2rd morning x 01| Witness or Liar

03

ปฏิเสธความจริงทุกอย่างทันทีที่รู้ว่าคำบอกรักของคุณคือคำโกหก

งานศพของกฤตถูกจัดขึ้นง่ายๆที่วัดใกล้บ้าน

ผมเพิ่งรู้ว่ากฤตมันไม่ค่อยมีญาติเยอะเท่าไหร่ เพราะแขกส่วนใหญ่ล้วนเป็นเพื่อนที่คณะรวมถึงสมาชิกขององค์การนักศึกษา

ทุกคนต่างตกใจกับการจากไปอย่างกระทันหันของกฤต

แน่นอนว่าค่ายปันฝันถูกเลื่อนออกไปหนึ่งอาทิตย์เนื่องจากพี่ค่ายต่างร่วมใจกันมาช่วยงานที่วัด

“ภาส มึงกินอะไรหน่อยมั้ย”

ผมเดินเข้าไปสะกิดเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวที่เหลือ

คนที่เอาแต่นั่งนิ่งจ้องมองโลงอลูมิเนียมอยู่ร่วมชั่วโมง ภาสเป็นแบบนี้ในทุกๆวันหลังเกิดเรื่อง

ผมที่ก็อยู่ในอาการเศร้าไม่ต่างกันจึงต้องเปลี่ยนมาเป็นคนที่ทำตัวให้ไม่เหมือนมีอะไร

ไม่อย่างนั้นบรรยากาศคงหม่นหมองไปหมด

กฤตก็เพื่อนรักผม เป็นเพื่อนกันมาเกือบสิบปี

ทำไมผมจะไม่เสียใจ...

“ภาส...”

“ไม่กิน”

เมื่อไร้ซึ่งการตอบรับผมจึงผละตัวออกมา ปล่อยให้ภาสใช้เวลาอยู่กับตัวเองเงียบๆตามเดิม

“คุณพ่อ ป้านวล ทานอะไรหน่อยนะครับ”

ผมเปลี่ยนมายกมื้อเย็นไปให้ผู้ใหญ่ทั้งสองที่ก็ต่างนั่งนิ่งราวกับโลกทั้งใบพังทลาย

คุณพ่อของกฤตผู้เคยสุขุมไม่ค่อยปริปากพูด

บัดนี้ดวงตาของท่านแดงก่ำเหมือนผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก

ป้านวลนี่ไม่ต้องพูดถึงเลย คนที่เลี้ยงกฤตมาตั้งแต่เด็กไม่ต่างจากลูกแท้ๆ

หัวใจของผู้หญิงคนนี้คงบาดเจ็บมากเหลือเกิน

“ขอบคุณนะพายุ ภาสด้วย ขอบคุณที่เป็นธุระจัดการเรื่องทุกอย่างให้พ่อ”

“มากกว่านี้ผมก็ทำให้ได้ครับ

ยังไงกฤตก็เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของผม”

ตอบพลางรับแก้วน้ำดื่มจากใบเตยที่แวะเข้ามาพอดี นอกจากผมกับภาส

ก็ยังมีใบเตยนี่แหละที่คอยช่วยจัดการแบ่งเบางานทุกอย่างอีกแรง อาจเพราะเราทำกิจกรรมด้วยกันมาตลอดสี่ปี

แล้วก็อาจเพราะครอบครัวของกฤตกำลังเสียศูนย์

“พายุ...”

ผู้ชายที่มีอายุเอ่ยเรียกผมในจังหวะกำลังจะหันหลังกลับ

“ครับ”

“มันเป็นใคร...ทำไมต้องทำกับกฤตถึงขนาดนี้”

มันที่ว่าทำผมเลิกคิ้วเล็กน้อยก่อนจะเข้าใจในวินาทีต่อมา

กฤตไม่ได้ตายอย่างปกติพวกเรารู้ดี ยิ่งพอเห็นคุณพ่อเม้มปากพูดด้วยตัวเองยิ่งชัดเจนว่าท่านกำลังฝืนมากๆ

