ต่างโลกที่โหดร้าย

ณ อีกด้านหนึ่งของความมืดมิด ที่ทั้งเคว้งคว้างและไร้ซึ่งจุดจบ

"ตึก ตึก ตึก ตึก..."

แต่ทว่ากลับมีเสียงฝีเท้าอันหนักแน่นคู่หนึ่ง เดินกึกก้องเข้ามาในห้วงแห่งความมืดมิดนี้ และพูดขึ้นมาว่า

"ไอเจ้าบ้านั่น... ถึงขั้นใช้ที่ที่น่ารังเกียจแบบนี้ คงจะเป็นเรื่องสำคัญมากเลยสินะ?" ชายร่างโตพูด ด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง

"หึ มาแล้วสินะ..."

ทันใดนั้นเสียงพลันแทรกอันเหย่อหยิ่งของชายลึกลับก็ได้พูดกับชายคนนั้นขึ้นมา ก่อนจะปรากฏร่างเงาสีดำสนิทออกมาให้เห็นตรงหน้า

"ข้าให้เวลาแก 3 นาที มีอะไรก็ว่ามา?" ชายร่างโตพูด ด้วยสีหน้าที่บึ้งตึงขณะมองด้วยสายตาที่จริงจังมาก ๆ

"โห~ นี่เจ้ายังจะจริงจังอยู่อีกเรอะ? ทั้ง ๆ ที่เราเป็นฝ่ายอยู่เหนือกว่าเนี่ยนะ?"

"..........." ชายร่างโตมอง แต่ไม่ได้พูดกลับอะไร

"ฮึ ช่างเถอะ มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า..."

"ดูเหมือนว่าวิกฤตของโลกเริ่มใกล้จะเข้ามาขึ้นทุกทีแล้วนะตอนนี้..."

"..........."

"ผู้กล้าทั้ง 9 คน ผู้มาพร้อมพรสวรรค์อันหายากยิ่ง จะถูกเรียกมาจากอีกโลกหนึ่งด้วยความหายนะจากกลุ่มสาวกของพระเจ้า และจะทำให้ 'คำทำนายแห่งจุดจบ' ได้วิบัติขึ้นจนสู่หายนะที่มิอาจย้อนคืนได้"

"..เมื่อเข็มนาฬิกาทุกเล่มชี้ไปที่เลข 12 พร้อมกันจุดเดียวถึง 2 ครั้ง 'พวกเขา' ก็จะถูกเรียกมาจากอีกโลกหนึ่ง โดยสาวกของพระเจ้า"

"แกต้องการจะบอกอะไรกันแน่?"

"10 วัน ก่อนที่ 'พายุดำ' จะซัดโหมกระหน่ำ ข้าอยากให้เจ้า..."

"คอยจับตาดูพวกเขาไว้น่ะ..."

จากนั้นภาพก็ได้ตัดไปที่ ในอุโมงค์ถ้ำแห่งหนึ่ง ที่ทั้งมืดมิดและเคว้งคว้างเป็นอย่างมาก

แต่จู่ ๆ ก็ได้มีสายฟ้าแสงสีดำแดงโผล่พุ่งออกมาจากกลางพื้นนั่น จนเกิดเสียงช็อตดังสนั่นไปทั่วอุโมงค์

"ฟึง!!"

แล้วจากนั้นเฟรมก็ได้โผล่ออกมาพร้อมกับใบหน้าที่เปื้อนด้วยน้ำตา อย่างสับสนและกลัวมาก ๆ

เฟรม : "...!!?"

ทันใดนั้นเฟรมก็มองไปรอบ ๆ ตัวเขาที่เต็มไปด้วยความมืดมิดทันที อย่างกระวนกระวาย ก่อนจะตั้งสติขึ้นมาได้และรีบควักหยิบมือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกง แล้วเปิดแสงไฟขึ้นมาส่องทันที ด้วยความตื่นตระหนก

จนเมื่อแสงไฟได้ไปกระทบกับผิวอันขุรขระของถ้ำและส่องสะท้อนกลับมาที่ตา เฟรมก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมานิด ๆ แล้ว

เฟรม : *หายใจแรง* เสียงหายใจที่ไม่เป็นจังหวะที่เกิดจากความกลัว พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงฉับพลันของอากาศที่เย็นจัด จากสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นชิ้น ส่งผลให้เฟรมรู้สึกเครียดมาก ๆ จนคิดแต่เรื่องแง่ลบไปหมด

ในขณะที่ร่างกายของเขานั้นก็กำลังส่องดูที่นี่ไปด้วยความสั่นเทา จนได้เหลือบไปเห็นรูอุโมงค์รูหนึ่งที่มีขนาดพอให้คนเดินผ่านไปได้เข้า

เฟรม : (ที่นี่ที่ไหนเนี่ย?! กูอยู่ไหนกัน...?)

เฟรม : (แล้วกูจะกลับยังไง? นี่กูจะต้องมาตายที่งั้นเหรอ?!)

