“ใช่กระเป๋าตังใบนี้หรือป่าวครับ”
“อ๋อ ใช่ค่ะ ขอบคุณนะคะ”
สาวร่างบางตอบรับอย่างง่ายดายก่อนจะรับกระเป๋าตังจากชายร่างสูงคนนั้นเขาพยักหน้ายิ้มตอบรับก่อนที่จะหันหลังเดินออกไป
-จะไปแล้วงั้นหรอ ทำไงดีล่ะ-เสียงของสาวร่างบางที่เอาแต่คิดก่อนที่เธอจะตัดสินใจรั้งเขาคนนั้นไว้
“เด..เดี๋ยวก่อนค่ะ ใช่คนที่เจอเมื่อคืนไหมคะ”
“ครับ ใช่พี่เอง”
“นี่ค่ะ ผ้าเช็ดหน้าที่ให้ไว้แต่น้องซักให้แล้วนะคะ”
ชายร่างสูงยื่นมือออกไปเพื่อรับผ้าเช็ดหน้าจากมือของสาวร่างบางพร้อมกับพยักหน้าตอบรับพลางพูดกับสาวร่างบางต่อเพื่อไม่ให้บทสนทนามันเงียบ
“น้องชื่ออะไรเหรอครับ”
“เฟรมค่ะ”
“เป็นน้องรหัสของดรีมมันใช่ไหม”
“ใช่ค่ะ”
“อ๋อ พี่ชื่อ เหนือ นะน้องน่าจะได้ยินที่ดรีมมันพูดแล้วตอนคุยโทรศัพท์กัน”
สาวร่างบางพยักหน้าตอบกลับไปพร้อมกับรอยยิ้มอ่อนๆที่ปรากฏบนใบหน้าของเธอ ชายร่างสูงที่เห็นดังนั้นก็เขยิบเข้ามาหาเธอพร้อมกับก้มมองใบหน้าของหญิงสาวอย่างตั้งใจ ระยะห่างของส่วนสูงมันลงตัวพอดีที่จะทำให้คนที่สูง 170 อย่างเฟรมดูตัวเล็กลงไปเลยเมื่อยืนเทียบกับคนที่ตัวสูงถึง 187 อย่าง เหนือ
“อื้ม พอน้องยิ้มแบบนี้แล้วน่ารักขึ้นเยอะเลยนะ”
“คะ!? คือ..”
สาวร่างบางที่โดนกระทำแบบนั้นเลิ่กลั่กขึ้นมาทันที ความที่เธอทำตัวไม่ถูกต่อหน้าคนแบบนี้ที่เพิ่งรู้จักกันได้ไม่นาน ทำให้ชายร่างสูงที่เห็นดังนั้นก็ได้เกิดความเอ็นดูเธอ รอยยิ้มแสนละมุนของเหนือถูกมอบให้กับเฟรมผู้หญิงตรงหน้าของเขา
“เฮ้ยย!! แยกๆพอเลยพอเลยมึงทำอะไรกับน้องรหัสของกูววว หะ!!”
พี่รหัสอย่างดรีมที่เดินผ่านมาหลังร้านพอดีเพื่อที่จะมาตามเหนือแต่ก็ต้องมาเจอกับภาพแบบนั้น ด้วยความหวงน้องรหัสเป็นอย่างมากเธอจึงรีบเข้าไปเพื่อขัดขวางก่อนที่จะเกิดไรขึ้นมากกว่านี้ (มามี้ท่านหนึ่ง)
“อะไรของมึงเนี่ย กูยังคุยกับน้องเค้าไม่จบเลย”
“ไม่ กูไม่ให้คุย...ว่าแต่คุยเรื่องไรวะ”
“โว๊ะ!! มึงนี่มัน”
สาวร่างบางที่ยืนอยู่หลังพี่รหัสได้แต่หัวเราะกับท่าทีของทั้งสองคนที่ได้สนทนากัน ไออุ่นจากแดดได้สาดส่องเข้ามาพร้อมลมเย็นๆที่ผัดโชยเข้ามาใบหน้าของทั้งสามที่มีแต่รอยยิ้มบนหน้าความสุขเล็กๆน้อยๆ
