ลู่เสวียนจีกำลังอาบน้ำในใจก็คิดถึงเรื่องเมื่อวาน หากว่าพระรองจะต้องกลายเป็นตัวร้ายถ้างั้นเขาจะต้องขัดขวางเพื่อไม่ให้พระรองกลายเป็นตัวร้าย ไหนๆพระรองก็หล่อขนาดนั้นแล้วเขาก็จะขอตะครุบอีกฝ่ายเอาไว้ก็แล้วกัน ถ้านางเอกไม่เอา เขาจะเอาเอง!! แต่ก่อนอื่ยจะต้องปลดล็อค OOC ก่อนจะได้ไม่เป็นอุปสรรคต่อการขยุ้มเหยื่อ(ยังไม่รู้ชะตากรรมตัวเอง)ตอนนี้จะต้องหาวิธีเข้าใกล้ซู่หนิงให้ได้ แต่จะด้วยวิธีไหนล่ะ ซู่หนิงอยู่ในวังและอีกอย่างเขาจะเข้าไปได้ยังไง
หรือว่าจะต้องใช้แผนการแบบในนิยายของตัวร้ายแกล้งทำสำออยต่อหน้าจนอีกฝ่ายสงสารแล้วเก็บไป? ไม่ๆๆคนอย่างซู่หนิงน่ะหรอจะทำแต่เดี๋ยว ฉันก็ไม่ได้รู้จักซู่หนิงดีนี่นาจะทำยังไงดีล่ะ อ่า...งั้นคงต้องใช้ใครบางคนไปแทนแล้วล่ะ ลู่เสวียนจียกยิ้มก่อนจะหันไปเหลือบมองฉินเย่ที่นั่งอยู่ที่โต๊ะโดยมีฉากกั้นอันใหญ่บังไว้อยู่
"ฉินเย่เจ้าไปสืบหาเบาะแสของตระกูลหลิงมาให้ข้าหน่อย"
"ท่านพ่อ เหตุใดท่าน...."
"ข้าบอกให้เจ้าไปทำ"
"ขอรับ"
เมื่อได้รับภารกิจแล้วฉินเย่จึงลุกขึ้นเเล้วเดินออกไปทันที ลู่เสวียนจียกยิ้มร้าย ซู่หนิงมาดูกันว่าใครจะร้ายกาจที่สุด
[ค่าความชั่วร้าย+50 ค่าความลึกลับ+30 คะแนนรวมตอนนี้เหลือ290คะแนน]
ลู่เสวียนจียิ้มพอใจกับคะแนนที่ได้แค่คิดแค่นี้ก็ได้คะแนนแล้วถ้าเขาคิดทุกวันคงจะปลอดล็อค OOC ได้เร็วๆนี้แล้วล่ะ ยิ่งคิดก็ยิ่งอารมณ์ดี หลังจากสวมเสื้อผ้าเสร็จแล้วเขาก็มานั่งกินสำรับต่อ แต่กินไปได้3คำก็ถูกขัดขึ้นมาทำให้อารมณ์ของลู่เสวียนจีเปลี่ยน้ป็นหงุดหงิดในทันที
"มาทำไม"
"ข้ามาหาหน่อยไม่ได้เลยรึ เจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่"
"ข้าจะทำอะไรก็ต้องแจ้งเจ้าด้วยรึ เจ้าเป็นใครกัน"
ลู่เสวียนจีนั่งมองข้าวของตนเองแต่พูดคุยกับเสิ่นหย่งเสียนที่ยืนพึงหน้าต่างอยู่ สักพักก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
"ท่านพ่อ ข้าเอาขนมหวานที่ท่านชอบมาให้ขอรับ"
"ข้าให้เจ้าไปซื้อมาตอนไหน"
ลู่เสวียนจีขมวดคิ้วไม่สบอารมณ์ ความหวุดหงิดจึงเพิ่มขึ้นเป็น2เท่ารอบตัวเขาเผยความกดดันมากทำให้ฉินเย่ที่อยู่ข้างนอกรู้สึกได้จึงพูดตะกุกตะกัก
"งะ..งั้นลูกจะวางไว้ตรงนี้"
พูดจบฉินเย่ก็วางขนมไว้หน้าประตูก่อนจะเดินออกไป ลู่เสวียนจีจึงลุกขึ้นเปิดประตูเอาขนมนั้นมานี่คือขนมกุ้ยหลันเป็นขนมที่เขาชอบกินมากในช่วงนี้ เมื่อคืนจู่ๆก็รู้สึกหิวเลยสั่งให้ฉินเย่ไปหาขนมมาให้สุดท้ายก็ได้กินขนมกุ้ยหลันใบหน้าของเขาพอใจและชอบมันมากๆ แต่ในตอนนี้เขาไม่กล้าที่จะกินมัน
"เจ้าจะออกไปได้รึยัง"
"ไม่คิดจะเชิญข้าเข้าไปหน่อยรึ"
"เชิญเจ้า? ได้งั้นก็เชิญเจ้าออกไปจากห้องข้าได้แล้ว เอาไว้พบกันใหม่"
เสิ่นหย่งเสียนชอบใจมากยิ่งขึ้นและก็ออกไปแต่โดยดี ลู่เสวียนจียกยิ้มด้วยความดีใจก่อนจะสุขสมไปกับอาหารที่น่าอร่อย
[ค่าความฟิน+50 คะแนนรวมตอนนี้เป็น340คะแนน]
'เยส!!! อีก300คะแนนเท่านั้นว่าแต่ ค่าความฟินนี่แปลกพิลึกพิลั่น'
[ทำใจนะบอส โดนสนใจเข้าก็เป็นเรื่องธรรมดา]
'โดนสนใจ?'
[จีจี้ควรนอน]
'เดี๋ยวสิ!'
[.....]
'ฮึ้!'
ลู่เสวียนจีทำท่าง้องอนได้สักพักก็หยิบขนมกุ้ยหลันขึ้นมากิน พอตกเย็นฉินเย่ถึงจะกลับมาพร้อมกับจดหมายอีก2แผน ทำเอาเขาต้องมองหน้าฉินเย่
"ท่านพ่อ นี่คือหลักฐานที่ลูกไปสืบมา ตระกูลหลิงฉ่อโกงภาษีประชาชนทั้งยังเพิ่มดอกเบี้ยที่สูง ยักยอกเงินที่กำลังจะส่งให้กับผู้ประสบภัย แล้วลูกชายคนโตที่ขึ้นชื่อว่วิญญูชนก็เป็นได้เเค่ผู้ชายเห็นแก่ตัวคนหนึ่ง"
"กระดาษแผ่นแรกเป็นแผนการอาวุธเถื่อน และเงินที่โดนยักยอกทั้งหมดถูกส่งไปให้พ่อค้าที่ทำอาวุธเถื่อน และวิธีการทำอาวุธ"
"แผ่นที่สองคือแผนที่การขนส่งลับๆ เส้นทางเข้าเมืองฉิงมีอยู่4ทิศ ทิศเหนือ ทิศตะวันออก ทิศตะวันตกและทิศใต้ ซึ่งผิดกฎหมายมีโทษถึงประหารชีวิตเก้าชั่วโครต"
ลู่เสวียนจียกยิ้มพอใจ
"เจ้าทำได้ดีมาก"
ฉินเย่ได้รับคำชมก็นั่งลง และเหมือนจะมีหูและหวงทิพย์โผล่ออกมาและยังส่ายไปมาด้วยความน่ารัก ลู่เสวียนจีกอดจะจับแก้มทั้งสองข้างของอีกฝ่ายแต่ตืดที่ว่าต้องคีบคาแร็คเตอร์ตัวละครก่อน
'รอพ่อปลดล็อค OOC ได้เมื่อไหร่พ่อจะจับแก้มหนูทั้งวันเลย!'
ลู่เสวียนจีได้แตากรีดร้องในใจก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่นิ่งเฉย
"เจ้าไปพักผ่อนได้แล้ว อีกไม่นานเสี่ยวเอ้อร์ก็คงยกน้ำมาให้"
"ขอรับ!!!"