เฟรม : (แล้วอุโมงค์นี่มันอะไรอีก?!)

เฟรม : (ไม่ ไม่ นี่มันไม่ควรจะเป็นจริงสิ...! ใช่แล้ว! นี่มันก็แค่ความฝัน...ที่เหมือนจริง..ก็เท่านั้น...) เฟรมพูดในใจขณะมองไปในรูอุโมงค์ที่อยู่ตรงหน้า ที่ทั้งมืดมิดและเงียบสงัดอย่างน่าขนลุก

เฟรม : (ธะ โธ่เอ๊ย...!! แค่จะหลอกตัวเองกูก็ยังทำไม่ได้เลยหรือไงวะ...?!) เฟรมที่ไม่สามารถปฏิเสธความจริงที่อยู่ตรงหน้าได้นั้น จึงรู้สึกเครียดขีดสุด จนน้ำตาคลอเบ้าออกมาอีกครั้งพร้อมกับหัวที่ร้อนระอุขึ้น

จากนั้นเฟรมก็เริ่มร้องไห้ออกมาราวกับสายน้ำผ่านใบมือที่คอยปาดเช็ดน้ำตาไป ก่อนจะพูดคร่ำครวญออกมาอย่างน่าเวทนา ด้วยน้ำเสียงอันสะอึดสะอื้นว่า

เฟรม : "*กระซิก* ทำไมกูต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วยวะ...?" เฟรมนั่งกอดเข่าลงบนพื้นด้วยความกลัวขีดสุด ในขณะที่พูดระบายความในใจออกมาทั้งน้ำตาไปด้วย

เฟรม : "..ที่ไหนก็ไม่รู้...? ไม่มีใครมาช่วยด้วยซ้ำ... *สะอื้น*"

เฟรม : "ทั้งหนาว ทั้งมืด ทั้งกลัว... กูไม่ได้อยากเจออะไรแบบนี้ซักหน่อย... *กระซิก*"

เฟรม : "เฟรมแค่อยากจะกลับบ้าน..." เฟรมก้มหัวซุกเข่า และนั่งร้องโหมร้องไห้อยู่อย่างนั้น

จนเวลาผ่านไปสักพัก เขาก็เลิกจมปักกับอยู่ความเศร้าและเริ่มทำใจขึ้นมาได้บ้างแล้ว

เฟรม : "*กระซิก* หนาวจังเลย... กูยังไม่อยากหนาวตายนะ..."

จากนั้นเฟรมก็ได้ถอดกระเป๋าของเขาออกแล้วรูดซิปออกมาค้นของในนั้นดูทันที โดยที่ข้างในนั้นจะมีทั้งสมุดกับหนังสืออยู่เต็มไปหมด และมีเสื้อกันหนาวสีน้ำเงินอยู่ผืนหนึ่ง ที่มีรูปแมวส้มติดอยู่ตรงอกเสื้อด้วย

เฟรม : *กระซิก* เฟรมมองเสื้อกันหนาวของเขาที่บ่มไว้ในกระเป๋า ก่อนยืนขึ้นมาสวมเสื้อกันหนาวใส่ทันที โดยมีแสงไฟจากมือถือที่วางไว้บนพื้นส่องสะท้อนจากเพดานถ้ำลงมาให้เห็นด้วย

เฟรม : "*กระซิก* ไม่ว่ายังไงเราก็ต้องผ่านมันไปให้ได้..." เฟรมปาดเช็ดน้ำตาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะหยิบสัมภาระขึ้นมาแล้วเดินหน้าผ่านทางอุโมงค์ไป

และแล้วการเดินทางอันแสนทรหดของเฟรมมันก็ได้เริ่มต้นขึ้น...

15 นาทีต่อมา

ณ รูอุโมงค์ที่คดเคี้ยวและแสนยาวสุดลูกหูลูกตา

"ตึก... ตึก... ตึก... ตึก..."

ฝีเท้าที่เดินกึกก้องซ้ำแล้วซ้ำเล่าผ่านความเงียบสงัดในอุโมงค์ที่ไม่รู้จบ ท่ามกลางความมิดมิดที่มีแสงไฟจากมือถือคอยส่องนำทาง ได้แต่หวังไว้ว่ามันจะมีทางออกมาให้ แม้ว่ามันจะเพียงน้อยนิดอยู่ก็ตาม

เฟรม : "*หนาวสั่น* ซีด......"