<ตู๊ด..ตู๊ด...ตู๊ด...>
“ฮัลโหล เฟรม”
“เธออยู่ไหนอ่ะไม่ได้เกิดเรื่องไม่ดีใช่ไหม”
“ฉันอยู่หลังร้านอ่ะ เดี้ยวจะเข้าไปและ”
“งั้นแค่นี้ก่อนนะ”
“โอเค โอเค”
เพื่อนผู้ชายที่เป็นห่วงเธอโทรมาหาเพราะเห็นว่าสาวร่างบางไปนานมากแล้ว พี่รหัสและชายร่างสูงที่เห็นดังนั้นได้หยุดชะงักลงก่อนจะหันมามองหน้ากันอย่างสงสัย
“โหห เฟรมถ้ามาช้ากว่านี้อาหารจะหมดเอานะ” เพื่อนสนิทอย่าง ปลาย พูดขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนของตนเดินมาพร้อมกับพี่รหัสและชายอีกคนพร้อมกับมือที่ตักอาหารใส่จานตัวเองอย่างไม่หยุดหย่อน
“อย่างน้อยก็มีอยู่ กินด้วยดิ”
“อะ นี่ฉันตักเอาไว้ให้แล้ว” กาลยื่นจานอาหารมาให้กับเฟรม สาวร่างบางที่เห็นดังนั้นก็พยักหน้าตอบรับ
หลังจากที่ทานอาหารเที่ยงกันเสร็จเรียบร้อยพี่ดรีมก็แนะนำพี่เหนือให้กับเพื่อนๆของฉันได้รู้จัก แถมบทสนทนาที่คุยด้วยกันก็ผ่านไปได้ด้วยดีก่อนที่จะแยกย้ายกันไปพี่เหนือจึงถามคำถามต่อ
“เห็นว่าพวกน้องกำลังทำโปรเจคที่จารย์เขาสั่งอยู่ใช่ไหม”
“ใช่ค่ะ/ครับ” ทั้งสามตอบอย่างพร้อมเพียง
“ให้พวกพี่ช่วยไหม”
“แคก แคก....” พี่ดรีมที่กำลังดื่มน้ำอยู่สำลักออกมาก่อนจะหันไปมองหน้าของเหนือที่ตอนนี้ยิ้มร่าออกมาเธอดึงแขนเสื้อของเขาก่อนที่จะกระซิบในสิ่งที่ตนคิด
“มึงงานเราก็ยังไม่เสร็จเลยนะ”
“แล้วมึงไม่อยากช่วยน้องรหัสของมึงแงะ”
คำตอบนั้นทำให้พี่รหัสไปไม่ถูกเลยทีเดียว ถึงแม้งานของตนจะกองเป็นภูเขาแต่งานของน้องรหัสต้องมีส่งและเสร็จเท่านั้นน!!
“...เอ่อคือถ้าพี่ดรีมไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรนะคะ”
“ใคร๊ ใครเขาบอกกันว่าพี่ไม่สะดวก สำหรับน้องเฟรมพี่ว่างได้เสมอค่ะ”
“งั้นก็รบกวนด้วยนะคะ”
ชายร่างสูงที่เห็นดังนั้นเอามือขึ้นมาเท้าคางก่อนจะเอียงหัวเล็กน้อยพร้อมยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเลห์นัยต์ตาจ้องไปที่สาวร่างยางที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม สิ่งที่เขาได้ตัดสินใจช่วยถึงแม้เขาแทบจะไม่มีเวลาเลยก็ตามก็คงเพราะ.....
“มึงงง ไอ้เหนือเพื่อนมึงอ่ะมันสร้างเรื่องให้กูอีกและ”
“อะไร ทำไม ยังไง?”
หลังจากที่น้องๆทั้งสามคนกลับไป เพื่อนของชายร่างสูงก็มาพอดีพวกเขาจึงคุยกันต่อกับเรื่องที่เพื่อนอย่าง บอนซ์ มาไม่ทัน
“ก็มันจะให้พวกเราไปช่วยน้องรหัสกับเพื่อนน้องทำโปรเจค”
“ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอวะ”
“ดี มันก็ดีแหละ แต่มึงอ่ะคงไม่ได้ไปแค่ช่วยงานใช่ไหม”
ดรีม ผู้หญิงแกร่งคนเดียวในกลุ่มหันมาชี้หน้าเหนืออย่างจับผิด ความที่เซนส์ของผู้หญิงมันแรงมากชายร่างสูงที่เห็นดังนั้นได้แต่ยิ้มมุมปากพร้อมกอดอกของตัวเองด้วยท่าทีที่มั่นใจ
“หรือว่า...มึงสนใจน้องเขา” บอนซ์เสริมขึ้นเมื่อเห็นปฏิกิริยาแปลกๆจากเพื่อนของเขา เพียงอึดใจเดียวเหมือนที่มาแค่มองตาก็รู้ใจ
“เชี่ยยย จริงป่ะเนี่ย” คำอุทานหลุดออกมาจากเพื่อนทั้งสองคน ก่อนที่จะรีบปิดปากของตนเพราะพึ่งรู้ตัวว่าทั้งสองรีแอคดังเกินไป
“เฮ้ออ ไอ้เหนือมึงปล่อยน้องเขาไปมีอนาคตเถอะ”
“กูนี่ไง อนาคตของน้องเขา”
ชายร่างสูงทำหน้าอย่างทะเล้นก่อนจะก้มหน้าจิ้มมือถือต่อเขาพิมพ์ข้อความตอบกลับที่ส่งมาได้ไม่นานเพื่อนทั้งสองคนที่เห็นก็ได้แต่ส่ายหน้าให้กับท่าทีของชายร่างสูง
“เออว่าแต่มึงไม่เป็นไรแล้วแงะวะเรื่องเมื่อวานอ่ะ”
“......”
“อืม...ไม่เป็นไรแล่ว”
เพื่อนสาวอย่างดรีมได้แต่มองหน้าของเพื่อนผู้ชายที่บทสนทนาดูตึงขึ้นมา
“พอดีคืนนั้นกูได้เจอ-”
ไม่ทันที่บทสนทนาจะไปต่อพี่ชินที่เป็นหัวหน้าในพนักงานเสริฟก็ขัดขึ้นมาซะก่อน
“แหม เหนืออยู่นี่นี่เอง”
“เมื่อคืนก็หายไปทั้งคืนเลย”
“คร้าบบ ขอโทษทีครับพอดียุ่งๆนิดหน่อย”
“งั้นกูไปทำงานก่อนนะ”
ชายร่างสูงบอกลาเพื่อนๆก่อนที่จะเตรียมตัวไปทำงานต่อ ในทุกวันเสาร์และอาทิตย์เขาก็จะมาทำงานพิเศษในช่วงเช้าแต่ถ้าเป็นวันธรรมดาเขาก็จะรับจ็อบทำแค่เฉพาะช่วงกลางคืนเท่านั้น ยังดีที่พี่ชินเป็นคนรู้จักกับพ่อและแม่ของเขาเลยทำงานได้สะดวกหน่อย
บรรยากาศในห้องเงียบซะจนไม่มีบทสนทนาอะไรเลยมีเพียงแค่ สาวร่างบางกับเพื่อนชายของเธอที่นั่งทำงานอีกอันอยู่ส่วนเพื่อนสาวอย่างปลายที่พ่อได้กินของอร่อยก็หนังตาหย่อนลงไปเลยเธอจึงนอนอยู่บนเตียงของสาวร่างบางจนกระทั่ง กาล ได้ถามกับ เฟรมที่นั่งอยู่ตรงข้ามกัน
“.....เออ เฟรขอถามไรหน่อยดิ”
“อืมม มีไรอ่ะ”
สาวร่างบางผละหน้าตนเองออกจากหน้าจอคอมพิวเตอร์พร้อมกับหันไปสนใจ กาล ที่กำลังจะถามกับเธอ
“เธอรู้จักพี่ เหนือ อยู่แล้วรึเปล่าอ่ะ”
“ไม่รู้ว่าจะใช้คำว่ารู้จักได้ไหม ก็แค่คนที่บังเอิญเจอกันเฉยๆและพอรู้อีกทีก็กลายเป็นคนรู้จักในวันนี้เฉยเลย”
“อ่อ ว่าแต่เจอกันได้ไงหรอ”
“หืม?!”
