก็จริง ผมก็เข้าใจแต่ว่า..."
"หยุด เลิกคิดมากได้แล้ว แล้วทำหน้าให้มันดีๆซะนะ ก็อาเราเล่นหักหลังพ่อเราไว้ซะขนาดนั้น ฝ่ายนั้นที่ถูกโกงไปหลายสิบล้านไม่ฟ้องเราก็บุญแล้ว ดีนะเขายังรับข้อเสนอของเรา โอกาสเรายังมี ไม่ว่าเขาจะมาไม้ไหน เราก็ต้องยอมเขาไปก่อน เพื่อให้ชื่อเสียงพ่อเราไม่เสียหายไปมากกว่านี้ มีพี่อยู่ทั้งคนไม่ต้องกลัว พี่ซับพอร์ตเราเต็มที่อยู่แล้ว มันอาจจะไม่มีอะไรก็ได้ คิดว่ามันคือโอกาสของเราพอ โอเคนะ"
อะตอมไม่มีทางเลือก เพราะคนที่เขาเรียกว่าอา และนับถือเขามองเขาเป็นไอดอนมาตลอด พังพ่อเขาลงกับมือ โดยการออกแบบผิดไปจากเดิม แล้วยังโกงเงินส่วนหนึ่งของพ่อเขาไปอีก เพื่อทำลายพ่อเขาเพราะความอิจฉาอย่างจงใจ
จึงเป็นหน้าที่ของอะตอมที่ต้องเข้ามาแก้ไขปัญหานี้และกอบกู้ชื่อเสียงของพ่อเขากลับมา ไม่ว่าเขาจะต้องเจอกับอะไรต่อจากนี้ไปเขาต้องยอมรับมัน
ถึงเขาจะมีฝีมือในด้านนี้มาโดยตรง จนทุกคนที่สนิทกับผู้เป็นพ่อ ที่เคยร่วมงานต่างก็ยอมรับในข้อนี้ของเขา เพราะเขาเองเรียนรู้จากผู้เป็นพ่อมาตั้งแต่เด็ก แต่ก็ทำให้เขาเป็นกังวลอยู่ดี เพราะในวุฒิการทำงาน เขาประสบการยังน้อย ยากที่คนภายนอกจะเชื่อถือ
เมื่อมาถึงร้านหรูที่นัดกันไว้ ฝ่ายนั้นก็มาถึงก่อน มันจึงทำให้อะตอมโดนเสกบ่น
"เห็นไหมเรามาช้าเลยอ่ะ แล้วนี่ก็ทำหน้าให้มันดีๆหน่อยได้ไหม ยิ้ม ใช้รอยยิ้มที่มีเสน่ห์ของเราให้มันเป็นประโยชน์หน่อย"
เสกบ่นให้อะตอมก่อนเดินมาถึงโต๊ะ ที่คนทั้งสองนั่งรออยู่แล้ว อะตอมจึงฝืนยิ้มอ่อนๆแล้วยกมือไห้วขอโทษริว เมื่อเสกเอ่ยปากขอโทษแทนตน
"ขอโทษนะครับที่เราสองคนมาช้า คือเราไม่คุ้นเส้นทางน่ะครับ"
"ไม่เป็นไรครับ พวกเราก็พึ่งมาถึง"
เชนเป็นคนกล่าวแทน แต่ริวยังคงนั่งนิ่งอยู่ แล้วจ้องหน้าอะตอมไม่วางตา ทำเอาอะตอมหายใจหายคอไม่สะดวก ทำตัวไม่ถูก นั่งลงที่ตัวเองอย่างเก้ๆกังๆ
"สั่งกันได้เต็มที่เลยนะครับ ไม่ต้องเกรงใจ ท่านประทานเลี้ยงเอง เพื่อเป็นการขอบคุณที่คุณทั้งสองช่วยแก้ไขโปรเจ็คนี้ให้เราจนจบโปรเจค ไม่ปล่อยพวกเราทิ้งกลางทาง เพราะถ้าหาเจ้าใหม่ตอนนี้เราคงหาไม่ทันแน่"