ทว่าแม้จะใส่เสื้อกันหนาวที่แสนอบอุ่นมาแล้ว แต่ก็มิอาจต้านทานความหนาวเย็นของอากาศที่หนาวจัดได้อยู่ดี

สิ่งเดียวที่เขาทำได้ในตอนนี้ คือเดินต่อไปและเดินต่อไปก็เท่านั้น เพื่อหวังว่ามันจะมีอะไรดี ๆ เกิดขึ้นบ้าง

จนเวลาผ่านไป 5 นาที , 10 นาที , 20 นาที

แต่ทว่ากลับไม่มีอะไรดีขึ้นเลยสักนิด หนำซ้ำเฟรมก็กลับอาการแย่ลงแทน ไม่ว่าจะทั้งมือที่เย็นซีดไปหมดจากอากาศที่หนาวจัด ความเครียดและความวิตกกังวลจากบรรยากาศโดยรอบที่กดดัน ความเหนื่อยล้าจากการเดินต่อเนื่องเป็นเวลานาน จนทำให้เฟรมในตอนนี้เครียดจนถึงขีดสุดและใกล้ที่จะสติแตกขึ้นมาทุกทีแล้ว

เฟรม : "*หนาวสั่น* แฮ่ก ๆ ๆ..." เฟรมหายใจหอบหืดไปมาอย่างบ้าคลั่งด้วยความกลัว ขณะรีบเดินลอดอุโมงค์ให้เร็วที่สุด จนเสียงหัวใจที่เต้นระรัวนั้นได้แผ่ดังออกมาถึงข้างนอก

เฟรม : (ไม่ ไม่! เสียงแว่ว ๆ ในหูนี่มันอะไรกัน?! ทำไมกูได้ยินวะ!?)

"ตึก! ตึก! ตึก! ตึก!"

เฟรม : "...!!?" ทันใดนั้นเฟรมก็รีบเหลียวหลังไปดูทันที พร้อมกับส่องไฟฉายไปด้วย

แต่ปรากฏว่ากลับไม่มีอะไรเลยซะอย่างนั้น

เฟรม : "*เหงื่อตก* แฮ่ก... แฮ่ก... แฮ่ก..."

จากนั้นเฟรมก็ได้ก้มหัวลงไปมองที่เท้าของเขาเพื่อเช็คดู

เฟรม : "เฮะ...เฮะ ๆ... *ขำแห้ง*"

เฟรม : (นี่กูหลอนแม้กระทั่งเท้าตัวเองแล้วเหรอวะ!?)

"ตื๊ด"

เฟรม : "...!?"

แต่แล้วชีวิตก็กลับเล่นตลก เมื่อเสียงแจ้งเตือนของมือถือจู่ ๆ ก็ดังขึ้นมา จนเฟรมนั้นรู้สึกกังวลเป็นอย่างมาก ก่อนจะเปิดมือถือขึ้นมาดู

และแล้วสิ่งที่เขาไม่อยากให้มันเกิดขึ้นในตอนนี้ มันก็ได้เกิดขึ้น

เฟรม : "!!?"

*แบตเหลือ 10%*

เฟรม : (เฮ้ย!? มันไม่ควรจะเป็นตอนนี้สิวะ!! ไม่ใช่ตอนนี้...!!!)

ทันใดนั้นเฟรมก็รีบวิ่งลอดผ่านอุโมงค์ไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ทันที โดยที่ไม่รู้ว่าจะเจอกับอะไรอยู่ข้างหน้าด้วยซ้ำ

เฟรม : (เหี้ยเอ๊ย! เหี้ยเอ๊ย!! เหี้ยเอ๊ย!!! แบตกูจะหมดแล้ว! กูไม่อยากอยู่ในความมืดตลอดไปนะ!!)

*แบตเหลือ 9%*

เฟรม : (ขอร้องล่ะ! อย่าพึ่งนะ!! อย่าพึ่ง...!!!)

สถานการณ์ตอนนี้นั้นช่างสิ้นหวังถึงขีดสุด เมื่อแสงไฟที่คอยส่องนำทางให้กำลังจะดับลง จนต้องกระเสือกกระสนวิ่งผ่านอุโมงค์ที่ยาวเยียดสุดลูกหูลูกตาไปอย่างไม่รู้จบ โดยมีเพียงแค่ความหวังอันหลิบหลี่เท่านั้น ที่คอยผลักดันให้เขาดิ้นรนอยู่ต่อไป

จนกระทั่งความหวังก็เริ่มปรากฏออกมาให้เห็นตรงหน้า เมื่อเขานั้นได้เหลือบไปเห็นหินก้อนเล็ก ๆ ก้อนหนึ่งบนพื้นเข้า

เพียงแค่แว๊บตาเดียวที่เห็นมัน ก็รู้สึกได้ถึงแสงอ่อน ๆ ที่มันเปล่งออกมาได้ในทันที

*แบตเหลือ 7%*

แต่ทว่าเขาก็ไม่ได้มีเวลาสนใจกับเรื่องแค่นั้นหรอก

"ตึกตึกตึกตึกตึกตึก...!"

เฟรม : "แฮ่ก...! แฮ่ก...! แฮ่ก...! แฮ่ก...!-"

*แบตเหลือ 6%*

"เอี๊ยด! กรึก! ตึกตึกตึกตึก...!"