สาวร่างบางที่นึกว่าหมดคำถามแล้วก็เลยจะหันมาสนใจหน้าจอคอมต่อ กลับต้องเอียงหัวด้วยความสงสัยเล็กน้้อยที่เพื่อนถามอย่างนั้นแต่ก็คงต้องตอบไปเพราะใบหน้าของกาลดูจริงจังมาก
“เจอกันเมื่อคืนอ่ะ”
สาวร่างบางนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจพูดออกไปให้กาลได้รู้
“....กาล”
“ว่า”
“ฉันไม่ได้คบกับพี่ว่านแล้วนะ”
“แล้วเธอโอเคไหม”
เพื่อนผู้ชายอย่างกาลถามไถ่ด้วยความเป็นห่วงก่อนจะเดินไปนั่งข้างๆสาวร่างบาง
“ถ้าตอบว่า โอเค ก็คงแปลกล่ะนะ”
“คิดว่าจบแบบนี้มันดีแล้วรึเปล่า”
“....ฉันอยู่ในจุดที่เลือกอะไรได้ด้วยหรอ”
สาวร่างบางตอบกลับคำถามกาลพลางน้ำตาคลอเบ้าจะเอ่อล้นออกมาทุกวินาที เธอเอามือขึ้นมาบังหน้าอีกเช่นเคย กาลที่นั่งอยู่ข้างๆกำลังที่จะเอามือมาปลอบเธอแต่สายเรียกเข้าของโทรศัพท์ก็ขัดจังหวะพอดี สาวร่างบางรีบปาดน้ำตาพร้อมดูโทรศัทพ์ว่าใครโทรมาก็พบก็เลขที่ไม่คุ้นก่อนที่เธอจะขอตัวออกไปรับโทรศัพท์ที่ระเบียงห้อง
“ฮัลโหลค่ะ”
“เอะ นึกว่าจะไม่รับซะแล้ว”
“พี่เหนือเหรอคะ”
“......”
ถึงแม้สาวร่างบางจะปาดน้ำตาออกแต่ก็ยังหลงเหลือความรู้สึกนั้นอยู่ดี ทำให้คนที่อยู่ปลายสายอย่างเหนือรู้ได้ทันที ก่อนจะถามด้วยเสียงทุ้มอ่อนนุ่มเหมือนกับครั้งนั้น
“ร้องไห้งั้นเหรอครับ”
“......”
น้ำตาที่คลอเบ้าอยู่กับเอ่อล้นออกมาไม่มากก็น้อยเมื่อได้ยินคำถามนั้น ก่อนที่เธอจะรีบกลบเกลื่อน
“ฮึก ฮึ ปล่าวค่ะ ไม่ได้ร้อง”
“อืมมม เอาผ้าเช็ดหน้าไปให้ไม่ได้ด้วยสิ”
“ฮะ ไม่เป็นไรค่ะ ไม่ได้ร้องจริงๆ”
“ให้พี่อยู่เป็นเพื่อนไหม”
“เอ่ออ คือ..”
สาวร่างบางไม่ทันจะตอบออกไปแต่เสียงที่ดังแทรกมาที่ปลายสายก็ขัดขึ้นก่อน เสียงของพี่ชินที่ตามตัวเหนือให้ไปเสริฟ์อาหารดังขึ้น
“เหมือนพี่จะไม่ว่างนะคะ”
“เออะ โทษทีด้วยนะน้อง”
“น้องโอเคขึ้นแล้ว”
“ถ้าไม่เป็นไรก็ดีแล่ว พี่คงห้ามไม่ให้น้องร้องไห้ได้แต่ถ้าน้องร้องไห้แล้วมันจะทำให้น้องดีขึ้นก็ร้องออกมาเถอะครับ”
“ค่ะ ขอบคุณนะคะ”
“อื้ม แล้วก็นี่เบอร์พี่นะ เมมไว้ด้วยนะครับ”
“รับทราบค่ะ”
สิ้นสุดการโทร บรรยากาศข้างนอกระเบียงในตอนใกล้4โมงเย็นแสงแดดอุ่นๆกับลมเย็นๆที่พัดโชยมา ไม่รู้ทำไมการที่พี่เขาโทรมาในเวลาแบบนี้มันทำให้ฉันรู้สึกดีมากกว่าเดิม เหมือนไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว สาวร่างบางเมมเบอร์ของชายร่างสูงไว้ เธอพิมพ์ไปพลางยิ้มออกมาด้วยความสุขที่เหมือนกับฟ้าหลังฝน สำหรับฉันคงจะเป็นฝนหรือพายุที่โหมกระหน่ำแต่อย่างพี่เหนือคงจะเป็นแสงแดดไม่ก็ดวงอาทิตย์ ที่ทั้งร้อนและอบอุ่นเมื่อเข้าใกล้อย่างบอกไม่ถูก
ในคราวที่ฝนตกเราคงมองไม่เห็นดวงอาทิตย์เลยแต่มันอยู่กับเราตลอดและจะโผล่มาหลังจากฝนที่ค่อยๆซาลงมาแสงแดดชวนอบอุ่นที่อยากอยู่ใกล้
ก่อนที่เธอจะเมมชื่อในโทรศัพท์ว่า แสงเหนือ
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments