การร้องขอ

วูบ!

พลังงานบางอย่างแล่นผ่านร่างของหญิงสาว ดวงตาสีเงินของเธอสั่นไหว และก่อนที่เธอจะทันได้โต้ตอบ—

"อึก…!"

ร่างของเธอทรุดลงกับพื้น

"เฮ้!?"

โซเฮย์ร้องเสียงหลง เขาไม่ได้คาดหวังให้เป็นแบบนี้

[เป้าหมายติดสถานะ: สร้างเส้นพลังใหม่]

‘เดี๋ยว ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ พิษ!? นี่มันอะไรกันเนี่ย!!?’

โซเฮย์ใช้จังหวะนี้พังโต๊ะไม้เก่าๆ จนหลุดออกมาพร้อมที่มัดมือสองข้าง เขาพุ่งไปที่ประตูเตรียมตัวเผ่นออกจากที่สอบสวน แต่พอมือแตะผ้าคลุมทางออกเต็นท์ ความรู้สึกบางอย่างก็ทำให้เขาหยุดชะงัก

ภายในที่ที่เหมือนของห้องน้ำแห่งหนึ่ง มีกลุ่มเด็กผู้ชายสามคน ทำตัวเกเรเตะเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่นอนขดบนพื้นด้วยความทรมาน

ปัก!

“อั๊ก....”

"ช่างแม่งไปดิสนิทกับคนอย่างมันไม่เห็นจะทำให้อะไรสนุกขึ้นมาเลยแฮะ ฮิฮิฮิ"

ความทรงจำความเจ็บปวด และเสียงแสบแก้วหูของเด็กผู้ชายกลุ่มหนึ่งผุดขึ้นมาในหัว

“เอาเลย! ถ้าลุกขึ้นมาได้พวกฉันจะปล่อยนายไปเองเชื่อฉันสิ ฮึบบบ”

ปัก! ปัก ปัก

“อ่อก…. ฉันไม่มี....”

“หืมมมมมม”

กลุ่มเด็กเกเรอุทานขึ้นมาพร้อมกัน

“ฉันไม่มีขาสะหน่อย.... ขอรถ...”

“อุ๊บ....”

“ขอรถก็พอ...”

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า”

กลุ่มเด็กเกเรหัวเราะอย่างบ้าคลั่งปานจะลงไปดิ้นที่พื้นเป็นเพื่อน

“มันกล้าพูดว่ะ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า”

ขณะเดียวกันก็มีคนเดินเข้ามาในห้องน้ำ พลันเสียงหัวเราะหายไปเหมือนไม่เคยเกิดขึ้น

“คุณครูจะมาแล้วนะพวกนายน่ะ”

ปรากฏเด็กผู้ชายใส่แว่นคนหนึ่งด้วยท่าทีสุขุม ราวกับเขาไม่เกรงกลัวอะไรทั้งสิ้นเขาจ้องไปที่ใบหน้าของเด็กหนุ่มที่นอนหมดสภาพบนพื้นที่เปียกไปด้วยน้ำ

“....”

“ชิ  ไปกันเถอะ”

กระเดาะลิ้นอย่างไม่พอใจ พยายามจะบอกเป็นนัยๆ ว่าเดี๋ยวค่อยมาอีกก็ได้

“เอ๋~ อะไรเนี่ยหัวหน้าห้องก็น่าเบื่อเหมือนกัน~~”

กลุ่มเด็กหนุ่มเดินไปด้วยท่าทางที่ไม่พอใจ

“นายตรงนั้นน่ะจะนอนตรงนั้นไปถึงเมื่อไหร่ เมื่อไหร่จะเรียน”

หัวหน้าห้องจี้ถามปนไปด้วยความโกรธ

“ผมกำลังจะกลับบ้านต่างหาก”

“สภาพอย่างนั้นนายจะกลับยังไงล่ะ”

หัวหน้าห้องพูดเหน็บแนมอย่างสุขุม จนเด็กหนุ่มที่พื้นปะทุไปด้วยความโกรธ

“แกเองก็เห็นไม่ใช่หรือไงไอ้สารเลวเอ้ย! ถ้าได้แค่มองดูก็ไม่ต้องมาสมเพชฉันไอ้ขยะ!”

“หึ”

เด็กหนุ่มแผ่วเสียงลงอย่างสะอื้น

“เลือกได้...อึก ฉันก็ไม่อยากเป็นแบบนี้...อึก เหมือนกัน”

“สมแล้วล่ะ ขนาดฉันยืนอยู่ตรงนี้”

“เอ๊ะ?”

“นายยังไม่ยอมให้ฉันช่วยนายเลย ทำไมไม่ร้องให้ช่วยล่ะห๊ะ!!! ปากนายมีไว้โทษนู่นโทษนี่หรือไง!”

หัวหน้าห้องแผดเสียงก้าวร้าว ด้วยความโกรธที่สื่อออกด้วยตาอย่างชัดเจน ความเยือกเย็นเมื่อตอนนั้นได้หายไปเหมือนไม่ใช่เขา

“ฉันก็อยากจะช่วยคนที่น่าสงสารอย่างนายนะ แต่ท่าทีของนายนี่สิ”

“อยากเป็นฮีโร่หรือไง เป็นไม่ได้หรอกไอ้โง่”

เด็กหนุ่มพูดแผ่วๆ เสียงเบาด้วยใบหน้าที่ยิ้มร่าอย่างน่ากลัว

“ก็ฉันทำเพราะชอบนี่ เร็วสิขอให้ผมช่วยสะสิ”

หัวหน้าห้องเดินเข้ามาใกล้อย่างมั่นใจแล้วยื่นมือที่เต็มไปด้วยความหนักแน่น

“ถ้านายอยากให้ช่วยฉันจะช่วยเอง นายก็ด้วยล่ะหัดช่วยถ้ามีคนขอความช่วยเหลือด้วยล่ะ ฉันไม่เอาเหมือนตอนเปิดบ้านนะ”

เด็กหนุ่มเบิกตากว้างเหมือนคอยเฝ้ารอโอกาสนี้มาอย่างยาวนานทั้งน้ำตาที่เต็มเบ้าไหลหลาก

“ถ้าฉันช่วยผิดคนล่ะ ละ ละ และถ้าฉันทำอะไรไม่ได้เลยล่ะ”

“หึ นายในตอนนั้นจะคิดได้เองฉันพิสูจน์เรียบร้อยนายยังมีความรู้สึกอยู่นะ”

เมื่อโซเฮย์รู้สึกว่าเหมือนจะตื่นจากฝันอย่างยาวนานเขาก็ได้รู้สึกถึงสถานการณ์เรียบร้อย

“บ้าเอ้ย”

โซเฮย์กัดฟันแน่น ก่อนจะหันกลับไปดูอัศวินสาวที่นอนหอบอยู่บนพื้น

“ช่วย...ด้วย....”

อัศวินสาวใบหน้าซีดผาก

"มันเกิดขึ้นก็เพราะฉัน ขืนปล่อยเธอไปแบบนี้มีหวังตายแน่..."

เขาทิ้งความคิดเรื่องหนีไปก่อน พุ่งกลับไปหาเธอ ทันใดนั้นเอง—

[สกิล "เร่งเติบโต Growth Accel" เปิดใช้งาน]

แต่เขาไม่มีเวลาสนใจข้อความเหล่านั้นในสถานการณ์ที่พึ่งใครไม่ได้

ในตอนนั้นเอง เชือกที่มัดมือเขาอยู่ก็เริ่มปริขาดอย่างรวดเร็ว

เปรี๊ยะ—!!

เชือกขาดออกด้วยแรงเพียงเล็กน้อยจากมือของเขา โซเฮย์นั่งลงอย่างลุกลน

“ผมจะตะแคงตัวคุณเพื่อให้น้ำลายไม่ออกปากได้สะดวกนะ!!!”

ตอนนั้นเองที่เผลอไปเห็นแสงสีม่วงที่สว่างอยู่กลางอกของหญิงสาวโซเฮย์เบิกตากว้าง ก่อนที่ทุกอย่างรอบตัวจะหมุนคว้าง และภาพก็ตัดไปในความมืดสนิท...

ตอนนั้นทหารรายหนึ่งถือหอกก็มาโผล่หน้าเต็นท์

“คุณหญิงครับเป็นอะไรหรือไม่ครับ พอดีกระผมได้ยินเสียงโต๊หักมาจากทางเต็นท์ท่านน่ะครับ”

“....”

เมื่อเสียงไร้การตอบรับนายทหารก็ได้เริ่มรู้สึกสงสัย

“คะ คุณหญิงครับ? ถ้างั้น... ขะ ขออนุญาตนะครับ”

พูดด้วยความระมัดระวัง เมื่อนั้นที่เข้าไปเห็นนายทหารก็ได้อุทานเสียงดังด้วยความตื่นกระหนก

“คุณหญิงครับ!!!”

.

.

.

ดวงอาทิตย์เริ่มจมหายไปหลังขอบฟ้าท้องฟ้าถูกแต่งแต้มด้วยสีแดงฉาน ผืนดินอาบไล้ด้วยเงามืด ณ ปราสาทใจกลางเมืองขนาดเล็กในกำแพง มีห้องใหญ่โออ่าห้องหนึ่งเปิดหน้าต่างบานใหญ่รับลมอ่อนๆ ที่นั้นปรากฏคนตัวใหญ่กำยำกำลังนั่งเก้าอี้ไม้หรูหราที่บ่งบอกถึงถานะ อย่างสุขุมนั่งจดจ่อไปที่เตียงนอนหนึ่ง

“เจ้ามีอะไรจะบอกพ่อของเจ้าหรือไม่....เมสเทียร์ กริมสัน บุตรสาวของข้า”

เมื่อมองดูดีๆ สีผมเทางามสง่ายาวถึงกลางลำตัวกับดวงตาสีเทาเป็นประกายที่คุ้นเคย นางคืออัศวินสาวคนนั้น

“......ลูกต้องไปพบกับผู้ชายคนนั้นเดี๋ยวนี้ค่ะท่านพ่อ.....”

ผู้เป็นพ่อส่งสายตาอย่างกดดัน

“หึ”

“อึก”

“งั้นเจ้าก็บอกเหตุผลที่ข้าควรให้เจ้าไปช่วย คนที่เกือบทำให้ลูกสาวของข้าตายซะสิ!!!”

ตวาดเสียงตังอย่างก้าวร้าวด้วยแรงกดดันมหาสาร เด็กสาวกำมือแน่น

‘ถ้าไม่พูดตอนนี้ผู้ชายคนนั้นอาจจะตายก็ได้’

“หวังว่าเจ้าจะพูดเข้าหูข้านะ มิสเทียร์”

เขาพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ แล้วจดจ่อไปที่ลูกสาวของตัวเอง

.

.

.

ค่ำมืดแสงจันทร์เต็มดวงสาดกระทบเมืองขนาดเล็กที่มีกำแพงล้อมรอบ มีเพียงคบเพลิงและดวงจันทร์ที่กำลังมีชีวิตที่สุด ณ มุมหนึ่งของกำแพงเมืองตรงประตูทางเข้าด้านใน มีนายทหารสองคนยืนอยู่

“เฮ้ออออ.....”

นายทหารถอดลมหายใจอย่างสิ้นหวัง นายทหารอีกคนจึงทัก

“เป็นอะไรไปล่ะนั่น พึ่งจะมายืนกับข้าเองไม่ใช่เรอะ”

“อืมก็เพราะเรื่องของเด็กผู้ชายคนนั้นนั่นแหละ ผมต้องไปวิ่งวุ่นส่งข่าวให้ระหว่างปราสาทกับห้องขังของเขาน่ะสิ”

“อ้อตอนข้าเดินมาเหมือนจะคือเรื่องของคนที่ทำร้ายนายหญิงมิสเทียร์ ถูกย้ายไปปราสาทน่ะเหรอ”

“ช่ายยยย นั่นแหละคิดดูระยะทางที่ผมต้องวิ่งสิ ม้าก็เอาไปให้กอบกู้เสบียงของหมู่บ้านที่ถูกเผาหมดแล้วด้วยยยย”

“ทำใจเถอะ ฮ่าฮ่าฮ่า”

“อึ๊ยยย”

ฮอต

Comments

im_soHaPpy

im_soHaPpy

พวกเรารออ่านต่อไปจากแอดอยู่เลย!

2025-03-22

0

ทั้งหมด
เลือกตอน

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!