<ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด......>
เสียงของนาฬิกาปลุกดังขึ้นเป็นสัญญานแห่งการเริ่มวันใหม่ในทุกวันแสงอรุนยามเช้าสาดส่องเข้ามาในห้องนอนของสาวร่างบางผ้านวมที่พันอยู่รอบตัวเธอเผยให้เห็นเพียงเส้นผมที่ลอดออกมาจากผ้านวมก็เท่านั้นร่างกายของเธอขดไปมาเพราะแอร์ในห้องนอนที่เปิดจนเย็นเฉียบพร้อมกับเสียงที่น่ารำคาญของนาฬิกาปลุก
สาวร่างบางม้วนตัวออกไปจากผ้านวมได้สำเร็จก็รีบคว้ามือไปปิดนาฬิกาปลุกทันที ก่อนที่เธอจะบิดร่างกายให้รู้สึกดีขึ้น พร้อมไปปิดผ้าม่านที่แสงอรุณยามเช้าสาดเข้ามาอีกด้วย
“อึก สงสัยเมื่อคืนกลับดึกไปปวดหัวชะมัดเลย” เธอพึมพำออกมาด้วยเสียงที่งัวเงียก่อนจะรีบไปล้างหน้าล้างตาเพื่อให้เธอตื่นจากการนอนสักที
“ฮัลโหลค่ะ สั่งอาหารหน่อยค่ะขอเป็นชุดอาหารเช้าที่หนึ่งค่ะ”
“ครับ ชั้น 16 ห้อง 2 ใช่ไหมครับ”
“ใช่ค่ะ”
หลังจากที่เธอสั่งอาหารจากคอนโดที่ตนเองอยู่แล้วสาวร่างบางก็นั่งเล่นโซเชียลไปสักพัก ก่อนที่เสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์ของเธอจะขัดจังหวะขึ้น
“ฮัลโหล เฟรม เเกอยู่ห้องใช่ปะ”
“อืมใช่ มีไรเหรอ”
“ก็วันนี้เรานัดทำโปรเจกกันไม่ใช่แงะ”
“หะ!? อ๋อ..เออจริงด้วย”
“แกโอเคปะเนี่ย เสียงดูเหมือนป่วยๆเลย”
“ปวดหัวนิดหน่อยแต่ไม่เป็นไร-”
ไม่ทันที่สาวร่างบางจะคุยกับเพื่อนที่อยู่ปลายสายให้จบก็มีเสียงแทรกขึ้นมาที่ไม่ต้องบอกก็รู้ได้ว่าใครที่อยู่กับ ปลาย เพื่อนสนิทของเธอ
“ปลายๆ เฟรมป่วยแงะ เป็นไงบ้างอ่ะ กินไรยัง ให้ฉันซื้อยาไปให้ไหม”เสียงที่ร้อนรนและกระวนกระวายเช่นนี้คือเพื่อนของเธออีกคนหนึ่ง
“โอ้ยย!! ไอ้กาลมึงจะโวยวายอะไรนักหนาเนี่ย”
“เฟรมมันไม่ได้เป็นอะไรมาก”
“555 เออใช่ๆฉันไม่ได้เป็นไร”
สาวร่างบางหัวเราะออกมาพร้อมกับยิ้มให้กับปลายเสียงที่พยามบอกให้ กาล เพื่อนผู้ชายคนเดียวในกลุ่มใจเย็นลง
หลังจากคุยกันได้สักพักทั้งคู่ก็มาถึงหน้าห้องของสาวร่างบางเพื่อมาทำโปรเจคถึงพึ่งจะเข้ามหาลัยมาได้แค่ปีเดียวเท่านั้นแต่สำหรับคณะสถาปัตย์ที่พวกเธอเรียนก็คงไม่ยอมให้มีเวลาว่างกันเลย และในระหว่างนั้นพนักงานบริการของคอนโดนี้ ก็ขึ้นมาส่งอาหารมื้อเช้าให้กับสาวร่างบางพอดี
“ทั้งหมดเท่าไหร่เหรอคะ”
“109 บาทครับ”
