ลู่เสวียนจีคิดโล่งอกนึกว่าจะพ้นเสิ่นหย่งเสียนไปได้แต่คิดผิด อีกฝ่ายใช้วิชาตัวเบามายืนอยู่ตรงหน้าเขา ฉินเย่เห็นจึงทำหน้าตารำคาญอีกฝ่ายอย่างเห็นได้ชัด ไม่เคยเจอมนุษย์หน้าไหนที่จู้จี้จุกจิกเช่นนี้มาก่อนเลย ลู่เสวียนจีเองก็แอบถอนหายใจเบาๆ ตามกัดไม่ปล่อยเลยจริงๆ
'จีจี้ทำยังไงถึงจะสลัดเขาออกไปได้'
[นั่นแล้วแต่บอส]
'ดีจริงๆ'
[มีเควสใหม่มา ทำให้เสิ่นหย่งเสียนรู้ธาตุแท้ของซู่หนิงให้ได้ ภารกิจนี้จะได้รับคะแนน200คะแนน นี่คือเควสพิเศษ]
'งานนี้พ่อจะทุ่มสุดตัวเลยคอยดู!'
ลู่เสวียนจียกมือปรามฉินเย่เขาคิดจะเจรจากับอีกฝ่ายแต่ไม่เป็นอย่างที่คิด เสิ่นหย่งเสียนคิดจะประลองกับเขาทำเอาคนที่คิดอยากคุยต้องรนถอยออกมา2ก้าว ร่างหนาแค่นเสียงหัวเราะก่อนจะกล่าว
"เจ้าต้องไปขอโทษองค์หญิงซู่หนิง"
"เฮ้อ ถ้าหากว่าข้าไม่ยอมล่ะ นางมีอะไรดีกันแน่"
"นางมีดีทุกอย่าง!"
"เช่นนั้นเจ้าก็รอดูวันที่ชีวิตนางพังได้เลย!"
เสิ่นหย่งเสียนชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะเข้าจู่โจมลู่เสวียนจี ร่างบางหลบได้ก็ยกยิ้มขึ้นก่อนจะเห็นอีกฝ่ายพุ่งเข้ามาอยู่ในระยะประชั้นชิดเขาจึงทำได้แค่ฟาดผ่ามือไปที่หน้าอกของอีกฝ่าย แต่ไม่ได้ใช้แรงอะไรที่ทำให้เสิ่นหย่งเสียนบาดเจ็บมากเพียงเเค่ทำให้อีกฝ่ายเสียการทรงตัวและบาดเจ็บเล็กน้อย เสิ่นหย่งเสียนเบิกตากว้างเขาตะลึงงันอยู่อย่างนั้น คนผู้นี้ทำไมถึงมีพลังที่แข็งแกร่งขนาดนี้เขาเป็นคนที่เก่งที่สุดในแคว้นฉิงแล้วจะมีใครเทียบเขาได้อีก
ลู่เสวียนจีเห็นอีกฝ่ายนิ่งตะลึงก็ยิ้มแห้ง
'นี่ เขาช็อคตายรึยังน่ะนิ่งเป็นหินเชียว'
[เข้าข่ายช็อคสุดขีด]
เขามองเสิ่นหย่งเสียนก่อนจะเดินเข้าไปใกล้อีกฝ่าย เสิ่นหย่งเสียนมองดูร่างบางที่เข้ามาใกล้ตนเขากำหมัดแน่นเมื่ออีกฝ่ายเข้ามาใกล้พอสมควรเขาก็ดึงหมวกสานออกทันที ลู่เสวียนจีไม่ทันตั้งตัวดวงตาเรียวเบิกตากว้าง หมวกสานตกลงบนพื้น ใบหน้าขาวเนียน ริมฝีปากสวย จมูกโด่งได้รูป นัยน์ตาสีเทาสว่าง รูปร่างบอบบาง สวมอาภรณ์สีฟ้าอ่อนห่อยผู้หยกดอกบัวที่เอว รวบผมด้วยริบบิ้นสีฟ้ายาวสยาย แวบแรกที่เขาเห็นใบหน้างดงามนั่นก็ทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงจนเจ้าตัวรู้สึกแปลกใจ
ฉินเย่รีบเดินไปเก็บหมวกสานกลับไปสวมให้ลู่เสวียนจีดังเดิมเตรียมจะเข้ามาสับเสิ่นหย่งเสียนเป็นชิ้นๆแต่ก็โดนร่างบางห้ามเอาไว้ เขาจึงได้แต่ยืนนิ่งๆอย่างไม่สบอารมณ์ ลู่เสวียนจียิ้มภายใต้ผ้าขาวบางที่เห็นไม่ค่อยชัดนัก น้ำเสียงไม่ได้ดูโกรธเคืองหรือคิดถือสาทำเอาเสิ่นหย่งเสียนรู้สึกแปลกๆ
"ข้าเล่นกับเจ้ามากพอแล้ว ขอตัว"
ลู่เสวียนจีพูดจบก็หมุนตัวเดินออกไป ฉินเย่เดินไปได้3ก้าวก็หันกลับมาถลึงตาใส่เสิ่นหย่งเสียนแล้วรีบเดินตามลู่เสวียนจีไป ร่างหนานั่งนิ่งยังคงงงงวยกับเหตุการณ์เมื่อครู่ ใบหน้าที่งดงามของอีกฝ่ายถูกจารึกไว้ในความทรงจำโดยที่เจ้าตัวไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย
[ค่าความลึกลับ+20 ค่าความเก่งกาจ+50 ค่าความฟิน+20 รวมคะแนนปัจจุบัน110คะแนน]
'เดี๋ยวค่าความฟินหรอ?'
[ค่าความฟินคือความรู้สึกเคอะเขิน ชอบใจหรือพอใจจากตัวละครพระรอง]
'ห๊ะ!! แล้วข้าไปให้ความฟินคนหล่อนั่นตอนไหน'
[ตอนโดนถอดหมวกสาน]
'เอ๊อะ เออหว่ะ ชั่งเถอะมีภารกิจอีกรึเปล่า'
[ภารกิจสำรอง หาไอเทมสำคัญของลู่เสวียนจีให้ได้]
'มันคืออะไรล่ะน่ะที่ว่าคือไอเทมสำคัญของลู่เสวียนจี'
[มันคือพัดสีขาวธรรมดามีพู่สีขาวห่อยอยู่]
'พัดนี่เกี่ยวอะไรกับลู่เสวียนจี?'
[พัดด้ามจิ่วคืออาวุธเทพของวังจูเชวี่ยและเป็นพัดของลู่เสวียนจี สามารถเปลี่ยนพัดให้เป็นกระบี่หรือเครื่องดนตรีได้อย่างฉินและขลุ่ย พัดนี้ถูกทำลายไปพร้อมกับจิตวิญญาณของลู่เสวียนจีเมื่ออาวุธแตกหรือหักเจ้าของก็จะตาย จีจี้ให้บอสหาพัดด้ามจิ่วใหม่ตามความประสงค์ของบอส]
ลู่เสวียนจีพยักหน้าเข้าใจ เมื่อกี้เขาและฉินเย่เดินออกมาจากซอยเล็กๆแล้วเดินตรงไปที่ร้านขายของเก่า เขาพยายามมองหาพัดที่จีจี้ได้บอกเอาไว้แต่ก็หาไม่เจอหาอยู่นานจนฉินเย่อดสงสัยที่จะถามไม่ได้
"ท่านพ่อ ท่านหาอะไรอยู่หรือ"
"พัด"
"พัด?"
