...[แสงที่ไม่เคยรู้จัก]...
แสงแดดอ่อนยามเช้าทอลงมาทะลุม่านผ้าสีครีมในห้องพักแขกของคฤหาสน์ไวท์ฟลอเรนซ์ กลิ่นหอมของลาเวนเดอร์อวลอบอุ่น เงียบสงบ ราวกับไม่มีเรื่องร้ายใดเกิดขึ้นเมื่อคืน
บนเตียงนุ่มสีงาช้าง ร่างหนึ่งขยับเล็กน้อย ดวงตาสีแดงฉานของเด็กหนุ่มลืมขึ้นช้า ๆ
“...ที่นี่...ที่ไหน”
อิกนิส แฟลมเบิร์น กระพริบตา ค่อย ๆ พยุงตัวลุกขึ้น มือซ้ายกุมต้นแขนขวาที่ถูกพันด้วยผ้าพันแผลแน่นหนา
“รอดมาได้ยังไงกัน...?” เขาพึมพำกับตัวเอง เบาเสียจนแทบไม่มีใครได้ยิน
เสียงประตูไม้เปิดแผ่วเบา
เอลิซ่า ไวท์ฟลอเรนซ์ สาวน้อยผมทองยาวประบ่าในชุดเดรสเรียบหรู ก้าวเข้ามาพร้อมถาดอาหารเช้าในมือ เธอไม่ได้มาตัวเปล่า — มีคนใช้หญิงสองคนเดินตามหลัง ถืออุปกรณ์และยาสมุนไพรเพื่อดูแลผู้ป่วยอย่างเหมาะสม
“อรุณสวัสดิ์” เธอกล่าวพร้อมรอยยิ้มบาง “ดีใจที่นายฟื้นแล้ว”
อิกนิสไม่ตอบ เขาเพียงปรายตามอง ก่อนเบนสายตาออกไปนอกหน้าต่าง ดวงตาสีแดงของเขาสะท้อนแสงอาทิตย์จาง ๆ จนดูราวกับอัญมณีเลือด
“นายชื่ออะไรเหรอ?”
เขานิ่งไปชั่วครู่ ก่อนตอบเสียงเรียบแต่ชัดเจน
“อิกนิส”
“อิกนิส...?” เอลิซ่าทวนชื่อเบา ๆ ความรู้สึกแปลกประหลาดบางอย่างแล่นวูบผ่านหัวใจ
‘ชื่อคุ้นจัง... เหมือนเคยเห็นในตำราประวัติศาสตร์เวทมนตร์...’
ในหัวของเธอมีภาพหนึ่งวาบขึ้น — ภาพวาดโบราณของชายหนุ่มผมขาวยาว ผู้ถูกจารึกว่า “ผู้ต้องสาปแห่งธาตุทั้งแปด”
แต่เธอสลัดความคิดนั้นออกไป ยิ้มบาง ๆ อย่างไม่แน่ใจ
“ไม่มีอะไรหรอก แค่ชื่อคุ้น ๆ เฉย ๆ”
คฤหาสน์ไวท์ฟลอเรนซ์ไม่ใช่คฤหาสน์ธรรมดา มันคือหนึ่งในคฤหาสน์เก่าแก่ที่สร้างด้วยเวทพื้นฐานของตระกูลเวทแสงทั่วทุกอิฐ ทุกเสา และแม้กระทั่งม่านหน้าต่าง แต่ละห้องมีระบบตรวจจับพลังเวทเพื่อป้องกันภัยคุกคามจากภายนอก
เอลิซ่าพาอิกนิสออกมายังสวนฝึกเวทขนาดเล็กด้านหลังคฤหาสน์ สนามหญ้าถูกล้อมด้วยคันหินเตี้ยและต้นไม้เวทที่ช่วยเก็บเสียงฝึกฝน พื้นสนามมีรอยสลักวงเวทเก่าที่ใช้มานานแล้ว
“ลองนั่งสมาธิดูนะ ปล่อยพลังออกมาแผ่ว ๆ”
อิกนิสนั่งลงบนพื้นหญ้า หลับตา เขาไม่มีไม้กายสิทธิ์ ไม่มีวงแหวนเวท เส้นผมสีขาวของเขาพลิ้วไหวด้วยแรงเวทที่เริ่มแผ่จากร่างกาย
พลังเวทเริ่มก่อตัวจากฝ่ามือซ้าย แสงสีทองจาง ๆ เปล่งประกาย ก่อนที่... เปลวเพลิง ลม และแสงผสานกันจะระเบิดพุ่งขึ้นท้องฟ้า คลื่นเวทสะเทือนจนต้นไม้รอบข้างสั่นไหว ม่านป้องกันของสนามเวทแทบรับไว้ไม่อยู่
เอลิซ่าถอยกรูด ตาเบิกกว้าง
“พลังนี่มัน...อะไรกันแน่?”
เธอไม่เคยเห็นพลังเวทที่รวมหลายธาตุได้พร้อมกันขนาดนี้ แถมยังมี ‘แสงรุ่งอรุณ’ ซึ่งเป็นพลังที่ไม่มีใครในยุคปัจจุบันควบคุมได้แม้แต่เศษเสี้ยว
ทันใดนั้น เสียงฝีเท้าดังตึงตังจากด้านหน้า
“คุณหนูเอลิซ่าครับ!”
โธมัส คนรับใช้คนสนิทของบ้านวิ่งขึ้นบันได ใบหน้าเคร่งเครียดพร้อมเหงื่อไหลพราก
“ข้างหน้ามีคนจากหน่วยเฝ้าระวังเวท! พวกเขาตรวจพบพลังผิดปกติ และกำลังจะบุกเข้ามา!”
แอนนา คนใช้หญิงที่เฝ้าประตู รีบวิ่งขึ้นมาตามหลังพร้อมน้ำเสียงตื่นตระหนก
“พวกเขาไม่รอให้เปิดประตูค่ะ ใช้เวททำลายประตูเสริมเวทแล้วบุกเข้ามา!”
เสียงระเบิดดังขึ้นด้านหน้า ควันฝุ่นพวยพุ่ง
ร่างในชุดคลุมสีดำปักสัญลักษณ์สายฟ้าปรากฏ รอย หัวหน้าหน่วยเฝ้าระวังเวทของภูมิภาคลูเมีย เดินนำเข้ามาพร้อมจอมเวทรองอีกสองคน
“ในนามของสภาเวทมนตร์!” รอยตะโกน “ขอให้ผู้ก่อพลังเวทผิดปกติแสดงตัวออกมาเดี๋ยวนี้!”
เอลิซ่ารีบวิ่งลงมา เธอขวางรอยไว้ทันที
“ที่นี่คือคฤหาสน์ตระกูลไวท์ฟลอเรนซ์ นายไม่มีสิทธิ์บุกรุกโดยไม่มีหมาย!”
รอยไม่ฟัง เขาเพียงปรายตามองอย่างเย็นชา ก่อนก้าวไปข้างหน้าอีกก้าว
“เราตรวจพบพลังระดับ สูงสุดในรอบ 300 ปี มันผิดธรรมชาติ เราต้องตรวจสอบ และ...กำจัด ถ้าจำเป็น”
ก่อนสถานการณ์จะบานปลาย เสียงฝีเท้าดังขึ้นจากบันได
“ไม่ต้องหาอีกแล้ว คนที่คุณกำลังตามหาอยู่ตรงนี้”
อิกนิสปรากฏตัว เขาสวมเสื้อคลุมของคฤหาสน์ ผมขาวยาวปลิวเบา ๆ ตามแรงเวทที่ระอุอยู่รอบตัว
รอยชะงัก เมื่อเห็นดวงตาสีแดงฉานที่ไม่มีทางลืมได้
“...นั่นมัน... อิกนิส แฟลมเบิร์น...”
เอลิซ่าหันมามองเขาทันที ดวงตาเบิกกว้างอย่างไม่อยากเชื่อ
“ชื่อนั้น... ในตำราประวัติศาสตร์... เป็นไปไม่ได้...”
“ฉันยังไม่ตาย” อิกนิสกล่าวเสียงเรียบ “และฉันก็ไม่ใช่ปีศาจหรือเครื่องมือให้ใครใช้”
รอยชักไม้กายสิทธิ์ทันที “ในนามของสภาเวท—”
สายฟ้าถูกยิงออกไป แต่กลับสลายกลางอากาศ ก่อนจะถึงตัวอิกนิส
เขายกมือซ้ายขึ้น ปล่อยม่านเวทป้องกันที่ผสานธาตุน้ำ ลม และแสงพร้อมกัน
เขาก้าวช้า ๆ ไปหยิบไม้กายสิทธิ์ใหม่ที่เอลิซ่าเก็บไว้ให้ มันเป็นไม้เวทสีเงินปนขาว รูปทรงลื่นไหลราวกับหลอมจากแสง
พอจับได้... เขาก็ชะงักเล็กน้อย
“...ไม่ใช่พลังแบบเดิม” เขาพึมพำ “ของเก่าของฉัน...มันมีแรงทำลายมากกว่านี้”
แต่เขาเพียงพยักหน้า “แต่นี่ก็เพียงพอ”
อิกนิสตวัดไม้เรียกเวททั้งแปดธาตุ เพลิง น้ำวน ลมตัด แสงสว่าง วงแหวนมืด ดาบน้ำแข็ง ผืนดิน และสายฟ้าพร้อมกัน
พลังเวทปะทะกันกลางอากาศ เสียงระเบิดสะท้านคฤหาสน์ แสงสีต่าง ๆ ซัดกระหน่ำราวกับพายุบ้าคลั่ง
จอมเวทรองถูกผลักกระเด็น รอยผงะถอย ดาบสายฟ้าในมือหายไปทันที
“หยุดนะ!!” เอลิซ่าตะโกนสุดเสียง “นี่ไม่ใช่สนามรบ!”
เสียงนั้น... ทำให้อิกนิสชะงัก
เขาถอนเวทช้า ๆ ปล่อยไม้กายสิทธิ์แนบลำตัว พลางหันไปมองหญิงสาวเบื้องหน้า
“ขอโทษ” เขากล่าวเสียงเบา “ฉันไม่ควรพาเรื่องวุ่นวายมาที่นี่”
เอลิซ่าเดินเข้ามา ดวงตายังคงสั่นไหว แต่เธอกล้าก้าวต่อไป
“นายควรจะบอกฉันให้เร็วกว่านี้...อิกนิส แฟลมเบิร์น”
...เรื่องราวเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น...
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments