3 ยามเย็น

วันนี้มีจดหมายฉบับหนึ่ง ถูกส่งมายังประมุขพรรคมารสกุลเฉียง เขาไม่มีมิตรสหายที่ไหน เหตุใดถึงมีจดหมายส่งถึงเขา และเขา...แกะจดหมายฉบับนี้...ไม่ออก

เฉียงฮ่าวปิงคิด กะอีแค่จดหมาย ทำไมต้องใส่อาคมบ้าๆ บอๆ ผนึกไว้ด้วย

เขาเดินวนไปมาอยู่ในจวนอยู่หลายรอบ ทำเช่นไรกับจดหมายฉบับนี้ดี พลิกจดหมายไปมาอยู่หลายที หรือต้องใช้กระบี่แกะออก เป็นความคิดที่โง่งมเกินไปแล้ว เขาคิดว่าอีกฝ่ายที่ส่งมา เพื่อเป็นการแกล้งเขาเล่นเท่านั้น

วันนี้ก็ไม่มีภารกิจอะไร เขาควรจะออกไปสัมผัสกับโลกภายนอกบ้าง แต่ยังไงเขาก็ต้องแต่งกายให้มิดชิดอยู่ดี เพื่อไม่ให้คนส่วนใหญ่ตกใจกับการมาเยือนของเขา ผู้คนส่วนใหญ่อยู่ในการปกป้องของคนพรรคธรรมะ... ประมุขพรรคมารเช่นเขาต้องทำตัวหลบๆ ซ่อนๆ เพราะไม่อยากมีเรื่อง ผิดกับพรรคมารตระกูลอื่น ที่คอยหาเรื่อง ตบตี สร้างปัญหา ทะเยอทะยานกับเรื่องไร้สาระ บางทีเฉียงฮ่าวปิงก็คิด ว่าพวกเขาทำไปเพื่ออะไร แสดงอำนาจเหรอ? ความเป็นใหญ่? สุดท้ายแล้วพรรคธรรมะก็ผดุงความยุติธรรมได้ทุกครั้ง เจ้าพวกนั้นก็ไม่รู้จักเข็ดหลาบ เที่ยวหาเรื่องตลอดเวลา

เฉียงฮ่าวปิงไม่ได้ต้องการขึ้นเป็นประมุขพรรคมารเช่นนี้หรอก หากเฉียงเทียนเหิงยังอยู่ เขาก็ยังมีความสุขมากกว่านี้ พอได้ขึ้นเป็นประมุข ทุกอย่างกลับหายไปหมด เฉียงเทียนเหิงก็หายตัวไป ศิษย์น้องมั่วก็หายตัวไป เหลือแต่เขากับเฉียงอวี้หลันเพียงสองคน เขาจึงรับหน้าที่เป็นประมุขพรรคแทน

เฉียงฮ่าวปิงคว้าผ้าคลุมตัวใหม่มาสวม เพราะอีกตัวนึงเขาทิ้งไว้กับลู่เยว่ชิง วันนี้ทั้งวันลู่เยว่ชิงไม่ออกมาหาเขาตามเคย คงจะไม่กล้ามาหาอีกแล้ว

เขาผนึกลมปราณอีกฝ่าย

เขาทิ้งอีกฝ่ายไว้ท่ามกลางอากาศหนาวเย็น และไม่คิดจะส่งอีกฝ่ายคืนสู่พรรคธรรมะ

ดูก็รู้ว่าเป็นการกระทำที่เย็นชาแค่ไหน ไม่แปลกที่อีกฝ่ายโกรธเคืองเขา ซึ่งมันก็สมควรแล้วสำหรับคนพรรคธรรมะที่เข้ามายุ่งเรื่องของคนพรรคมาร หลังจากนี้เขาต้องหาศิลาดำด้วยตนเอง

เฉียงฮ่าวปิงดึงผ้าคลุมมาคลุมหัวตน เดินออกมาจากเรือน เข้าตรอกหลบซ่อน ไม่ให้ใครรู้ว่าเขามาจากพรรคมาร เขาเดินเข้าไปในย่านตลาดนัด ผู้คนมากมายต่างเดินสวนทางกันไปมา การแลกเปลี่ยนซื้อขายก็น่าสนใจ ของกิน ของใช้วางเต็มหน้าแผงพร้อมขาย