"อืม"
ลู่เสวียนจีขมวดคิ้วมุ่นมองหาอยู่นานก็ไม่เจอ เถ้าแก่ของร้านได้ยินสิ่งที่ลู่เสวียนจีจะหาก็รีบเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม
"คุณชายท่านนี้ ต้องการพัดแบบใดหรือ"
"ข้าต้องการพัดด้ามจิ่วสีขาวมีพู่"
[ไม่ต้องเอาตามที่จีจี้บอกก็ได้ พัดอันไหนที่บอสสนใจบอสหยิบมาได้เลย]
"เอ่อไม่สิ เป็นพัดด้ามจิ่ว"
"เหมือนว่าข้าจะมีอยู่คุณชายรอตรงนี้ก่อนประเดี๋ยว ข้าจะรีบไปหามาให้"
เถ้าแก่พูดจบก็ลุกขึ้นเดินไปหลังร้าน ลู่เสวียนจียืนรอตามคำบอกของเถ้าแก่ ฉินเย่ได้ยินดังนั้นก็เอียงคอมองด้วยความสงสัย พัด? มีพู่? พัดด้ามจิ่ว? ในหัวของเขามีฉินเย่สีดำตัวน้อยกับฉินเย่สีขาวตัวน้อยกำลังถกเถียงกันเรื่องความเป็นไปได้ ฉินเย่ตัวโตจึงส่ายหัวใช้มือขับไล่ความคิดเหลวไหลพวกนี้ออกไปให้หมด ลู่เสวียนจีเห็นอีกฝ่ายทำท่าทางเหมือนเด็กน้อยขี้สงสัยก็แอบยิ้มอยู่ภายใต้ผ้าขาวบางแอบถอนหายใจเบาๆด้วยความเอ็นดู
ไม่นานเถ้าแก่จึงออกมาจากร้านพร้อมพัดสีต่างๆมีพู่บ้างไม่มีบ้างประมาณ20กว่าอัน ลู่เสวียนจีเห็นถึงกับบ่นในใจ ทำไมมันเยอะขนาดนี้! แล้วมันคืออันไหนกันล่ะ พัดทั้งหมดถูกวางเรียงทับของที่เรียงอยู่ก่อนแล้วรอให้ลู่เสวียนจีเลือก
'จีจี้ดูหน่อยว่าพัดพวกนี้มีคุณภาพไหม'
[ระบบกำลังตรวจสอบ]
ตึ้ง!
[บอสเลือกได้เลย พัดด้ามจิ่วพวกนี้มีคุณภาพมากพอ]
'จะเลือกอะไรให้ยุ่งยาก มันก็เหมือนกันหมดนั่นแหละ เอาอันนี้!'
พัดที่ลู่เสวียนจีหยิบขึ้นมาทำให้เถ้าแก่ยิ้มบางก่อนที่พัดนั่นจะขาด
[ลืมบอก พัดบางอันก็ชำรุดโปรดเลือกดีๆ]
ลู่เสวียนจียืนตัวแข็งทื่อตัวเถ้าแก่เองก็รีบหยิบพัดนั้นไปโยนทิ้งไว้หลังร้านพูดด้วยรอยยิ้มแห้ง
"คุณชายพัดทั้งหมดเริ่มเก่าแล้วไม่แปลกที่มันจะขาด เลือกอันใหม่เถิด"
ลู่เสวียนจีจึงเพ่งมองพัดที่เหลือแต่ละอันเหมือนกันก็จริงแต่ลวดลายที่ด้ามจับกับสีกลับแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ถ้าไม่มองให้ละเอียดก็คงเลือกไปแบบส่งเดช เขาพิจารณาพัดด้ามจิ่วตรงหน้าสักพักก่อนจะหยิบพัดอันหนึ่งไม่มีลวดลายอะไรบนพัด แต่มีลวดลายที่ด้ามจับเป็นรูปหงษ์กำลังโบยบินด้วยความสง่างาม มีพู่สีขาวห่อยอยู่ลู่เสวียนจีพึงพอใจกับพัดอันนี้ก็จ่ายเงินแล้วเก็บไว้กับที่คาดเอว
[ได้ไอเทมสำคัญของตัวละคร+100คะแนน รวม210คะแนน]
'คะแนนก็ได้ไม่ยากนี่นา'
ลู่เสวียนจีเดินออกมาพร้อมกับฉินเย่เขาเห็นพัดแล้วก็ยังไม่เข้าใจเหมือนเดิมจะเรียกว่าโง่ก็ได้ ลู่เสวียนจีเห็นอีกฝ่ายเดินตามต้อยๆด้วยความสงสัยจึงถอนหายใจแล้วกล่าว
"ข้าแค่อยากได้เฉยๆ ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ"
ฉินเย่เหมือนจะคลายความสงสัยไปได้บ้างจึงพยักหน้าเข้าใจแล้วหันไปมองรอบๆแทน
"ดูเหมือนว่าฟ้าจะมืดแล้ว ท่านพ่อเราจะพักที่เมืองนี้หรือไม่"
"พัก เจ้าไปจองห้องที่โรงเตี๊ยมซั่วก่อนข้าจะเดินเล่นต่ออีกสักพักแล้วจะตามเจ้าไป"
"ขอรับ"
ฉินเย่ทำตามอย่างว่าง่าย เขาเห็นอีกฝ่ายเดินไปจึงเดินเข้าซอกมุมเพื่อเข้าไปในป่า
'พัดนี่...'