และแล้วความหวังมันก็ได้ส่องสว่างมากขึ้น เมื่อเฟรมนั้นได้วิ่งไปเรื่อย ๆ จนเริ่มพบเจอกับหินเรืองแสงที่เกาะอยู่ระหว่างทางมากขึ้นและมากขึ้น

จนแสงสีนวลที่มันเปล่งออกมานั้น สาดส่องไปทั่วทั้งอุโมงค์อย่างสวยงามตระการตามาก ราวกับมีดวงดาวอันระยิบระยับสุกสกาวบนท้องฟ้าได้มาติดอยู่รอบ ๆ อุโมงค์นี้

จนแววตาที่เคยสิ้นหวังและหวาดกลัวของเฟรมนั้น ก็ได้กลับมาเปล่งประกายแวววับขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อได้มองชมความสวยงามอันน่าประทับใจนี้ ในขณะที่วิ่งลอดผ่านอุโมงค์ไปด้วย จนราวกับว่ากำลังวิ่งอยู่ท่ามกลางดวงดาวที่แสนเจิดจรัญ

ก่อนจะปิดไฟมือถือลงและวิ่งผ่านดวงดาวที่สวยงามนี้ต่อไป

"ตึกตึกตึกตึกตึกตึก...!"

และแล้วแสงอันเจิดจ้าที่ส่องมาจากปลายอุโมงค์ที่อยู่ตรงหน้านั้นในตอนนี้ และในที่สุด...

"ฟึบ"

เฟรมก็ผ่านมันมาได้สำเร็จ!

เฟรม : *ยิ้มหน้าบานอย่างดีใจ*

"ตึกตัก!"

เฟรม : "แฮ่ก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ...!" เฟรมก้มตัวลงขณะมือจับเข่าไป ด้วยความเหนื่อยมาก ๆ

จากนั้นเฟรมก็ได้กำมือและกางแขนขึ้นมาทั้งสองข้างเหนือศีรษะ แล้วพูดออกมาขณะยกแขนขึ้นว่า

"ใน...ที่...สุด...!!!"

และแล้วการเดินทางที่แสนทรหดของเฟรมมันก็ได้จบลง ภายใต้ภาพที่แสนสวยงามตรงหน้า

ที่ซึ่งเป็นเหมือนถ้ำขนาดยักษ์ที่มีหินเรืองแสงเกาะอยู่ทั่วเต็มไปหมด จนแสงสีนวลที่เปล่งออกมานั้นสว่างเจิดจรัญไปทั่วทั้งถ้ำ อย่างตระการตามากจนหาที่เปรียบไม่ได้

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย : (โดยถ้ำนี้นั้นจะมีหน้าตาเหมือนกะหลาครอบขนาดยักษ์ ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางอยู่ที่ 72 เมตร สูง 35 เมตร และมีแร่เรืองแสงงอกออกมาอยู่ทั่วเต็มไปหมด แต่จะมีบางส่วนที่ไม่ค่อยงอก โดยมีตั้งแต่ขนาดเล็กเท่ากับเม็ดทรายไปจนถึงขนาดใหญ่ยักษ์ที่เท่ากับเสาไฟฟ้าอยู่ด้วย)

เฟรม : "แฮ่ก... แฮ่ก... แฮ่ก..." เฟรมยิ้มหน้าบานขณะหอบเหนื่อยไปด้วยความดีใจมาก ๆ

แล้วจากนั้นเฟรมก็ได้เดินลงไปตรงทางราดนั่นแล้วเดินชมที่นี่ต่อทันที เพื่อพักจิตใจให้หายเครียด

เฟรม : "ว้าว~ สวยโคตร!" เฟรมพูดขณะมองชมที่นี่ไปด้วยความตื่นเต้น

เฟรม : "แถมมันก็ยังปล่อยเสียงอ่อน ๆ ที่นุ่มนวลออกมาเพื่อไม่ให้ที่นี่เงียบเกินไปอีกด้วย เจ๋งว่ะ!~"

เฟรม : "...นี่น่าจะเป็นมรดกโลกได้เลยนะเนี่ย!-"

แต่แล้วเฟรมก็ได้พลันชงักขึ้นมา

เฟรม : "มะ มรดกโลกเหรอ...?"

เฟรมได้หันไปมองรอบ ๆ ที่ที่สวยงามตระการตานี่อีกครั้ง

เฟรม : "นี่กู..."

"อยู่ที่ไหนกันแน่...?"

และแล้วความสงสัย มันก็ได้ก่อขึ้นในใจเขา

"ตึก ตึก ตึก..."

จากนั้นเฟรมก็ได้เดินไปดูหินเรืองแสงที่อยู่ใกล้ ๆ ทันที แล้วสังเกตุดูอย่างชัด ๆ จนได้รู้ว่ามันคือผลึกคริสตัลที่เรืองแสงได้นั่นเอง

เฟรม : "จริงด้วย ไม่มีทางที่โลกของเราจะมีแร่ที่ผลิตแสงขึ้นมาได้เองหรอกนะ..."

