อาชญากรก้องโลก
บทที่1 ผู้ก่อการร้าย
ตอนที่3 ข้างบน
"ทำใมผู้คนถึงได้จากไปอย่างง่ายดายแบบนี้"
ผมมองไปที่ร่างของชายคนนั้นที่ล้มลงไปนอนอยู่กับพื้นและเริ่มมีเลือดที่ไหลออกมาจนเอ่อนอง นัยน์ตาของผมนั้นเริ่มสั่นไหวจนคิ้วทั้งสองข้างนั้นกระตุกและเห็นได้ชัดซึ่งความสิ้นหวังที่ปรากฏอยู่บนใบหน้า ผมมองกลับไปอีกด้านหนึ่งที่เคยมีผู้คนคุยกันอยู่สามสี่คนแต่ตอนนี้พวกเขาต่างแน่นิ่งและไม่ขยับตัวอีกแล้วพร้อมกับเสื้อผ้าของพวกเขาที่เริ่มเปลี่ยนสีเป็นสีแดง
"นี่มันครั้งที่เท่าไหร่แล้วที่นายเห็นศพแล้วมีอาการแบบนี้ ทำใมถึงยังไม่ชินสักที? "
เสียงของอีกตัวตนหนึ่งดังขึ้นจนมันได้เตือนสติของผมที่ดับวูบลงให้กลับมาอีกครั้ง
"ต้องหนีแล้วต้องหนี"
ผมพยายามกวาดสายตาออกไปรอบๆและได้เห็นเข้ากับถังดับเพลิงพร้อมกับกับขวานที่วางไว้ใกล้ประตู ผมคิดว่ามันดูเสี่ยงเกินไปที่จะไปเอาเลยพยายามกวาดตามองอีกเล็กน้อย แล้วก็มีิีจุดนึงที่ได้ดึงดูดสายตาผมไปบริเวณใกล้ๆ เข้ากับปืนที่อยู่ตรงเอวของน้าวินและไม่รอช้าผมรีบพุ่งเข้าไปยิบมันออกมาทันทีแล้วเหน็บมันเอาไว้ที่ด้านหลังและวิ่งออกไปในอีกทิศทางหนึ่งและเมื่อผมกำลังวิ่งผ่านประตูที่มีรูเต็มไปหมดนั้นอยู่ๆก็มีเสียงอะไรบ้างอย่างดังขึ้นจากทาง
ปัง!!
ผมแทบจะช็อคตายเพราะเสียงๆนี้ ความวิตกกังวลนั้นผลักดันให้ผมถึงกับชะงักไปชั่วครู่แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นผมก็ยังวิ่งต่อไปข้างหน้าด้วยใจที่อยากจะมีชีวิตรอด
"ต้องรีบแล้ว"
ผมมองตรงไปที่คอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งแล้วคิดขึ้นได้ถึงอะไรบางอย่างที่จำเป็นจะต้องทำถ้าอยากจะจัดการพวกมันและหยิบของบางอย่างออกมาจากกระเป๋ากางเกงและเสียบมันเข้าไปที่ช่องUSBด้านหลังหลังเครื่อง
"ขอให้ไม่มีใครเห็นทีเถอะ"
เมื่อเสร็จแล้วผมก็รีบหันไปในอีกด้านหนึ่งบนเพดานและได้เห็นถึงช่องระบายอากาศที่อยู่ข้างบนนั้นที่มีขนาดพอที่จะรองรับร่างกายของผมได้และรีบพุ่งไปในทิศทางนั้นในทันทีอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ช่องระบายอากาศอยู่บนศีรษะของผมแล้ว
"เอาไงเอากัน"
ผมรีบหันกลับไปที่จอคอมพิวเตอร์และได้เห็นว่าพวกมันกำลังเปลี่ยนประสุนปืนกันอยู่
ผมครุ่นคิดเล็กน้อยพร้อมมองออกไปที่ตู้เก็บของที่อยู่ข้างๆและก็เก้าอี้ ผมรีบเลื่อนเก้าอี้ตัวหนึ่งออกมาและขึ้นไปบนมันจากนั้นก็ทำการกระโดดขึ้นไป แต่ก็ไม่ถึงและแม้จะพยายามอีกสักสองสามรอบมันคงจะไม่ถึงแน่ๆจากระยะนี้ ผมจึงคิดอะไรขึ้นมาได้และกระโดดไปที่หัวเก้าอี้อย่างไม่ลังเลก่อนที่จะกระโดดออกไปอีกครั้งจนเก้าอี้นั้นกระเด็นออกไปเล็กน้อย และในที่สุดผมก็จับเข้ากับมือจับของช่องระบายอากาศนั้นจนได้
เสียงกระสุนดังขึ้นอีกครั้งพร้อมเสียงของอะไรบางอย่างที่ตกลงสู่พื้นในขณะเดียวกันมือจับช่องระบายอากาศก็เริ่มรับแรงไม่ไหวและมีน็อตหลุดออก ผมรู้สึกใจหายวาบเมื่อมองชิ้นส่วนที่หลุดออกไป และไม่นานนักร่างเล็กที่อยู่บนอากาศนั้นก็ตามมาแล้วดิ่งลงสู่พื้นพร้อมกับฝาช่องระบายอากาศอย่างจัง