[ถ่ายทอดลมปราณไปที่พัด พยายามตั้งจิตให้มั่นจนกว่าพัดนี่จะมีพลังมากพอที่จะเป็นอาวุธเทพของวังจูเชวี่ย]
'อาวุธเทพสามารถทำได้ง่ายๆแบบนี้เลยหรือ'
[หึ นอกจากจ้าววังก็ไม่มีใครสามารถทำได้เพราะจ้าววังได้รับพลังปราณบรรพบุรุษของวังจูเชวี่ยมา ผู้ที่ไม่ได้รับพลังปราณจากบรรพบุรุษจะไม่สามารถสร้างอาวุธเทพได้ สิ่งสำคัญคือสร้างได้แค่ครั้งเดียว]
'แล้วลู่เสวียนจีคนเก่าล่ะ'
[ไม่เกี่ยวกัน วิญญาณไม่เหมือนกันจึงเป็นข้อยกเว้น]
ลู่เสวียนจีนั่งขัดสมาธิหลับตาลงแล้วเริ่มถ่ายทอดลมปราณไปที่พัดตามที่ระบบบอก เขาตั้งจิตอยู่นานพลังมหาศาลของเขาทำให้หมวกสานพังบริเวณโดยรอบมีลมแรงเหมือนพายุใหญ่ที่สามารถทำลายแคว้นฉิงได้ในพริบตา ลู่เสวียนจีพยายามตั้งจิตให้มั่นคงก่อนจะเข้าสู่ห้วงฝันอีกครั้ง
เขามาอยู่อีกที่หนึ่ง ซึ่งเหมือนจะไม่ใช่โลกที่เขาอยู่เพราะบนพื้นเป็นน้ำ ตรงกลางมีต้นเหม่ยขนาดใหญ่อยู่ ข้างๆมีฉินสีขาววางอยู่เขาเดินเข้าไปใกล้อีกจนปรากฎร่างคนนั่งอยู่หน้าฉินเขาตกใจถอยหลังไป2ก้าว นั่นคือลู่เสวียนจีตัวจริง!
"เจ้า...เป็นข้าหรือ?"
"ไม่ ข้าคือข้า...นี่คือร่างเจ้าข้ามาอาศัยอยู่ก็เท่านั้น"
"เช่นนั้น...น้องข้า"
"เขาสบายดีและเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด"
ลู่เสวียนจีตัวจริงทำหน้าเศร้าเขาคิดไว้แล้วว่าน้องชายของเขาจะต้องทำแบบนี้ ห้ามปรามยังไงก็ไม่ฟัง เขาถูกผนึกวิญญาณมานานก่อนที่วิญญาณของเขาจะถูกปลดผนึกด้วยอะไรบางอย่างเมื่อกี้
"เจ้า....ชื่ออะไร"
"ข้า ข้าใช้แซ่ของเจ้าได้หรือไม่"
"ได้ ตอนนี้เจ้าคือข้าแล้ว"
"ลู่...ลู่เฟย"
"อืมลู่เฟย นี่คือห้วงจิตของข้า"
ลู่เสวียนจีตัวจริงลุกขึ้นยืนค่อยๆเดินมาหาเขาก่อนจะส่งยิ้มละมุนมาให้
"ข้าคงติดอยู่ในนี้ไปชั่วชีวิตออกไปไหนไม่ได้ เจ้าก็ใช้ชีวิตแทนข้าด้วยในโลกนี้ไม่มีสิ่งใดที่ข้าโหยหาอีกแล้ว"
"คือว่า...เจ้าไม่โกรธที่ข้ามาอาศัยร่างของเจ้าเลยหรือ"
"ข้าจะโกรธเจ้าทำไม ตายก็ตายแล้วนี่เป็นแค่เศษเสี้ยวจิตวิญญาณของข้าเท่านั้น อีกไม่นานก็คงสลายไปเอง"
