Alex'S ผู้ถูกเลือกแห่งพงไพรทมิฬ
Episode 2 : ออสคาโนว่า
เบล (พยาบาล)
"คุณ!!! แยกคนไข้ที่บาดเจ็บสาหัสไว้อีกห้องเลย เดี๋ยวท่านหมออีริคจะไปจัดการเอง" พยาบาลสาวตะโกนไปที่ชายหนุ่มสองคนที่กำลังแบกชาวบ้านที่อาการดูย่ำแย่ไว้บนเปลผ้าสีขาว
[...โอ๊ยย.. ช่วยด้วย... เจ็บจังเลย... โอ๊ยยย ใครก็ได้... ฮึกๆๆ ...ฉันยังไม่อยากตาย... "+#)#8 ... เสียงร้องระงมดังอยู่ทั่วบริเวณโถงใหญ่ที่มีเพียงแสงไฟสีทองสลัวๆจากคริสตัลเรืองแสงบนเพดานเท่านั้น...]
หมออีริค ออส มาเตร์
"เบล เดี๋ยวฉันจะไปดูคนไข้ที่อาการสาหัสหน่อย ฝากเธอจัดการที่นี่ต่อทีนะ..." คุณหมอร่างสูงหน้าตาเคร่งขรึมพูดขึ้น ผมสีเทาดำของเขาสะท้อนกับแสงไฟจากคริสตัลสีทอง ทำให้ดูเด่นเป็นอย่างมาก
เบล (พยาบาล)
"ได้ค่ะ ท่านหมออีริค!" พยาบาลสาวพยักหน้าตอบรับอย่างแข็งขัน
หมออีริค ออส มาเตร์
"อืม... วันนี้หนักหน่อยนะเบล" หมออีริคยิ้มให้เบลเล็กน้อยก่อนจะหันหลังเดินไปที่โถงทางเดินอีกด้านของห้อง
'...ณ ห้องหลบภัยห้องหนึ่งที่อยู่ส่วนด้านในของหลุมหลบภัย...'
สเปนเซอร์ ออส วินมัวร์
"ท่านเจ้าเมือง! ผมบอกแล้วไงครับว่าเรารับคนเข้ามามากเกินไปแล้ว เสบียงของเรามันก็มีจำกัด มันไม่พอให้กับทุกคนได้หรอกนะครับท่านเจ้าเมือง!!!" เสียงของชายวัยกลางคนร่างสูงสวมแว่นเอ่ยขึ้น
[...'ใช่ๆๆๆ ใช่แล้ว~ ถ้าเสบียงไม่เพียงพอแล้วพวกเราจะทำยังไงกัน ใช่ไหม?' 'นั่นสิๆ...' 'อย่างที่ท่านผู้ช่วยสเปนเซอร์พูดเลย...' เสียงของคนบางกลุ่มที่อยู่ด้านหลังของชายสวมแว่นที่ชื่อสเปนเซอร์พากันเห็นด้วย...]
อัลเบิร์ต ออส ซามัง
"แล้วมันยังไง?" ชายภูมิฐานร่างท้วมดูหน้าตาใจดีถามออกไปขณะที่ตัวเองกำลังนั่งก้มหน้ากุมขมับเพราะความคิดเห็นที่เห็นแก่ตัวของผู้ช่วยของเขาเอง และยังรวมถึงสมาชิกของฝ่ายผู้ช่วยบางคนอีกด้วย
สเปนเซอร์ ออส วินมัวร์
"ก็อย่างที่เราโต้เถียงกันอยู่นี่แหละครับท่านเจ้าเมือง ท่านต้องหยุดรับคนเข้ามาได้แล้ว!... แล้วก็..." สเปนเซอร์ขยับแว่นก่อนพูดต่อ...
สเปนเซอร์ ออส วินมัวร์
"พวกคนที่บาดเจ็บสาหัสหรือป่วยใกล้ตายเนี่ย ท่านต้องตัดใจแล้วเอาพวกมันออกไ..."
'ตูมม..มม.ม!
สเปนเซอร์ยังพูดไม่ทันจบประโยคก็มีเสียงกระแทกดังลั่นขึ้นจากมุมหนึ่งของห้อง
[...ชายหนุ่มผมดำยาวประคอในชุดเกราะสีดำเงาที่ตอนนี้ยืนอยู่ในมุมมืดของห้อง กำปั้นข้างซ้ายของเขาทุบไปที่กำแพงหินของห้องจนเกิดเป็นรอยร้าวยุบลงไปเป็นวงกว้าง เศษหินค่อยๆร่วงหล่นลงมากระทบพื้น ตอนนี้เสียงของผู้คนในห้องเงียบสนิท...]
นิคัน ออส โคลอสโซ่
"แล้วทำไมพวกท่านถึงไม่เป็นคนออกไปกันเสียเองล่ะ?" ดวงตาสีดำคมกริบจ้องมองไปยังเหล่าคณะผู้ช่วยท่านเจ้าเมืองอย่างกระหายเลือด จิตสังหารของเขาทำให้บรรยากาศในห้องเหมือนถูกดูดออกซิเจนออกไป ทำให้บางคนถึงกับหายใจลำบาก
สเปนเซอร์ ออส วินมัวร์
"หึ! คะ คิดจะขู่ให้พวกเรากลัวอย่างงั้นเรอะ... ทะ ท่านนิคัน!!!" สเปนเซอร์ตะโกนออกไปเสียงดัง แม้บนใบหน้าเขาจะเริ่มมีเหงื่อเม็ดเล็กๆซึมออกมาแล้วก็ตาม
สเปนเซอร์ ออส วินมัวร์
"พะ พวกเราเป็นถึงลูกหลานของเหล่าวีระชนแห่งออส เป็นเชื้อสายที่สืบทอดกันมานับร้อยปี แล้วท่านมีสิทธิ์อะไรจะมาบอกให้เราออกไป แทนที่จะเป็นพวกสามัญชนไร้ค่าพวกนั้น!"
นิคัน ออส โคลอสโซ่
"ไร้ค่าอย่างงั้นเรอะ!!!" นิคันตะโกนอย่างมาเสียงดังลั่นด้วยแววตาโกรธเกรี้ยว
อัลเบิร์ต ออส ซามัง
"ใจเย็นๆก่อนนิคัน ตอนนี้เราต้องประเมินสถานการณ์ด้านนอกให้แน่ชัดก่อนว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่..." เจ้าเมืองพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง
อัลเบิร์ต ออส ซามัง
"ส่วนท่าน... สเปนเซอร์ ผมไม่สนหรอกนะว่าท่านและเหล่าคณะผู้ช่วยจะเป็นลูกเต้าเหล่าใคร แต่ถ้าหากดูถูกประชาชนที่คอยทำงานเพื่อให้เรามีกิน มีใช้ อยู่สุขสบายกันมาได้จนถึงตอนนี้... อีกครั้ง! ในฐานะเจ้าเมือง ผมคงไม่สามารถมองข้ามกิริยาอัน 'ต่ำ! ทราม!' เช่นนี้ได้อีกต่อไป" เจ้าเมืองพูดด้วยท่าทางสงบนิ่งแต่แฝงไปด้วยอำนาจ และเน้นประโยคคำด่าที่ทำให้คนฟังต้องกัดปากกันเลยทีเดียว
สเปนเซอร์ ออส วินมัวร์
'ไอแก่เบิร์ต! ไอลูกสามัญชน! ซักวันฉันต้องจัดการแกให้ได้!' สเปนเซอร์กัดฟันและคิดในใจ เขากำหมัดแน่นด้วยความโกรธแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้
[...'อัลเบิร์ต' เจ้าเมืองแห่งออส เขานั้นได้สมยานามว่าจอมเวทอัจฉริยะ ผู้มีพลังเวทย์อันแข็งแกร่ง ผู้คนต่างกล่าวกันว่าพลังเขานั้นเทียบเท่ากับ 'จอมเวทย์เซเบอร์' 1 ใน 7 วีระบุรุษแห่งออสกันเลยทีเดียว... แม้ตัวอัลเบิร์ตจะคิดว่ามันเกินจริงไปหน่อยก็ตาม! อัลเบิร์ตเขาได้ทำประโยชน์ไว้มาก ทั้งในสงครามสู้รบกับเผ่าบาบาเรี่ยน การปราบภูตเมหันต์จากป่าทมิฬ และการเจรจาสันติกับเมือง 'คาโนว่า' ที่สู้รบกันมาเป็นร้อยปี และอื่นๆอีกมากมาย หลังจากนั้นเจ้าเมืองคนเก่าจึงเสนอชื่อเขาขึ้นเป็นเจ้าเมืองคนใหม่แทน... แม้ปกติคนที่ขึ้นเป็นเจ้าเมืองตั้งแต่อดีตมานั้นจะมาจากสายเลือดของ 7 วีระบุรุษก็ตาม แต่ในกรณีของ 'อัลเบิร์ต' นั้น ก็แทบไม่มีใครสามารถปฏิเสธได้เลยว่าเขาเหมาะสมจริงๆ แม้เสียงของพวกคณะผู้ช่วย และผู้อาวุโสบางคนในตอนนั้นจะไม่เห็นด้วยแค่ไหนก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถคัดค้านอำนาจเด็ดขาดของเจ้าเมืองและประชาชนได้...]
อัลเบิร์ต ออส ซามัง
"นิคัน หน่วยลาดตระเวนที่เราส่งออกไปยังไม่กลับมาเลยซักคน งั้นเราคงต้องตัดสินใจส่งท่านออกไป เผื่อว่ามีเหตุไม่คาดคิดเกิดขึ้น" อัลเบิร์ตหันหน้าไปพูดกับนิคันที่เป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดแห่งออส
นิคัน ออส โคลอสโซ่
"น้อมรับคำสั่งครับท่านเจ้าเมือง" นิคันโค้งหัวลงอย่างนอบน้อมเล็กน้อย ก่อนจะหันควับออกจากเปิดประตูที่อยู่ใกล้ๆทันที โดยไม่ลืมที่จะมองสเปนเซอร์ด้วยหางตาคมกริบก่อนจะออกไป
อัลเบิร์ต ออส ซามัง
"เห้อ~ ขออย่าให้มันมีอะไรร้ายแรงไปมากกว่านี้เลย..." อัลเบิร์ตหลับตาถอนหายใจก่อนพึมพำออกมาเบาๆ
[...ย้อนกลับไปในอดีตที่แสนยาวนานตามบันทึกของมหาปราชญ์ 'เบลลาทริกซ์' ผู้ล่วงลับ โลกใบนี้เคยถูกปกครองโดยมหาเทพสูงสุดทั้ง 3 องค์ คือ
1.มหาเทพผู้สร้าง 'บิวเดอร์'
2.มหาเทพผู้ทำลาย 'ทรอยเยอร์'
3.มหาเทพผู้คุมกฏ 'คอนทริกซ์ '
...เหล่ามหาเทพทั้ง 3 และเทพองค์อื่นจะจุติลงมาในร่างของมนุษย์ที่ถูกเลือกและมนุษย์ผู้นั้นก็จะได้รับพลังต้นกำเนิดของเทพองค์นั้นๆมาด้วย...]
[...แต่ทว่าวันหนึ่งมีสิ่งแปลกปลอมจากต่างมิติบุกเข้ามาในโลกนี้ สิ่งแปลกปลอมที่ไร้รูปร่าง ไรหน้าตา เป็นเพียงเงาสีดำประหลาดที่กลืนกินได้แม้กระทั่งพลังแห่งเทพ หลังจากเงาดำปรากฏขึ้นสิ่งที่ตามมาหลังจากนั้นคือ สิ่งมีชีวิตประหลาดมากมายที่ถูกเรียกภายหลังว่า 'โนไลฟ์' พวกมันมีพลังคล้ายกับเทพแห่งโลกนี้ สามารถจุติลงในร่างของมนุษย์ได้เฉกเช่นเดียวกันกับเทพทั้งหลาย จึงเป็นเวลาหลายทศวรรษที่เหล่าผู้จุติเทพและผู้จุติโนไลฟ์ได้ต่อสู้กันโดยมีเวทีของโลกนี้เป็นเดิมพัน...]
[...สงครามดำเนินไปเรื่อยๆ มีหลายชีวิตที่บริสุทธิ์ต้องดับลงเพราะไฟของสงคราม ทั้งเผ่าพันธุ์มนุษย์ อมนุษย์... จนกระทั่งอยู่มาวันหนึ่ง มีองค์กรลึกลับกลุ่มหนึ่งโผล่ขึ้นมา เป็นองค์กรที่ไม่มีผู้จุติเทพหรือจุติโนไลฟ์เลยแม้แต่คนเดียว พวกเขาได้ออกตามหาเงาดำที่เคยปรากฏตัวออกมาเมื่อครั้งอดีตที่ทำให้แม้แต่พลังของเทพก็ยังถูกดูดกลืน หรือแม้แต่พวกโนไลฟ์ก็ยังสั่นกลัวเมื่อต้องเผชิญสิ่งนั้น เงาดำคลืบคลานเข้ามาและก็จากไป และแทบไม่มีใครพบเห็นมันอีกเลย จนกระทั่งวันหนึ่งมันโผล่ขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับกลุ่มองค์กรลึกลับที่ดูเหมือนจะควบคุมเงาดำนั้นได้ และเรียกเงาดำนั้นว่า 'เงาทมิฬ' องค์กรลับทำให้เงาดำกระจายตัวไปปกคลุมเกือบทั่วทั้งโลกเพื่อยุติสงครามชั่วคราว พวกเขาได้ใช้อำนาจของเงาดำทำข้อตกลงกับพวกเทพและโนไลฟ์...]
[...ข้อตกลงนั้นคือการให้สร้างพื้นที่หรือดินแดนสำหรับสิ่งมีชีวิตที่ไม่อยากข้องเกี่ยวกับสงคราม และไม่อนุญาติให้ทั้งเทพและโนไลฟ์บุกรุกดินแดนแห่งนี้อย่างเด็ดขาด... หลังจากนั้นไม่นาน มหาเทพทั้ง 3 และราชาแห่งโนไลฟ์ก็ได้สร้างดินแห่งหนึ่งขึ้นมา โดยใช้พื้นที่ถึง 1 ใน 4 ของโลกทั้งใบเลยทีเดียว เป็นสถานที่ที่ล้อมลอบไปด้วยกำแพงคริสตัลสูงเสียดฟ้า ด้านบนปกคลุมไปด้วยบาเรียที่ไม่สามารถถูกทำลายได้ด้วยพลังทั่วไป เป็นดินแดนแห่งความสงบและความหวังอย่างแท้จริงของสิ่งที่ชีวิตทั้งหลาย แต่สำหรับพวกเทพกับพวกโนไลฟ์แล้วมันก็คือคุกดีๆนั่นเองที่เอาไว้ขังเงาทมิฬนั่นไว้ และท้ายที่สุดแล้วดินแดนแห่งนี้ก็ถูกสร้างจนเสร็จและได้ตั้งชื่อดินแดนแห่งนี้ตามชื่อองค์กรลึกลับว่า......]
'...ดินแดน แห่งเงาทมิฬ...'
Comments
Jayrbr
อ่านสนุกมากแอด รอติดตามอยู่นะ
2025-05-10
1