เขาคิดจะเดินเข้าไปซื้อขนมเหนียนเกา(ขนมเข่ง) ทว่าผู้คนยืนกันเต็มหน้าร้านเยอะเกินไป เขาแทรกตัวเข้าไปไม่ได้เลย จำเป็นต้องไปซื้อร้านอื่น

เป็นถึงประมุขพรรคมาร ทำไมถึงต้องมาน้อยใจเรื่องที่ซื้อขนมไม่ได้ด้วย? เพราะเขาอยากเป็นคนธรรมดายังไงล่ะ

“พี่ชาย รับนี่หน่อยไหม?” มีมือนึงยื่นขนมเหนียนเกามาตรงหน้าเฉียงฮ่าวปิง

เฉียงฮ่าวปิงขมวดคิ้วหันหน้าไปมอง ปรากฏเป็นชายหนุ่ม สวมผ้าคลุมสีดำคลุมหัวไว้

“ลู่เยว่ชิง”

“ไม่นึกว่าท่านประมุขจะว่างถึงขนาดออกมาเดินตลาดเลยนะขอรับ” ลู่เยว่ชิงยิ้มแห้ง เขายัดขนมใส่มือเฉียงฮ่าวปิง

นั่นมันเรื่องของเขา ทำไมต้องมายุ่งด้วย เขาไม่อยากคุยกับลู่เยว่ชิงไปมากกว่านี้

“ได้ยินว่าศิษย์เอกพรรคเฟิงอวิ๋นป่วยไม่สบาย ใช่ลู่เยว่ชิงหรือไม่?”

“ใช่ๆ ลู่เยว่ชิงนั่นแหละ เพราะเขาโดนพรรคมารชั่วจับตัวไปน่ะสิ ถึงไข้จับเช่นนี้”

“ไม่รู้ว่าอาการดีขึ้นหรือยัง”

“...” เฉียงฮ่าวปิงกับลู่เยว่ชิงมองหน้ากัน

“ข้าสบายดีต่างหาก ป่วยเป่ยอะไรกัน ข้าสบายดีมาก..แค่ก!” ลู่เยว่ชิงเอ่ยอย่างโอ้อวด

“อย่าเดินลมปราณ” เฉียงฮ่าวปิงรีบยกนิ้วแตะหน้าผากอีกฝ่าย ผนึกลมปราณอีกฝ่ายไว้ทันที

“ประมุขเฉียง ท่านอาจารย์ของข้าบอกว่าหากร่างกายมีความผิดปกติ ให้เดินลมปราณรักษาได้ แล้วท่านจะผนึกลมปราณของข้าทำไม?” ลู่เยว่ชิงเอ่ย แต่ก็ยอมให้อีกฝ่ายผนึกลมปราณแต่โดยดี

“ร่างกายอ่อนแอ จิตใจสับสน นี่คือคุณสมบัติของผู้เดินลมปราณหรือ? เจ้าไม่มีแม้กระทั่งสมาธิด้วยซ้ำ” เฉียงฮ่าวปิงละมือออกเปลี่ยนมาจับข้อมือของลู่เยว่ชิงแทน ตรวจชีพจรอีกฝ่าย เส้นชีพจรเต้นแรง และรัวมาก ลู่เยว่ชิงเขาตื่นเต้นอะไร?

“ประมุขเฉียง ไม่สู้พาข้ากลับไปรักษาที่พรรคมารของท่านเสียสิ อยู่ตรงนี้คนมันเยอะ ข้าไม่อยากให้ผู้คนเป็นห่วง” ลู่เยว่ชิงหอบกระเส่า ใบหน้าเห่อร้อน แดงระเรื่อเล็กน้อย

“ทำไมต้องเจาะจงว่าต้องเป็นพรรคมารของข้าด้วย หาที่นั่งที่ลับตาคนก็พอแล้ว” เฉียงฮ่าวปิงปล่อยมืออีกฝ่าย

“อา...นั่นสินะ” ลู่เยว่ชิงเกาแก้มตัวเอง

เฉียงฮ่าวปิงแกะเข่งของขนมเหนียนเกา พลางป้อนใส่ปากตัวเองคำเล็กๆ ก็เมื่อครู่อีกฝ่ายยัดขนมให้เขาเองนี่นา ไม่กินก็ถือว่าเสียมารยาท

เขาไม่นึกว่าขนมเหนียนเกาตามท้องตลาดจะอร่อย ละมุนลิ้นถึงเพียงนี้ คิดแล้วก็อดป้อนอีกคำไม่ได้

ทั้งคู่เดินเคียงกันมา เข้าตรอกเมืองแคบ เป็นเขตของพรรคมารไป๋ ที่นี่ไม่มีผู้คนเดินผ่าน ทั้งยังเงียบสงบปะปนกับความวังเวง

“นั่งลงก่อน” เฉียงฮ่าวปิงเอ่ย “เจ้าแกะจดหมายนี่เป็นหรือไม่” ว่าแล้วเฉียงฮ่าวปิงก็ส่งจดหมายยื่นให้ลู่เยว่ชิง

“จดหมาย?” ลู่เยว่ชิงมอง พลางรับจดหมายนั้นมา “จากพรรคเฟิงอวิ๋นที่ข้าอยู่? ผนึกได้ชุ่ยมาก”

ลู่เยว่ชิงแกะซองจดหมายได้อย่างง่ายดาย

เฉียงฮ่าวปิงกระแอมไอเล็กน้อย

“ข้าอ่านให้ท่านฟังได้หรือไม่” ลู่เยว่ชิงกางกระดาษแผ่นนั้นออก

“อืม” เฉียงฮ่าวปิงตอบสั้นๆ ในจดหมายคงไม่มีเรื่องด่วนอะไรมาก จะยอมให้ลู่เยว่ชิงอ่านก็ย่อมได้

ลู่เยว่ชิงไม่รอช้า กวาดสายลงบนกระดาษแผ่นนั้น

‘ถึงประมุขเฉียง

ฮ่าวเกอ ท่านสบายดีหรือไม่ ศิษย์น้องล่ะ แต่ข้าสบายดีนะ! ท่านไม่ต้องตามหาข้าหรอก ข้ายังรั้งอยู่กับเฟิงอวิ๋นอยู่สักพักเสียหน่อย ข้าจะพยายามตามหาศิลาดำมาให้ท่าน!

จาก มั่วส่าวเต๋อ’

“มั่วส่าวเต๋อคือผู้ใดหรือ?” ลู่เยว่ชิงพับจดหมายเก็บเข้าซอง

“จะรู้ไปทำไม” เฉียงฮ่าวปิงแบมือ

ลู่เยว่ชิงวางซองจดหมายให้อีกฝ่าย เฉียงฮ่าวปิงเหลือบตามองอีกฝ่าย ก่อนจะนั่งยองๆ แล้วจับชีพจรให้ลู่เยว่ชิงอีกครั้ง

“ประมุขเฉียง ยามเย็นท่านว่างหรือไม่” ลู่เยว่ชิงกระแอมไอ

“ทำไม” เฉียงฮ่าวปิงไม่ตอบเขา ทั้งยังถามกลับ

“ข้าเพียงอยากตอบแทนบุญคุณ” ลู่เยว่ชิงใบหน้าระเรื่อจากพิษไข้ เงยหน้าขึ้นมาก

“ทำอะไร” เฉียงฮ่าวปิงแวดระวัง

“เลี้ยงข้าวท่าน ก็แค่นั้น” ลู่เยว่ชิงถูจมูกไปมา

“แทนที่จะมาคิดเรื่องนี้ ไม่สู้ให้เจ้าส่งตัวเองไปพักผ่อนให้หายดีก่อน” เฉียงฮ่าวปิงหยัดกายขึ้นทันที

“ข้าอยากอยู่กับท่านเท่านั้นเอง” ลู่เยว่ชิงเสียงแหบแห้ง

“...” เป็นตายร้ายดีอย่างไร ก็ไม่คิดจะไปรักษาตัวเองให้หายก่อนรึไง

“เอาเถอะ ข้าจะยอมเจ้าสักครั้ง” ในที่สุดเฉียงฮ่าวปิงก็ใจอ่อน ยอมตกลงไป

ลู่เยว่ชิงยิ้มเบิกบานใจที่สุด

โรงเตี๊ยม ในห้องนอน เวลายามห้าย(21:00-22:59)

“อืม...” เฉียงฮ่าวปิงส่งเสียงในลำคออย่างเหนื่อยล้า

“ตื่นแล้วหรือประมุขเฉียง” เสียงคุ้นเคยใกล้เข้ามา เขาช่วยประคองเฉียงฮ่าวปิงหลังให้นั่ง

เฉียงฮ่าวปิงนั่งกุมหัว ศีรษะปวดหนึบขึ้นมา เขาใช้สายตาเบลอๆ มองสำรวจรอบๆ จนมาหยุดที่กายเปลือยเปล่าของเขา

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!