สาวร่างบางเดินไปที่หัวเตียงเพื่อจะหยิบเงินในกระเป๋าตังให้กับพนักงานบริการ แต่กลับไม่พบกระเป๋าตังที่ตั้งอยู่เธอจึงค้นดูรอบๆด้วยความร้อนลน
“เฟรม มีไรป่าว”
“กระเป๋าตังฉันหายไปไหนไม่รู้ว่ะ”
“งั้นฉันจ่ายให้ก่อนละกัน”
“เอ่ออ คือขอบคุณนะ”
“ว่าแต่เธอไปทำหายที่ไหนล่ะ” กาลที่กำลังเก็บเงินหลังจากจ่ายให้กับพนังงานบริการลงกระเป๋าตังถามขึ้นมา
สาวร่างบางครุ่นคิดอยู่พักนึงก่อนที่ เรื่องเมื่อคืนจะแวบเข้ามาในความทรงจำของเธอหลังจากที่เธอได้เจอกับชายคนนั้นเธอก็รีบเดินออกไปเพราะในตอนนั้นมันดึกมากแล้ว และในระหว่างนั้นเธอคงจะทำกระเป๋าตกไว้
“น่าจะเป็นร้าน Promise the moon ร้านอาหารที่ฉันไปเมื่อคืนนั่นแหละ”
“งั้นเหรอ”
-จะว่าไปผ้าเช็ดหน้าก็ยังไม่ได้คืนให้ผู้ชายคนนั้นเลยนี่หน่า- สาวร่างบางคิดในใจก่อนที่จะหันไปมองลิ้นชักที่อยู่ข้างโต๊ะที่มีผ้าเช็ดหน้าอยู่
และหลังจากนั้นทั้งสามคนก็นั่งทำโปรเจคกันไปยาวๆถึงแม้วันนี้จะเสร็จเพียงครึ่งเท่านั้น แต่อย่างน้อยก็ได้ทำทั้งสามคนเป็นเพื่อนกันตั้งแต่มัธยมปลายจนถึงมหาลัยเดียวกันก็ทำให้มีความผูกพันไม่มากก็น้อย เสียงเพลงที่เปิดไว้ระหว่างทำงานให้ความรู้สึกสนุกถึงแม้จะเหนื่อยกันมากแค่ไหน แต่ก็มีความสุขดีที่ได้ทำงานร่วมกัน
“เออจริงสิ ร้านอาหารที่เธอไปเมื่อคืนฉันว่าพี่ดรีม น่าจะรู้จักนะ ลองถามพี่เขาดูไหม” ปลายพูดขึ้นมาหลังจากที่ตนเองนั่งคิดถึงร้านอาหารที่เพื่อนอย่างเฟรมพูดถึง
“งั้นฉันลองโทรหาพี่เขาก่อนละกัน”
<ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด.....>
“อะ รับแล้ว”
“ไง นานๆทีจะโทรหาพี่นะเจ้าน้องรหัสคนนี้นี่”
“เอ่ออ คือว่าพี่ดรีมรู้จักร้าน promise the moon ไหมคะ?”
“พอดีหนูทำกระเป๋าตังหายน่ะค่ะอาจะทำตกไว้ที่นั่น”
“อ๋อ ตอนนี้พี่อยู่ร้านนี้พอดีน่ะพึ่งได้มากินข้าวเที่ยงเอง”
“งั้นเหรอคะ”
“เดี๋ยวพี่ถามเพื่อนพี่ให้นะ มันเป็นพนักงานร้านนี้น่ะ”
“ค่ะ รบกวนด้วยนะคะ”
เสียงปลายสายเงียบไปสักพัก สาวร่างบางใจจดใจจ่ออยู่กับโทรศัพท์เพราะเธออยากได้กระเป๋าตังคืน
“ใช่กระเป๋าสีฟ้าที่มีสติกเกอร์ดวงจันทร์ติดอยู่ไหมครับ”
เสียงทุ้มอ่อนนุ่มพูดขึ้นมายังปลายสาย สาวร่างบางอึ้งไปสักพักเมื่อเสียงนั้นพูดขึ้น
“เอ่ออ น้องได้ยินไหมครับ”
“.........”
ใช่คนที่เจอเมื่อคืนไหมนะ ทำไมฉันถึงพูดอะไรไม่ออกเลยล่ะความคิดในหัวของสาวร่างบางตีกันไปจนหมดความรู้สึกแบบนี้มันอะไรกัน
“....ช่ะใช่ค่ะของหนูเองค่ะ”
สาวร่างบางตะกุกตะกักตอบออกไปเมื่อรู้สึกว่าตนเองเงียบไป เมื่อเสียงปลายสายตอบดังนั้นทำให้ใบหน้าของชายร่างสูงเลิกคิ้วขึ้นพร้อมยิ้มออกมา
“ครับ งั้นก็-” ไม่ทันที่ชายร่างสูงจะตอบกลับไปก็โดนแย่งมือถือจากเพื่อนของตนหรือว่าพี่รหัสอย่างดรีมที่อยู่ๆก็รู้สึกแปลกๆเมื่อเห็นใบหน้าของ เหนือ
“อะไรของมึงเนี่ย ไอ้เหนือทำหน้าตาแบบนั้นหมายความว่าไร”
“กูไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย”
เสียงเถียงกันระหว่างพี่รหัสกับชายร่างสูงทำให้สาวร่างบางและเพื่อนๆของเธอต่างพากันงง ก่อนที่เสียงจะถูกตัดออกไป และเปลี่ยนเป็นข้อตวามที่ถูกส่งมาแทน
12:45
น้องเฟรมรบกวนมาที่ร้านได้ไหม : พี่ดรีม
เดี้ยวพี่เลี้ยงข้าวเอง : พี่ดรีม
และในที่สุดทั้งสามคนก็มาถึงร้านอาหารแบบงงๆแต่จริงก็คือได้ทานอาหารฟรีเลยรีบออกจากห้องโดยไม่ได้คิดอะไรมาก บรรยากาศโดยรอบดูอบอ้าวมากจริงๆแสงแดดจัดจนแถบจะสุกเลยก็ว่าได้ เป็นเพราะว่าทั้งสามอยู่ในห้องแอร์มาตั้งนานด้วยไม่แปลกที่จะปรับตัวไม่ทัน
-แดดร้อนชะมัดเลย คิดถูกหรือคิดผิดที่ออกมาจากคอนโดวะเนี่ย- ทั้งสามคนคิดแบบนั้นก่อนที่จะรีบเดินเข้าร้านอาหารไป
พอได้เข้ามาในร้านอาหารก็ทำให้รู้สึกดีขึ้นมาหน่อย ลูกค้าในร้านเยอะพอที่จะไม่มีที่นั่งก็ไม่แปลกแต่ทั้งสามก็ต้องสดุดตากับพี่ดรีมที่โบกมือจากมุมของร้านอย่างตื่นเต้น
“มาๆ นั่งกันก่อนพี่เลือกอาหารไว้ให้แล้วนะรับลองว่าถูกใจทุกคนแน่นอน”
“ครับ/ค่ะ จะทานให้อร่อยเลย”
เพื่อนสนิทของสาวร่างบางนั่งกินอย่างเอร็ดอร่อยก่อนที่จะสังเกตได้ถึงสาวร่างบางที่นั่งหันซ้ายทีหันขวาทีเหมือนกำลังมองหาอะไรอยู่
“เฟรมมีไรป่าว”
“อ๋อ..ป่าวๆไม่มีไร”
-เป็นอะไรของเรากันเนี่ย- สาวร่างบางคิดในใจก่อนที่จะตัดสินใจลุกออกไปเพื่อไปหาบางอย่าง
“หนูขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ”
ทุกคนที่อยู่ร่วมโต๊ะ ก็พากันมองแต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมีเพียงแค่พี่รหัสที่ยิ้มตอบรับก็เท่านั้น
สาวร่างบางเดินมาที่หลังร้านและหยุดอยู่ที่เก้าอี้ตัวเดิมที่เธอเคยนั่งก่อนจะมองไปรอบๆแต่ก็ไม่เห็นอะไร อยู่ๆสีหน้าของเธอก็ผิดหวังขึ้นมา
“เฮ้ออ หายไปไหนกันนะ”
“หาอะไรอยู่หรอครับ”
เสียงจากด้านหลังของสาวร่างบางดังขึ้นทำให้เธอหันไปสบตากับชายร่างสูงที่อยู่ตรงนั้น นัยน์ตาจ้องกันสายลมที่พัดผ่านมา ความรู้สึกบางอย่างเริ่มก่อตัวขึ้นครั้นเรา สบตากัน
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments
Kelly Andrade
ติดตามแบบจริงจัง!!😎
2025-01-18
0