หลายวันก่อน
ณ สถานที่แห่งเดิม. คาเฟ่ภายในโรงเรียนนานาชาติแห่งลอนดอน.
วันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรก.แต่เป็นวันแรกของเทอมที่ 2 ของปี 3 (ม.6 บ้านเรา).
โจดี้ โจฮันสัน เป็นสาวอเมริกันที่หน้าตาออกแนวสาวหล่อ, เป็นคนที่บุคลิกนิ่งๆ พูดน้อย. เธอนั่งซดโกโก้อยู่ที่โต๊ะประจำของเธอพร้อมจานกระเบื้องขาวใส่ขนมปังทาครีมอยู่ 2 ชิ้น. ในมือถือโทรศัพท์. เธอกำลังติดตามข่าวสารที่เกิดขึ้น ณ บ้านเกิดของเธออยู่. ในขณะที่กำลังทานมื้อเช้าอยู่ไปซักพัก...
...( ( เสียงระฆัง) )...
โจดี้ และ นักเรียนหลายๆคนข้างนอกรู้ว่านี่คือเสียงสัญญาณว่า เวลาเรียนคาบแรกกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว. ซึ่งก็เผอิญโชคดีที่เธอซดโกโก้ร้อนหมดแก้วพอดี.
โจดี้จึงจ่ายเงิน,ลุกขึ้น, เก็บของ และ หันหลังกำลังจะเดินออกไป. แต่ทันใดนั้นเอง...
...ตุบ....
มันเป็นเสียงส้อมตักเค้กของโต๊ะที่เด็กหนุ่มนั่งอยู่.เขาทำมันตกและตอนนี้เขากำลังจะเก็บมันขึ้นมา.แต่ดูเหมือนว่าเขากำลังยุ่งอยู่กับบางอย่างในโทรศัพท์.ทำให้เขาไม่สามารถละสายตาจากมันได้.
เขาแค่โน้มตัวลงในขณะที่ตาก็จ้องมือถือ แล้วกวาดมือไปทั่วๆบริเวณที่ส้อมตกจนกว่ามันจะเด้งกลับเข้ามืออีกครั้งก็เท่านั้น.
ทั้งหมดนั่นมันจะไม่เป็นปัญหาสำหรับโจดี้เลยซะด้วยซ้ำ ถ้าเขา ไม่ได้กำลังขวางทาง เธออยู่.
เด็หนุ่มผมสีน้ำตาลนั่งหันหลังให้เธอ. นั่นจึงเป็นสาเหตุให้เขาไม่รู้ว่าตอนนี้ครึ่งตัวบนของเขาเป็นสิ่งเดียวที่กำลังขวางโจดี้ไม่ให้เดินออกไปจากร้านได้.
"..."
โจดี้ให้โอกาสเขา. แต่ดูเหมือนไอ้หมอนี่มันจะ 'ติดมือถือ' เกินไปหน่อย. จึงทำให้โจดี้ต้องส่งเสียงไอในลำคอออกไป.
..."อะแฮ่ม."...
นิ่งๆ. เงียบๆ. แต่เต็มไปด้วยความขรึม.เพราะต้นทุนเดิมของโจดี้คือ เธอเป็นคนที่มีเสียงนุ่มลึกอยู่แล้ว. และเพราะเหตุนี้นี่เอง เธอมักจะถูกทักบ่อยๆว่าเสียงของเธอเหมือนกับ โรซามันด์ ไพค์.
ถ้าเป็นนักเรียนคนอื่นคงสะดุ้งพร้อมลุกขึ้นมาขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่เมื่อพวกเขารู้ว่าอีกฝ่ายคือ โจดี้.แต่มันไม่ใช่กับชายคนนี้.
เขาค่อยๆหันกลับมาหาเธอพร้อมกับหยิบส้อมไปด้วย.
ดวงตาสีแดงที่พร้อมจะมีเรื่องกับทุกๆสิ่งมีชีวิตไม่ว่าจะเพศใดก็ตาม จับจ้องเข้ามาที่ดวงตาสีฟ้าของเธอ. เด็กหนุ่มไม่ได้พูด.แต่แววตาและสีหน้ามัน "สื่อ" ออกมาเรียบร้อยแล้ว.
'มีอะไรวะ ไอxัส ?'
คงอารมณ์ประมาณนั้น.
เขาหันกลับไปราวกับว่าเขาไม่มีเวลามาใส่ใจเธอ. กลับไปนั่งกดมือถือต่อราวกับเขา จงใจ ปล่อยเธอไป.
ซึ่งนั่นทำให้โจดี้แปลกใจมาก.
ไอหมอนี่มันเป็นใคร? ทั้งๆที่มันก็ใส่ ยูนิฟอร์มของโรงเรียน แต่มันดูเหมือนมันไม่รู้จักเราเลย
อีกอย่าง... เราไม่ได้จำหน้าคนอื่นนอกจากคนในห้องด้วยสิ. บอกไม่ได้เลยว่าไอหมอนี่มันมาจากไหน...
หนึ่งสิ่งที่ โจดี้ กล้าพูดได้เต็มปากก็คือ เขาไม่รู้จักเธอ. เพราะถ้าเขาได้ชม "การต่อสู้" ที่จัดขึ้นเป็นธรรมเนียมของที่นี่ตั้งแต่วันแรกของ ปี 1 ที่เข้ามา, เขาต้องสั่นกลัวไปแล้ว.
แต่ถึงกระนั้น เนื่องจากมันได้เวลาเรียนแล้ว บวกกับโจดี้ เลิก เป็นคน ประเภทนั้น ไปตั้งแต่ย้ายออกมาจาก นิวยอร์ก. ทำให้เธอไม่ได้คิดจะหาเรื่องเขา และเดินออกไป.
กิ๊งๆ...
เด็กหนุ่มดูเวลาในจอมือถือ, ตอนนี้ใกล้จะได้เวลาเข้าเรียนแล้ว แต่เขายังไม่ชินกับ Time zone แถวนี้ซักเท่าไหร่.
" ฮ้าววว..."
ไม่นานนัก, เขาก็ลุกขึ้น. หยิบกระเป๋า แล้ว เดินออกไปจากร้าน.
กิ๊งๆๆ...
[9 โมงเช้า]
บรรยากาศในห้องเรียนนั้นแตกต่างจากโรงเรียนธรรมดาอย่างยิ่ง.ถึงจะมีเสียงพูดคุยเป็นระยะๆบ้าง,แต่มันไม่วุ่นวายเลย.
ทุกคนในห้องนั้นล้วนเป็นผู้ดีแทบจะทั้งสิ้น และ ด้วยความที่เป็นโรงเรียนนานาชาติอันดับต้นๆนี้เอง.ทำให้แต่ละคนต่างก็มีแบ๊คอัพในระดับบิ๊กๆทั้งนั้น. ไม่ว่าจะเป็นลูกนักการเมือง, ลูกเจ้าของธุรกิจ, ดารา หรือแม้แต่ เด็กหัวกะทิ.
ไม่ต้องบอกก็น่าจะรู้ว่าโจดี้นั้นอยู่ในกลุ่มหัวกะทิ. และเธอคือที่สุดของหัวกะทิอีกด้วย.ไม่ว่าจะด้านสติปัญญา หรือ พลังของเธอก็ตาม.
แน่นอนว่าการแบ่งชนชั้นก็ยังคงมีอยู่.ผู้ที่ไร้ซึ่งพลังก็ไม่ต่างอะไรกับฐานของพีระมิดให้ผู้คนเหยียบย่ำ.และส่วนมากจะอยู่ห้องท้ายๆ ซึ่ง ห้องที่โจดี้อยู่นั้นคือห้องต้น, หรือก็คือห้องที่ดีที่สุด.
โจดี้แทบไม่สุงสิงกับใครเลย.แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็พูดคุยได้ แต่ไม่เคยพาออกทะเล. ทุกคนในห้องจะเว้นระยะห่างระหว่างที่นั่งของพวกเขากับ โจดี้ ไว้เสมอ.
