บทที่ II

สวนหลังปราสาทรัตติกาลกลับสู่ความเงียบสงบอีกครั้งหลังเสียงคำรามของพลังทำลายล้างจางหายไปในอากาศ เศษซากของต้นไม้และรูปปั้นที่แหลกสลายยังคงทิ้งร่องรอยของพลังบ้าคลั่งที่ระเบิดออกจากร่างวาร์นเมื่อครู่

ลอร์ดไวร์เวนยังคงก้าวเท้าหนักแน่นตรงไปเรื่อย ๆ ไม่พูดไม่จากับลูกสาว

เธออึดอัดใจเลยถามออกไป“ข้าจะตายใช่ไหม?”ด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาฟังดูแลจะหมดแรงเหลือเกิน มือเล็ก ๆ ยังคงสั่นไหวไม่หยุด เช่นเดียวกับลมหายใจที่ติดขัดในอก ความรู้สึกกลัวเกาะกุมแน่นราวกับเงามืดที่คลืบคลานมาจากความลึกของจิตใจมันชื่อของใครอีกคนที่อาศัยอยู่ในร่างนี้ ดวงจิตของเธอยังอ่อนเยาว์ แต่ความคิดนั้นลึกล้ำเกินกว่าสิ่งที่เด็กธรรมดาควรแบกรับได้ จะพยายามควบคุมทุกอย่างที่พลุ่งพล่านอยู่ภายในแต่เปล่าประโยชน์ พายุที่ถูกกักไว้ในร่างกายเล็กจ้อย ที่แม้แต่เสียงกระซิบก็อาจปลดปล่อยคลื่นความรู้สึกทั้งหมดให้ทะลักออกมา

เด็กหญิงเม้มริมฝีปากแน่น นิ้วมือขยุ้มชายผ้าคลุมจนยับยู่ยี่ หยาดเหงื่อไหลซึมเหนือขมับแม้อากาศเย็น

ลอร์ดไวร์เวนมองดวงหน้าของลูกสาวอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะย่อกายลงให้อยู่ในระดับสายตา น้ำเสียงของเขานุ่มราวหมอกในยามรุ่ง “พลังในตัวเจ้า…มันไม่ได้ปรานีผู้ถือครอง” เขาหยุด มือใหญ่เอื้อมแตะหลังมือของเธอเบา ๆ “เจ้าต้องตั้งมั่น ฝึกหัวใจให้แน่วแน่ มันต้องใช้เวลา…”

วาร์นกลืนน้ำลาย ฝ่ามือที่กำแน่นเริ่มคลายออก เสียงที่เปล่งออกแทบเป็นเสียงกระซิบ “แล้วข้าต้อง… ทำอย่างไร ถึงจะควบคุมมันได้?”

เขาไม่ตอบในทันที ดวงตาคู่นั้นหม่นลึกคล้ายรอยแผลเก่าที่ไม่มีวันสมาน “เมื่อเจ้าอ่อนแอและลังเลกับทุกสิ่ง มันจะโถมเข้าหา คำรามและกัดกิน… เรื่องแบบนี้ข้าทำแทนไม่ได้ เจ้าต้องทำ…หากปฏิเสธและปล่อยผ่าน เจ้าจะเจ็บปวดจนลืมว่าตนเคยเป็นใคร”

วาร์นไม่ขยับริมฝีปากไม่แม้แต่คล้ายจะเอื้อนเอ่ย เสียงของเขาก้องในหัวราวกับคำพยากรณ์จากดินแดนที่ไกลเกินหยั่งถึงได้สื่อสาร ที่ตรงนั้นเมื่อครู่อาจยังเป็นสวนเขียวชอุ่ม แต่เธอกลับมองเห็นเศษซากและเถ้าธุลีปกคลุมผืนหญ้า ความจริงปรากฏขึ้นกลางความเงียบ พลังนั้นสามารถเปลี่ยนโลกให้อัปร้าได้เพียงชั่วลมหายใจ