ไม่มีพ่อคนไหนทำใจได้หรอกที่ต้องมาพูดถึงการตายของลูกตัวเอง

อีกซ้ำยังเป็นการถูกทำให้ตาย...จากคนเลวบางคน

หลังเกิดเหตุคุณพ่อกฤตก็รีบเดินเรื่องส่งหลักฐานให้กับตำรวจ

เพียงแค่ว่าคดีค่อนข้างยากกว่าที่คิด กฤตมันไม่ใช่คนที่ไปมีเรื่องกับใครเลยผมรู้ดี

ตลอดสิบปีที่รู้จักกันมาแม้แต่เรื่องทะเลาะวิวาทมันก็ไม่เคย

ดังนั้นผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่มีแนวโน้วเป็นไปได้มากที่สุด

“พ่อไม่รู้เลยว่ามันเป็นใคร พ่อ...พ่อไม่รู้”

“ครับ ผมจะช่วยพ่อหามันให้เจอ ผมสาบาน”

ก็คือฆาตกรโรคจิต...

‘ว่ายังไงนะ ลมหนาว?’

คนที่ยืนอยู่อีกฝากหลังบานกระจกห้องน้ำเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงติดสงสัย

ผมเจอไซโคลนที่บังเอิญผ่านมาแถววัดเพราะอีกฝ่ายกำลังยุ่งๆเรื่องการจัดการพลังงานที่มองไม่เห็นอย่างเช่นพวกผี

‘กูค่อนข้างมั่นใจนะว่าชีวิตกูไม่ได้ข้องแวะกับคนชื่อนี้จนกระทั่งรู้ว่าเป็นแฟนเก่ามึง’

“เพราะอย่างนั้น กูถึงต้องการให้มึงช่วย”

‘มึงจะบอกว่าแฟนเก่ามึงคือเดอะแรบบิท

แล้วก็คือคนที่ฆ่าไอ้กฤตงั้นหรอ’

“กูไม่มีหลักฐาน แต่นั่นก็เป็นไปได้มากที่สุด”

หัวใจผมเหมือนถูกค้อนปอนด์ทุบ ผมเกลียด

แล้วก็อึดอัดที่รายชื่อของเขากลายเป็นหนึ่งในท็อปลิสต์คนที่เกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมกฤต

ทำไมวะ ทำไมต้องเป็นลม ทำไมลมต้องเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

‘เดอะแรบบิทกูก็แทบไม่คุ้นเลย’

“ทั้งๆที่สิ่งที่พวกเราเจอควรเหมือนกัน”

‘นั่นสิ ขนาดไอ้ภาสกับไอ้กฤตที่กูไม่สนิทแต่ก็ยังมี’

ผมเริ่มฉุกขึ้นเมื่ออีกฝ่ายว่าอย่างนั้น

ทุกอย่างเกี่ยวกับลมหนาวเริ่มแปลกไปสำหรับผม ไม่สิ...มันแปลกมาตั้งนานแล้ว

เพียงแค่ความรักของผมบดบังทุกอย่าง ผมไม่เคยฉุกคิดอะไรซักอย่างเวลาอยู่ใกล้ลมหนาว

ผมไม่เคยหาคำตอบลึกซึ้งในการหายไปของลมหนาว

‘สตอร์มรู้เรื่องหรือยัง ให้มันช่วยสืบอีกแรง’

“ถ้าเจอจะบอก”

และผมก็เริ่มเกลียดตัวเองที่รักลมหนาว

‘ฝุ่น’

“อืม...”

‘มึงโคตรรักเขา แล้วมึงก็โคตรรักเพื่อนมึง กูพูดถูกใช่มั้ย’

“เป็นครั้งแรกที่กูอยากให้เซนส์ของตัวเองผิด”

เกลียดที่อยากให้ความเชื่อของตัวเองกลายเป็นเรื่องเพ้อฝัน

‘กูก็ภาวนาให้มันเป็นอย่างนั้น’

แม้ผมจะโคตรมั่นใจในเรื่องเพ้อฝันนี้มากๆก็ตาม

“พายุ คุยกับใครอะ

เราได้ยินเสียงเครียดมากเลยในห้องน้ำ อ๊ะ เราไม่ได้แอบฟังนะ”

ใบเตยถามขึ้นเมื่อผมเดินออกมาแล้วเห็นอีกฝ่ายกำลังตักน้ำแข็งเตรียมเข้าไปเสิร์ฟแขกด้านในกับเพื่อนอีกสองสามคน

