สายเลือดต้องสาป และตราประทับของเงา

...[สายเลือดต้องสาป และตราประทับของเงา]...

แสงแดดเริ่มลาลับจากท้องฟ้า สีทองเรื่อเริ่มถูกแทนที่ด้วยม่วงเข้มของยามโพล้เพล้ เหล่านกเวทบินกลับรัง เสียงระฆังเวรยามในคฤหาสน์ไวท์ฟลอเรนซ์ดังกังวานบอกถึงการเปลี่ยนเวรยามค่ำคืน

อิกนิสนั่งนิ่งบนระเบียงชั้นสอง ดวงตาสีแดงฉานทอดมองท้องฟ้า ไหล่ซ้ายยังคงพันผ้าแน่น แขนขวาที่ขาดหายยังไร้วี่แววจะงอกกลับ แม้พลังเวทในร่างจะฟื้นตัวเร็วผิดปกติ แต่บาดแผลจากการปะทะครั้งสุดท้ายกับซีเอลเมื่อ 300 ปีก่อนยังทิ้งร่องรอยลึกเกินเยียวยา

เบื้องหลังเขา เอลิซ่าเดินเข้ามาเงียบ ๆ พร้อมผ้าคลุมบาง เธอยื่นมันให้อย่างเงียบงัน อิกนิสรับไว้โดยไม่เอ่ยคำ

"อากาศจะเย็นลงในอีกไม่นาน" เธอพูดเบา ๆ ก่อนนั่งลงข้างเขา

"ขอบใจ" เขาพูดสั้น ๆ แต่เสียงนุ่มลงเล็กน้อย

เงียบงันครอบคลุมระหว่างทั้งสองครู่ใหญ่ ก่อนเอลิซ่าจะถามด้วยเสียงเรียบแต่จริงใจ

"นายจะไปจากที่นี่ไหม?"

อิกนิสไม่ตอบทันที เขาเพียงหลับตา สูดลมหายใจลึก กลิ่นดอกเวโรเนียลอยอ่อน ๆ จากสวนเบื้องล่าง

"ไม่ยัง... ยังมีบางอย่างที่ฉันต้องรู้"

"เกี่ยวกับพลังของนาย?" เธอถาม

"เกี่ยวกับสิ่งที่ฉันเห็น... ในห้วงระหว่างความเป็นกับความตาย" ดวงตาสีแดงเบิกขึ้นช้า ๆ "มันไม่ใช่แค่ผนึก... มันเป็นตราประทับ... ตราประทับของใครบางคนที่อยู่เหนือกว่าแม้แต่หอคอยทั้งแปด"

เอลิซ่าขมวดคิ้ว "ตราประทับของเงา...?"

อิกนิสหันมาสบตาเธอ "เธอรู้จักชื่อ 'โซล นอคเทิร์น' ไหม?"

ทันใดนั้น เอลิซ่าก็หน้าซีด เธอสะดุ้งเล็กน้อย "นั่น...เป็นชื่อในตำนาน... จอมเวทเงาผู้แรกและสุดท้าย ไม่มีข้อมูลแน่ชัดแม้แต่ในหอจดหมายเหตุกลางของสภาเวทมนตร์ มีเพียงบันทึกว่าผู้ใช้นั้น 'หายไป' พร้อมกับการล่มสลายของหอคอยเงาเมื่อพันปีก่อน..."

อิกนิสพยักหน้า "ในตอนที่จิตของฉันกำลังจะดับ... ฉันเห็นเขา หรือเงาของเขา เขาแตะหน้าผากฉัน และพูดว่า... 'เจ้าเลือกไม่ได้แล้ว เจ้าถูกตราไว้ด้วยเงาแห่งแสงรุ่งอรุณ'"

เอลิซ่ากลืนน้ำลาย "นั่นหมายความว่า...พลังของนายไม่ได้เกิดจากสายเลือดอย่างเดียว?"

"แต่มันถูกปลุก...โดยบางสิ่งที่เหนือกว่า... และตอนนี้ มันเริ่มตื่นขึ้นอีกครั้ง"

[เบื้องลึกของตราประทับ]

คืนนั้น อิกนิสหลับตาลงอีกครั้ง แต่สติกลับจมหายสู่ห้วงลึกอันไร้แสง...

ในฝัน เขาอยู่ในสถานที่หนึ่ง—วิหารเงา ล้อมรอบด้วยแสงสีเทาหม่น รูปปั้นขนาดยักษ์ของชายสวมฮู้ดตั้งตระหง่านกลางวิหาร เสียงกระซิบดังรอบตัวราวกับโลกทั้งใบกำลังกระซิบถ้อยคำต้องสาป

“...ทายาทของเปลวเพลิงมืด... ผู้ถือตราเงาและแสง... เจ้าจะต้องเลือกระหว่างการทำลาย... หรือการไถ่บาป...”

จู่ ๆ ภาพเบื้องหน้าก็เปลี่ยนเป็นเหตุการณ์เก่า—ร่างของซีเอลยื่นมือมา ทั้งน้ำตา ในขณะที่อิกนิสทรุดลงกลางเลือดตนเอง

“กลับมาเถอะ... อิกนิส”

แสงวาบขึ้น—แล้วเขาก็ตื่น

เหงื่อเย็นไหลชื้นแผ่นหลัง ดวงตาสีแดงฉานสะท้อนแสงจันทร์ที่ส่องลอดม่านหน้าต่าง

“มัน... ไม่ใช่แค่พลัง... แต่มันคือคำพิพากษา...”

...[การประชุมลับของสภา]...

ณ หอประชุมแห่งเงาใต้ภูเขาทางเหนือสุดของโลกเวท สภาเวทมนตร์ชั้นสูงกำลังประชุมลับอีกครั้งหลังได้รับรายงานพลังปริศนาที่คฤหาสน์ไวท์ฟลอเรนซ์

“...มันไม่ใช่เพียงพลังของธาตุทั้งแปดอีกต่อไปแล้ว” ผู้อาวุโสแห่งหอคอยสายฟ้ากล่าว

“พลังที่รวมเวทแสง กับเวทมืด...และยังควบคุมคลื่นพลังธาตุได้พร้อมกัน...”

“นั่นคือ Aurora Magic แบบบริบูรณ์... แต่ที่แย่กว่านั้นคือ...”

เสียงเงียบกริบลง ก่อนผู้อาวุโสคนหนึ่งกล่าวว่า

“เขาถูกตราด้วยตราเงา”

เสียงฮือฮาดังทั่วห้อง

“ถ้าข่าวนี้แพร่ไป...โลกเวทจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป”

“เราต้องจับตัวเขามา ไม่ว่าโดยทางไหน”

และในเงามืดของที่ประชุม ร่างในชุดคลุมม่วงเข้มซ่อนหน้าเพียงพยักหน้าช้า ๆ — สายลับของหอคอยเงาที่ถูกฟื้นฟูอย่างลับ ๆ กำลังเคลื่อนไหว

[การไล่ล่าเริ่มต้น]

รุ่งเช้า เหล่านกเวทเริ่มแตกตื่น ปีกพวกมันสั่นไหวเพราะคลื่นเวทบางอย่างแผ่จากป่าเวทด้านตะวันออกของคฤหาสน์

อิกนิสตื่นก่อนใคร เขาหยิบไม้กายสิทธิ์ใหม่ขึ้น—แม้จะยังไม่เข้ามือเหมือนของเดิม แต่เขาเริ่มชินกับมันแล้ว

เสียงระเบิดเบา ๆ ดังจากชั้นล่าง เอลิซ่าวิ่งขึ้นมาในชุดต่อสู้สั้น แขนซ้ายเรืองแสงจาง ๆ ด้วยพลังแสงพร้อมร่ายเวทเตรียมสู้

“พวกมันมาแล้ว! คนของสภา...ไม่ใช่หน่วยเฝ้าระวังทั่วไป แต่เป็นนักล่าระดับ สูง!”

อิกนิสไม่พูด เขาพยักหน้าช้า ๆ พลางก้าวไปยืนริมระเบียง

ร่างในเสื้อคลุมม่วงเข้มสามคนลอยกลางอากาศเหนือคฤหาสน์ พลังเวทแต่ละคนบดบังแม้กระทั่งแสงอาทิตย์ยามเช้า

“ในนามของหอคอยเงา!”

เสียงหนึ่งตะโกน “คืนตราประทับของเรา หรือจงเผชิญกับการลบเลือน!”

เอลิซ่าเบิกตากว้าง “หอคอยเงา... พวกมันยังไม่สูญสิ้น?”

อิกนิสก้าวไปข้างหน้า เส้นผมสีขาวสะบัดช้า ๆ

“งั้นก็มาเอาไปเอง... ถ้าคิดว่าทำได้”

[บทต่อสู้เหนือฟากฟ้า และการเปิดเผยสายเลือด]

สิ้นคำ พลังเวททั้ง 8 ธาตุระเบิดจากตัวอิกนิส เวทลมยกร่างเขาลอยขึ้น ดวงตาสีแดงฉานเปล่งประกายสีทองกลางม่านหมอก

การต่อสู้ปะทุขึ้นกลางอากาศ คาถาต้องห้ามถูกใช้ ตราสัญลักษณ์โบราณถูกเรียกคืน เสียงเวทรัวใส่กันราวสายฟ้าแลบกลางท้องฟ้า

ร่างหนึ่งจากหอคอยเงาชักคมดาบเวทออก ดาบที่ทำจากโลหะเงาทมิฬสามารถดูดกลืนเวทมนตร์ใด ๆ ที่สัมผัส อิกนิสหลบการฟันแรกได้ แต่เพียงเฉียด

เลือดสาดขึ้นเล็กน้อย แขนซ้ายของเขาเริ่มชาด้วยพิษเวทจากดาบนั้น

เอลิซ่าไม่รอช้า เธอเหินขึ้นตาม ใช้เวทแสงสร้างเกราะป้องกัน และฟาดคทาใส่คู่ต่อสู้ด้านข้าง สะเก็ดเวทแผ่กระจายทั่วฟ้า

แต่ศัตรูไม่หมดเพียงเท่านั้น

ร่างสุดท้าย—หัวหน้ากลุ่ม เปิดฮู้ดเผยใบหน้าที่ไร้อารมณ์ แต่กลับมีดวงตาเหมือนอิกนิส...สีแดงฉาน

“...ในที่สุดก็พบเจ้า พี่ชาย”

อิกนิสชะงักทันที

“...อะไรนะ?”

“ข้าคือคนที่ถูกสร้างหลังเจ้า...ในห้องทดลองของตระกูลแฟลมเบิร์น...”

“...สายเลือดทดลองรุ่นสุดท้าย—โซล แฟลมเบิร์น”

การต่อสู้จบลงด้วยการระเบิดของเวทต้องห้าม “แสงแห่งเงา” ซึ่งทั้งสองพี่น้องใช้พร้อมกัน ทำให้ท้องฟ้าฉีกเป็นเส้นสีทองสลับดำ

โลกเวทเริ่มสั่นสะเทือน เมืองลูเมียมองเห็นแสงสว่างกลางวันยามรุ่งเช้าที่ฉีกแนวเหนือคฤหาสน์ไวท์ฟลอเรนซ์

และในเงาของป่าเวท เสียงหนึ่งดังก้องจากใต้พื้นดิน

“ข้ารอเวลานี้มานานเหลือเกิน... อิกนิส แฟลมเบิร์น”

—จอมเวทเงาตนแรก... กำลังฟื้นคืนอีกครั้ง

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!