[ค่าความประทับใจ+25 ยอดรวม365คะแนน พยายามต่อไป]
ลู่เสวียนจีนั่งดูแผนกระดาษสองแผ่นสลับกันไปมาจนตกดึกเขาถึงเก็บกระดาษไว้ในอกเสื้อก่อนจะลุกขึ้นไปนอนด้วยความง่วง
วันรุ่งขึ้นลู่เสวียนจีจำแจงตนเองเสร็จก็เดินออกมาพร้อมกับอาภรณ์ใหม่เป็นสีม่วงอ่อนพร้อมพัดด้ามจิ่วที่พัดไปมาเพื่อปัดเป่าความร้อน(สร้างภาพ) ช่วงนี้อากาศเริ่มร้อนจนเกือบจะเผาไหม้ทุกสิ่งแต่หงษ์แดงอย่างลู่เสวียนจีเป็นธาตุไฟร้อนแค่นี้ไม่ถือว่าเป็นอะไรสำหรับเขา ส่วนฉินเย่เป็นเสือขาวธาตุทองไม่ทนต่อความร้อนเท่าไหร่เขาเดินตามลู่เสวียนจีทั้งที่เหงื่อแตกพลั่ก ลู่เสวียนจีอดสงสารไม่ได้แต่ก็ช่วยอะไรอีกฝ่ายไม่ได้เหมือนกัน
เมื่อลู่เสวียนจีเดินลงบันไดมาทุกสายตาต่างก็จดจ้องอยู่กับลู่เสวียนจี ฉินเย่เห็นก็พึ่งนึกได้ว่าหมวกสานที่อีกฝ่ายใส่ได้หายไปตอนกลับมากลางดึก เขากำลังจะถามแต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเจอคู่อริอย่างเสิ่นหย่งเสียน
'เจ้านี่อีกแล้ว ช่วงนี้เหตุใดข้าจึงดวงซวยขนาดนี้'
ลู่เสวียสจีเห็นอีกฝ่ายก็เมินเดินผ่านไปทันที ฉินเย่ยิ้มบางก่อนจะเดินตามไป เสิ่นหย่งเสียนยิ้มมุมปากก่อนจะเดินไปหาเถ้าแก่ของร้านเพื่อจองห้องพัก ฉินเย่รู้สึกแปลกใจจึงแอบเงี่ยหูฟัง
"ฉินเย่"
ฉินเย่สะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะหันไปมองลู่เสวียนจี
"ขอรับ?"
"เหม่ออะไร เมื่อครู่ข้าพูดอะไร"
"ท่าน...พูด?"
ลู่เสวียนจีถอนหายใจก่อนจะกล่าวซ้ำ ฉินเย่รับทราบก็รีบไปทันที ตอนนี้ลู่เสวียนจีอยู่คนเดียวเขาแอบเหลือบมองเสิ่นหย่งเสียนแวบหนึ่งก่อนจะเดินออกไปคนละทางกับฉินเย่
วังหลวง
เหล่าองค์ชายทั้งแปดพระองค์(ยกเว้นองค์ชายสี่เสิ่นหย่งเสียน)มารวมตัวกันในห้องโถง
"ฮ่องเต้เสด็จ!"
"ถวายบังคมฝ่าบาท!!"
"ลุกขึ้นเถิด"
ทุกคนทำตามที่บอกฮ่องเต้คนปัจจุบันนั่งบนบัลลังก์มังกรทอดมองไปยังบุตรชายทุกคนก่อนจะกล่าว
"พวกเจ้าถึงเวลาที่จะสร้างรากฐานในชีวิตแล้ว มีหญิงสาวที่พวกเจ้าหมายปองหรือไม่?"
คำถามนี้ทำให้เหล่าองค์ชายต่างพากันคิดกันไปทั่ว มีเพียงอวค์ชายสองที่กล่าวออกมา
"ท่านพาอลูกมีแล้วพะยะค่ะ"
"เช่นนั้นหรือ เป็นหญิงจากตระกูลใดล่ะ"
"ตระกูลชางขอรับ"
"ดียิ่ง! พวกเจ้าเล่า"
"ท่านพ่อ ลูกยังไม่มีเลยขอรับ ทั้งวันลูกอยู่แตากับกองหนังสือไม่มีเวลาไปหาคู่ครองหรอกพะยะค่ะ"องค์รัชทายาท
"ลูกก็เช่นเดียวกัน"องค์ชายห้า
องค์ชายหกและองค์ชายเจ็ดพยักหน้าเห็นด้วย มีเพียงองค์ชายสามและองค์ชายแปดต่างก็ครุ่นคิดว่าควรจะบอกดีหรือไม่
"พวกเจ้าสองคนเล่า"
"ทะ...ท่านพ่อนางมิได้มาจากตระกูลที่ร่ำรวยแต่เป็นหญิงสาวชาวนาขอรับ"องค์ชายแปด