ภาสยืนอยู่ข้างๆ มันเหมือนจะคอแห้งเลยแวะมาเปิดน้ำดื่ม แต่อีกฝ่ายก็ยังไม่คุยกับใคร

ทำเพียงมองผมปรายๆแล้วจึงเดินกลับเข้าไปในนิ่งอยู่ใกล้ๆกฤตตามเดิม

ผมถอนหายใจ รู้สึกหนักในอกกับเรื่องทุกอย่าง

ทว่าสายตาของผมดันสะดุดเข้ากับร่างสูงโปร่งที่กำลังนั่งนิ่งอยู่ในงาน

เขาใส่เสื้อเชิร์ตสีดำรวมทั้งกางเกงขายาวสีเดียวกัน

นั่งอยู่แถวด้านหลังไม่ต่างจากสมาชิกของค่ายปันฝันคนนึง แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น

“ลม”

ผมเดินเข้าไปสะกิดใครบางคนด้วยน้ำเสียงกดต่ำ

อารมณ์ของผมเหมือนกำลังถูกกลั้นไม่ให้ระเบิดออกมา ลมหนาวไม่ควรมาอยู่ที่นี่ด้วยซ้ำ

เขารู้อยู่แก่ใจว่าเพิ่งทะเลาะกับกฤตไป แถมยังรู้ดีว่ากฤตไม่ชอบตนเอง แต่แล้วสิ่งที่อีกฝ่ายทำคืออะไร

เย้ยหยันคนตายหรอ?

ผมมองใบหน้าเรียบนิ่งอันแสนเฉยชา ไม่รอให้เจ้าของดวงตาที่เคยเป็นรักเก่าตอบ

ผมก็ดึงแขนคนที่ตัวสูงเท่ากันให้ออกมาจากศาลาขณะพระกำลังสวด ทีแรกเขาขัดขืนผม

แต่คงเพราะไม่อยากให้เป็นจุดสนใจสุดท้ายเจ้าตัวถึงยอมถูกลากมาถึงแม้จะไม่เต็มใจเอามากๆ

“ลมมาที่นี่ทำไม?”

“อะไรของรุ่นพี่?”

“เลิกพูดแบบนี้ซักที ลมต้องการอะไร ทำแบบนี้ทำไม!”

ผมกำมือแน่นจนเส้นเลือดขึ้นข้อ ความโกรธ

ความผิดหวัง ความเสียใจตีกันอยู่ในอกจนผมจุกไปหมด ยิ่งเห็นหน้าเขาผมก็ยิ่งเจ็บปวด

ทำไมวะ ทำไมต้องเป็นคุณ

ลมหนาว...

“ลมฆ่าไอ้กฤตใช่มั้ย! ที่ไอ้กฤตตาย เป็นฝีมือลมใช่มั้ย!”

คนฟังชะงักเล็กน้อย นัยน์ตาที่เคยทอแสงแห่งความไม่สนโลก

ตอนนี้วูบไหวทำเอาหัวใจผมเต้นระรัวตาม

หรือเขาจะประหลาดใจที่คนโง่อย่างผมเข้าประเด็นได้ไวกว่าที่คิด

นั่นสินะ...ผมควรจะเอะใจได้ตั้งแต่คืนนั้นแล้วว่ามันเป็นเขา ผมเจอเขาในร้านกาแฟเจ้าประจำ

และจากที่เคยคบกัน ลมหนาวแทบไม่มากินกาแฟร้านนี้

ไม่สิ...เขาแทบไม่รู้จักด้วยซ้ำ

“ตอบมาสิลม”

แล้วจู่ๆวันเกิดเหตุลมหนาวก็โผล่มา

แถมสถานที่ที่กฤตตายยังอยู่ใกล้ๆกับที่ที่ลมหนาวเพิ่งออกไป

มันอาจจะฟังดูเชื่อได้ยากเพราะผมเห็นเขากลับตอนช่วงหกโมงเย็น

แต่เวลาตายของกฤตมันดึกกว่านั้น ทว่าแล้วยังไงล่ะ คนที่มีข้อขัดแย้งกับกฤตที่สุดในหมู่นี้ก็คือลมหนาว

เป็นลมหนาวของผมเพียงคนเดียว

“รุ่นพี่พูดอะไร”

“เลิกโกหกซักที ลมคือเดอะแรบบิท ไอ้ฆาตรกรสารเลวนั่น!”

