“มึงว่ามันจะเรียกฝนได้จริงๆหรอวะ”
ผมบ่นกระปอดกระแปดกับวาฬหลังเราปลอมตัวเข้ามายืนอยู่ในงานเปิดหมวกที่จัดโดยกองประกวดดาวเดือน
วันนี้เป็นวันศุกร์แห่งชาติที่นักศึกษาต่างเลิกเรียนพอดี
ทุกคนจึงมีเวลาแวะมาดูดนตรีสดของเหล่าคนหน้าตาดี
แต่ขอโทษทีนะที่ทุกคนคงต้องเสียใจเพราะบนเวทีนั่นไม่มีกู
“เสียดายตังหรือไง”
“เสียตังไม่ว่า เสียหน้าไม่ได้!”
เห็นระดับงานแล้วตามันร้อน! พอเป็นกองประกวดจัดงาน องค์การนักศึกษาแม่งก็ดันให้งบมากมายมหาศาลอย่างกับจะเอาไปจัดเลือกตั้ง
ลองเป็นชมรมยิงธนูของกูดิ จัดได้อย่างมากก็หน้าถนนคนเดิน
ไม่มีโอกาสเหมาลานกิจกรรมทำอะไรแบบนี้ร้อก
“แล้วหนุ่มฝนตกจะมาอยู่ใช่มั้ย
กูเห็นทวิตเขาดูยุ่งๆช่วงนี้”
“มาแน่นอน กูกลายเป็นลูกค้าวีไอพีไปแล้ว
จ่ายเร็ว จ่ายไว จ่ายไม่อั้น”
ตอบด้วยน้ำเสียงแข็งขัน เพราะเมื่อหลายวันก่อนผมทักไปดีลกับไอ้หมอนั่นเสร็จสรรพว่าให้มาเรียกฝนช่วงสี่โมงถึงหกโมงเย็น
เอาขั้นแรงสุดเลย น้ำท่วมได้ยิ่งดี เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาสำหรับป๋า ขอแค่ให้ไอ้ห่าภาสหมดโอกาสโชว์ความหล่อก็พอ
“ดูเป็นคนขี้อิจฉาเนาะ”
“ขอร้องเลยวาฬ
คนที่หล่อจนสาวต้องเหลียวหลังอย่างกูอะนะที่ขี้อิจ...”
“ใส่แว่นดำทำไมวะยุ แมสด้วย มึงไม่สบายอ่อ”
ไม่ทันจะได้เถียงกับวาฬจบ เพื่อนสาวคนสวยก็เดินมาทักจากด้านหลังตัดบทสนทนา
“กูเป็นรองเดือนมหาลัยนะเผื่อมึงลืม
เดี๋ยวคนมาขอถ่ายรูปกูจะกลายเป็นจุดสนใจ แล้วพอกูเป็นจุดสนใจตรงที่กูยืนอยู่ก็จะมีคนจับตามอง
ถึงตอนนั้นไอ้ภาสคงรู้แน่ๆว่ากูมาแก้แค้นมัน”
“เป็นตุเป็นตะเลยจ้าพายุเต่าคะนอง
อะไรทำให้มึงโตมาเป็นคนแบบนี้คะ”
“มึงไม่เข้าใจหรอกว่าการเกิดมาเบ้าหน้าฟ้าประทานมันลำบากแค่ไหน”
“อยากเอาตีนลูบเบ้าหน้าฟ้าประทานของมึงจัง”
“พี่คะ หนูขอถ่ายรูปด้วยได้มั้ย”
“เห็นมั้ย ความหล่อเป็นบาปแท้ๆ”
ผมถอนหายใจอย่างเลี่ยงไม่ได้
ก่อนจะหันหน้าไปทางน้องผู้หญิงสองคนที่เดินเหนียมๆเข้ามาทักทาย
แมสบนหน้าถูกถอดออกพร้อมอมยิ้มถามไปว่า...
“ได้ครับ แต่แปปเดียวนะพี่ต้องรีบไป”
“อ๋อ หนูหมายถึงถ่ายกับพี่เอิ๊ตน่ะค่ะ
พอดีหนูเป็นเอฟซีพี่เอิ๊ต”
เพล้ง!
ชาแปล้บเหมือนโดนไม้หน้าสามฟาด คุณเธอเดินผ่านกูไปอย่างไม่ใยดี
ทิ้งให้ความกระดากอายร่วงกระจัดกระจายอยู่เต็มพื้น ไอ้วาฬที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่ต้องตบไหล่ปุๆให้กำลังใจ
“ขอโทษนะคะ พอดีความสวยเป็นบาปอะค่ะ”
สัด!
แยกเขี้ยวใส่เจ้าของผมหน้าม้าที่กำลังสะบัดมือเป็นพัดเพื่อไล่ความฮอตของตนเองออกไป
เออเอิ๊ต...มึงสวย สวยที่สุดในกลุ่มแล้วครับ ทั้งชายทั้งหญิงล้วนตกเป็นเป้าหมายมึงหมดเลยครับ
“แล้วไอ้ลีโอไปไหน”
“รับงานวาดรูปจ้า”
“อะไรนะ
มันเป็นคนบอกว่าจะมาดูความฉิบหายของไอ้เวนภาสด้วยกันแท้ๆ”
“เงินกับเพื่อน เป็นกูก็เลือกเงิน”
“ใจหมาจริงๆ”
“หมายถึงไอ้ภาส?”
“มึงเนี่ยแหละ”
ฟาย ชงมาให้เขาด่าตัวเองแท้ๆ
“แล้วไอ้พูห์?” วาฬถามบ้าง
“ให้ทาย”
“นอน”
ผมกับเพื่อนรักตอบเป็นเสียงเดียวกัน
ก่อนจะหันไปตามทิศที่เอิ๊ตชี้นิ้วเพื่อพบกับมนุษย์หมีพูห์กำลังนอนตายคาไม้หินอ่อนหนึ่งอัตรา
อืม...กูควรตกใจเวลาที่มึงตื่นมากกว่าสินะ
“แล้วมึงรู้ไหมว่าหนุ่มฝนตกคือคนไหน” ไอ้เอิ๊ตว่าพลางชโงกหน้าดูรอบๆ
“ไม่รู้ มันว่ามันเป็น Anonymous”
“แสดงว่าน่าจะอยู่ในงานแล้ว เพราะอีกสิบนาทีจะสี่โมงเย็น
เราควรตามหาปะ”
“อย่าเลย เขาไม่อยากเปิดเผยตัวก็อย่าไปตามหาเขา
ปล่อยเขาทำงานให้เราก็พอ”
“เป็นผัวกูมั้ยวาฬ พร้อมมาก ณ จุดนี้ แสนดี
อ่อนโยน ไม่เหมือนอีหน้าหมาพายุกับลีโอ”
“รู้สึกว่าคนที่เกลียดกูจะไม่ได้มีแค่ไอ้ภาสแล้วเนาะ”
ยกนิ้วกลางใส่คนที่ด่ากูไม่หยุดตั้งแต่เข้ามาในงาน
ว่าจะเถียงกับไอ้เอิ๊ตต่ออีกซักสองสามประโยค ทว่าพอมองขึ้นไปบนฟ้า อารมณ์หัวร้อนเมื่อครู่ก็หายไปเป็นปลิดทิ้งเมื่อสภาพอากาศด้านบนมืดครึ้มมาแต่ไกล
อีกหน่อยบริเวณที่ผมยืนอยู่ก็คงเปียกชุ่มไปด้วยฝน ความสุขในอกตีกันจนล้นเอ่อ
ว้ายยย ไอ้ภาส งานกร่อยแน่มึง
“เชี่ย หนุ่มฝนตกทำงานแล้ว”
เอิ๊ตอุทานออกมาเมื่อหยดน้ำจากบนฟ้าเริ่มหยดแหมะลงบนศีรษะของพวกเรา
สายลมแรงพัดปลิวว่อน
ผู้คนในงานเริ่มยืนอยู่ไม่ติดกับที่เมื่อเมฆดำกำลังคืบคลานเข้ามาใกล้เรื่อยๆ โห
มองขึ้นไปกูนึกว่าเฮอรินเคนจะเข้าประเทศไทย แต่ไม่เป็นไร นายทำดีมากพ่อหนุ่มฝนตก
จบงานนี้ป๋าจะตบรางวัลเพิ่มให้อย่างงาม
“เราไปหลบในอาคารรอเถอะ”
“ได้เสมอวาฬเพื่อนรัก”
ตอบรับอย่างสบายอารมณ์
พร้อมกอดคอวาฬเพื่อนรักกับเอิ๊ตเพื่อนรักให้เข้าไปยังอาคารพละศึกษาด้านในด้วยกัน
เวลานี้คนที่พกร่มติดมือมาเริ่มกางหวังจะดูดนตรีสดกลางสายฝน แต่ขอร้องเลยคุณ
ฝนไม่ตกแค่นี้แน่นอนคร้าบ กูจ้างหมดไปเป็นหมื่นคร้าบ ตกยันหว่าง
ชาติหน้าเกิดเป็นหมาก็ยังตกอยู่!