"ของลูกมาจากตระกูลเล็กๆขอรับ"
เมื่อทั้งสองพูดทำให้เหล่าองค์มองทั้งสองสลับไปมา แต่ฮ่องเต้ก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะนั่นคือการตัดสินใจชีวิตของบุตรชายตนจึงเพียงแค่หัวเราะออกมาด้วยความชอบใจ
"ดียิ่ง! พวกเจ้าจะสู่ขอเมื่อไหร่ก็บอกข้าได้เลย"
"ขอบพระทัยฝ่าบาท"
ทุกคนพูดพร้อมเพรียงกันพร้อมคำนับขอบคุณ ฮ่องเต้ยกมือโบกไปมาก่อนจะกล่าวอีก
"พวกเจ้าก็ไปเตรียมตัวเถิด ส่วนพวกเจ้าก็เตรียมหาคู่ครองได้แล้วเข้าใจหรือไม่"
"พะยะค่ะ"
"ฮ่าๆๆๆ ไปเถิดๆ พ่อมีงานราชกิจที่ต้องทำอยู่อีก"
เหล่าองค์ชายเดินออกไปพร้อมกัน ฮ่องเต้เหมือนเหล่าองค์ชายเดินออกไปแล้วก็หุบยิ้มทันที
"กงกง"
"ขอรับ"กงกงคนรับใช้คนสนิทของฮ่องเต้
"เจ้าไปจัดการหญิงชาวนากับหญิงตระกูลเล็กๆนั่นซะ"
"แต่เมื่อครู่ ฝ่าบาท...."
"ข้าสั่งยังไงทำอย่างงั้น"
"พะยะค่ะ"
กงกงเดินออกไป ฮ่องเต้ยกยิ้มที่มุมปากก่อนจะหัวเราะออกมาด้วยความบ้าคลั่ง รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความดีใจ
"ท่านพ่อตาคนนี้จะให้ของขวัญแก่ลูกสะใภ้ทั้งสองเอง ฮ่าๆๆๆ"
[เควสใหม่มาแล้ว หยุดยั้งการลอบสังหารเสิ่นหย่งเสียน]
'ลอบสังหาร? หมายความว่ายังไง'
[นี่คือภารกิจ ช่วยเสิ่นหย่งเสียนจากความเจ็บปวดก่อนที่จะเป็นตัวร้าย]
'นี่คือตอนที่เสิ่นหย่งเสียนกลายเป็นตัวร้าย?'
[ใช่! นี่คือเควสหลัก]
'ได้ เดี๋ยวพ่อจัดให้'
ลู่เสวียนจีเดินเข้าร้านเสื้อผ้าเก่าๆไปซื้อชึดเพิ่มอีกชุดหนึ่งก่อนจะไปอยู่ที่หลบมุม เขานั่งได้สักพักก็มีผีเสื้อสีเงินบินมาหาเขา ผีเสื้อเงินส่งสาร ลู่เสวียนจีจับผีเสื้อสีเงินก่อนที่จะมีอักษรสีเงินปรากฎขึ้น
'องค์หญิงใส่ร้ายเสิ่นหย่งเสียนด้วยหลักฐานที่ตนเองสร้างขึ้นมา และได้รับการตัดสินจากฮ่องเต้ให้ตามล่าตัวเพื่อประหารชีวิต'
ชั่งบังเอิญอะไรขนาดนี้ ลู่เสวียนจีขมวดคิ้วปัดข้อความออกไปทันที โลกมนุษย์นั้นโหดร้ายยิ่งนักมีแต่การหลอกลวงข้อไหนจริงข้อไหนเท็จแยกแทบไม่ออก ถ้าเขาไม่มีประสบการณ์มาก่อนก็คงไม่อยู่รอดมาถึงตอนนี้ ได้เวลาออกโลงปกป้องพระรองแล้ว!
ตกดึกในโรงเตี๊ยมเสิ่นหย่งเสียนกำลังนอนหลับจู่ๆก็มีชายชุดดำปกปิดใบหน้าพังหลังคามารุมเขาไปทั่วเกิดเสียงดังจนคนอื่นคนหมด ในมือถือกระบี่ดูก็รู้ว่าจะสังหารเขา เสิ่นหย่งเสียนได้ยินเสียงดังจึงตื่นขึ้นมา เขาเห็นก็รีบหลบการโจมตีและสวนกลับโดยที่ไม่มีกระบี่และพยายามเคลื่อนตัวไปเอากระบี่ที่วางอยู่บนโต๊ะ ทันใดนั้นหน้าอกขอฝเขาก็รู้สึกเจ็บแปร๊บจนคุกเข่าลงข้างหนึ่ง เหล่าชายที่จะสังการเขาก็ร้อมได้อีกครั้ง
'ลมปราณถูกผนึก!?'
