สนมวังหลัง
สายลมฤดูใบไม้ร่วงพัดแผ่ว กลีบดอกเหมยสีชมพูอ่อนโปรยปรายจากกิ่งสูง ลอยคว้างกลางอากาศก่อนตกแต่งพื้นศิลาอย่างนุ่มนวล กลิ่นดอกเหมยเจือจางผสมกลิ่นกำยานหอมจากท้องพระโรง บรรยากาศช่างงดงามราวภาพวาด แต่กลับอบอวลด้วยความตึงเครียดที่ไม่อาจปฏิเสธได้
ลานหยกขาวด้านหน้าท้องพระโรงใหญ่เต็มไปด้วยบุตรสาวตระกูลสูงศักดิ์และเศรษฐีผู้มั่งคั่ง พวกนางแต่งกายงามล้ำราวดอกไม้แรกแย้ม แต่ในแววตาแฝงความหวังและความกลัวปะปนกัน ต่างยืนเรียงแถวอย่างสงบตามคำสั่งขันที แต่ภายในใจต่างเดือดพล่านด้วยความคาดหวัง — เพราะในวันนี้ ชีวิตของพวกนางอาจเปลี่ยนไปตลอดกาล
เสียงกลองโบราณดังขึ้น “ตึง! ตึง! ตึง!” ก้องสะท้อนทั่วลาน เสียงนั้นหนักแน่นราวตอกย้ำให้ทุกคนตระหนักว่านับจากนี้จะไม่มีทางถอยกลับ
ขันทีใหญ่ผู้มีร่างผอมสูง ใบหน้าเคร่งขรึม และเสียงแหลมราวใบมีดกล่าวประกาศด้วยน้ำเสียงชัดเจน
> “วันนี้เป็นวันคัดเลือกสนมเข้าสู่ตำหนักวังหลัง เพื่อถวายรับใช้ใต้หล้าและองค์จักรพรรดิ ผู้ที่ผ่านสายตาฮองเฮาและผู้ตรวจการจะได้รับเกียรติสูงสุด ก้าวเข้าสู่ตำหนักหยกทอง”
หลินอวี่เฟย ยืนอยู่แถวท้ายสุดอย่างเงียบสงบ เธอสวมชุดกี่เพ้าสีขาวงาช้างปักลายดอกเหมยแดง ฝีปักละเอียดประณีตราวงานศิลป์ เส้นผมดำขลับถูกรวบด้วยปิ่นหยก เรียบง่ายแต่สง่างาม ริมฝีปากแดงเรื่อ และนัยน์ตาดำสนิทแฝงประกายดื้อรั้น
อวี่เฟยมิได้มาที่นี่เพราะใฝ่ฝันในเกียรติยศหรือความรักจากจักรพรรดิ แต่เพราะคำสั่งจากตระกูลหลิน — คำสั่งที่ไม่อาจปฏิเสธ
> “เฟยเอ๋อร์ เจ้าจงจำไว้ โอกาสครั้งนี้คือวิถีแห่งการยกระดับตระกูลของเรา ไม่ว่าจะยากเพียงใด เจ้าต้องก้าวเข้าไปให้ได้”
เสียงของบิดายังดังก้องในห้วงความคิด น้ำเสียงนั้นเย็นเยียบจนไม่อาจขัดขืน
ขันทีเดินตรวจทีละคน แววตาของเขากวาดผ่านใบหน้าหญิงสาวราวกับชั่งตวงคุณค่าของสินค้าล้ำค่า บางคนเพียงเหลือบมองก็ส่ายหน้าอย่างไม่ไยดี บางคนให้ผ่านด้วยรอยยิ้มเสแสร้งปนความประจบ
เมื่อมาถึงอวี่เฟย สายตาคมกริบของขันทีหยุดอยู่ที่ใบหน้าของนางครู่หนึ่ง ก่อนแววตานั้นจะเปลี่ยนเป็นความพึงพอใจ เขาโน้มตัวกระซิบกับขันทีอีกคน เสียงเบาจนแทบไม่ได้ยิน
> “นางงามเกินกว่าจะปล่อยไป”
อวี่เฟยได้ยินชัดทุกคำ แต่เพียงยิ้มบาง ๆ ราวน้ำแข็งไม่ละลาย ด้านนอกสงบนิ่ง ทว่าภายในกลับเตรียมพร้อมรับมือกับทุกสิ่ง
การคัดเลือกสิ้นสุดลงในยามสาย หญิงสาวที่ผ่านการคัดเลือกถูกนำเข้าสู่ตำหนักหยกทอง เสียงประตูบานใหญ่ที่ปิดตามหลังดังก้องราวตราประทับชะตาชีวิต
อวี่เฟยก้าวผ่านระเบียงยาวที่ปูด้วยหินหยก กลิ่นกำยานหอมอ่อนลอยปะปนกับกลิ่นชาดจากสวนหลวง เสียงฝีเท้าสนมเก่าในวังแว่วเบาตามทาง แฝงสายตาประเมินและความอยากรู้อยากเห็น
เธอรู้ดีว่าทุกย่างก้าวนับจากนี้มิใช่เพียงการอยู่รอด แต่เป็นการต่อสู้ที่เดิมพันด้วยชีวิต เกียรติยศ และหัวใจ
และหลินอวี่เฟย… ไม่มีสิทธิ์พ่ายแพ้
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 40
Comments