“โอ๊ย!”
เป็นตอนนั้นเองที่ผมเผลอเดินชนเข้ากับใครบางคนเพราะมัวแต่มีความสุขที่สามารถแก้แค้นไอ้ภาสได้สำเร็จ
อีกฝ่ายเป็นผู้ชายตัวขาวจนเกือบซีด
ในมือถือร่มใสที่บังเอิญหลุดออกจากมือเพราะโดนคนซุ่มซ่ามอย่างกูกระแทกเข้าให้อย่างจัง
บนกระเป๋ามีตุ๊กตาไล่ฝนน่ารักน่าชังห้อยอยู่ และที่แปลกก็คือ...
กูสังเกตเขามากมายขนาดนั้นทำไมก่อน
“ขอโทษๆ เป็นไรหรือเปล่า”
“ไม่ครับ ขอบ...คุณ…”
คำพูดของอีกฝ่ายหยุดชะงักเมื่อเงยหน้ามองผม
ชะงักเหมือนติดสตั้นอะ แย่ว่ะ...เขาคงช็อคจริงๆ เพราะตั้งแต่เกิดมา คนหน้าตาดีอย่างผมก็มักถูกคนมองด้วยอาการตกตะลึงแบบนั้นเสมอ
คือบางทีก็แอบคิดว่าตนเองใช้ชีวิตลำบาก ไม่รู้จะทำยังไงให้มันหล่อน้อยลงกว่านี้
เฮ้อ...
“ยุ เดี๋ยวกูไปเรียกไอ้พูห์ก่อนนะ
เดี๋ยวแม่งจะเปียกฝนเอา”
“โอเค เจอกันในตึ...”
กำลังจะหันไปตอบเอิ๊ตเพื่อนรัก แต่โลกของผมก็ต้องหยุดหมุนฉับพลันเมื่อมองขึ้นไปบนฟ้าแล้วพบว่าไม่มีอีกแล้วเมฆครึ้ม
ไม่มีอีกแล้วหยดฝนพรำ ลมแรงๆห่าอะไรก็ไม่มี หยดน้ำเปียกๆที่พรมลงบนหน้ากูเมื่อตะกี้ก็แห้งเหือดไปเป็นที่เรียบร้อย
“เหี้ย! ทำไมเป็นแบบนี้วะ”
“กูไม่รู้” วาฬส่ายหน้าหงึกงักด้วยความงุนงงไม่ต่างกัน
ผมละแขนที่กำลังกอดคอเพื่อนสนิททั้งสองออก
ยกกวาดขึ้นไปบนฟ้ายึกๆเหมือนคนบ้าหวังว่าจะได้สัมผัสกับสายฝนอีกครั้ง แต่ไม่มี
ไม่มีสายฝน ไม่มีเมฆครึ้ม ไม่มีเฮอริเคน
ไม่มีเหี้ยอะไรทั้งนั้น!
“เอิ๊ต! มึงปักตะไคร้ใช่มั้ย”
“ตะไคร้เตี่ยมึงสิ
กูยืนอยู่ข้างมึงตลอดจะให้เอาเวลาไหนไปปักหา”
เสียงครึกครื้นกลับมาดังสนั่นอีกรอบเมื่ออดีตเดือนมหาลัยอย่างไอ้ภาสก้าวขึ้นเวที
ผู้คนในงานที่กระจายตัวเบาบางเปลี่ยนมาหุบร่มแล้วกลับเข้ามายืนออกันอยู่หน้าลานกิจกรรมตามเดิม
‘สวัสดีครับ ผม ภาส ภาสกร ขอบคุณทุกคนที่มาร่วมช่วยโลกกันในวันนี้’
มือของผมยิ่งกำแน่นเมื่อเสียงของคู่อริตลอดกาลดังผ่านไมค์ด้วยความสดใส
มืออีกข้างล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงเพื่อหยิบเครื่องมือสื่อสารออกมา ตอนนี้ทั้งตัวผมสั่นมาก! มันสั่นมากๆจังหวะนี้
“มึงกล้าดียังไง!”
“ไอ้ยุ...ใจเย็น”
“กล้าดียังไงมาหลอกคนที่หล่อที่สุดในมหาลัยอย่างกู...ไอ้หนุ่มฝนตก!!”
tbc.
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 30
Comments