เสิ่นหย่งเสียนตกใจจึงมองไปรอบๆเพื่อหาต้นเหตุที่ทำให้ลมปราณเขาไม่สามารถใช้การได้ ถ้วยน้ำชาที่พึ่งถูกกินไปไม่นานตั้งอยู่กลางโต๊ะ เสิ่นหย่งเสียนรู้ได้ทันทีว่าถ้วยน้ำชาคือต้นเหตุของเรื่องนี้ ร่างหนารีบลึกขึ้นวิ่งฝ่าเข้าไปเอากระบี่แล้วต่อสู้กับชายชุดดำโดยไม่ใช้พลังปราณจึงทำให้เขาบาดเจ็บจนกระอักเลือดออกมาคำโตๆ พลังปราณของชายชุดดำไม่ธรรมดาและแข็งแกร่งมาก เขาไม่สามารถสู้ได้เขาเป็นฝ่ายเสียเปรียบ คนหนึ่งเตรียมเข้ามาจู่โจมเขา
เคร้ง!
พัดสีขาวสกัดกั้นกระบี่ของชายชุดดำทุกคนต่างตกใจและหันไปมอง ปรากฎเป็นชายสวมชุดน้ำเงินเข้ม มีผ้าปิดหน้าสำน้ำเงิน รวบผมสูงหางม้า ในมือถือพัดด้ามจิ่วที่พึ่งแปรเปลี่ยนเป็นกระบี่สีขาว ชายชุดดำเห็นก็รู้สึกหวั่นเกรง
ลู่เสวียนจีหันไปมองเสิ่นหย่งเสียนแวบหนึ่งก่อนจะพุ่งเข้าไปสังหารชายชุดดำ หลังต่อสู้กันจนข้าวของเสียหายแล้วลู่เสวียนจีก็สามารถฆ่าพวกนั้นได้จนหมด แต่ร่างกายของเขาไม่ได้รับบาดเจ็บเลยสักนิด เสิ่นหย่งเสียนนึกสงสัยว่าทำไมอีกฝ่ายถึงช่วยเขา ลู่เสวียนจีพยุงเสิ่นหย่งเสียนและใช้วิชาตัวเบากระโดดเข้าป่าไป ชายชุดดำที่เหลือเห็นก็ไล่ตามมาติดๆ ร่างบางพามาถึงทางตันข้างหน้ามีแต่หุบเขาแต่ข้างๆก็มีถ้ำขนาดใหญ่อยู่ทำให้คิ้วสวยขมวดเข้าหากัน ก่อนที่ชายชุดดำเหล่านั้นจะมาถึงลู่เสวียนจีหันไปมองศัตรูก่อนแวบหนึ่งแล้ววางร่างเสิ่นหย่งเสียนพิงกับหิน ดวงตาของทั้งสองสบตากันแวบแรกเสิ่นหย่งเสียนถึงกับเบิกตากว้างด้วยความตะลึง ลู่เสวียนจีเห็นท่าทางอีกฝ่ายก็รีบหมุนกายกลับไปมองอีกฝ่ายที่ยืนล้อมพวกตนเอาไว้
ลู่เสวียนจียกยิ้มภายใต้ผ้าปิดปาก พลังแค่นี้สู้ให้ตายยังไงเขาก็ชนะ ชายชุดดำทั้งหมดพุ่งเข้ามาพร้อมกัน ลู่เสวียนจีฝีเท้าไวหลบได้ก็ลอบโจมตีอีกฝ่ายจนตายไปไม่น้อย แต่คนพวกนี้มามากกว่า30คน ทำเอาร่างบางถึงกับสถบในใจ
'บ้าเอ๊ย นี่ไม่ใช่แค่คิดจะฆ่าแล้ว จิตใจนางชั่งอำมหิตเสียจริง'
ลู่เสวียนจีรวบรวมพลังปราณส่วนหนึ่งเข้าไปในกระบี่ก่อนจะไล่สังหารฝ่ายศัตรู สู้กันนานเกือบชั่วยามจนพื้นที่เต็มไปด้วยเลือด มีแค่ชายชุดดำคนหนึ่งที่บาดเจ็บสาหัสแต่ยังหนีไปได้ลู่เสวียนจีคิดจะฆ่าปิดปากแต่ก็หยุดชะงัก
'ให้ไปรายงานแหละดีแล้ว อยากจะรู้ว่านางร้ายจะดิ้นรนยังไง'
ลู่เสวียนจีหันมาพยุงเสิ่นหย่งเสียนเข้าไปในถ้ำก่อนจะไปรวบรวมเศษกิ่งไม้เพื่อมาจุดไฟแล้วนั่งทำแผลให้อีกฝ่าย ร่างกายที่กำยำทำให้ลู่เสวียนจีแิบเคอะเขินไม่ได้แรกๆเสิ่นหย่งเสียนก็ขัดขืนแต่เพราะบาดแผลหนักเกินไปทำให้เขาต้องยอม ตอนนี้ลู่เสวียนจีก็ทำแผลให้เสิ่นหย่งเสียนเสร็จแล้วก็ลุกขึ้นจะเดินออกไป
"เจ้าจะไปไหน เจ้าช่วยข้าทำไม"
"ช่วยเจ้าต้องมีเหตุผลด้วยหรือ"
"หึ เห็นเจ้าเป็นเช่นนี้ไม่คิดว่าจะเก่งกาจถึงเพียงนี้"
"...."
