บทที่ 2

เสียงนาฬิกาแขวนผนังในออฟฟิศเดินไปถึงเลขแปดครึ่งพอดี

ธีธัชลุกขึ้นจากโต๊ะ หยิบโน้ตบุ๊กและปากกาขนนกที่เขาใช้เป็น pointer ออกมาพร้อมแฟ้มเอกสารบางๆ

ก้าวเดินของเขานิ่งสงบและมั่นคง

เหมือนทุกก้าวถูกวางเอาไว้อย่างเป็นจังหวะ…

ไม่มีรีบร้อน ไม่มีลังเล

...—...

ทางเดินยาวในคณะศิลปกรรมศาสตร์เงียบสงบ

แต่ในบางมุมก็มีเสียงหัวเราะของนักศึกษาเล็ดลอดออกมาบ้างจากห้องเรียนอื่น

ธีธัชเดินผ่านไปโดยไม่หันมอง

สายตาจับอยู่ที่ปลายทาง…ห้องเรียนหมายเลข 306

เมื่อผลักประตูห้องเข้าไป

บรรยากาศภายในค่อนข้างเงียบ

นักศึกษาบางส่วนมาถึงก่อนแล้ว และบางส่วนก็กำลังหยิบอุปกรณ์ศิลปะขึ้นมาวางบนโต๊ะ

มีนักศึกษาเพียงสิบกว่าคนในคลาส

ไม่เยอะ แต่ก็ไม่ถึงกับน้อย

เหมาะกับการเรียนวิชาทัศนศิลป์แบบลงมือทำที่ต้องใช้พื้นที่และสมาธิ

ธีธัชเดินตรงไปยังโต๊ะอาจารย์

วางโน้ตบุ๊กลงเบาๆ ตามด้วยแฟ้ม และปากกาขนนกสีดำ

มือเรียวของเขาจัดวางทุกอย่างอย่างเป็นระเบียบ…

เหมือนกับนิสัยเจ้าตัวที่ไม่ชอบความวุ่นวายเลยสักนิด

“อรุณสวัสดิ์ครับนักศึกษาทุกคน”

เสียงของเขานุ่มแต่ชัดเจนนักศึกษาหยุดคุยกันแล้วหันมาสนใจ

“วันนี้เราจะเรียนเรื่องการใช้แสงและเงาในภาพวาด โดยเฉพาะการกำหนดทิศทางของแสงให้สัมพันธ์กับวัตถุ…”

เขาเริ่มสอนด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ แต่ฟังง่ายมือข้างหนึ่งลาก pointer ไปบนสไลด์

ห้องเรียนทั้งห้องนิ่งสนิท มีเพียงเสียงของธีธัชที่ไหลผ่านหูของนักศึกษาทุกคน

...—...

เวลาเลยไปกว่าครึ่งคาบประตูห้องเรียนถูกเปิดออกช้าๆ

เสียงบานพับแผ่วเบา

ทุกคนหันไปตามเสียงนั้นรวมถึงธีธัช

ร่างของนักศึกษาชายร่างสูงโปร่งก้าวเข้ามาช้าๆ

แม้เขาจะสวมแมสก์ไว้ แต่ผิวครึ่งหนึ่งของใบหน้าก็ยังเผยให้เห็นรอยปานคล้ายแผลที่ลากยาวตั้งแต่โหนกแก้มจรดข้างคิ้ว

ดวงตาของเขาดูนิ่งไม่หลบหลีก…แต่ก็ไม่กล้าเผชิญตรงๆ

เด็กคนนั้นชื่อ รัญ

ธีธัชมองเพียงแวบเดียว

ก่อนจะเบือนหน้ากลับไปยังหน้าจอโดยไม่เอ่ยตำหนิใดๆ

เขาเพียงพูดด้วยน้ำเสียงปกติ

“หาที่นั่งได้เลยครับ"

รัญพยักหน้าเบาๆ และเดินไปยังที่นั่งด้านหลังสุด

นั่งลงเงียบๆ ก่อนจะหยิบสมุดกับดินสอขึ้นมาอย่างเงอะงะ

ไม่มีใครหัวเราะ ไม่มีใครซุบซิบเพราะธีธัชไม่ใช่อาจารย์ที่ปล่อยให้บรรยากาศคลาสวุ่นวาย

และเพราะแววตาที่เขาใช้มองรัญมันไม่มีคำว่า ตัดสิน อยู่เลยแม้แต่นิดเดียว

...—...

การสอนดำเนินไปจนกระทั่งเสียงนาฬิกาเตือนหมดคาบดังขึ้นก่อนจะพูดกับทุกคนด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล

“คาบหน้าลองฝึกวาดจากแสงธรรมชาติในสถานที่จริงนะครับ อย่าลืมเตรียมบล็อกภาพกับดินสอมาด้วย”

จากนั้น เขาก็ปิดโน้ตบุ๊กอย่างเงียบๆพร้อมกับเก็บอุปกรณ์การสอนให้เรียบร้อย

เสียงประตูปิดเบาๆ ดังขึ้น

ตามด้วยเสียงเก้าอี้เลื่อนลากบนพื้นขัดเงา เมื่อนักศึกษาทยอยกันออกจากห้องเรียนอย่างเป็นระเบียบหลังหมดคาบ

ธีธัชยังคงนั่งอยู่หน้าชั้นเรียน

มือเรียวกำลังปิดโน้ตบุ๊ก แล้วหยิบแฟ้มเอกสารมาจัดเข้าที่อย่างมีแบบแผน

เสียงฝีเท้าเบาๆ เดินเข้ามาใกล้

เขาเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะเห็นนักศึกษาร่างสูงโปร่งในชุดนักศึกษาถูกระเบียบ ยืนเงอะงะอยู่ตรงหน้า

คนที่มาสายเมื่อตอนกลางคาบ

เด็กคนนั้น…รัญ

“เอิ่ม… ขอโทษนะครับอาจารย์”

“พอดีผมมาสาย... อาจารย์พอจะสรุปให้ผมได้ไหมครับ?”

น้ำเสียงของรัญไม่ดังนัก แต่ก็ไม่เบาจนฟังไม่ได้ยินเป็นน้ำเสียงที่แฝงความเกรงใจและกังวล

ธีธัชเงยหน้ามองนิ่งๆ

ไม่ดุ ไม่ตำหนิ ไม่แสดงอารมณ์อะไรออกมาชัดเจน

เพียงแค่…มอง

สายตานิ่งๆ นั้นทำให้รัญต้องหลบตาเล็กน้อย

มือที่ถือสมุดกับดินสอไว้เริ่มสั่นนิดๆ ด้วยความประหม่า

ธีธัชละสายตาไปมองนาฬิกาข้อมือเขามีประชุมในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า

“เอามือถือของนายมานี่”

เสียงนั้นเรียบ…แต่ชัดเจน

รัญตกใจเล็กน้อย แต่ก็รีบยื่นมือถือให้แบบงงๆ

ธีธัชรับมือถือไป

กดอะไรบางอย่างลงไปอย่างรวดเร็ว ไม่ถึงครึ่งนาที

จากนั้นก็ยื่นมันคืนกลับให้

“อาจารย์ให้ไลน์ไป”

“เดี๋ยวจะส่งสไลด์ให้ เอาไปอ่านเองนะ อาจารย์มีประชุม”

น้ำเสียงยังคงนิ่ง ไม่อ่อนโยนแต่ก็ไม่เย็นชา

ไม่มีรอยยิ้ม ไม่มีแววตาเอ็นดู

มีแค่...ความเรียบง่ายที่ทำให้รัญรู้สึกประหลาดใจเล็กๆ

“ครับ… ขอบคุณครับอาจารย์”

รัญรับมือถือกลับมาแล้วก้มศีรษะเล็กน้อย

ธีธัชไม่ตอบอะไร เขาเพียงเก็บของต่อ และเดินออกจากห้องไปในไม่กี่วินาทีต่อมา

ปล่อยให้รัญยืนอยู่กลางห้องเงียบๆ

เขามองหน้าจอมือถือ

รายชื่อไลน์ใหม่ที่ขึ้นมา

อ.ธีธัช

และนั่น…

คือการเริ่มต้นบทสนทนาระหว่างสองคนที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

เลือกตอน

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!