ณ ภายในปราสาท

ลอร์ดไวร์เวนเพียงพยักหน้าให้สาวใช้ก่อนจะจากไปโดยไม่เอ่ยวาจา สตรีนามคียาน่าห์

เธอก้าวเข้ามาเงียบ ๆ แล้ววางผ้าและขวดแก้วลงบนขอบอ่าง แล้วโน้มกายปลดตะขอที่หลังชุดเดรสของวาร์นด้วยความระมัดระวัง

ผืนผ้าไหลร่วงจากบ่าบอบบางเผยผิวขาวใต้แสงตะเกียง ทว่าตรงแนวแขนและสีข้างกลับมีเส้นสายสีคล้ำพาดผ่าน เส้นเลือดบิดเบี้ยวสีดำปูดนูนราวอสรพิษหลับใหลใต้ผิวหนัง

วาร์นเบิกตากว้างราวกับถูกปลุกให้ตื่นจากฝัน หัวใจรัวในอกจนแทบหลุดลอย เธอรีบกระโจนลงอ่างน้ำ เสียงน้ำกระเพื่อมดังไปทั่วห้อง

“เจ้าขัดหลังให้ข้า… บัดนี้!”น้ำเสียงหนักแน่นคล้ายสายฟ้าที่ตวัดผ่านเมฆหมอก

“รับทราบเจ้าค่ะ คุณหนู” คียาน่าห์โค้งศีรษะน้อย ๆ มือเรียวคว้าฟองน้ำกับสบู่หอมที่เตรียมไว้ พลางเอ่ยเสียงอ่อน “วันนี้จะเลือกกลิ่นไหนเจ้าคะ ระหว่างกลิ่นผลไม้สุก หรือดอกไม้จากทุ่งใต้”

เธอหันหัวไปมองทันที ริมฝีปากเม้มแน่น “อย่างใดก็ไม่”

คียาน่าห์ไม่ได้ถามซ้ำ เพียงพยักหน้าช้า ๆ ขณะวางขวดเครื่องหอมลงอ่าง เธอย่อกายลงข้างอ่าง เอื้อมมือแตะผิวน้ำเพื่อวัดอุณหภูมิ แล้วเอ่ยอย่างแผ่วเบา “คุณหนูอย่าเกร่งไปเลยเจ้าคะ ยิ่งถ้ากดรอยไว้มันจะไม่หายนะเจ้าค่ะ”

วาร์นหันมองหญิงรับใช้โดยฉับพลัน แววตาวาวโรจน์ปะทะกับความสงบนัยน์ตาอีกฝ่าย “อย่างนั้นหรือ!” เสียงนั้นทะลักออกมาจากลำคอเด็กหญิง เครือเบาในตอนท้ายเหมือนกลั้นไว้ไม่อยู่ ขณะดวงตาเบิกกว้างและลมหายใจขาดช่วง เธอไม่ได้ตั้งใจให้มันฟังดูดุดัน มันเป็นเพราะเสียงเงียบในห้องถูกแทนที่ด้วยเสียงในใจที่ไม่ใช่ของเธอ แต่ของอีกคนหนึ่ง เธอไม่ต้องเพ่ง ไม่ต้องปั้นสมาธิ… มันดังขึ้นมาเอง ชัดเจนเหมือนคำกระซิบข้างหู

‘คุณหนูเปลี่ยนไปจริง ๆ ด้วย… ท่านลอร์ดไวร์เวนพูดถูก’

วาร์นมองคียาน่าห์ที่กำลังก้มหน้าขัดแขนเธอด้วยความเบามือ เธอไม่รู้แน่ชัดว่าคียาน่าห์ได้ยินอะไรมาและไม่รู้ว่าคำพูดแบบไหนกันที่ลอร์ดไวร์เวนฝากไว้กับหญิงผู้นี้… แต่ดูจากแววตาที่คียาน่าห์แอบปรายมองมายังเธอแล้ว มันไม่น่าจะเป็นเรื่องเลวร้ายนัก

“เสร็จแล้วเจ้าค่ะ”

ณ ห้องบรรทม

“สบายตัวดีจัง” เธอพึมพำ ขณะทิ้งน้ำหนักลงบนเตียงนุ่มแผ่ว ดวงตาพริ้มหลับชั่วครู่ก่อนจะเบือนมองเพดานเหนือศีรษะ

แรงกดที่บีบแน่นอยู่ในอกเหมือนถูกปลดปล่อยออกบางส่วน ทว่าความเบานั้นยังไม่อาจพาร่างไปสู่ห้วงนิทราได้โดยสมบูรณ์ สมองยังคงวนเวียนอยู่กับคำถามเดิม ๆ เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ซึ่งไม่ยอมปล่อยให้ใจได้พัก

เธอหลับตาลง ฝืนต้านเสียงคิดที่ไหลกลับมาเป็นสาย กระแสความคิดปะปนกับความเหนื่อยอ่อน และในที่สุด…ทุกอย่างกลืนหายไปกับความมืด

ท่ามกลางความมืดสนิทที่ไม่อาจเห็นสิ่งใด กลับมีบางอย่างเรืองแสงขึ้นจาง ๆ จากเบื้องลึก “ฉันกลับมาแล้ว?” เธอกระพริบตา สำรวจแขนและมืออย่างรวดเร็ว ความรู้สึกดีใจเกิดขึ้นมาทันที ‘นี่มันมือของฉัน… ฉันไม่ได้หลุดเข้าไปในนิยายจริง ๆ สินะ มันเป็นเพียงความฝัน’แต่ยังไม่ทันที่สติจะสงบลง เสียงในหัวก็ดังขึ้นอีกครั้งเหมือนมีใครผลักเธอกลับเข้าไปในวังวนเดิม

‘อะไรอีกล่ะเนี่ย?! คิดว่ากลับโลกตัวเองแล้วซะอีก! ห้องบรรทมของวาร์นนี้นา!\~นึกว่าตัวเองฝันไป’ เธอมองรอบกายอีกทียังอยู่ในโลกนิยายเหมือนเดิม แต่ร่างกายนี้เป็นของแอนนา

เอ๊ะ! มันยังไงกันแน่เนี้ย!’เธอหันไปมองที่เตียงนอนและพบว่าเด็กสาวผมดำน่ารักราวตุ๊กตากำลังหลับอยู่

มันหมายความว่าไงกัน?

แอนนาเริ่มรู้สึกวิงเวียน… ความสับสนถาโถมเข้าใส่เหมือนคลื่นลมในคืนฝนห่า หัวใจของเธอเต้นแรง

นี่ไม่ใช่ภาพลวงตา ไม่ใช่ฝันร้ายที่ตามหลอกหลอน แอนนารู้ในตอนนี้ว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริง… แต่อย่างน้อยก็เป็นบางสิ่งที่เชื่อมโยงกับ “วาร์น” ความคิดของเธอลอยย้อนกลับไปยังเรื่องที่เขียนไว้ในตอนที่กำลังเขียนนิยายเล่มนี้… ตอนที่เด็กหญิงกำลังฝันร้าย ฝันที่ได้พบกับตัวเองอีกคนหนึ่ง แต่ครั้งนี้มันไม่ใช่ฝันของวาร์น แต่เป็นแอนนา ที่หลุดออกจากร่าง เผชิญหน้ากับร่างเด็กหญิงที่เหมือนจะคอยรอเธออยู่ตรงกลางระหว่างมิติแห่งความจริงกับสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง

เธอเริ่มตั้งคำถามกับสัญชาตญาณที่พลุ่งพล่านในอก… บางที มันไม่ใช่แค่เรื่องบังเอิญ สกิ่งที่เกิดขึ้นมันต้องมีทางออกกลับคืนสู่มิติเดิม โลกเดิมที่แอนนาจากมา!

ภาพวาดเด็กหญิงเรืองแสงและค่อยๆกลายเป็นดั่งกระแสน้ำ เผยให้เห็น…แอนนาตัวจริงผ่านรูปภาพ เธอนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ในห้องทำงานในโลกแห่งความเป็นจริง พิมพ์ประโยคสุดท้ายของบทสุดท้ายในนิยายเรื่อง Shadow Queen

เอ๊ะ!

แอนนาเบิกตากว้างเป็นประกายราวกับว่าเพิ่งผุดความคิดดี ๆ ขึ้นมาในหัว เธอตีฝ่ามือลงกับกำปั้นเบา ๆ อย่างคนที่เพิ่งปะติดปะต่อเรื่องราวได้

‘อ่อ\~ เป็นไปได้ว่า โลกอีกมิติที่มีฉันอีกคนกำลังสบายดีและทำประจำวันเหมือนอย่างเคย แล้วฉันที่อยู่โลกนี้…คือตัวอะไรอ่ะ?’ความคิดนั้นแล่นวาบผ่านสติ เธอชะงักไปชั่วขณะ… ความเยือกเย็นเล็กน้อยแผ่ซ่านไปตามแนวกระดูกสันหลัง มันไม่ใช่แค่คำถามธรรมดา เธอหนุมานว่าพลังของวาร์นที่แต่งในนิยายเชื่อมโยงกับความว่างเปล่า ไม่มีแม้ชื่อเรียก เว้นว่างไว้ในผู้อ่านได้คิดเอง ทั้งที่ตอนนั้นเธอยังไม่เข้าใจเลยว่าจะเขียนออกมายังไง แต่ตอนนี้แอนนาเริ่มเดาและติดปะต่อเรื่องได้แล้ว!

จู่ ๆ… แอนนาก็รู้สึกได้ถึงแรงบางอย่างที่มองไม่เห็น และอัดบีบร่างกายแน่นราวกับจะบดเป็นชิ้นๆ

“อ๊ากกกกกกกก ช่วยด้วย !!!!!”

เสียงกรีดร้องหลุดออกมาจากลำคอโดยไม่ทันคิด ร่างของเธอถูกแรงนั้นตวัดคว้า… รอบตัวพลันบิดเบี้ยว พื้นดิน ท้องฟ้า จักรวาล ทั้งหมดพังทลายกลายเป็นภาพเลือนลาง

เธอถูกแรงลึกลับกระชากกลับไปยังโลกนิยายเป็นฝันร้าย และในเสี้ยววินาทีก่อนสติจะดับลง… เธอก็สัมผัสได้ถึงบางสิ่งที่รออยู่ ณ อีกฟากหนึ่ง

“ให้ตายเถอะ… แอนนา!!”ทันทีที่สายตาเหลือบไปเห็นมือที่เรียวเล็ก หัวใจของเธอก็ร่วงวูบลงไปในเหวความฝันที่ไม่อยากยอมรับ เธอกลับมาแล้ว ในร่างของ “ทรราชน้อยแห่งรัตติกาล”

แสงจันทร์เย็นเฉียบยังคงสาดส่องผ่านหน้าต่างบานใหญ่เหมือนเคย เงาของม่านบางพลิ้วไหวยามต้องลมราตรี ทุกอย่างเหมือนเดิม… น่าขนลุกจนเธอแทบไม่กล้าลุกจากเตียง

เสียงเหมือนคนกระซิบเล็ดลอดผ่านรอยแยกขอบของบานหน้าต่าง แผ่วเบาราวกับคลื่นลมคุยกัน มือของเธอคลำหาขอบเตียง ขณะที่ปลายเท้าเปลือยเปล่าแตะกับพื้นหินเย็นเฉียบ กล้ามเนื้อเกร็งน้อย ๆ แต่ไม่มีใดเหนี่ยวรั้งเธอให้อยู่กับที่

ร่างบางเคลื่อนไหวในความมืดราวกับเป็นเงาของตัวเอง หยุดที่หน้าต่างบานใหญ่ ผ้าม่านโปร่งบางพลิ้วไหวเบา ๆ เมื่อเธอสอดมือแหวกออก

เบื้องล่าง…

ม่านหมอกสีเงินของแสงจันทร์ ณ สวนรัตติกาลทอดตัวยาวไกลไปจรดริมทะเลสาบ

เงาร่างใครยืนอยู่

แผ่นหลังสูงสง่าภายใต้เสื้อคลุมกำลังจ้องลงไปในผืนน้ำที่สะท้อนเงาจันทร์ เขาไม่ได้อยู่คนเดียวตามลำพัง มีชายร่างสูงคนหนึ่งยืนอยู่เบื้องหน้าเขา

วาร์นแนบร่างกับแนวหินเย็นเฉียบของกำแพง ปลายนิ้วเกี่ยวชายเสื้อคลุมให้แน่น ไม่ให้มันปลิวสะบัดยามเธอเลื่อนตัวลง เงาของปราสาททอดยาวลงมายังพุ่มไม้เบื้องล่าง เธอกะระยะเท้า แล้วปล่อยตัวลงอย่างเงียบ ฝ่าเท้าสัมผัสกับพื้นหญ้านุ่มชื้น ก้อนหินบนทางเดินสัมผัสดั่งหิมะ เธอก้าวยาวไปข้างหน้าเหมือนแคทเวอแมนที่ซ่อนกรงเล็บ และเมื่อลมยามค่ำคืนหอบกลิ่นดินป่าผ่านร่องพุ่มไม้ วาร์นก็หยุด เธอแนบแผ่นหลังกับแนวพุ่มไม้ ใบไม้เย็นชื้นสัมผัสแก้ม ทำให้ได้ยินเสียงแว่วเข้าหู

เธอเม้มริมฝีปากแน่น ลมหายใจกลั้นค้างขณะเธอแอบฟังบทสนทนา

“ลูกสาวของข้า… จะมีอายุครบ 11 ในวันพรุ่งนี้ ข้าอยากให้เจ้าช่วย”ลอร์ดไวร์เวนพูด

ชายในเงามืดถาม “ข้าจะช่วยอย่างไร?”

“สอนนาง… สอนให้นางควบคุมพลังของตัวเอง ข้ารู้ว่าพลังของนางมันไม่ใช่สิ่งที่สิ่งที่จะสอนง่าย ๆ และหากไม่ใช่เจ้า… ก็ไม่มีใครสามารถสอนนางได้”

อีกฝ่ายเงียบไปพักหนึ่ง ก่อนกล่าวด้วยน้ำเสียงนิ่งเฉียบ “ข้าเข้าใจแล้ว”

“ข้าขอฝากเจ้าด้วย”

ในห้วงลมหายใจถัดไป…

กร็อบ!

เสียงกิ่งไม้แห้งหักใต้ฝ่าเท้าแทรกผ่านความเงียบของยามค่ำคืนดังราวกับสายฟ้าแลบกลางเวหา

ทั้งสองชายหยุดชะงักแทบพร้อมกัน เงาสลัวจากตะเกียงในมือส่องไปยังพุ่มไม้ที่ไหวแผ่วเพียงน้อย แต่กลับดึงสายตาให้หันขวับในจังหวะเดียว

“เจ้าได้อะไรยินไหม มีคนอยู่ตรงนั้น…” ชายผู้หนึ่งขยับเท้าอย่างระวัง มือเลื่อนไปแตะแนบด้ามดาบที่เหน็บไว้ข้างเอว นิ้วเคลื่อนไปจับตัวฝักอย่างเคยชิน สายตากวาดมองอย่างเร่งเร้า

ในความมืดหลังพุ่มไม้ วาร์นเม้มปากแน่น ฝ่ามือเธอเย็นเยียบ ฝ่าเท้าราวถูกตรึงไว้กับพื้น ร่างแนบอยู่กับเงาของต้นไม้เก่าแก่ เธอถอยออกทีละน้อย ลมหายใจสั้นติดอยู่ในลำคอ หัวใจกระแทกอกดังจนเธอแน่ใจว่ามันจะทำให้เธอถูกพบเห็น

แค่กิ่งไม้… แค่กิ่งไม้ที่หักเพราะเท้าของฉันเอง!

“คงเป็นแอราเซ็นธ์”ลอร์ดไวร์เวนว่าเบาๆ ดวงตาคมหลุบต่ำลง พิจารณาความเงียบงันที่ตอบกลับมาแทนคำอธิบาย ก่อนที่เขาจะผ่อนลมหายใจในปอดและละสายตาจากเงานั้นอย่างแสร้งไม่ใส่ใจ

ความเงียบไหลย้อนกลับเข้ามาอีกครั้งเหมือนม่านหมอก ทั้งสองยังคงยืนอยู่อย่างชั่งใจชั่วครู่ ก่อนชายคนนั้นจะเป็นฝ่ายผละคำพูดทิ้งไว้ให้ลอยอยู่ในอากาศ

“ไว้เรื่องนี้ข้าจะแจ้งให้ทราบรุ่งเช้า”

ลอร์ดไวร์เวนพยักหน้าเบา ๆ ราวกับไม่ใส่ใจ แต่ก็เดินจากไปในทันที เสียงฝีเท้าทั้งสองห่างออกไปเรื่อย ๆ จนเลือนลงในราตรี

วาร์นยังคงนิ่ง เงาของต้นไม้อำพรางร่างให้กลืนหายไปกับความมืด ร่างเธอไม่ไหวติง ทว่าในอกเต้นรัวจนแน่นตื้อในหู เธอแน่ใจว่าเสียงหัวใจตนเองน่าจะดังพอให้ใครต่อใครได้ยิน

จากทิศอีกด้าน เสียงฝีเท้าใหม่เริ่มดังใกล้เข้ามา หนักแน่น! ช้า! และสม่ำเสมอ… เป็นของท่านลอร์ดไวร์เวนหรืออาจเป็นใครบางคนที่เธอไม่ควรพบเจอในยามค่ำคืนอันสงัดนี้ 

แอ๊ด…

บานประตูถูกเปิดออกช้า ๆ สะท้อนก้องในห้องเงียบสงัด ก่อนจะตามมาด้วยฝีเท้าหนักแน่นที่กระทบพื้นกระเบื้องเป็นจังหวะมั่นคง

วาร์นหลับตาอยู่บนเตียงแต่ทุกประสาทสัมผัสกลับตื่นรับรู้ มืออุ่นวางลงบนศีรษะของเธอ ลูบอย่างแผ่วเบา คล้ายปลายนิ้วที่รู้จักความเหนื่อยล้าของหัวใจเธอเป็นอย่างดี ไม่มีเสียงใดเอื้อนเอ่ย มีเพียงลมหายใจที่อุ่นจัดลดรินอยู่ตรงหลังใบหู

แขนนั้นโอบเธอไว้แน่น ในอ้อมกอดเต็มไปด้วยกลิ่นอายที่คุ้นเคย กลิ่นเย็นสะอาดปนกลิ่นดอกไม้ที่ลอยขึ้นมากระทบปลายจมูกอย่างอ่อนโยน

คียาน่าห์!

ร่างสูงเอนลงข้างเธอบนเตียงอย่างเงียบ ๆ แขนหนึ่งยังคงกอดเธอไว้ราวกับจะขับไล่ฝันร้ายทั้งหมดให้สลายไปในคืนนี้ ความอบอุ่นแผ่ซ่านจากอกของเธอสู่แผ่นหลังของวาร์น

เลือกตอน
เลือกตอน

อัพเดทถึงตอนที่ 4

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!