ลู่เสวียนจีไม่พูดอะไรต่อก็เดินออกไปนอกถ้ำ ก่อนที่จะทำจิตให้ส่งผีเสื้อเงินส่งสารไปให้ฉินเย่ ก่อนที่เขาจะเดินกลับเข้าไปในถ้ำอีกครั้ง เมื่อร่างบางกลับเข้ามาก็เห็นอีกฝ่ายหลับไปแล้วเขาจึงอดสงสัยไม่ได้ว่าถ้าเขาทำร้ายเขาขึ้นมาจะทำยังไง ประมาทเกินไปแล้ว
[หยุดยั้งการลอบสังหารเสิ่นหย่งเสียนสำเร็จ ได้รับคะแนนเพิ่ม200คะแนน ค่าความฟิน+150 ค่าความลึกลับ+45 ปลดล็อค OOC สำเร็จ คะแนนรวมตอนนี้760คะแนน ยินดีด้วย!]
'เดี๋ยวไม่ต้องใช้คะแนนปลดล็อคหรอ?'
[ภารกิจนี้หากทำสำเร็จจะปลดล็อค OOC โดยไม่เสียคะแนน]
'งั้นคะแนนพวกนี้ก็ปลดล็อคสกิลของลู่เสวียนจีได้แล้วน่ะสิ?'
[ได้ ระบบกกลังทำการปลดล็อคสกิลตัวละครลู่เสวียนจี]
ลู่เสวียนจีนั่งรอได้สักพักร่างกายก็รู้สึกถึงความเจ็บปวดถึงขั้นร่างกายจะถูกฉีกเป็นชิ้นๆ ความเจ็บปวดทะลุล้านนี้ทำให้ลู่เสวียนจีลงไปนอนดิ้นทุรนทุรายอยู่บนพื้น โดยไม่คิดจะส่งเสียงร้องให้เสิ่นหย่งเสียนตื่นเขาเจ็บปวดจนน้ำตาคลอไม่นานน้ำตาก็ไหลเต็มใบหน้าด้วยความเจ็บปวด ภาพด้านหน้าเริ่มเบลอขึ้นเรื่อยๆ ลู่เสวียนจีดิ้นทุรนทุรายจนเกิดเสียงดังรบกวนเสิ่นหย่งเสียน อีกฝ่ายขมวดคิ้วก่อนจะค่อยๆลืมตา
เมื่อเห็นลู่เสวียนจีกำลังนอนดิ้นด้วยความทรมานเขาก็อึ้งไปสักพักก่อนจะพยายามเข้าใกล้ลู่เสวียนจี เขาตะเกียกตะกายมาหาร่างบางก่อนจะกอดร่างบางเอาไว้อีกฝ่ายก็เหมือนว่าจะแน่นิ่งไปอล้วทำให้เขารู้สึกกระวนกระวายรีบจับชีพจรทันที เมื่อรู้ว่าชีพจรของอีกฝ่ายคงที่ก็ถอนหายใจโล่งก่อนจะดึงผ้าปิดปากออก เผยให้เห็นใบหน้างดงาม เสิ่นหย่งเสียนมองใบหน้านั้นก่อนจะพยุงร่างบางขึ้นมานอนบนตีกตนแล้วหลับไป
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments