...บทที่ 3 : เงาแห่งอาเคนไทล์...
ความลึกของมหาสมุทรในยามค่ำคืน ไม่ได้มีแค่ความมืด
แต่มันเหมือนถูกกักขังในความทรงจำอันหนักหน่วง…
เหมือนทั้งคลื่นและกระแสน้ำ กำลังพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า
"กลับไปไม่ได้แล้ว"
ซีสรา นางเงือกผู้เคยสูงศักดิ์แห่งนครใต้น้ำ
บัดนี้ต้องซ่อนตัวอยู่ในโพรงถ้ำมืดทึบใต้แอ่งน้ำเค็มที่แทบไม่มีสิ่งมีชีวิตใดอยู่อาศัย
เส้นผมของเธอเปียกแนบใบหน้า ใบหน้าอิดโรยจนแทบไม่เหลือเค้าความสง่างาม
แขนข้างหนึ่งโอบรัดลูกแฝดไว้แน่น
อีกมือจิกพื้นหินแน่นขณะหายใจลำบากจากพิษแผลที่ยังไม่หาย
"อีกนิดเดียว... อย่าร้องนะลูก... อีกนิดเดียวแม่จะฝืนได้"
ลูกทั้งสองของเธอ เด็กชายและเด็กหญิง
เกิดมาในค่ำคืนอันนองเลือด กลางพิธีประจาน ที่ควรเป็นจุดจบของเธอ
แต่กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นของอะไรบางอย่างที่แม้แต่เธอยังไม่เข้าใจ
เด็กหญิง ผิวพรายแสงสีฟ้ารอบดวงตา มักจ้องลึกจนซีสรารู้สึกเหมือนถูกอ่านใจ
เด็กชาย เงียบสนิท นอนนิ่งและหายใจเบาเบาราวกับลมหายใจของท้องทะเลที่ใกล้สงบ
วันที่หนึ่งในถ้ำ
ซีสราพบว่าร่างกายของเธอเริ่มติดเชื้อ
เลือดดำซึมออกจากบาดแผลที่สะโพกด้านซ้ายและข้างอก
ทุกครั้งที่เคลื่อนไหว จะรู้สึกเหมือนมีของแหลมจิ้มเข้าไปในกล้ามเนื้อ
เธอต้องกัดฟันฝืนให้นมลูก
แม้ร่างกายจะสั่นด้วยพิษไข้ แต่ดวงตาไม่อาจหลับลงได้เลย
"หากข้าเผลอหลับ... จะมีสิ่งใดมาเอาชีวิตพวกเขาไปไหม..."
วันที่สอง: เสียงแรก
ในยามค่ำคืน ขณะที่ซีสราหลับตาพิงหิน
เสียงแผ่วบางดังขึ้นในความมืดรอบตัว
“แม่... พ่ออยู่ที่ไหน...”
เธอสะดุ้งตื่น
ลูกน้อยทั้งสองยังคงนอนอยู่ในอ้อมแขน ไม่ได้ขยับแม้แต่น้อย
แต่เสียงนั้น... ดังในหัวของเธอชัดเจนเกินจะเป็นความฝัน
“แม่… น้ำรอบถ้ำไม่เหมือนเดิม...”
“มีบางอย่าง... ตื่นขึ้นแล้ว...”
เธอเงยหน้ามองเด็กหญิง
ดวงตาสีเงินยังคงจ้องมองเธอไม่กะพริบ
วันที่สาม: ลมหายใจของท้องทะเล
ลูกชายของเธอเริ่มแสดงอาการผิดปกติ
ซีสราสังเกตเห็นว่าทุกครั้งที่เขาหายใจเข้า... น้ำรอบตัวจะสั่นไหว
เศษหินใต้ถ้ำลอยขึ้นช้า ๆ แล้วกลับลงมา เหมือนเขาควบคุมแรงโน้มถ่วงของน้ำได้โดยไม่รู้ตัว
“ลูก... เจ้ากำลัง... ดึงเวทเข้าตัว?”
เมื่อเธอวางมือบนอกของเด็กชาย
ความเย็นวาบแล่นเข้าร่างกายราวกับน้ำแข็งพันปี
พร้อมกับความรู้สึกแปลกประหลาดเหมือนบางส่วนของเวทมนตร์ในร่างเธอ ถูกดูดออกไป
"พวกเจ้า... ไม่ใช่เงือกธรรมดา..."
"เลือดของเขา เลวาน อยู่ในพวกเจ้า..."
วันที่สี่: ผู้เฝ้ามอง
ถ้ำทั้งถ้ำเริ่มสั่นสะเทือนเบา ๆ
เสียงของปลาทะเลหายไปจนหมด ไม่มีแม้แต่แสงจากปะการังใกล้เคียง
ตอนนั้นเองที่หญิงชราเงือกผู้หนึ่ง ว่ายเข้ามาอย่างเงียบงัน
เธอคือผู้ที่เคยช่วยซีสราหนี แต่ครั้งนี้ ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความกังวล
“ลูกของเจ้า... เริ่มกระตุ้นเส้นเวทในผนังถ้ำ”
“ข้าเฝ้าดูพวกเจ้ามาสามวัน และเงียบไม่ได้อีกแล้ว”
ซีสราเงียบ
เธอรู้ว่าวันนี้ต้องมาถึง
วันที่คำทำนายเริ่มเคลื่อนไหว และลูกของเธอไม่อาจถูกซ่อนไว้อีกต่อไป
คืนที่ห้า: การตัดสินใจ
หญิงชราพูดเสียงแผ่ว
“เด็กชายกลืนเวท... เด็กหญิงสื่อจิต…”
“ข้าคิดว่า...หนึ่งในนั้นคือ แกนเวทใหม่ของทะเล”
“หากพวกเขาเติบโตอย่างไร้การควบคุม... ประตูอาเคนไทล์จะเปิด... และปลุกสิ่งที่ไม่ควรถูกปลุก…”
ซีสราหลับตาแน่น
เสียงของเลวานยังดังก้องในใจ
“เจ้าต้องรอดให้ได้ ซีสรา… ไม่ใช่เพื่อตัวเจ้า… แต่เพื่อลูก…”
เธอมองลูกทั้งสองที่หลับอยู่ในอ้อมแขน
แล้วพูดกับหญิงชราว่า
“หากต้องฝึก…ข้าจะเป็นครูของพวกเขาเอง”
“ข้าจะไม่ยกพวกเขาให้กับผู้ปกครองคนใด ไม่ว่ามาจากเผ่าไหน…”
หญิงชรายิ้มเจื่อน
“เช่นนั้น เจ้าต้องรีบ...ก่อนที่ศัตรูจะตามรอยกลิ่นเวทพวกเขามาถึงที่นี่”
น้ำในถ้ำเริ่มเปลี่ยนสี
คล้ายถูกแต่งแต้มด้วยเงาสีน้ำเงินเข้มปนเทา
กลิ่นแปลกประหลาดลอยคละคลุ้งไม่ใช่กลิ่นเลือด ไม่ใช่กลิ่นตะกอนทะเล แต่มันเหมือน...กลิ่นของความเก่าแก่และเวทมนตร์ดึกดำบรรพ์
"ข้ารู้สึกถึงมันแล้ว..."
เสียงหญิงชรากระซิบขณะจับพื้นถ้ำแน่น
"พลังของเขา...เด็กชาย...กำลังเชื่อมกับประตูนั่น"
วันแรกของการฝึก
ซีสรานั่งนิ่ง กัดฟันฝืนแม้แผลยังไม่หาย
เธอผูกหินเวทเล็ก ๆ ไว้ตรงกลางโพรงถ้ำ แล้ววางลูกทั้งสองให้นั่งห่างกันโดยมีเธออยู่ตรงกลาง
“ลูก...พวกเจ้าต้องเรียนรู้ที่จะควบคุม…”
“ไม่ใช่เพื่อโลกนี้…แต่เพื่อชีวิตของพวกเจ้าเอง”
เด็กหญิงขมวดคิ้วแต่ยังฟังเงียบ ๆ
เด็กชายยังคงไม่พูด แต่จ้องมือของตนราวกับพลังจะทะลักออกได้ทุกเมื่อ
ซีสราเริ่มต้นด้วยคำภาวนาโบราณที่เธอเคยเรียนจากตำราในราชสำนัก
เมื่อเสียงบทสวดจบ หินเวทกลางถ้ำส่องแสงสีคราม…แต่ไม่ใช่แสงธรรมดา
แสงนั้นย้อนสะท้อนใบหน้าของเด็กหญิง
และเกิดรอยลายเวทโบราณขึ้นรอบเบ้าตาเธออย่างช้า ๆ
ซีสราถึงกับกลั้นลมหายใจ...
คำทำนายเก่าฟื้นคืน
“ลายเวทนั้น...ข้าเคยเห็นมัน…”
หญิงชราพึมพำ
“มันเป็นของเผ่าผู้เฝ้าอาเคนไทล์…ซึ่งควรสูญสิ้นไปพันปีแล้ว”
เด็กหญิงไม่ได้ยิน
เธอกำลังล่องลอยไปในภวังค์
แววตาไร้สติ น้ำรอบตัวกลายเป็นม่านเงา ทะเลทั้งทะเลเหมือนหยุดหายใจ
และทันใดนั้น…เธอพูดขึ้นเสียงแผ่วเบา
“...พ่อ…อยู่หลังประตูนั้น…”
“เขารอ…แต่เขาถูกพันธนาการ…”
ซีสราหนาวเยือก
เธอไม่เคยพูดถึงเลวานให้ลูกฟัง
ไม่มีแม้แต่คำเดียวที่อธิบายว่าเขาตายไปอย่างไร
"ลูกเห็นอะไร…" ซีสราถามเสียงสั่น
"บอกแม่ที"
เด็กหญิงเงยหน้าขึ้น
“ประตูกำลังแตก...โลกใหม่จะถูกคลอด...แต่เลือดของแม่ต้องไหลเสียก่อน...”
เด็กชายผู้กลืนเวท
ในเวลาเดียวกัน เด็กชายซึ่งนั่งนิ่งมาตลอด เริ่มกรีดร้อง
เสียงของเขาไม่ใช่แค่เสียง
มันคือแรงสั่นสะเทือนที่กระแทกหินรอบถ้ำกระจายเป็นฝุ่น
พื้นถ้ำสะเทือนเวทมนตร์รอบตัวเหมือนถูกดึงเข้าไปในอกของเขา
“ไม่! เจ้าต้องหยุด”
ซีสรารีบว่ายเข้าไปกอด แต่ช้าไปนิดเดียว
พลังระเบิดรอบตัวเด็กชายเป็นวงแหวน
หญิงชราถูกผลักกระเด็นออกนอกถ้ำ
ซีสราเองก็ถูกผลักกระแทกกับผนังด้านหลังจนเลือดซึมออกจากบาดแผลเก่า
“เขาดูดเวทจากทุกสิ่งรอบตัว แม้แต่เวทป้องกันถ้ำ!” หญิงชราตะโกน
“เด็กคนนี้...อาจไม่ใช่ผู้เปลี่ยนสมดุลอย่างเดียว…เขาอาจเป็นผู้ทำลายมัน!”
ร่างกายที่เติบโตเกินวัย
หลังการระเบิดครั้งนั้น
ซีสราสังเกตเห็นสิ่งแปลกประหลาดเกิดขึ้นกับลูกของเธอทั้งสอง
ผิวของเด็กหญิงเริ่มเกิดเกล็ดเงินจาง ๆ รอบไหล่
ผมของเธอยาวขึ้นราวกับผ่านเวลาหลายเดือนในคืนเดียว
ส่วนเด็กชาย...กระดูกขยายช้า ๆ
โครงหน้าเริ่มเปลี่ยน
จากทารกสู่รูปร่างเด็กวัย 3 ขวบในเวลาเพียงสองวัน
“ไม่...นี่เร็วเกินไป...พวกเขาจะทนไม่ไหว…”
ซีสราพึมพำ พร้อมน้ำตาเอ่อขอบตา
หญิงชราเงียบไปนาน ก่อนเอ่ยว่า
“เลือดของเผ่าเงือกผสมกับมนุษย์กึ่งเวท...มันเร่งเวลา...เพราะพวกเขาไม่ได้เกิดมาภายใต้โลกนี้เพียงมิติเดียว”
สุดทางของความลับ
ซีสรานั่งโอบกอดลูกทั้งสองแน่นในค่ำคืนนั้น
เธอรู้...การหลบซ่อนคงมีได้ไม่นาน
เสียงแว่วของพลังเวทจากภายนอกเริ่มดังขึ้นในรัศมีถ้ำ
หญิงชราตั้งเวรเงียบๆ ด้วยเวทเงาสะท้อน
แต่แม้แต่เธอก็ยังพูดเบาๆ ว่า
“พวกมันมาแล้ว…”
ซีสราต้องตัดสินใจ
จะหลบต่อไปและเสี่ยงให้ลูกถูกไล่ล่าจนไม่เหลือหนทาง?
หรือจะเริ่ม “เปิดทาง” ไปยังผู้เฝ้าเวทที่ยังคงภักดีต่อคำทำนาย
เธอก้มมองลูกทั้งสองที่กอดเธอแน่น
แล้วพึมพำ
“ข้าจะไม่หนีอีกต่อไป...”
“หากโลกจะเปลี่ยน...ให้มันเริ่มจากข้าเอง”
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments