Episode 4 เป้าซ่านสานเหริน

“ดูท่า นายท่านฟ่างกับ สองเซียนพิสุทธิ์กำลังจะกลับแล้ว หากคุณชายยิ้วต้องการชมดู สมควรมองเห็นจากตรงนี้” ป้านยี้มองเห็นกลุ่มคน 7-8 คนล้อมหน้าล้อมหลัง คนชุดขาวหนึ่งคน คนชุดดำหนึ่งคน กำลังเดินออกจากโรงเตี้ยม

เว่ยอู๋เซียนชมดู “หานกวงจวิน กับ อี้หลิง เหล่าจู” ที่กำลังเดินออกไป หานกวงจวินผู้นี้สะพายกระบี่ยาวไว้ด้านหลัง สวมชุดขาวขลิบน้ำเงิน หน้าผากมีผ้าคาดไว้ ใบหน้าสุภาพเรียบร้อย ไว้เครายาวจรดอก ดูไปอายุมากกว่า หลานฉี่เหรินเมื่อครั้งกระนู้นเสียอีก ส่วน อี้หลิง เหล่าจู สวมชุดยาวสีดำ หว่างเอวเสียบไว้ด้วยขลุ่ยเล่าหนึ่ง ผิวหน้าคล้ำไว้เครายาวห้าแฉก ดูไปคล้าย จงขุย *มากกว่าผู้ฝึกวิชาเซียน หากหลานจ้านมาเห็นจงขุยเหล่าจู ผู้นี้ไม่ทราบว่าจะรู้สึกอย่างไร

ฉายา สองเซียนพิสุทธิ์เป็น จินหลิง เรียกหาเมื่อสิบกว่าปีก่อน จากนั้นจึงกลายเป็นชื่อฉายาที่ลูกหลานในสกุลเซียนอื่น ๆ เรียกตามกัน ตัวเว่ยอู๋เซียนเอง ชมชอบชื่อฉายานี้อยู่ไม่น้อย เหตุเพราะมีคำว่า สองเซียน อันหมายถึงตัว เว่ยอู๋เซียนกับหลานวั่งจีอยู่ด้วยกันนั่นเอง

“พี่ซา พี่ป้าน ผู้น้องมีเรื่องสำคัญต้องไปจัดการ ขออำลา โอกาสหน้าพบกันใหม่” เว่ยอู๋เซียนยามนี้เพียงต้องการทราบว่า คนทั้งสองที่สวมรอยมาเป็นตัวเขากับหลานจ้าน มีจุดประสงค์ใดดูท่าไม่ใช่เรื่องดีอันใด เพียงกล่าวลาแล้วมุ่งหน้าไปที่บ้านสกุลฟ่างทันที บ้านสกุลฟ่างเป็นสำนักเซียนเพียงหนึ่งเดียวในเมือง อู๋ซี นับเป็นเพียงสกุลเซียนเล็ก ๆ ไม่มีชื่อเสียงอันใด การประชุมที่หอเกร็ดทองสกุลจินยังไม่มีชื่อสกุลฟ่างเข้าร่วมประชุม หัวหน้าสกุลฟ่างเรียกว่า ฟ่างเฉิงฟู่ ปีนี้อายุเกือบ 40ปีแล้ว นับเป็นศิษย์นอกสกุลของสกุลโอวหยาง วิชาเซียนไม่โดดเด่น ปราณเซียนอยู่ในระดับจู้จี (มีเพียงรากฐานปราณเท่านั้นยังไม่ถึงระดับมีจินต้าน)

ยังไม่สามารถควบคุมกระบี่ได้

ยามนี้เป็น ยามโหย่ว (17.00 - 18.59 น) คงต้องรออีกสักพักจนกว่าจะถึงเวลาดับตะเกียง เว่ยอู๋เซียนเพียงลอบสำรวจ หมู่ตึกสกุลฟ่าง หลังจากทราบว่าเป้าหมายพักอยู่ที่ใดก็จากมา เพียงรอเวลาย้อนกลับเข้าไปใหม่

เว่ยอู๋เซียนเพียงต้องการฆ่าเวลาก่อนกลับเข้าไปที่สกุลฟ่าง เดินไปเดินมากลับเดินลึกเข้าไปในป่าไฝ่ทางด้านตะวันออกของสกุลฟ่าง เวลานี้ฟ้ายังไม่ถึงกลับมืดแต่ก็นับว่าพระอาทิตย์ใกล้ลาลับขอบฟ้าแล้ว

เว่ยอู๋เซียนรู้สึกเหมือนได้ยินผู้ใดดีดฉินอยู่ไม่ไกล ท่วงทำนองคล้ายรู้จักคล้ายไม่รู้จัก เสียงเหมือนอยู่ไกลแต่กลับได้ยินอย่างชัดเจน เว่ยอู๋เซียนเร่งฝีเท้าไปทางด้านหน้าดูท่าใกล้ตำแหน่งที่ได้ยินเสียงฉินอยู่ไม่ไกล มือขวาสอดไว้ในอกเสื้อยันต์โจมตีอยู่ในมือ

“เจ้าเรียกว่า เว่ยอู๋เซียน ใช่หรือไม่” เสียงเรียกหากลับได้ยินมาจากด้านหลัง

เว่ยอู๋เซียนฉงักฝีเท้า หมุนตัวกลับหลัง เท้าซ้ายปักลงพื้น เตะเท้าขวาไปด้านหน้า เอนตัวไปด้านหลังผลักสองฝ่ามือออก ยันต์โจมตีจู่โจมด้านบน กระบวนท่านี้นับว่าครอบคลุมรอบตัวไม่ว่าศัตรูอยู่ด้านไหนสมควรโจมตีถูก

“กระบวนท่าไม่เลว หากเป็นผู้อื่นสมควรโดนเจ้าทำร้ายในกระบวนท่าแรกแล้ว มารดาเจ้าใช่เรียกว่า ฉางเซ่อซ่านเหรินใช่หรือไม่”

เว่ยอู๋เซียนมองเห็น นักพรตหญิงผู้หนึ่งยืนอยู่บนกิ่งไฝ่ใบหน้าอ่อนเยาว์ ในมือประคองฉินเจ็ดสายไว้ ต้นไฝ่ลู่ลมไปมา แต่นักพรตหญิงผู้นั้นกลับเหมือนกิ่งไฝ่อันหนึ่ง ต้นไฝ่ลู่ไปทางใดก็ไปทางนั้น วิชาตัวเบานี้ เว่ยอู๋เซียนยังทำไม่ได้

“ศิษย์ เว่ยอู๋เซียนคำนับท่านปรมาจารย์” เว่ยอู๋เซียนกล่าวพร้อมกราบคำนับไปยังทิศที่นักพรตหญิงนั้นยืนอยู่

“เด็กอันประเสริฐ เจ้ารู้ว่าเราเป็นใคร” นักพรตหญิงกล่าวถาม

“ศิษย์ในตอนแรกยังไม่แน่ใจ แต่พอท่านปรมาจารย์ เอ่ยถึงชื่อมารดาผู้ล่วงลับ ศิษย์กลับแน่ใจแล้ว”

“เจ้าฉลาดเฉลียวยิ่ง ดูไปใบหน้าเจ้ากลับคล้ายซ่านเออร์นัก”

“ศิษย์กลับจำใบหน้าท่านพ่อ ท่านแม่ไม่ได้แล้ว” เว่ยอู๋เซียนกล่าว

“มารดาเจ้ามีชะตาอาภัพ ตอนที่นางขอลาข้าเพื่อลงจากเขา ข้าทำได้เพียงแค่เตือนนาง แต่ไม่อาจยับยังไว้ ชะตาชีวิตของผู้คนสุดที่ผู้อื่นจะช่วยเหลือ”

“เว่ยอู๋เซียน เจ้าความจริงตายไป 30กว่าปีแล้ว”

\====================================================

หมายเหตุ : จงขุย (จีน: 鍾馗; พินอิน: Zhōng Kuí) เป็นเทพกึ่งปีศาจในตำนานเทพของจีนตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถัง เชื่อกันว่าจงขุยเป็นผู้กำราบปิศาจร้าย และมักจะวาดภาพจงขุยไว้ที่หน้าประตู เพื่อเป็นผู้ปกปักษ์คุ้มครองบ้าน ตามตำนานของจีน เล่าว่าจงขุยเป็นชายหนุ่ม มีความรู้ดี แต่หน้าตาอัปลักษณ์

เลือกตอน

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!