ไม่ใช่เพราะรังเกียจ แต่มันตรงกันข้าม.พวกเขา เกรงกลัว.
ความจริงแล้ว โจดี้ แก่เกินไปสำหรับปี 3 ตอนนี้เธอควรจะอยู่มหาลัย ปี 1 แล้ว.แต่ว่าเพราะเหตุผลด้านการย้ายมาเรียนต่อ ทำให้โจดี้ต้องกลับมาเรียน high school ใหม่ตั้งแต่ต้น. ดังนั้นเธอจึงแก่กว่า นร.พวกนี้ 1 ปีเต็ม.
โต๊ะของเธอไม่ได้อยู่ข้างหน้าสุดเหมือนที่หนังหลายๆเรื่องมักจะนำเสนอ.เธอนั่งอยู่ หลังสุด และเป็นโต๊ะเดี่ยว.
เธอเลือกมันและร้องขอมันเอง.เพราะเธอไม่ชอบเวลามีคนมานั่งข้างๆ.
วางของเรียบร้อย, ทีนี้ก็รอเวลาให้อาจารย์เข้ามาสอน. เธอมองดูนาฬิกาข้อมือ พลางเงยหน้าขึ้นไปมองที่ประตูห้อง.ไม่นานนัก, อาจารย์ประจำชั้นก็เข้ามา.
แต่วันนี้มันแปลก.เพราะเขาไม่ได้มีท่าทีเหมือนที่เคยเป็น.เขาเดินเข้ามาพลางหันหลังกลับไปมองอะไรบางอย่างนอกห้อง ราวกับกำลังส่งสัญญาณให้บุคคลข้างนอกหยุดรอก่อน.
ทุกคนรับรู้ถึงความผิดปกตินั้น.เสียงนักเรียนเริ่มซุบซิบกัน.คุณครูไม่รอช้า รีบป่าวประกาศทันที.
" นักเรียนทุกคน.ก่อนที่เราจะเริ่มคลาสกันในวันนี้ ครูมีเรื่องจะมาแจ้ง.เรามี นักเรียนแลกเปลี่ยน โครงการ UCL ถูกส่งจาก ออสเตรเลีย มาที่นี่."
เมื่ออาจารย์กล่าวจบ.ทั้งห้องส่งเสียงฮือฮา หนักกว่าเก่า.เพราะอาทิตย์ที่แล้วก่อนเปิดเทอม, พวกเขาได้ยินข่าวของนักเรียนในโปรแกรมแลกเปลี่ยนหลายๆคน มารอเข้าเรียนในซัมเมอร์นี้เช่นกัน.
นี่ก็คงจะเป็น 1 ในนั้น.
อาจารย์หันไปสบตากับบุคคลนอกห้อง.เเละเมื่อเขาผู้นั้นก้าวท้าวเข้ามา, บรรยากาศของทั้งห้องก็ตื่นตัวขึ้นกว่าเดิมทันตาเห็นโดยเฉพาะสาวๆ...แต่ไม่สำหรับ โจดี้.
เพราะเธอจำเด็กหนุ่มคนนี้ได้.
เด็กหนุ่มที่มองค้อนใส่เธอเมื่อตอนเช้า.เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลยุ่งๆ ที่มีเเถบผมสีเหลืองอยู่ข้างหน้าเล็กน้อย.ก้าวเท้าเข้ามาพร้อมกวาดดวงตาสีแดงสดเข้ามามองทุกๆสิ่งในห้องเรียน ก่อนที่จะเดินตรงมาหน้าชั้นด้วยท่าทีปกติ.
"แกดูเขาสิ. แววตาเขาน่ากลัวมากเลย"
" คือดูดุ ดูแบดอ้ะ. ชอบ~"
" งานดี."
โจดี้ได้ยินบทสนทนาของกลุ่มนักเรียนหญิงที่ฝั่งตรงข้ามสุดเม้าท์มอยกัน รวมถึงกลุ่มผู้ชายด้วย.
" ไอหมอนี่...น่ากลัวว่ะ"
" นั่นดิ.มันจะต่อยอาจารย์ป่าววะ?"
"หน้ามันโคตรหาเรื่องเลย...ชักหมั่นไส้แฮะ...แต่ว่า...ถ้าไอหมอนี่มันสามารถเข้าห้องนี้มาได้...ถึงจะเป็นพวกเเลกเปลี่ยนก็เถอะ...แสดงว่ามันต้องมีดีบางอย่างแน่ๆ."
โจดี้เห็นด้วยกับประโยคหลังของนักเรียนชายคนนั้น.เพราะต่อให้เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน, ก็ไม่น่าจะถูกส่งมาที่ห้องนี้ได้ง่ายๆ. เว้นแต่ถ้าไม่เก่งมากๆเหมือนเธอ ก็คงจะบ้านรวยสุดๆ.
" เอาล่ะแนะนำตัวได้เลย."
" หวัดดีทุกคน...ชื่อ [ซิด บาร์เร็ต] มาจาก ซิดนี่ย์,ออสเตรเลีย. เป็นลูกครึ่งเอเชียครับ."
" ลูกครึ่งอะไรเหรอค้า~?"
นักเรียนหญิงใจเด็ดคนหนึ่งกล่าวถามขึ้นมา.
" พ่อออสเตรเลียแต่แม่เป็นคนไทย."
" ว้าว! ไทยแลนด์?! "
ฮือฮาเวฟที่ 2 ก่อตัวขึ้นอีกรอบ.แต่เด็กหนุ่มดูไม่มีปัญหากับสายตาที่จับจ้องมาที่เขาเลยซักนิด. เขาเฉยชาออกไปทางรำคาญเรื่องที่ไอฝรั่ง,แขก, หรืออะไรก็ตามแต่ที่คนพวกนี้พยายามทำให้เขาประทับใจโดยการเล่าว่าเคยไปเที่ยวไทยมาตอนไหน อย่างไรบ้าง.
อย่างพวกเอ็งมันก็รู้จักแค่ ภูเก็ต กับ พัทยา ล่ะวะ...ไอพวกฝรั่งเวรเอ้ย...
" เอาล่ะ ซิด, ปกติแล้วเธอมีสิทธิเลือกที่นั่งนะ.แต่ว่าห้องนี้จะมีที่ว่างอยู่ที่หนึ่งตรง โจดี้ พอดี.เธออยากไปนั่งข้างๆ โจดี้ไหม? ห้องจะได้ครบคู่."
"....."
ซิดมองไปยังทิศที่อาจารย์ชี้ไป. โจดี้ไม่รู้หรอก ว่าเขาจำเธอได้หรือไม่, แต่เด็กหนุ่มทำในสิ่งหนึ่งที่ไม่มีใครในห้องนี้กล้าทำ.
" หงึ. ไม่เอาอ่ะ.เธอดูน่ากลัวแปลกๆน่ะ.ผมไม่อยากเข้าใกล้."
แม้แต่อาจารย์เองก็ยังหน้าเจื๋อนในสิ่งที่เขาพูดออกมา.
ซิด สามารถสัมผัสได้ถึงบรรยากาศของห้องเรียนที่พลิกจากหน้าเป็นหลังมือ.เขาแอบได้ยินแม้กระทั่งเด็กนักเรียนชายคนหนึ่ง ส่งเสียง ซี้ดด... กับเพื่อนเบาๆ.
ราวกับว่าซิดได้ไปทำสิ่งที่ ต้องห้าม อย่างงั้น.
" เออ.แต่ข้างหน้าที่มันก็เต็มด้วยแหละ.เอางั้นก็ได้.ผมนั่งข้างหลังก็ได้."
เขาเลยเดินไปข้างหลังห้อง, วางกระเป๋าลงบนโต๊ะว่าง ข้างๆโจดี้อย่างชิวๆ แต่ซิดยังไม่ได้ทิ้งตัวลงนั่ง. เขาชำเลืองมองที่เด็กสาว...ก่อนที่เขาจะตัดสินใจยกโต๊ะว่างตัวนั้นแล้วย้ายทั้งโต๊ะทั้งกระเป๋าไปไว้ตรงฟากตรงข้ามของห้องเรียน.
หรือจะพูดให้เห็นภาพง่ายๆคือ ถ้ามองจากหน้าห้องเข้ามาแล้ว, โจดี้นั่งริมหน้าต่างขวาสุด, ส่วน ซิด ก็อยู่ซ้ายสุดแนบประตูทางออกข้างหลัง. ถ้าไฟไหม้, เขาคงเป็นคนแรกที่ได้ออกจากห้องนี้.
" เอาหล่ะ ซิด ครูรู้นะว่านักเรียนแลกเปลี่ยนไม่มีGPA. แต่โรงเรียนนี้มีการทำแบบทดสอบ ก่อนเริ่มเทอมด้วย.ฝ่ายประชาสัมพันธ์แจ้งเธอแล้วใช่ไหม?"
" ทำอะไรนะฮะ?"
"แบบทดสอบ"
"...อ้อ...แบบทดสอบ..."
" เธออยากทดสอบตัวเองมั้ย? ทำขำๆ ไม่มีคะแนนอยู่เเล้ว."
" อือ...ผมโหดอยู่ละ...แถมยังง่วงๆ จากเจ็ทแลคอยู่เลย. คงขอผ่าน-"
"กลัวเหรอ?"
คงจะเป็นเพราะว่ามันคือจังหวะที่ทั้งห้องเงียบและอาจารย์กำลังจะตอบกลับพอดี. ทุกคนรวมถึงซิดจึงได้ยินเสียงของ โจดี้พูดออกมาอย่างชัดเจนจากฟากตรงข้ามของห้อง. เสียงของเธอชัดเจนในชนิดที่ว่า ถ้าซิดตอบกลับด้วยคำว่า เธอพูดว่าไงนะ คงจะกลายเป็นไอหนวกทันที.
"... เปล่าหนิ..."
"มาเถอะน่า. ทำ 'ขำๆ' อยู่แล้วนี่? แลกเปลี่ยนทั้งทีควรเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้คุ้มนะ."
"....."
ไม่มีใครในห้องนี้ที่โง่พอจะไม่รู้ว่านี่คือคำท้าของ โจดี้ รวมทั้งตัวของซิดเอง.
"...."
" เออ. ก็ได้. เอาก็เอา. อาจารย์, จัดมาตรงนี้แผ่นดิ้."
นี่ถือว่าเป็นบทลงโทษขั้นเบาสุดที่โจดี้จะทำได้. ในไม่ช้า, เขาก็จะได้รู้ซึ้งว่าระดับสมองของเขากับโจดี้นั้นแตกต่างกันเพียงใด. ถ้าผลลัพธ์ออกมาไม่น่าเกลียดเกินไป, โจดี้ก็จะได้รู้ด้วยว่า ไอหมอนี่ มีฝีมือระดับไหนกันแน่...
" x่า เอ้ย...ไอเxี้ย เช็คสเปียร์มันไปโดนตัวไหนมาวะ...xูจะไปรู้มั้ยว่ามันอยากจะสื่อx่าอะไร...เวร."
แค่ 5 นาทีหลังจากเริ่มจับเวลา, โจดี้ก็ได้ยิน ซิดบ่นพึมพำซะแล้ว...
ปากของโจดี้โค้งขึ้นเป็นมุมเล็กๆ.กำลังคิดในหัวอยู่ว่าเธอควรจะเมินเฉย หรือ พูดอะไรใส่เขาซักอย่างดีหลังจากประกาศคะแนน. แต่คงจะพูดไม่ให้เขาน้อยเนื้อต่ำใจเกินไปนั่นแหละ.
เพราะเธอเคยเผชิญกับอะไรแบบนี้มาตั้งแต่ย้ายมาที่นี่แล้ว. พวกหยิ่งยโสคิดว่าตัวเองเหนือกว่าคนอื่น แถมพูดจาหยาบกระด้าง ควรได้รับบทเรียนซะบ้าง...
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 33
Comments