เฟรม : "ถ้าสมมุติว่านี่เป็นต่างโลกจริง มันก็ต้องอ้างอิงมาจากสื่อต่าง ๆ ด้วยสิ?" เฟรมพูดครุ่นคิดขณะจับคางไปด้วย

เฟรม : "ไม่ มันยังฟันธงไม่ได้ ว่านี่จะเป็นต่างโลกในสื่อจริงรึเปล่า..."

เฟรม : "เพราะว่ายังมีข้อมูลที่ไม่มากพอ และก็ไม่สามารถเอาข้อมูลจากสื่อมาใช้อ้างอิงได้ด้วย"

เฟรม : "เฮ้อ คงต้องรอหลักฐานอะไรใหม่ ๆ มาก่อนแหละ ถึงจะค่อยยืนยันเรื่องนี้ได้..."

เฟรม : "แต่ตอนนี้กูขอพักก่อนดีกว่า..."

หลังจากพูดจบ เฟรมก็เดินไปนั่งพิงกับคริสตัลขนาดยักษ์ที่อยู่ตรงข้างหน้าทันที ก่อนจะแหงนหน้าขึ้นไปมองเพดานถ้ำที่เต็มไปด้วยคริสตัลแสนสวยงาม และพูดว่า

เฟรม : "อ่า ดูกี่ครั้งก็สวยเหมือนเดิม..."

เฟรม : "*ถอนหายใจ* ถ้านี่เป็นโลกอื่นจริง กูจะกลับโลกเดิมได้มั้ยนะ...?"

แล้วเฟรมก็ได้หลับตาลงและงีบหลับไป จนภาพนั้นมืดสนิท

"วอ...แว่วววว...!! วอ...แว่ว ๆ ๆ!!-"

"เอี๊ยด!! เอี๊ยด...!!"

"ปึก-ตึ่ง! ตึกตึกตึกตึก...!!"

"เร็วเข้า ๆ! มีคนเจ็บตรงนี้อยู่ 5 คน!!"

"ตรงนี้อีก 6!"

"ตรงนี้ก็มีอีก 3 ค่ะ!"

"อี๊ด ๆ ๆ ๆ...!"

"เร็วเข้า ๆ ๆ!! รีบพาคนที่เจ็บหนักไปปฐมพยาบาลที่รถตู้ก่อนเร็วเข้า!!-"

(ทุก ๆ ที่มีแต่ความวุ่นวายไปหมด...)

"ตอนนี้ดิฉันนะคะ ก็ได้มาอยู่ที่เกิดเหตุที่แสนจะแปลกประหลาดมาก ๆ นี้แล้วค่ะ! ที่จู่ ๆ ชาวบ้านในระแวกนี้ก็ล้มพับหมดสติไปกันหมดเฉยเลยโดยที่ไม่ทราบสาเหตุค่ะ! จนเกิดความวินาศสันตะโลไปทั่วทั้งเมืองจากอุบัติเหตุทางท้องถนนค่ะ ซึ่งคาดว่าจุดที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดก็คือตรงหน้าโรงเรียนที่ดิฉันอยู่นั่นเองนะคะ!-"

(ทุก ๆ ครอบครัวต่างสูญเสียคนสำคัญไป...)

"ฮือ ๆ ๆ เฟรม... แม่ขอโทษ... แม่ไม่น่าให้ลูกมาเรียนวันนี้เลย... *สะอื้น*"

"ทำไมต้องเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นด้วย ฮือ...ฮือ...ฮ่ะ...ฮ่ะ.........."

(ทุก ๆ อย่างมันเป็นเพราะ 'เรื่องเหี้ยนั่น' ...!!!)

"เปรี้ยง!!!"

จากนั้นเฟรมก็ได้ลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างหนาวเหน็บ ก่อนจะพูดออกมาว่า

เฟรม : "*หนาวสั่น* แม่งเอ๊ย...! ไอเจ้าสมองบ้า!" เฟรมพูดขณะจับหน้าผากตัวเองไปด้วย ความเครียดสุด ๆ

เฟรม : "...แม่งแทบไม่ได้นอนเลยด้วยซ้ำ! มัวแต่คิดเรื่องว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อวะถ้ากูไม่อยู่แล้วไอสัสเอ๊ย...!!" เฟรมน้ำตาเล็ดออกมาจากความเครียด

เฟรม : (...แล้วไหนกูบอกว่าจะเข้มแข็งขึ้นไม่ใช่หรือไงวะ?! ไหงกูถึงได้ร้องไห้ออกมาล่ะ...!)

เฟรม : *เช็ดน้ำตา* (ไม่ กูจะต้องไม่มาตายที่นี่สิวะ! ร้องไห้ไปตอนนี้ก็ไม่ได้ช่วยเหี้ยอะไรหรอก!!)

เฟรม : (กูจะต้องเข้มแข็งมากกว่านี้...! และต้องกลับไปเจอพ่อกับแม่ให้ได้!!) เฟรมพูดปลุกใจตัวเอง ก่อนจะลุกขึ้นมายืดอกอย่างเข้มแข็งทันทีว่า

เฟรม : (กูจะก้าวผ่านมันอีกครั้ง...ให้ได้เลย!!) แล้วเฟรมก็ได้เดินสำรวจที่นี่ต่อทันที ด้วยแววตาที่จริงจังมาก

"ตึก ตึก ตึก ตึก..."

(ตอนนี้กูได้เข้าใจแล้วว่า การที่ยึดติดอยู่กับความกลัวนั้น มันแทบไม่ได้ช่วยให้เราก้าวหน้าขึ้นมาเลยสักนิด มีแต่รั้งเราเอาไว้ให้คอยอยู่แต่ที่เดิม...)

*จามและโอบแขนอย่างหนาวสั่น*

"ตึก ตึก ตึก ตึก..."

(การกลัวนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ผิด แต่บางครั้งเราก็ต้องกล้าเผชิญหน้ากับความกลัวบ้าง เพื่อให้เราก้าวเดินต่อไปได้ แม้ว่ามันจะยากเพียงไหนก็ตาม)

"ตึก ตึก ตึก ตึก-"

"...!?" *หยุดเดินและหันไปมองบางสิ่ง*

เฟรม : (แต่ถ้าเรามุ่งมั่นและตั้งใจ ไม่แน่มันอาจจะพาเราประสบความสำเร็จก็ได้...)

เฟรม : "หืม?" เฟรมแลมองอะไรสักอย่างที่อยู่ตรงหน้านั่น ผ่านหลังคริสตัลขนาดยักษ์

"!!"

แล้วทันใดนั้นโชคก็ได้เข้าข้างเขา เมื่อสิ่งที่เหลือบไปเห็นนั้นก็คือ แท่งคริสตัลเรืองแสงแท่งหนึ่งที่มีขนาดพอ ๆ กับกระบอง กำลังตั้งเอนเอียงอยู่บนพื้นเข้า โดยมีรอยร้าวอยู่ทั่วโคนเต็มไปหมด ท่ามกลางพื้นที่ปลอดโล่งและลายล้อมไปด้วยคริสตัลโดยรอบอีกด้วย

เฟรม : (เฮ้ย!~ ตรงก้นมันร้าวอยู่นิ งั้นกูก็สามารถหักมันมาใช้แทนไฟฉายได้ดิวะ!) เฟรมพูดคิดอย่างดีใจมาก ก่อนจะวิ่งไปหามันใกล้ ๆ

เฟรม : (โห!~ ดูไปดูมามันก็สวยเหมือนกันนะเนี่ย แถมขนาดมันก็พอเหมาะที่จะเป็นกระบองได้ด้วย!)

เฟรม : (เจ๋งว่ะ!~ ถ้ากูไม่รู้จะเอามัน กูก็ไม่รู้ว่าจะเอาอะไรแล้ว!!) *ถีบ* จากนั้นเฟรมก็ได้หันลำตัวไปด้านข้างแล้วเอียงตัวถีบไปสุดแรงทันที เพื่อหวังให้มันหัก

"ตึก!!"

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย : (เนื่องจากเฟรมใส่รองเท้าผ้าใบพื้นนุ่มของโรงเรียน จึงดูดซับแรงกระแทกได้ดีและทำให้เสียงที่ปล่อยออกมานั้นเบาลง จนดูเหมือนไม่ได้รุนแรงอะไรมากนั่นเอง)

(*แถม* ถ้าผู้อ่านอยากจะอ่านเนื้อเรื่องให้มันต่อเนื่องล่ะก็ ก็อ่านข้ามความรู้นี้ไปได้เลยหรือวกกลับมาอ่านข้างบนใหม่ก็ได้นะครับ)

แต่ทว่ามันก็กลับแข็งไม่ใช่เล่นอยู่เหมือนกัน

เฟรม : (หือ? นี่ขนาดร้าวแล้วนะเนี่ยยังไม่สะทกสะท้านเลยหรือไงวะ...?)

เฟรม : "หึ แต่ช่างกะไร... (พอดีกูเคยถีบรั้วปูนจนล้มมาแล้วเว้ย!!) *ถีบ*"

"ตึก!!"

เฟรม : "อีก!! *ถีบ*"

"ตุบ!!"

เฟรม : (มากกว่านี้...!!) *ถีบ*

"ตึง!!"

"ตึก!! ตึก!! ตุบ!! ตึง!! ตึง!! ตุบ...!!"

แล้วเฟรมก็ได้ถีบต่ออยู่อย่างงั้นไป จนเวลาผ่านไป 5 นาที

"ตึง!!"

แต่ทว่ามันก็กลับไม่เป็นอะไรเลยสักนิด

เฟรม : "*หายใจแรง* นี่มันเหี้ยอะไรเนี่ย...!? ทำไมมันแข็งจังวะ?!" เฟรมพูดอย่างประหลาดใจมาก ๆ ขณะมองดูคริสตัลที่เขาถีบไปด้วย

เฟรม : "..นี่มันคริสตัลจริงมั้ยเนี่ย?! *ถีบ*"

"ตึง!!"

เฟรม : "...!!"

เฟรม : "ตีนกู!!" เฟรมร้องอย่างเจ็บปวด ขณะยกขาขวาขึ้นมาจับที่เท้าด้วย

เฟรม : (แม่งเอ๊ย...!! ถ้าไม่ใช่เพราะว่ากูต้องการแสงนะ กูคงไม่เอามึงไปนานแล้วไอเหี้ย!-)

เฟรม : (อึก จริงด้วยสิ ถ้ำนี้มันมีทางไปต่อไหมวะ? เพราะถ้าไม่มีกูก็ติดแหง็กอยู่ที่นี่ดิ...)

เฟรม : (ไม่ไม่ ยังหรอกน่า กูยังสำรวจที่นี่ยังไม่ครบเลย... มันอาจจะมีทางออกอยู่ก็ได้)

เฟรม : (...แต่ตอนนี้ กูขอเอามันให้ล้มสักทีก่อนเถอะ!!)

"ตึง!"

จากนั้นเฟรมก็ได้พุ่งไปจับคริสตัลนั่นแล้วดันสุดแรงไปทันที

เฟรม : "อึก! ฮึย...!!!"

"คืด...! คืด...! คืด...!"

เฟรม : (แม่งเอ๊ย...!! มีแต่เท้ากูที่ไปไอเหี้ย!)

เฟรม : "...ไอหินเวรเอ๊ย!!"

"เป้ง!!"

เฟรม : "อ๊าาา..!! ขากู!" เฟรมร้องอย่างเจ็บปวดมาก ขณะยกขาขวาขึ้นมาจับหน้าแข้งด้วย

เฟรม : "โธ่..แม่งเอ๊ย...!! *ดึงและโยกไปมา* รีบ ๆ ออกมาสักทีสิวะ!?"

*ถีบเท้าซ้าย* 'ตึก!!'

*ฮูคต่อย* 'เป้ง!!' "อะ..อ๊ากกก...!!!"

*กระโดดถีบ* 'ตึก!!' "อุก..!"

*กระเป๋าฟาด* 'ติ๊ง...!!'

*ตบ* 'เป้ง!!'

*กราบไหว้* "ฮือ ๆ ๆ"

"ย๊าาาา...!! " *พุ่งชนด้วยไหล่* 'ตึก!' "อ๊า!!"

*เป่ายิงฉุบ*

*ถีบอีกครั้ง* 'ตึง!!'

*ห้อยโหน*

*นั่งขุดด้วยไม้บรรทัด*

*กระโดดทับแบบบอดี้แสลม* 'ตุบ!' "อ๊ากกก!!!"

เฟรมได้สันหาทุกวิถีทางที่จะหักคริสตัลนั้นให้ได้ โดยพยายามอยู่อย่างงั้นไปสักพัก จนในที่สุด...

"กึก... กึก... กรึก! เป้งเกร็งเก็ง!!!"

มันก็ได้ล้มลงต่อหน้าเขา!

เฟรม : "แฮ่ก ๆ ๆ เย้!~ เอ๊อะ!-" เฟรมพูดขณะชูมือขึ้นมาอย่างดีใจมาก ๆ ก่อนจะล้มพับไปกับพื้นด้วยความเหนื่อยมาก ๆ เช่นกัน

เฟรม : "เฮะ ๆ ๆ ๆ... ใน..ที่..สุด...!"

แล้วจากนั้นเฟรมก็ได้หมุนตัวนอนหงายราบไปที่พื้น และมองดูเพดานถ้ำที่แสนสวยงามไปด้วยว่า

เฟรม : "อ่า เจ็บชะมัดเลยโว๊ย...! ไม่น่าเล่นพิเรนเลยกู..."

เฟรม : "ฮึ ๆ แต่ก็สนุกดีเหมือนแฮะ ที่ได้ทำไปโดยไม่ต้องคิดอะไรมากน่ะ... มันช่างรู้สึกโล่งใจยังไงก็ไม่รู้..."

เฟรม : (แต่ว่านะตอนนี้กูควรต้องออกไปจากที่นี่แล้วว่ะ...) เฟรมพูดในใจ ขณะดันตัวเองขึ้นมาลุกขึ้นยืน ก่อนจะเดินไปหาคริสตัลก้อนนั้น และพูดว่า

เฟรม : (ถึงที่นี่จะสวยงามซักแค่ไหน แต่มันก็ไม่มีอะไรเลยนอกจากคริสตัลทั้งนั้น)

จากนั้นเฟรมก็ได้ก้มหยิบแท่งคริสตัลขึ้นมา แล้วเหวี่ยงฟาดไปโดยรอบทันที

"ฟึบ ฟึบ ฟิ้ว"

เฟรม : "ฟู้ว นี่แค่แกว่งไปแกว่งมานะเนี่ย ยังต้องจับสองมือเลย..."

เฟรม : (คงจะหนักซักประมาณ 4-5 โลได้)

เฟรม : (อา แต่ก็ช่างเถอะ... ยังไงกูก็ได้อาวุธมาแล้วนี่เนอะ) เฟรมพูดในใจอย่างไม่ได้คิดอะไรมาก ก่อนจะเอาแท่งคริสตัลขึ้นมาพาดไว้บนไหล่

แล้วจากนั้นการผจญภัยสุดแสนทรหดของเฟรม มันก็ได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง

"ตึก ตึก ตึก ตึก..."

เฟรม : (เอ่... มันอยู่ไหนวะทางออกเนี่ย? กูเดินหาที่นี่นานแล้วนะ ยังไม่เจอเลย-)

เฟรม : "...!?"

แต่ทันใดนั้นเฟรมก็ได้เดินไปสดุดตากับรูขนาดใหญ่บางอย่าง ที่อยู่ข้างหน้าตรงซ้ายมือของเขาเข้า

ซึ่งมันทั้งมืดมิดและมีรูขนาดใหญ่มาก จนช้างยังลอดผ่านไปได้เลยด้วย

เฟรม : (โห พูดปุ๊บก็มาปั๊บเลยแฮะ...)

เฟรม : (เฮ้อ แต่กูจะต้องผ่านที่แบบนี้อีกแล้วเหรอวะ...?) เฟรมได้มองไปในรูอุโมงค์ ที่ไม่มีอะไรเลยนอกจากความมืดมิด

เฟรม : (แม่งเอ๊ย...! เอาก็เอาวะ!!)

แล้วเฟรมก็เดินเข้าไปในอุโมงค์นั่นทันที โดยมีแสงจากคริสตัลคอยส่องทางไว้อยู่ด้วย

จากนั้นภาพก็ได้ตัดไปที่ 15 นาทีต่อมา ณ ส่วนลึกของอุโมงค์ที่ยาวเยียดและมืดมิด

"ตึก ตึก ตึก ตึก..."

เฟรม : (เอิก ไม่ค่อยชอบบรรยากาศแบบนี้เลยเว๊ย!)

เฟรม : (แม่ง...! แทบไม่คุ้นชินกับมันเลยด้วยซ้ำ-)

"แกร็ก...!"

เฟรม : "...!?" แต่แล้วจู่ ๆ เฟรมก็ได้เผลอไปเหยียบกับอะไรบางอย่างขึ้นมาเข้า

จนเฟรมนั้นต้องก้มมองลงไปทันทีว่ามันคืออะไรกันแน่

แต่ทันใดนั้นเฟรมก็ต้องตกใจมาก ๆ เมื่อได้เห็นสิ่งที่เขาเหยียบลงไปนั้น ก็คือกระดูกมือของมนุษย์

เฟรม : "!!?" เฟรมรีบยกขาออกมาจากมือนั่นทันที อย่างสดุ้งตกใจมาก

เฟรม : (นี่มันเหี้ยอะไรเนี่ย...!? ทำไมถึงมีกระดูกคนอยู่ที่นี่ได้วะ?!)

เฟรม : (แล้วมันอยู่นี่ได้ไง? ที่นี่มันเกิดเหี้ยอะไรขึ้นวะ...?!)

เฟรม : (ไม่ ไม่ หายใจเข้า... อย่าพึ่งตื่นตระหนกสิเฟรม นี่ก็แค่กระดูกมนุษย์ชิ้นหนึ่งเอง อาจจะมีคนมาตายที่นี่ก็ได้...) เฟรมพูดในใจอย่างกังวล ก่อนจะเดินต่อ

"ตึก ตึก ตึก..."

เฟรม : (โอ้ว นั่นคงจะเป็นซากของเขาสินะ?) เฟรมได้มองซากกระดูกของใครบางคนที่อยู่กระจัดกระจายทั่วพื้น โดยอยู่ห่างจากมือกระดูกไม่มากนัก

เฟรม : (นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นเนี่ย? มีแต่ลอยร้าวเต็มไปหมดเลย แถมกระดูกแขนช่วงบนและกระดูกต้นขาก็หายไปไหนไม่รู้ด้วย...)

เฟรม : (เอะ... เดี๋ยวนะ เศษชิ้นผ้านิ?) เฟรมได้ย่อตัวลงไปหยิบ เศษผ้าสีดำขึ้นมาดู

เฟรม : (ดูจากผิวสัมผัสที่สากหน่อย ๆ แล้ว คงน่าจะเป็นชุดทางการสินะ?)

เฟรม : *เหงื่อตก* (..แม้แต่เสื้อผ้าก็ฉีกรุ่ยขนาดนี้... คงจะเป็นฝีมือของสัตว์งั้นสินะ?)

เฟรม : "...?"

แต่แล้วเฟรมก็พลันเหลือบไปเห็นสมุดโน๊ตเล่มหนึ่ง ที่อยู่ใต้ซากซี่โครงจากข้างตาของเขาเข้า

เฟรม : (นี่มันสมุดโน๊ตนิ...!)

เลือกตอน

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!