วิญญาณหลอนสื่อรัก ตอนที่ 4
หลังจากที่วีดารู้ว่าชาวีตัวจริงเป็นใคร...
เธอได้พยายามที่จะหาทางเข้าไปบอกชาวีเรื่องของราดียา
แต่เมื่อชาวีรู้ว่าวีดารู้เรื่องราวของราดียา เขาก็รีบขอตัวกลับ
เมื่อเห็นแบบนั้นวีดาจึงได้รีบวิ่งตามเขาออกไป...
วีดา : “เดี๋ยวก่อนคุณชาวี”
ราดียาวิ่งไปขวางทางชาวีไว้
ชาวีไม่พูดอะไร เขาเอาแต่พยายามที่จะเดินหนี
วีดา : “ถ้าอย่างนั้นชั้นจะไปพูดเรื่องนี้กับภรรยาของคุณแทนก็แล้วกันนะคะ”
เธอพูดเสียงดังฟังชัดจนชาวีหยุดชะงักไป จากนั้นเขาก็หันกลับมามองหน้าวีดา
“ชั้นไม่ได้มีเรื่องอะไรกับคุณนะคะ”
“ชั้นแค่มาบอกความต้องการของราดียาให้คุณรู้ และช่วยทำตามคำขอร้องสุดท้ายของเธอเท่านั้น”
ชาวียืนมองหน้าวีดาสักพัก...ก่อนที่จะตัดสินใจอะไรบางอย่าง
“คุยตรงนี้ไม่สะดวก ผมว่าเราไปที่ม้านั่งสวนด้านหน้าดีกว่าครับ”
พูดเดินนำวีดาไป
ทั้งสองคนนั่งนิ่งเงียบสักพัก ก่อนที่ชาวีจะตัดสินใจพูดขึ้น
ชาวี : “ความต้องการของยาคืออะไรครับ”
วีดา : “เธอต้องการให้คุณปลดปล่อยดวงวิญญาณของเธอ และดูแลแม่ของเธอจนกว่าท่านจะหมดอายุขัยแทนเธอ”
เมื่อฟังคำขอร้องนั้น ชาวีก็นั่งนิ่งเงียบไป
“ยังไงคุณทั้งคู่ก็เคยมีช่วงเวลาดีๆ ต่อกัน”
“หากวันนี้หมดรักกันแล้ว...”
“คุณก็น่าจะนึกถึงความรู้สึกดีๆ ตอนนั้น และช่วยทำตามคำขอร้องของเธอด้วยนะคะ”
วีดาพยายามพูดเกลี้ยมกล่อมให้เขาเห็นใจราดียา
ชาวีกำมือแน่น...
จากนั้นเขาก็ร้องไห้โฮออกมา ร้องอย่างไม่เหลือคราบนักธุรกิจผู้เก่งกาจเลยแม้แต่น้อย
“ผมไม่ได้หมดรักยาอย่างที่คุณเข้าใจเลย ทุกวันนี้ผมก็ยังรักเธอมากเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน”
เขาพูดเสียงสั่น
วีดาหันไปมองหน้าชาวีอย่างไม่เข้าใจ
“เธอทำงานกับผมมาหลายปี”
“ครั้งแรกที่ผมเจอเธอ ผมก็รู้สึกได้เลยว่าเธอเป็นคนที่ฉลาด ทำงานเก่ง...”
“...และก็เป็นแบบนั้นจริงๆ เพราะเธอคอยดูแลผมได้เป็นอย่างดีในทุกๆ เรื่อง”
“เราทำงานใกล้ชิดกันมาตลอดในช่วงเวลาหลายปีนี้”
“ซึ่งงานของผมจะต้องเดินทางออกต่างจังหวัดและมีค้างคืนอยู่บ่อยครั้ง...”
“...แต่ผมก็ไม่เคยคิดอะไรที่เกินเลยกับเธอเลยแม้แต่น้อย”
“อาจเพราะว่าตัวผมเองมีภรรยาอยู่แล้ว และผมก็รักภรรยาของผมมาก”
“จนวันนึงผมรู้ข่าวว่ามีหลายบริษัทพยายามที่จะทาบทามเธอให้ไปทำงานด้วย”
“ตั้งแต่นั้นมาผมก็เริ่มรู้สึกกระวนกระวายใจหวาดระแวงไปหมดทุกอย่าง ซึ่งผมเองไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรเหมือนกัน”
“หลังจากที่ได้คิดทบทวนอยู่หลายครั้ง ผมก็เริ่มรู้ใจตัวเองแล้วว่าที่เป็นแบบนั้นเพราะผมขาดบาไม่ได้”
“ไม่ใช่เพราะเธอเป็นพนักงานที่ดีเพียงอย่างเดียวหรอกนะครับ...”
“...แต่เพราะว่าผมตกหลุมรักผู้หญิงคนนี้เข้าให้แล้ว”
พูดจบเขาก็นั่งก้มหน้าร้องไห้โฮออกมาอีกครั้ง
หลังจากที่วีดาได้รู้ความจริงและเห็นท่าทางของเขาที่เป็นแบบนั้น เธอก็มีสีหน้าเศร้าลง...
“แต่สุดท้ายคุณก็นอกใจภรรยาของคุณ แล้วก็หลอกลวงราดียา”
“คุณทำผิดกับคนที่คุณรักทั้งสองคนทำไมคะ”
เธอเอ่ยถามขึ้นมาด้วยความไม่เข้าใจ
“ผมมันเลวเอง ผมทำผิดกับผู้หญิงทั้งสองคนแค่เพราะความเห็นแก่ตัวของผม”
เขาเค้นเสียงพูดออกมาพร้อมกับหัวเราะเบาๆ
“ผมอยากให้พวกเธอทั้งสองคนอยู่กับผม แต่ด้วยความที่ทั้งคู่เป็นคนเด็ดเดี่ยวมาก”
“หากมีใครคนใดคนนึงรู้เรื่องนี้ เธอจะต้องทิ้งผมไปแน่ๆ”
“ผมเลยเลือกที่จะเก็บความลับนี้ไว้ และกำลังพยายามที่จะหาทางออกเรื่องนี้อยู่”
“แต่ช่วงหลังสุขภาพของผมไม่ค่อยดี ด้วยความที่ภรรยาผมเป็นห่วงเลยมาคอยดูแลและเข้ามาช่วยงานผมที่บริษัทมากขึ้น”
“เมื่อเป็นแบบนั้นผมก็เลยต้องให้ราดียาอยู่คอนโดไปก่อน จนกว่าจะทุกอย่างจะเข้าสู่สภาวะปกติ”
เมื่อชาวีพูดถึงตรงนี้ วีดาก็หันไปมองจ้องหน้าเขา
“มันไม่ปกติตั้งแต่คุณนอกใจภรรยา และหลอกลวงราดียาให้อยู่กับคุณแล้วล่ะค่ะ”
เธอส่ายหน้ากับเรื่องที่ได้ยินจากปากของชายที่เห็นแก่ตัวคนหนึ่ง
“ใช่...คุณพูดถูกทุกอย่าง”
เขาก้มหน้ายอมรับผิด
“ตอนนั้นพอยารู้ความจริง ผมก็พยายามจะให้เธอสงบจิตใจ”
“ผมพาเธอไปที่นอกเมืองก็เพื่อที่จะซื้อที่ดิน และปลูกบ้านไว้ซักหลังเพื่อให้เธออยู่กับแม่ของเธอ”
“โดยที่ผมจะเป็นคนส่งเสียเลี้ยงดูเธอและครอบครัวเอง”
“แต่หลังจากที่ไปถึง เราทั้งคู่ก็ยังคงทะเลาะกันหนักเหมือนเดิม”
“เธอทุบตีผมอยู่หลายทีจนผมโมโห เลยเผลอสะบัดมือแรงทำให้เธอล้มลง...”
“...แล้วหลังจากนั้นผมก็เดินหนีไปด้วยความรำคาญ กะว่าจะให้เธอมีสติขึ้นมาก่อนแล้วค่อยมาคุยกันใหม่”
“ผมไม่รู้ว่าตอนนั้นเธอหัวกระแทกหินก่อนที่จะตกน้ำไป เลยทำให้เธอขึ้นจากน้ำไม่ได้”
“จนได้มารู้ข่าวทีหลังว่าเธอ...เสียชีวิตแล้ว”
ชาวียกมือขึ้นปิดหน้า เขาร้องไห้สะอื้นเมื่อพูดถึงตรงนี้
เมื่อวีดาได้ฟังเรื่องที่ชาวีพูดทั้งหมด เธอก็หน้าเศร้าลงทันทีด้วยความสงสารชาวีไม่แพ้กัน
แต่เรื่องทั้งหมดก็ยังคงผิดที่เขาอยู่ดี...
“ตอนคุณผลักเธอล้มลง หัวเธอกระแทกกับหินก่อนที่จะตกน้ำไป”
“และเธอไม่สามารถขึ้นจากน้ำได้ เลยตายอย่างน่าเวทนาอยู่ตรงนั้น”
“ตอนนี้ของมีค่าสำหรับเธอยังจมอยู่ใต้น้ำ ทำให้เธอไม่สามารถที่จะไปสู่สุคติได้”
“เธออยากให้คุณปลดปล่อยเธอ และดูแลแม่ของเธอจนกว่าจะสิ้นอายุขัย”
“นี่คือคำขอร้องสุดท้ายของเธอค่ะ”
ชาวีรีบตอบตกลงทันที จากนั้นเขาก็ก้มหน้าร้องไห้โดยมีวีดาตบไหล่ปลอบใจเขาอยู่ข้างๆ
“เกิดอะไรขึ้นกับคุณชาวีกันแน่นะ”
“ทำไมเค้าถึงร้องไห้หนักขนาดนั้น โดยมียายนั่นตบไหล่ปลอบใจเขาอยู่ข้างๆ”
“คนสติไม่ค่อยดี แต่สามารถทำแบบนั้นกับนักธุรกิจใหญ่ได้เนี่ยนะ”
“นี่เธอเป็นใครกันแน่นะ”
กวินคิดในใจขณะที่กำลังขับรถผ่านทางที่ทั้งคู่นั่งคุยกันอยู่พอดี
เขาหยุดรถและได้แต่มองดูเหตุการณ์ทั้งหมดด้วยความสงสัย
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 58
Comments
LIS
ขำกวิน ฮาจัดเลย😆
2022-06-25
1