ผมที่ในตอนนี้เวลาแห่งชีวิตถูกร้อยอยู่บนเส้นด้ายแล้วไม่อาจจะมามัวนั่งร้องอวดโอยกับการบาดเจ็บนี้ได้อีกต่อไปแล้ว และถึงแม้มันจะเจ็บเพียงไรก็ตามแต่ถ้ายังไม่ตายผมก็ยังที่จะรักษามันได้
เมื่อคิดได้ดังนั้นผมจึงรีบโยนฝานั้นทิ้งในทันทีและลุกขึ้นวิ่งไปทางตู้เก็บของพร้อมปีนขึ้นไปด้วยจิตใจที่ไร้ซึ่งความลังเลใดๆ ผมพยายามทรงตัวอยู่สักพักจนตู้ที่สั่นไหวนั้นเริ่มนิ่งลงแล้วทำการกระโดดขึ้นไปโดยพลันที่ช่องระบายอากาศนั้น ตอนนี้ราวกับว่าเวลานั้นเคลื่อนช้าลงผมได้ยินเสียงเปิดของประตูในจังหวะที่มือของผมใกล้จะถึงช่องระบายอากาศนั้นแล้วซึ่งมันอยู่ใกล้แค่เพียงนิดเดียว นิ้วเรียวของผมได้แตะไปถึงขอบของมันแล้วแต่ปรากฏว่ามันดันลื่นและพลาดไป
ผมรู้สึกได้ถึงความกังวลอันเป็นที่สุดของผมแล้วและไม่เคยที่จะกังวลเท่านี้มาก่อนตอนนี้ผมอาจจะพลาดโอกาสสุดท้ายในการรอดชีวิตไปแล้วก็ได้ระหว่างที่กำลังลอยเคว้งอยู่บนอากาศ
ผมคิดว่าพวกมันน่าจะเข้ามาเเล้วเพราะผมได้ยินเสียงที่อ้าออกของประตู ตอนนี้วินาทีแห่งชีวิตนั้นกำลังถูกตัดสิ้นและในจังหวะนั้นมืออีกข้างที่ตามมาติดๆก็จับได้ถึงมันพอดี
"พวกมันเข้ามาแล้ว"
ผมรีบดึงตัวขึ้นไปอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ จนถึงท้ายที่สุดแล้วผมก็เข้ามาในช่องระบายอากาศนี้
"ไอ้เด็กนั่นมันไปไหนแล้ว"
ในขณะที่ขาของผมกำลังถูกดึงขึ้นมามันก็กระทบเข้ากับเพดานจนเกิดเป็นเสียง ในจังหวะนั้นผมคิดว่าจะต้องตายแน่ผมได้ยินเสียงของหัวใจที่คำรามชัดมากและเหงื่อก็ชุ่มไปทั้งตัวจนตอนนี้รู้สึกอึดอัดไปหมดแล้ว
"ไม่เห็นมันเลยครับ"
ความรู้สึกถึงความโล่งอกนั้นมันโผล่ขึ้นมาไม่ทันไร ชายคนหนึ่งที่ถือปืนกลเบาขนาดกลางกำลังตรวจสอบอยู่ตรงชิ้นส่วนอย่างหนึ่งที่ผมได้โยนทิ้งไปเมื่อตะกี้
"ทำใมความซวยแบบนี้มันถึงมาเกิดกับตัวฉันด้วยนะ"
ผมแทบที่จะไม่หลงเหลือความหวังอีกต่อไปแล้วถ้าหากพวกมันคนใดคนหนึ่งได้เห็นตัวผมเข้าล่ะก็และได้เล็งปากกระบอกปืนนั่นมาทางผมแล้ว ต่อให้โชคดีแค่ไหน กับทั้งทางที่แคบจนเคลื่อนไหวได้ยากและไม่มีที่ให้หลบอีกแล้วแบบนี้ มันยิ่งซะกว่าเป็นอาหารอันโอชะให้แก่สัตว์ร้ายที่จ้องมองเหยื่อที่พิการของมันเลยด้วยซ้ำ
ผมจับจ้องไปที่เขาด้วยนัยน์ตาที่ไม่แม้แต่จะกระพริบ จนตอนนี้กล้ามเนื้อบนร่างกายเริ่มเกร็งตัวไปหมดแล้ว ทำได้เพียงแต่คาดคะเนถึงความเป็นไปได้ที่เกิดขึ้นในอนาคตและในตอนนั้นนัยน์ตาของผมก็ฉายแววแห่งความหวังออกมาเล็กน้อย
ผมเริ่มที่จะขยับร่างนี้อย่างช้าๆเพื่อไม่ให้เกิดเสียงในขณะที่ดวงตาก็ยังคงจับจ้องไปยังจุดๆเดิม แต่ก็ไม่ได้สังเกตเลยว่ายังมีอีกจุดนึงที่ไม่ควรมองข้ามและในตอนนั้นความหวังที่ริบหรี่ก็ดับวูบลงในทันทีพร้อมกับหัวใจที่ตกลงไปสู่ตาตุ่มโดยพลันเมื่อชายอีกคนหนึ่งที่ผมไม่ได้สังเกตุชี้นิ้วมาทางผม
"มันอยู่ข้างบน"
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 10
Comments