ชักจะทนไม่ไหวกับการแสดงหน้าตาย

เขาคิดว่าผมโง่มากหรือไงวะ คิดว่าผมเป็นไอ้งั่งที่เขาจะหลอกให้ทำอะไรก็ได้

หลอกให้รักก็ได้ หลอกให้หลงคำพูดของเขาทุกคำก็ได้

ผมดูเป็นคนแบบนั้นสินะ

“...ผมไม่เข้าใจ”

“ลมเลิกเสรแสร้งเหอะ

คิดว่าการที่ยุเคยรักลมแล้วยุจะยอมหลับหูหลับตาไม่เชื่อเรื่องเลวๆของลมหรอ

เก่งครับลมหนาว คุณเก่งมากเลยที่หลอกผมมาได้นานขนาดนี้”

ผมขึ้นเสียงจนอีกฝ่ายเริ่มแสดงสีหน้าไม่พอใจ จริงอยู่ที่ลมหนาวเย็นชาราวกับน้ำแข็งไร้ความรู้สึก

แต่พอโดนวุ่นวายมากๆเข้าเขาก็ไม่ต่างจากมนุษย์ทั่วไป ยอมเผยอาการขุ่นเคืองออกมาให้เห็น

“ผมไปหลอกอะไรคุณ ที่ว่าเคยรักน่ะหรอ อื้ม

อันนั้นผมยอมรับก็ได้ เรื่องเดียวที่ผมโกหกก็คือการบอกรักคุณ ผมเหนื่อยสายตาทุกครั้งเวลาที่ต้องเห็นคนน่ารำคาญแบบคุณ”

“ลมหนาว!!”

ผมตวาดเสียงดังลั่น ดวงตาวาวโรจน์จนถ้าจะมีไฟลุกก็คงไม่แปลก

หัวใจผมเต้นรุนแรงจนเกือบจะระเบิดออกจากอกด้วยถ้อยคำแดกดันนั่น คนพูดน้อยแบบลมหนาว

พอพูดออกมาครั้งนึงมันย่อมมีความหมาย และแน่นอนว่าคำพูดยืดยาวแสนร้ายกาจทำลายความรู้สึกผมจนอยู่หมัด

“ที่นี้พอได้หรือยัง”

“ไม่! จนกว่าลมจะยอมรับกับยุว่าลมฆ่าไอ้กฤต”

ลมหนาวตรงหน้าพัดพาความหนาวเหน็บเข้ามาสู่ใจผมจนปวดหนึบ

“ทำไมผมจะต้องยอมรับในเรื่องที่ผมไม่ได้ทำ!?”

“ก็เพราะผู้ชายในคืนนั้นเป็นลม ฆาตรกรที่ใส่หน้ากากรูปกระต่าย

คนที่ฆ่าพวกมันจนหมด ยุเห็นกับตาว่าลมเอาดาบแทงไปที่คอมัน ภาพเลือดพุ่งกระฉูดยังติดตายุอยู่เลย! แถมดาบที่ลมใช้มันยังเหมือนกับดาบที่ปักอยู่บนอกกฤต

มันคือแบบเดียวกัน!”

“ไหนล่ะหลักฐาน อย่ามากล่าวหาคนอื่นลอยๆ”

“โอ้...” ผมเลิกคิ้ว แค่นหัวเราะเล็กน้อยเมื่อเห็นท่าทางไม่ยี่หระนั่น “ลมแสดงละครเก่งกว่ายุที่คิด”

ลมหนาวส่ายหัวทำหน้าเบื่อหน่ายเหมือนอยากเลิกเถียง

เขาถอนหายใจพยายามหันหลังกลับจะเดินหนี แต่ผมคว้าข้อมือเขาไว้ทัน

กำแน่นอย่างที่ไม่เคยทำรุนแรงกับเขามาก่อน

มันคงจะเป็นรอยแดงช้ำไปหลายวัน แต่ผมสนที่ไหน

“ก็ไม่ใช่ลมแล้วจะเป็นใคร

เพราะไอ้กฤตกับยุรู้ความลับลมใช่มั้ย ลมถึงต้องฆ่าปิดปากมัน”

“ไม่ใช่!”

“ที่ผ่านๆมาลมก็คงไล่ฆ่าคนที่ทำให้ลมไม่พอใจแบบนี้สินะ!”

“หยุดพูดจาไร้สาระซักที!”

“ทำไมล่ะลม แทงใจดำหรอ? แสดงว่ายุพูดถูก

แสดงว่าไอ้พวกที่ลมฆ่าไปวันนั้นก็คงเหมือนกันล่ะสิ ลมคงสนุกมากเวลาได้ใช้ดาบนั่นแทงเข้าไปในเนื้อคน

ยุพูดถูกใช่มั้ยคุณฆาตกร”

“พายุ!!”

ชื่อที่ไม่เคยเรียกมาตลอดสองปีถูกเอ่ยออกมาจากปากคนที่ผมเฝ้ารอ

ผมควรจะดีใจที่สุดท้ายเขาก็ยอมเรียกชื่อผมเหมือนอย่างเก่า ทว่าความรู้สึกตอนนี้ไม่ใช่เลย

มันเต็มไปด้วยความเจ็บปวด

ความเจ็บปวดที่มาจากเขาคนเดียว

“ยุคิดว่าผมเป็นคนแบบนั้นหรอ! ยุคิดว่าผมจะฆ่ากฤตหรอ ยุคิดแบบนั้นจริงๆใช่มั้ย!”

“ใช่!!”

ผมควรจะเป็นคนที่รู้จักลมหนาวดีที่สุด

แต่ในความเป็นจริงมันไม่ใช่ ยิ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากเหตุการณ์ที่ผมเห็น

มันเหมือนกับว่าผมไม่รู้จักตัวตนของลมหนาวเลยซักนิด

มันเหมือนกับว่าสิ่งที่ผมรับรู้เกี่ยวกับลมหนาวมาตลอดคือเรื่องโกหก

“แสดงว่าคนต่อไปก็ต้องเป็นยุสิ เอาเลย! ลมฆ่ายุเลย!!”

ผัวะ!

หมัดหนักซัดเข้าเต็มๆที่แก้มขวาอย่างจัง ความเจ็บปวดแล่นแปล้บไปทั่วใบหน้า

แต่นั่นก็ไม่เท่าความเจ็บปวดตรงขั้วหัวใจเมื่อหยดน้ำสีใสไหลออกจากนัยน์ตาของคนที่ปล่อยหมัด

“ทำไมถึงพูดแบบนี้ ทำไมประชดผมแบบนี้!”

ยอมรับว่าตลอดช่วงเวลาที่เราคบกันผมร้องไห้บ่อยครั้งเพราะความขี้แย

แต่คุณเชื่อไหม มันไม่มีครั้งไหนซักครั้งเลยที่ผมจะเห็นลมหนาวของผมร้องไห้ ลมหนาวผู้แสนเข้มแข็ง

เข้มแข็งกว่าใครๆ

“ฮึก...ไหนยุบอกผมซิ บอกมาว่าผมต้องทำยังไง! ”

เข้มแข็งกว่าผมเสมอมา

“งะ...งั้นลมก็พิสูจน์

พิสูจน์มาสิว่าลมไม่ได้ฆ่ากฤต”

“ถ้าพิสูจน์แล้วยุจะเลิกยุ่งกับผมใช่มั้ย?”

เหมือนธนูคมพุ่งเข้าแทงยังกลางหัวใจหลังข้อตกลงดังกล่าวถูกเสนอ

“...ครับ”

เหมือนคำบอกเลิกครั้งที่สองถูกบอกล่วงหน้าทั้งๆเรายังไม่ได้คบกัน

เหมือนคำสัญญาณเพื่อยืนยันว่าเราจะไม่มีได้วันกลับมาเป็นเหมือนเดิม

“ยุจะไม่มาให้ลมเห็นหน้าอีก”

 

 

tbc

ฮอต

Comments

คุณยุครับคุณบอกผมมาสิว่าคุณเป็นจวยไรคือถ้าคุณลมหนาวไม่ได้เป็นล่ะคณจะถูกเเจ้งความจับข้อหาหมิ่นปรัมาณนะครับผมคิดว่าคุฯจะฉลาดที่ไหนได้คุณก็ทำตัวเหมือนคนยุคโบราณบีบบังคับให้อีกฝ่ายยอมรับทั้งๆที่ไม่ได้ทำเเต่ถึงคุณลมเค้าจะเป็นจริงๆคุณก็อาจจะตายได้นะครับตายไปพร้อมกับความจริงน่ะนะ😂

2022-05-14

1

ทั้งหมด
เลือกตอน

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!