หลังจากที่ยูระมาเกิดใหม่ในร่างของดาเนส แคสเซีย ลูกชายสายเลือดตรงของตระกูลแคสเซียที่ใหญ่เป็นอันดับสองของเมืองเดวาโรน เมืองเดวาโรนนั้นเป็นเมืองที่สรรสร้างผู้แข็งแกล่งออกมารุ่นแล้วรุ่นเล่าและยังมีโรงเรียนที่สอนเรื่องพลังเวทย์ๆเด็กแต่ละคน และถ้าเด็กคนไหนมีฝือมือมากพอก็ถูกส่งตัวไปเรียงต่อที่เมืองหลวงที่มากศึกษาดีกว่าเมืองย่อยอย่างเดวาโรน
แต่ทว่าบัดนี้กลับมีเด็กคนนึงที่ถือได้ว่าเป็นข้อผิดพลาด เพราเขานั้นไม่มีพลังเวทย์ปรากฎขึ้นมาเลย นั้นคือดาเนสแคสเซีย ไม่มีใครเคยเห็นหน้าค่าตาของดาเนสมาก่อน เพราะดาเนสนั้นไม่เคยถูกส่งเข้าเรียน และไม่มีใครเคยเห็นเขาออกมาจากคฤหาสน์ตระกูลแคสเซียเลย
เด็กน้อยดาเนสนั้นตอนนี้อายุเข้าเจ็ดขวบแล้วแต่ก็ยังไม่มีวี่แววของพลังเวทย์ว่าจะปรากฏออกมาเลยแม้แต่น้อย พวกข้ารับใช่หรือญาติๆต่างจงเกลียดจงชังเขาที่มาทำลายชื่อเสียงของตระกูล โดยเฉพาะอาเดริส แคสเซีย ญาติผู้พี่ของดาเนสที่อายุห่างจากเขาประมาณสามปี และน้องงสาวของเขาเรน่า แคสเซียที่มีอายุเท่าๆกับดาเนสแต่ดาเนสก็ไม่คิดจะสนใจเรื่องรอบตัวพวกนี้เท่าไหร่ เขาชอบที่จะศึกษาตำราต่างๆ ประวัติศาสน์ การก่อตั้งเมืองต่างๆ ประวัติตระกูลแต่ละตระกูล เป็นต้น
ดาเนสนอนกลิ้งเกลือกอยู่บนโซฟาในห้องสมุดส่วนตัวที่ของในท่านพ่อสร้างในตอนสี่ขวบ แล้วอ่านหนังสือเรื่องการในเวทย์เริ่มต้นไปอย่างนั้น เพราะตนใช่เวทย์ไม่ได้อยู่แล้ว แค่อ่านแก้เบื่อไปอย่านั้น
"นายน้อยครับ ได้เวลาทานอาหารกลางวันแล้วนะครับ"
ดาเนสที่นองกลับหัวอยู่บนโซฟามองคนมาใหม่แบะพลิกตัวกลับมานั่งเรียบร้อย คนที่เปิดประตูห้องสมุดนี้ได้มีน้อยนักที่จะมีกุญแจพิเศษที่ใช่สำหรับเปิดห้องสมุดส่วนตัวของเขาได้ ตาสีเขียวที่เข้มกว่าของดาเนสมองมาที่เาแล้วยิ้มบางๆมาให้ เขาคือเอวาน โคโรไซค์ ผู้ติดตามที่ท่านพ่อเป็นคนเลือกมาคอยดูแลข้างกายดาเนส เขาเป็นคนดูแลดาเนสมาตั้งแต่เล็กๆตอนที่ท่านพ่อกับท่านแม่ไม่อยู่
เขาเป็นชายร่างกำยำพอควร หน้าตาถือมาใช่ได้ไม่ได้ดีหรือแย่ แล้วเขายังมีพลังอยู่ในระดับจอมเวทย์ระดับกลาง เอวานนั้นเก่งเรื่องการลอบสังหาร ดาเนสนั้นที่ไม่มีพลังเวทย์จึงของในเอวานสอนเรื่องพวกนี้ให้ แต่พอลองสู้กับเอวานดูก็อยู่ในระดับพอใช่ได้ เอวานเป็นคนบอกเอง เขาไม่เคยพูดโกหก เพราะถ้าโกหกดาเนสจะจับได้แต่บางครั้งดาเนสก็จับไม่ได้
"นายน้อยครับ ถ้าไม่ไปกระผมลากนะครับ"
พอได้ยินว่าจะโดนลากไปก็รีบดีดตัวลุกขึ้นในทันที เพราะการถูกเอวานลากนั้นเขาไม่เคยปราณีผมเลย
"ข้าเข้าใจแล้วๆ แค่ไปก็พอแล้วไหม"
ดาเนสถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เพราะว่าถ้าไปทานข้าวกลางวันแล้วล่ะก็ ก็ต้องเจอกับอาเดริสและเรน่า แต่จะทำยังไงได้ยังไงๆก็ต้องไปอยู่ดี ถึงยังไงก็เจอกันแค่ตอนทานข้าวกลางวัน เพราะตอนเช้าแต่ละคนตื่นต่างเวลากันส่วนตอนเย็บบางคนก็ไปทานด้านนอกบ้าง เจอกันพร้อมหน้าพร้อมตากันก็ในตอนเที่ยงซะเป็นส่วนใหญ่
"เก็บ"
ดาเนสพูดออกไปเรียบๆ หนังสือในมือของเขาก็ลอยไปเก็บที่ชั้นของมัน พลังนี้เป็นเวทย์มาตรฐานที่ใช่สำหรับห้องสมุดไม่ใช่ของดาเนส แค่เรียกชื่อหนังสือมันก็จะมาปรากฏอยู่ตรงหน้าให้ และถ้าสั่งให้เก็บมันก็จะเก็บให้โดย
ก่อนออกจากห้องเอวานจัดระเบียบเครื่องแต่งกายของดาเนสและส่วนต่างๆให้เรียบร้อยแล้วออกไปห้องอาหารด้วยกัน
พอมาถึงห้องอาหารแล้วก็รู้สึกถึงสายตาของคนสองคนที่จ้องมาที่ผู้มาใหม่ จะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจากอาเดริสและเรน่า ก่อนเอวานจะแยกตัวไปรออยู่ที่มุมห้องเหมือนผู้ติดตามคนอื่นๆ เขาก็มากระซิบค้างหูดาเนสว่า 'ทุกอย่างจะต้องไม่เป็นอะไรครับ' เพราะทำได้จึงต้องจำใจไปนั่งข้างๆอาเดริส เพราะเด็กกับผู้ใหญ่จะแบ่งฝั่งกันนั่ง
โต๊ะอาหารนี้เป็นตัวยาวประมาณสี่เมตรเห็นจะได้ เพราะมันเป็นเพียงโต๊ะทานข้าวของครอบครัวจึงไม่ยาวมาก ฝั่งที่ดาเนสนั่งมีตนเอง อาเดริสและเรน่า ฝั่งตรงข้ามมีท่านพ่อกรีเดส ท่านแม่มิเอลล่าและท่านน้าริชาร์ดน้องชายที่อายุห่างจากท่านพ่อ2ปี ผมสีกรมท่าและตาสีทอง สีผมได้มาจากท่านย่าที่จากไปก่อนที่ดาเนาจะเกิดขึ้นมา ส่วนภรรยาของท่านน้าเสียชีวิตไปด้วยโรคร้ายตอนที่กำเนิดเรน่าเพียงไม่นานก็สิ้นใจไป และคนที่อยู่หัวโต๊ะสุดคือผู้นำตระกูลแคสเซียคนปัจจุบัน ท่านปู่ซีดอนนั้นเอง ท่านปู่มีรูปร่างหล่อเหลาคล้ายคลึงกับท่านพ่อและท่านน้าริชาร์ดพอควร ผมสีเงินเหมือนท่านพ่อแต่สีตาต่างออกไป มันไม่ใช่สีเขียวมรกตแต่เป็นสีทองเมื่อท่านน้าริชาร์ด ถึงท่านจะอายุมากโขแล้วแต่ทว่ากับดูอ่อนเยาว์มาก
ขณะทานข้าวเด็กอย่างพวกเราไม่สามารถพูดอะไรเอะอะกันได้ ทำได้เพียงคุยกันเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนผมไม่มีคนที่จะมาพูดด้วยอยู่แล้วเลยนั่งทานข้าวอยู่เงียบๆ ระหว่างทานอาหารท่านปู่จะถามเรื่องภารกิจทางราชการที่ท่านพ่อและท่านแม่ไปทำ ซึ่งคุณพ่อกับคุณแม่จะไปสอนเรื่องเกี่ยวกับการต่อสู้และพลังเวทย์ให้กับเด็กๆในเมืองหลวง
"วันนี้เจ้ายังคงหมกตัวอยู่แต่ในห้องหนังสืออย่างนั้นหรือดาเนส"
เมื่อทานอาหารเสร็จท่านปู่ก็เป็นคนเปิดบทสนทนากับดาเนสเป็นคนแรก เมื่อได้ยินท่านเรียกแล้วเจ้าของชื่อก็ตกใจเล็กน้อย ก่อนจะนั่งตัวตรงและสบตาพูดกับท่านปู่
"ครับ ข้าชอบอ่านหนังสือต่างๆที่ท่านพ่อหามาให้ มันทำให้ข้าได้รู้เรื่องราวต่างๆมากมาย"
ดาเนสพูดไปอย่างไม่ติดขัดอะไร เพราะถึงแม้ท่านปู่จะมีพลังความสามารถที่แกล่งกล้า แต่ว่าท่านกลับไม่ได้มีท่าทีรังเกียจตัวของเขา และยอมนับในสิ่งที่ดาเนสเป็น
"งั้นข้าขอถามเรื่องต่างๆเสียหน่อย อยากรู้ว่าเจ้ารู้สิ่งใดแล้วบ้าง"
"ค-...ครับ"
ขณะที่กำลังจะตอบรับคำของท่านปู่ อาเดริสก็ถกแขนเสื้อแขนขาวสีดำของตนเองขึ้น ดาเนมรู้ว่าต่อไปเขาจะทำอะไร แต่ตัวเขานั้นไม่มีปัญญาโต้ตอเลยได้แต่เงียบเอาไว้
เมื่อท่านปู่เริ่มถามคำถามหลายๆอย่างที่ดาเนาน่าจะรู้ อาเดริสก็ปล่อยกระแสไฟฟ้าที่มีความแรงระดับกลางใช่ข้อมือของดาเนส แต่เขาก็ต้องอดทนไว้ทั้งอย่างนั้น สิ่งที่ท่านปู่ถามก็พวกประวัติของตระกูลต่างๆ บ้างก็ถามเรื่องการปรุงยาที่ดาเนสทำเป็นงานอดิเรก เพราะมันไม่จำเป็นต้องใช่พลังเวทย์ ดาเนสยังคงยอมให้อาเดริสทำร้ายตนต่อไปจนท่านปู่ถามจบ
"วันหลังข้าจะหาหนังสือเกี่ยวกับเครื่องดนตรีชนิดนึงมาให้เจ้าศึกษา เช่นนั้นเป็นอย่างไร สนใจหรือไม่"
"เครื่องดนตรีใดหรือขอรับท่านปู่"
ดาเนสถามออกไปให้เป็นปกติที่สุด เพราะตอนนี้ที่ข้อมือของเขานั้นเรื่อมสีเลือดซึมออกมาแล้ว
"วันหลังข้าจะนำมาให้เจ้าพร้อมหนังสือ"
"เช่นนั้นก็ขอขอบคุณท่านปู่ งั้นข้าขอตัวไปเก็บสมุนไพรเพื่อปรุงยาของข้าต่อ…ข้าลาล่ะ"
พอท่านปู่อนุญาตให้ไปเรียบร้อยแล้ว ดาเนสก็สลัดข้อมือของตัวเองให้หลุดออกจากมือของอาเดริสและรีบวิ่งออกมา เอวานที่เห็นแบบนั้นแล้วก็รู้ได้ทันที่ว่าเกิดอะไรขึ้น เขารีบตามดาเนสไปในทันที และไม่ลืมที่จะลาท่านซีดอนก่อน ส่วนทางด้านอาเดริส ดวงตาสีทองคู่สวยมองไปทางที่ดาเนสวิ่งหายไป และมองกลับมาที่มือของตัวเองที่มีเลือดของดาเนสติดอยู่ เขาเช็ดเลือดออกแล้วเสยผมสีกรมของตัวเองเล็กน้อย และหันไปยิ้มกับน้องสาวผมทองของตัวเอง แล้วของตัวลาท่านปู่ของพวกเขาไปฝึกพลังของตัวเองต่อ
หลังจากที่ดาเนสวิ่งออกมาจากห้องทานอาหารแล้วก็หยิบ ผ้าคลุมหลอกลวงเวทย์ มาจากกระเป๋ามิติที่เหน็บอยู่ที่เอว มันใช้สำหรับปกปิดพลังเวทย์ที่แท้จริงของตัวเอง แต่สำหรับดาเนสนั้นมันใช่หลอกคนอื่นว่าตนก็ยังมีพลังเวทย์แต่เพียงแต่ระดับต่ำๆ เพราะยังไงๆทุกๆคนในเมืองนี้นั้นก็รู้จักแต่ชื่อของดาเนส แคสเซียไม่มีพลังเวทย์ แต่ไม่เคยมีใครเห็นหน้าเขามาก่อน แต่ถ้าจับโดนตัวของคนๆนั้นแล้วจะรู้ได้ว่าเขามีพลังเวทย์อะไร ยกเว้นแต่เขาจะซ่อนแบบมิดชิดโดยพลังของตัวเอง
ดาเนสวิ่งออกจากคฤหาสน์ตระกูลแคสเซีย แล้ววิ่งเข้าไปในป่าของตระกูลโดยไม่สนใจเอวานที่ไล่ตามหลังมาไม่ทัน เพราะทุกซอกทุกมุมของป่าแห่งนี้มีเพียงดาเนสเท่านั้นที่รู้ เด็กชายผมสีช็อกโกแล็ตวิ่งมาเรื่อยๆก็เจอเข้ากับกระท่อมหลังนึงที่ตนกับเอวานช่วยกันสร้างเอาไว้เมื่อปีก่อน เอวานมักมาไม่ถูกนำทางโดยดาเนสแต่ก็ใช่ว่าเขาจะมาไม่ได้ พอเข้ามาในกระท่อมแล้วดาเนสก็หยิบผ้าผืนหนึ่งและหญ้าสมุนไพรห้ามเลือดออกมาแล้วเดินไปที่ลำธารใกล้ๆ
เขาใช่น้ำในลำธารล้างเลือดออกอย่างปราณีจและค่อยๆใช่หินแถวนั้นบดหญ้าสมุนไพรให้ละเอียด แต่เพราะไม่ทันระวังจึงไม่รู้ว่ามีคนเขามาถึงตัวของเขาและมาแตะที่ไหล่ขวาเขา ดาเนสตกใจมากเลยลืนตกลงไปในลำธารสายนั้น
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments