...[สายลมแห่งเมืองร้าง—นางฟ้ากลางเงามืด]...
เสียงหวีดหวิวของลมพัดผ่านซอกตึกเก่า เสียงกระดิ่งลางร้ายดังแผ่วเบาในยามค่ำคืน กลิ่นสนิมและควันดำลอยคลุ้งในอากาศ
อิกนิสลืมตาขึ้นช้า ๆ บนพื้นหินเย็นเฉียบ ความเจ็บแปลบแล่นทั่วร่าง แขนขวาของเขา... หายไป
“อึก...” เขาครางเบา ๆ เมื่อพยายามขยับ ร่างกายเหมือนจะฉีกออกเป็นเสี่ยง ๆ เส้นเวทภายในบิดเบี้ยว ราวกับพลังในตัวถูกฉีกกระชากด้วยพลังที่เขาเองยังควบคุมไม่ได้
“ยังไม่ตายงั้นหรือ…” เขาพึมพำ ดวงตากวาดมองรอบตัว
ที่นี่ไม่ใช่คฤหาสน์ไวท์ฟลอเรนซ์ ไม่ใช่ป่าเวท หรือที่ใดในลูเมีย มันคือเมืองร้าง—เมืองที่ปิดตายจากแผนที่เวทมนตร์มานับศตวรรษ ชื่อของมันเคยถูกลบไปจากทุกหอคอยเวท แต่ตำนานยังคงกระซิบชื่อมันว่า...
“เฮลิออส ริมเงา”
เมืองสุดท้ายของเหล่านักเวทที่ถูกเนรเทศ
ร่างของอิกนิสทรุดลงอีกครั้ง พยายามยันตัวลุกขึ้นแต่ก็พลาด เขาทรุดลงกับเศษหิน แต่ในขณะเดียวกัน—เสียงฝีเท้าเบา ๆ ดังแว่ว เงาหนึ่งปรากฏตรงมุมซอกตึก เงียบงันราวลมหายใจของราตรี
“อย่าขยับ” เสียงหวานเย็นดุจหยาดหิมะสั่ง “แผลของเจ้าถ้าเปิดอีกครั้ง อาจไม่รอด”
หญิงสาวคนนั้นเดินออกมาจากเงา ผมยาวสีขาวราวหิมะปลิวตามแรงลม ใบหน้าเรียบนิ่ง แววตาสีเงินจับจ้องเขาด้วยสายตาที่ทั้งเมตตาและระแวดระวัง เธอสวมชุดคลุมเวทสีขาวปักสัญลักษณ์โบราณ—ไม่ใช่ของโรงเรียนเวทใดในโลกที่เขารู้จัก
อิกนิสมองเธอผ่านม่านเลือดในดวงตา “เจ้า...คือใคร”
หญิงสาวนิ่งไปชั่วขณะ ก่อนจะคุกเข่าลงข้างเขา
“ข้า...คือผู้ดูแลเมืองร้างนี้” เธอพูดเสียงเบา “ชื่อของข้าคือ ไลล่า อาเวลีน”
มือของเธอแตะเหนือหน้าอกเขา วงแหวนเวทสีฟ้าอ่อนสว่างขึ้นเล็กน้อย พลังเยียวยาไหลผ่านเข้าสู่ตัวเขา แม้จะอ่อนแรงแต่ก็อ่อนโยนจนอิกนิสรู้สึกได้ถึงความสงบ
“เจ้ามีพลังต้องสาป...ไม่ใช่หรือ” เธอถามเสียงเรียบ
อิกนิสเบือนหน้าหนี “เจ้าก็เหมือนคนอื่นสินะ…”
“ไม่” ไลล่าตอบทันที “ที่นี่ ไม่มีใครตัดสินใครจากพลังเวทของเขา”
เงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนที่เธอจะเอ่ยต่อ “แต่ที่นี่...กำลังจะไม่ปลอดภัยอีกต่อไป”
อิกนิสหรี่ตา “หมายความว่าไง”
“มีบางอย่างตื่นขึ้นพร้อมกับการมาของเจ้า” เธอกระซิบ “เงาเก่าแก่ที่ถูกขังไว้ใต้เมืองนี้เริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง พวกมัน...หิวพลังของเจ้า”
ทันใดนั้น—เสียงคำรามจากใต้พื้นดินดังก้องขึ้น แผ่นดินสั่นสะเทือน ผนังตึกร้าวเป็นเส้นยาว
“พวกมันมาแล้ว!” ไลล่าคว้าแขนเขา พยุงขึ้นอย่างรวดเร็ว
อิกนิสบาดเจ็บเกินกว่าจะต่อสู้ เวททั้งแปดของเขาถูกบดขยี้ด้วยพลังสายรุ้งก่อนหน้าราวกับหมดพลังชีวิต และที่เลวร้ายที่สุด—แขนขวาของเขา ซึ่งเคยเป็นแหล่งรวม “พลังเงา” ก็ไม่อยู่แล้ว
“ข้า...ปกป้องเจ้าไม่ได้” เขาพึมพำเจ็บปวด
แต่ไลล่ากลับมองเขานิ่ง “ครั้งนี้...ให้ข้าปกป้องเจ้า”
เสียงคำรามแหลมต่ำก้องเข้ามาใกล้ เงาดำไหลออกจากใต้ดิน พุ่งขึ้นฟ้าราวกับเสาหมอก
ไลล่ากางไม้เท้าเวทของเธอออก แสงศักดิ์สิทธิ์สีขาวพุ่งขึ้นฟ้า เวทโบราณล้อมรอบทั้งสองคนเป็นเกราะกำบัง
ในวินาทีนั้น อิกนิสมองเธอด้วยสายตาเปลี่ยนไป ไม่ใช่เพียง “ผู้หญิงผมสีขาว” แต่เป็นผู้มีพลังที่ลึกล้ำ และไม่หวั่นไหวต่ออดีตของเขา
“ข้ารอดมาเพื่อสิ่งนี้ใช่ไหม...” เขากระซิบกับตัวเอง
[แสงที่แม้แต่เงาก็กลัว—การปลุกพลังต้องห้ามอีกครั้ง]
เสียงคำรามจากใต้ดินแผดสนั่น เงาดำหลายสายทะลักออกจากรอยแยกในพื้นหิน ม้วนตัวขึ้นสูงเหมือนอสรพิษหมอก เสียงกรีดร้องของวิญญาณต้องสาปปะปนกับเสียงลมหอบกลืนเมืองเฮลิออสให้สั่นไหว
“พวกมัน...คือเศษเสี้ยวของ ‘เทพเงา’ ที่ถูกจองจำไว้ที่นี่!” ไลล่าร้องบอก “หากพวกมันกลืนข้า—หรือเจ้า—โลกเวทจะสูญสิ้น!”
เธอปักไม้เท้าลงพื้น วงแหวนเวทขนาดใหญ่หมุนขึ้น แสงศักดิ์สิทธิ์ไหลวนเป็นเกราะ แต่ก็เริ่มแตกร้าวทีละน้อย
อิกนิสยืนพิงกำแพง มือซ้ายยังสั่นระริก เลือดไหลอาบหน้าจนมองแทบไม่ชัด พลังเวทภายในตนปั่นป่วน บาดแผลทั่วร่างยังไม่หาย แขนขวาที่เคยเชื่อมต่อกับ “พลังเงา” หายไป
ไม่มีพลัง ไม่มีอาวุธ
แต่เสียงในหัวเขาก็เริ่มดังก้องอีกครั้ง
“เจ้ามีพลังนั้น...เพราะเจ้าต้องใช้มัน”
“แสงที่รวมทุกธาตุ คือสมดุลของทุกสิ่ง”
เสียงนั้น—เสียงของครูคนแรก
เสียงของเพื่อนที่ตายจากไป
เสียงของตนเองในอดีต
“พอได้แล้ว...” อิกนิสพึมพำ
เขายืนตรงช้า ๆ ดวงตาเปล่งประกายเลือนรางด้วยพลังสุดท้ายที่หลงเหลือ
“ข้าจะไม่ยอมเห็นทุกอย่างสูญสลายอีก…”
มือซ้ายยกขึ้นกลางอากาศ
แม้เพียงข้างเดียว
แม้ร่างจะแหลกสลาย
เขาหลับตา สูดลมหายใจเข้าลึก
“จงลุกขึ้น...ธาตุที่เก้า—Rainbow Light Magic!”
พรึ่บ!
ร่างของอิกนิสเปล่งแสงเจ็ดสีขึ้นทันที ลำแสงสายรุ้งหมุนรอบตัวราวกับพายุศักดิ์สิทธิ์ที่ผสานทุกธาตุไว้ในหนึ่งเดียว แม้ไม่มีแขนขวา—พลังยังไหลมารวมที่กลางอกและแขนซ้าย
เส้นเวทสีรุ้งปรากฏรอบตัวเป็นชั้นซ้อนสลับ
เงาดำที่ถาโถมเข้าหยุดชะงัก
พวกมัน...หวาดกลัว
“นั่นมัน...เป็นไปไม่ได้!” ไลล่าจ้องมองตะลึง “เจ้ากำลังใช้เวทระดับเทพ...ทั้งที่ไม่มีพลังเวทเหลืออยู่!”
“ไม่ใช่พลังเวทที่หล่อเลี้ยงมัน” อิกนิสกล่าว “แต่เป็น เจตจำนง...ของผู้ที่ไม่ยอมให้ใครต้องตายอีก”
เขากำหมัดซ้ายแน่น
“Celestia Nova—ลำแสงสวรรค์!”
แสงเจ็ดสีพุ่งขึ้นสู่ฟ้า ก่อนจะกระหน่ำลงใส่พื้นโลกเป็นสายฝนแห่งพลัง เงาดำที่เคยท้าทายสวรรค์ถูกเผาจนแหลกสลาย ส่งเสียงกรีดร้องแสบโสต ก่อนจะหายไปในพริบตา
พื้นดินร้าวกลับคืนสภาพ
ม่านหมอกจางหายไปจากเมือง
แสงนั้น—ไม่ใช่เพียงแค่เวทมนตร์
แต่มันคือ คำประกาศ ของอิกนิส
ว่าเขา...ยังมีอยู่
และเขาจะเปลี่ยนทุกสิ่ง
พลังมลายลง ร่างอิกนิสทรุดลงอีกครั้ง แต่คราวนี้ ไลล่าคว้าตัวเขาไว้ได้ทัน
“เจ้าบ้า...เจ้าจะฆ่าตัวเองรึไง...” เธอพึมพำ
อิกนิสฝืนยิ้ม “ข้าเคยตายมาแล้ว...แต่นี่คือครั้งแรกที่ข้ารู้สึกว่า ข้ากำลัง ‘มีชีวิต’ เพื่อคนอื่น”
ในขณะที่ฟ้ายามค่ำคืนเปิดออก และดาวตกหนึ่งเส้นเคลื่อนผ่านเหนือเฮลิออส...
หญิงสาวผมขาว และวีรบุรุษผู้ไร้แขน
ยืนอยู่ท่ามกลางเงาและแสง
และการผจญภัยบทใหม่...กำลังจะเริ่มต้น
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments
Killspree
น่าตื่นเต้น
2025-05-01
0