เชนบอกจุดประสงค์ที่เลี้ยงข้าวทั้งสองในวันนี้
"ขอบคุณนะครับ แต่น่าจะเป็นทางเรามากกว่านะครับ ที่จะต้องเลี้ยงขอโทษฝ่ายคุณ เพื่อไถ่โทษกับงานที่ผิดพลาดในครั้งที่ผ่านมา"
อะตอมเป็นฝ่ายพูดขึ้นมาบ้าง เพื่อแสดงความรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น แม้เขาไม่ได้เป็นคนก่อก็ตาม
"ไม่เป็นไรครับ ทางเราทราบมาว่าไม่ใช่ความผิดของพวกคุณโดยตรง ทางเราเข้าใจครับ"
เชนยังคงเป็นคนสื่อสารกับคนทั้งสอง และริวยังคงนิ่งอยู่ตามเดิม ทำเอาอะตอมเชื่อในข่าวลือนั้นซะสนิทใจว่า เขาเป็นนักธุรกิจหนุ่มไฟแรง มาดนิ่ง ทั้งหยิ่ง และเย็นชาที่สุด
'เขาจะหยิ่งไปไหนวะ ตั้งแต่เข้ามาในร้าน เขายังไม่เอ่ยปากพูดออกมาสักคำ เอาแต่นิ่งจ้องเราอยู่ได้ อึดอัดชะมัดเลย'
อะตอมคิดในใจ พลานทำหน้ามุ่ย ซึ่งมันเพิ่มความน่ารักของคนตัวเล็กให้น่ามองเพิ่มขึ้น จนริวที่มองอยู่ไม่วางตานั้นยิ่งหลงเข้าไปอีก อะตอมจึงคิดว่าสถานการณ์ตอนนี้มันดูอึดอัดซะจริง
ในเวลาต่อมาอาหารที่สั่งทั้งหมดก็ถูกเอามาเสริฟ หนึ่งในเมนูนั้นคือกระเพราทะเลจานใหญ่และไข่ดาวตามจำนวนคนที่อะตอมเป็นคนสั่ง เพราะนั่นคือเมนูโปรดของเขา ซึ่งเขาไม่ได้สั่งราดข้าวเพราะเผื่อทุกคนด้วย
มันจึงทำให้ริวที่นั่งสังเกตอะตอมอยู่นั้นยิ้มอ่อนออกมาด้วยความเอ็นดูที่ไม่รู้ตัว เพราะเขาเองอุส่าเลือกร้านหรูดูแพงเพื่อให้เกียรติอีกคน แต่เขากับสั่งแค่เมนูตามร้านอาหารตามสั่งที่หาได้ทั่วไป และทั้งหมดก็เริ่มทานไปได้สักพัก ริว ก็ได้กล่าวออกมาบ้าง
"งานนี้ผมต้องพึ่งพวกคุณแล้วล่ะ ฝากด้วยนะครับ ถึงจะไม่ใช่โปรเจคที่ใหญ่โตอะไร แต่ผมไม่อยากเสียชื่อเสียงเพราะเรื่องเล็กๆแค่นี้ คุณคงเข้าใจนะครับ"
ริวพูดเค้นเสียงต่ำ แล้วจ้องไปที่หน้าของอะตอมเหมือนคาดโทษ และข่มอีกคนไปในที และเหมือนตอกย้ำความผิดพลาดของบริษัทของเขาที่ผ่านมา
อะตอมเข้าใจดี ในความหมายที่เขาสื่อออกมาจากคำพูดเมื่อสักครู่นี้ เพราะมีคดีติดตัว จึงได้แต่คิดในใจ
'กูจะลอดไหมวะเนี้ย'
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 30
Comments