ลู่เสวียนจีมองลู่เสวียนจีตัวจริงเขาแอบรู้สึกผิดหน่อยๆที่มาอาศัยร่างของอีกฝ่ายแล้วยังพูดคุยกับอีกฝ่ายด้วยร่างกายของเขา จะให้พูดยังไงมันก็ต้องทำใจไม่ได้บ้างแหละ แต่กับลู่เสวียนจีตัวจริงดันยอมปล่อยผ่านไปง่ายๆ และยังรู้เวลาตายของตัวเองอีกเขานี่นับถือจากใจจริงๆ มีใครบ้างที่ยอมสละร่างกายตัวเองให้ใครที่ไหนก็ไม่รู้กันล่ะ ลู่เสวียนจีตัวจริงส่งยิ้มให้เขาก่อนจะเดินกลับไปนั่งหน้าฉิน
"เจ้าควรกลับไปได้แล้ว หลับตา"
ลู่เสวียนจีทำตามที่อีกฝ่ายบอก ไม่นานก็ได้ยินเสียงบรรเลงฉินก่อนที่เสียงอันไพเราะจะค่อยๆหายไปกลายเป็นเสียงที่เงียบเหงา ลู่เสวียนจีลืมตาขึ้นมาก็พบกับชายที่เขาคุ้นเคยและพึ่งเจอกันเมื่อไม่กี่ชั่วยามก่อน เขารีบลุกขึ้นพรวดทำให้หน้าผากของเขากระแทกกับคางของอีกฝ่ายอย่างจัง ลู่เสวียนจีลูบหน้าผากด้วยความเจ็บ
"หู้ยยย เจ้ามาได้ยังไง"
[ปลดล็อคห่วงจิตสำเร็จ+50 แสดงท่าทีไม่ตรงคาแร็คเตอร์
ลบ50คะแนน หักล้างแล้ว คะแนนนี้ถือว่าเป็นโมฆะ]
'จีจี้!!! ข้าตกใจเป็นนะ!'
[บอสก็คือบอส จีจี้ไม่ยอมรับท่าทีแบบนี้เด็ดขาด!]
'เช้อะ! ไอ่ระบบตุ๊ด'
[ขอบคุณที่ชม จีจี้อารมณ์ดีจะบวกเพิ่มให้10คะแนน]
'ไม่จำเป็น!'
เสิ่นหย่งเสียนลูบคางตนเองสักพักก็นั่งมองลู่เสวียนจีด้วยท่าทีที่สง่างามทำเอาร่างบางถึงกับหน้าแดงทันที หล่อเกินไปแล้ว หล่อเกินต้านแล้วจริงๆ อ๊ากกกกก ลู่เสวียนจีกรีดร้องในใจก่อนที่เขาจะก้มหน้าลงไม่ให้เห็นใบหน้าที่เริ่มแดงของเขา ร่างบางแอบมองซ้ายแลขวาก็ไม่เห็นพัดด้ามจิ่วของเขาจึงรีบสำรวจตัวเองว่าเก็บไว้ตรงไหนแล้วลืมหรือป่าว
เสิ่นหย่งเสียนเหมือนรู้ทันยกยิ้มมุมปากก่อนจะหยิบพัดด้ามจิ่วออกมาจากอก
"หานี่อยู่หรือ"
ลู่เสวียนจีเงยหน้ามองอีกฝ่ายก่อนที่จะขมวดคิ้วน้อยๆ
"...."
"อยากได้เจ้าก็เอาไปสิ"
ลู่เสวียนจีไม่รอช้าใช้พลังปราณเรียกพัดด้ามจิ่วกลับมาหาตน มันทำตามคำสั่งผู้เป็นนายกลับมาหาลู่เสวียนจีก่อนที่ร่างบางจะหนีบไว้ที่เอว เขาลุกขึ้นยืนมองเสิ่นหย่งเสียนด้วยความสงสัย ป่า? เขาเข้ามาได้ไง จะบังเอิญเกินไปรึเปล่า หรืออีกฝ่ายตามเขามา
เสิ่นหย่งเสียนเหมือนจะรู้ความคิดของลู่เสวียนจีจึงกระแอ่มไอเล็กน้อยก่อนจะลุกขึ้นยืน
"ข้ามาเก็บของป่าให้องค์หญิงเท่านั้น"
'หรอ บังเอิญจริงๆ'
[พรหมลิขิตป่าว]
'หุบปากแล้วไปนอน!'
ลู่เสวียนจีเหลือบมองเสิ่นหย่งเสียนแวบหนึ่งแล้วกล่าวด้วยใบหน้าที่นิ่งเรียบ
"งั้นก็หาต่อไปเถอะ ข้าขอตัว"
พูดจบร่างบางก็ใช้วิชาตัวเบากลับโรงเตี๊ยมซั่วทันที เสิ่นหย่งเสียนปล่อยอีกฝ่ายไปก่อนจะหันกลับมาแล้วยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย
"ดูท่าว่าคนผู้นี้จะไม่ธรรมดา พลังมหาศาลเช่นนี้ข้าไม่เคยพบเจอ
ที่ไหนมาก่อน หึ น่าสนใจดีนี่"
ฟึ่บ!!
"องค์ชายสี่ขอรับ ไทเฮาและองค์ชายสองกำลังรอท่านอยู่ที่ตำหนักเชว่ขอรับ"
เสิ่นหย่งเสียนหันไปมองทางลู่เสวียนจีแวบหนึ่งก่อนจะใช้วิชาตัวเบาออกไป
ตำหนักเชว่
หญิงงามหลายคนกำลังร่ายรำอยู่กลางห้องโดยมีไทเฮาและองค์ชายสองที่กำลังนั่งดูด้วยความสนุกสนาน แต่เมื่อเห็นร่างของใครบางคนก็ทำเอาทั้งสองยิ้มไม่ออก ไทเฮาจึงโบกมือให้นางรำออกไปก่อน ตอนนี้ในห้องจึงเหลือแค่ไทเฮา องค์ชายสอง องค์ชายสี่และบ่าวรับใช้อีกไม่กี่คน
"ท่านย่า เรียก---"
เพล้ง!!!!
"วันนี้เจ้าไปก่อเรื่องมาอีกแล้วสิ! ไปตามก่อกวนซู่หนิงแบบนี้มันใช้ได้ที่ไหนกัน! เลี้ยงเสียข้าวสุกจริงๆเจ้ามีประโยชน์อะไรอยู่บ้าง ถึงได้เที่ยวไปวิ่งโล่กับซู่หนิงหากมีคนเอาไปพูดกันจะทำให้ซู่หนิงเสื่อมเสียชื่อเสียงตั้งเท่าไหร่เจ้ารู้หรือไม่!!!"
เสิ่นหย่งเสียนยืนนิ่ง เขาหรือจะกล้าไปวิ่งเล่นหาองค์หญิงอย่างนั้น ตัวตนของเขาก็ยอมปกปิดลดขั้นไปเป็นแค่คุณชายจากตระกูลใหญ่เท่านั้น ตระกูลหลิงไม่เคยเห็นค่าเขาอยู่ในสายตา นับประสาอะไรกับราชวงศ์แค่บ่าวรับใช้ยังหัวเราะเยาะเลย เป็นองค์ชายที่ไม่มีทั้งอำนาจและเกียรติยศ ทั้งที่แข็งแกร่งที่สุดในแคว้นแต่กลับไม่ได้รับความดีความชอบ ไม่ได้รับความเคารพเลยสักนิด
ไทเฮาเห็นเสิ่นหย่งเสียนเอาแต่เงียบไม่พูดไม่จาก็โมโหจนร่างกายทรุด องค์ชายสองเสิ่นหม่าก็รีบลุกขึ้นไปประคองไทเฮา
"ท่านย่า! ไปตามท่านหมอมาอาการของท่านย่าทรุดลงอีกแล้ว"
"เป็นเพราะเจ้าหย่งเสียน เจ้ามันตัวอัปมงคล!!!"
เสิ่นหย่งเสียนไม่พูดได้แต่ก้มหน้าคำนับไทเฮาก่อนจะเดินออกไปจากตำหนักเชว่
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments