day 2

เสียงร้องของนกพิราบมันชวนให้น่าหงุดหงิด แต่การต้องมาตื่นเช้าเพื่อมาทำงานมันน่าหงุดหงิดมากกว่า แต่ก็เลือกไม่ได้ต้องหาเงินมาเลี้ยงชีพนี่เนาะ อีกอย่างอีกไม่กี่อาทิตย์เขาต้องจ่ายค่าเช่าบ้านที่ต้างมา 3 เดือนแล้ว ถ้าได้ก้อนนี้มานี่สบายเลย

ขับรถมอเตอร์ไซค์สกู๊ตเตอร์คู่ใจไปตามถนนหนทางจนมาถึงย่านคากุระซากะเพื่อตามหาเป้าหมายก่อนจะลงจากรถเข็นเข้าไปในย่าน

ย่านคากุระซากะเป็นย่านที่อยู่ไม่ไกลจากคาบูกิโจ เป็นย่านที่มีแต่เหล่าคนรวยอย่างพวกเศรษฐีหรือพวกคนมีกะตังค์อาศัย เพราะคากุระซากะอยู่ใกล้กับวังของโชกุนทำให้พื้นบริเวณโดยรอบรวมถึงคากุระซากะมีค่าที่ดินที่แพงมาก แถมแถวนี้ก็มีร้านค้ามากมายด้วย เรียกได้ว่านอจากบ้านคนรวยยังเแนแหล้งท่องเที่ยวอีกด้วย

กินโทกิเข็นสกู๊ตเตอร์ไปตามทางพลางกวาดสายตามองหาเป้าหมายขณะที่เดินไปก็คอยถามคนแถวนั้นด้วย

“อ้อ ผู้หญิงนี้น่ะหรอ”

“ใช่ลุง พอจะเห็นบ้างมั้ยลุง”

“เห็นๆ เมื่อเช้าเธอยังมาซื้อไทยากิร้านลุงอยู่เลย เห็นว่าจะไปคาเฟ่แมวตรงนู่นน่ะ” ลุงพูดพร้อมกับชี้มือไปร้านคาเฟ่แมวที่ห่างออกไปประมาณเกือบ 100 เมตร

“อ๋อ ขอบคุณมากครับ”

“ว่าแต่แฟนเหรอคุณกิน”

“อ่า…นิดหน่อยน่ะครับ พอดีเธอขโมยพาเฟ่ต์ผมไปเลยต้องมาตามตัวน่ะครับ งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ” กินโทกิรีบผละตัวออกมา ถ้าอยู่ต่อมีหวังโดนถามเยอะแน่ๆ

เดินมาถึงคาเฟ่แมวกินโทกิจอดรถเทียบที่ด้านหน้าก่อนจะเดินตรงเข้าไปในร้านพลางกวาดสสยตามองหาเป้าหมาย

“เมี๊ยว~”

“เหวอ!” แมวสี่ถึงสี่ห้าตัวพากันเดินมาออเซาะที่ขาของเขา “อะไรของพวกแกนี่ฮะ”

“ยินดีต้อนรับครับคุณกิน ไม่ทราบว่าจะรับอะไรครับ” พนักงานต้อนรับเอ่ยทักทายกินโทกิสำรวจป้ายเมนูก่อนจะหันไปสั่ง “เอาพาเฟ่ต์ที่นึง”

“ได้ครับ งั้นรอสักครู่นะครับ”

ระหว่างรออาหารกินโทกิก็กวาดสายตามองหาเป้าหมายแต่เจ้าฝูงแมวในร้านก็เอาแต่มาออเซาะที่ขาอยู่นั่น

“อะไรของพวกแกเนี่ยฉันทำงานอยู่นะเหวย อย่ามากวนกันได้มั้ย เห้ย!! ไอ้แมวส้มอย่าตะกุยชุดฉันนะ!!! ไอ้เทาหยุดตะกุยรองเท้าฉันเดี๋ยวนี้!!!”

ยิ่งบ่นฝูงแมวยิ่งรุมเขา พยายามจับพยายามเดินหนีก็ไม่ได้มันยิ่งเดินตามแล้วแบบนี้เขาจะทำงานสงบๆ ได้มั้ยเนี่ย

ไม่นานพาเฟ่ต์ที่สั่งก็ได้ กินโทกินั่งลงที่เก้าโต๊ะริมกำแพงพอนั่งลงได้ 1 วิ ฝูงแมวนับสิบก็กรูกันเข้ามาที่โต๊ะเขาพร้อมกับนั่งจ้องราวกับกดดัน

“มามองอะไรเนี่ย จะไปไหนก็ไปเลยไปคนเขาจะทำงาน” ไล่ยังไงก็ไปแต่พวกมันยิ่งเดินมาหาเขา “เฮ้ยๆๆๆ ก็บอกแล้วไงว่าคนจะทำงานน่ะ เฮ้ย! นี่ะาเฟ่ต์ฉันนะแมวกินไม่ได้นะเหวย!!”

ทั้งจับออกทั้งไล่แต่ไม่ว่าจะทำอะไรพวกแมวก็ไม่ยอมไปสักที พาเฟ่ต์ก็มาโดนแมวเลีย งานก็ต้องทำอีกเขายังหาเป้าหมายไม่เจอเลยนะเหวย มันจะมาจบเอาตอนนี้ไม่ได้!!

“เมี๊ยวๆๆ มานี่ๆ” เสียงใสร้องเรียกแมวก่อนแมวนับสิบที่กำลังรุมกินโทกิจะหันไปหาคนใหม่

กินโทกิเงยหน้ามองคนมาใหม่ หญิงสาวใบหน้าคมผมสีดำไฮไลท์อินเนอร์สีขาวยาวสลวย รีบหยิบภาพขึ้นมาเทียบมองสลับไปมา

ชัดเลย!!! คนนี้แหละ ในที่สุดก็เจอสักที!

ว่าแต่ ไอ้เสียงเรียกเมื่อกี้มันอะไร เรียกแมวหรอ แล้วไอ้ที่ฆ่าพวกอีลิธเมื่อวานมันคืออะไร ผู้หญิงพลังแกร่งสายโหดที่ฆ่าศัตรูนับสิบกับไอ้คนที่มานั่งเล่นกับแมวแง๊วๆ วันนี้นี่มันคนเดียวกันใช่มั้ย

“หืม?” ดูเหมือนหญิงสาวจะรู้ว่ากำลังถูกจ้อง เธอเงยหน้ามองทำให้กินโทกิสะดุ้งเฮือกยิ่งทำให้เขาลนลานก่อนจะเบือนสายตาหนีเพราะโดนจับได้ว่ากำลังจ้องเธออยู่

“ไม่ชอบแมวหรอ”

“หือ?” กินโทกิกลับมาหันมองตรงๆ พลางเลิกคิ้ว “คุณน่ะ ไม่ชอบแมวหรอ”

อ่อ ถามเขานี่เอง “เปล่าหรอก ก็แค่ไม่ชอบที่มันมาแย่งพาเฟ่ต์ฉันกิน”

“แมวน่ะ จริงๆ มันกินของหวานไม่ได้หรอก แต่ที่มันไปแย่งคุณกินก็เพราะมันเห็นว่าคุณกินได้ มันก็เลยอยากจะกินมั่ง”

กินโทกิเท้าคางมองอีกคนด้วยความสนใจ “เธอนี่ดูรู้เรื่องแมวเยอะดีนะ”

“เคย แต่ตายไปแล้ว” จู่ๆ บรรยากาศก็เปลี่ยน อะไรเนี่ย ที่เขาไปสะกิดต่อมอะไรเธอรึเปล่าเนี่ย

“ฮ่าๆๆๆ ทำไมทำหน้าแบบนั้นเล่า อดีตก็คืออดีต ตอนนี้น้องไปสบายแล้ว ตอนนี้ฉัยก็แค่โฟกัสกับปัจจุบันแค่นั้น”

แม้ใบหน้าของเธอจะยิ้มแต่เขาเห็นนะ ว่าสายตาของเธอมันดูเศร้าและโดดเดี่ยวมาก

“ลืมถามเลย จะว่าไปที่คุณมานี่มาตามฉันเหรอ”

คำถามของซายะทำเอากินโทกิถึงกับสะดุ้งเฮือก ลืมไปเลยว่าเขามาตามดูเธอ มัวแต่คุยจนลืมหน้าที่ตัวเองแล้วนะเนี่ย

“ว่าไง สรุปคุณมาดูฉัน-”

โครม!!!!!!

“กรี๊ดดดด!!! / เมี๊ยวววว!!!!”

เสียงกรี๊ดปนกับเสียงร้องของแมวดังระงมเหตุเกิดมาจากรถยนต์คันหนึ่งที่มาจากไหนก็ไม่รู้พุ่งใส่เข้าร้านคาเฟ่แมวจนทุกคนรวมทั้งแมวแตกกระเจิง

“นี่มันบ้าอะไรเนี่ย” กินโทกิสบถพร้อมกับค่อยๆ เดินเข้าไปเพื่อจะไปดู สังเกตเห็นควันลอยออกมาจากตัวรถแต่พอสังเกตดูดีๆ มันไม่ใช่สีดำแต่มันกลับเป็นสีม่วงก่อนจะสัญชาตญานภายในตัวมันจะบอกว่าให้ถอย

“ชิบล่ะ”

ตู้ม!!!!

ไม่ทันจะได้ถอยรถคันนั้นก็ระเบิดตู้มพร้อมกับควันสีม่วงขโมง ซายะที่เห็นก็รีบเข้าขวางก่อนจะกางมือดูดควันสีม่วงเข้าในวงแหวนเวทย์

“แค่กๆๆ เธอนี่สุดยอดแฮะ อย่างกับซุปเปอร์ฮีโร่เลย แค่กๆๆๆ”

จู่ๆ ร่างกายปวดแสบปวดร้อนก้อนเนื้อในอกเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมาจากอก เรี่ยวแรงที่เคยมีค่อยๆ หายไปก่อนจะทรุดลงกับพื้น

ไม่ไหวแฮะ ที่เขากำลังจะตายหรอเนี่ย

“จับมัน!!!”

ร่างกายที่ไร้เรี่ยวแรงถูกแบกด้วยใครบางคน พื้นสะเทือนจนแทบเวียนหัวสงสัยกำลังวิ่งอยู่ เสียงโวยวายของกลุ่มคนปนกับเสียงระเบิดตูมตามจนหูแทบอื้อ

ร่างของเขาถูกวางลงกับพื้นหญ้าของที่ไหนสักแห่ง กินโทกิหรี่ตาพยายามมองเหตุการณ์ตรงหน้าแต่ความปวดแสบปวดร้อนภายในร่างกายมันก็ถาถมไม่หยุด

“แค่กๆๆๆ”

แสงวูบวาบที่คาดว่าน่าจะเป็นดาบถูกเสกออกมาจากมือของหญิงสาวก่อนที่คนเหล่านั้นจะพุ่งใส่เธอหมายจะฆ่า

“ซา…ยะ”

นุ่ม

ทำไมมันนุ่มขนาดนี้นะ

ใครมันเอาอะไรมาทาบปากเขาเนี่ย ชินปาจิหรอ หรือคางุระ เอ๊ะ หรือว่าซาดาฮารุ

แต่เดี๋ยวก่อน…เขาตายแล้วหรอ ตายแล้วใช่มั้ย แต่ทำไมความรู้สึกมันเหมือนจริงเลยนะ

พยายามลืมตาภาพตรงหน้าค่อยๆ ชัด ใครบางคนที่พึ่งเคลื่อนหน้าออกมันดูคุ้นตาเหมือนพึ่งเคยเห็นเมื่อไม่นานมานี้

“นี่ ตายยัง”

เสียงหวานอันคุ้นเคยก่อนจะค่อยๆ นึกออกจนทำให้เขาสะดุ้งเฮือกลุกขึ้นมานั่ง

“โอ๊ะ ยังไม่ตายแฮะ”

กินโทกิสำรวจตัวเองพลางยกมือจับหน้าอกฟังหัวใจตัวเอง ก็เต้นปกติหนิ งั้นแปลว่าเขายังไม่ตายนี่หว่า

“ฉันยังไม่ตายใช่มั้ย” หันไปถามอีกคนเพื่อเป็นการยืนยัน ซายะจับมือของเขาดันไปอังตรงใต้จมูกของเขา

โอเค เขายังไม่ตาย

“เอ๊ะเดี๋ยวก่อน แล้วเมื่อกี้ฉันเป็นอะไร ทำไมถึง…”

“คุณสูดควันพิษเข้าไป ฉันก็เลยดูดออกให้”

“ห๊ะ! ดูดออก? ดูดยังไง”

“ปากไง”

“ปาก?” ซายะพพยักหน้าตอบ

จู่ๆ ความรู้สึกบางอย่างก็แล่นเข้ามาในหัว ความรู้สึกนุ่มนิ่มที่ปากกับความรู้สึกวูบวาบที่ค่อยๆ ไหลทะลักออกจากปากของเขา หรือว่า…

กินโทกิหันมองหญิงสาวที่กำลังนั่งมองเขาด้วยสีหน้าที่นิ่งเรียบ อย่าบอกนะ ว่าเขาเสียจูบแรกไปแล้ว!!!! ไม่ใช่ว่ากินโทกิไม่เคยเรื่องแบบนี้ สมัยก่อนเขาก็เคย ไม่ว่าจูบหรืออะไรเขาก็ผ่านมาหมดแล้ว แต่ว่านี่…

“ใครสั่งใครสอนให้ดูดพิษทางปากกัน!!! แถมยังใช้ปากดูดอีก!!! เป็นสาวเป็นแส้ดูดทางอื่นสิ ใช้วิธีอื่นสิ นี่มันไม่ต่างอะไรกับการจูบเลยนะเหวย!!!!”

“ไม่รู้อ่ะ พี่สอนมาแบบนี้”

“โว้ยยยย!!!! ไม่ต้องฟังพี่มากก็ได้มั้ย เป็นเด็กรึไงห๊ะ!”

“ก็เด็กนะ ยี่สิบสี่เอง”

“โอ๊ย!!!!!!”

ตูม!!!!!

อาวุธปริศนานับสิบพุ่งตรงมาหาพวกเขาทำให้ซายะต้องใช้เวทย์ลมกางเพื่อป้องกันตนเอง ไม่ต้องเดายากคนที่โจมตีก็ไม่ใช่ใครนอกจากกลุ่มอีลิธ

“หนีกันเก่งจริง แค่ยอมให้จับง่ายๆ ก็จบ-”

ไม่ปล่อยให้ฝ่ายศัตรูได้เอื้อนเอ่ยซายะจกทะลวงท้องของอีกฝ่ายก่อนชายผู้นั้นจะร่วงลงสู่พื้น

กินโทกิที่เห็นภาพทุกอย่าง ภาพมือที่มีวงแหวนเวทย์ปรากฏก่อนมือนั่นจะทะลวงท้องของศัตรูไม่พอยังหมุนเกลียวกะว่าให้อีกฝ่ายตาย ยัยเด็กนี่มันจะน่ากลัวเกินไปแล้วนะเหวย!!

“จะจับก็มา อย่าช้าฉันต้องไปซื้อเนื้อย่างอีก”

พูดจบพวกอีลิธก็พากันกรูพุ่งตรงมาหาพวกเขา ซายะหันไปจับมือกินโทกิก่อนจะใส่กำไลบางอย่างให้เขา

“อะไรเนี่ย”

ยังไม่ทันจะได้คำตอบต่างคนก็ต้องกระโดดหลบสารพัดอาวุธที่สาดใส่โจมตีพวกเขา

“อั่ก!!” ดินที่ถูกแปรสภาพให้เป็นอาวุธกระแทกเข้าลำตัวกลางกินโทกิจนกระเด็นไปไกล “shit! เจ็บนะเหวย”

“เอาเลือดป้ายกำไล!!”  ซายะหันไปตะโกนบอกขณะที่ตัวเองก็กำลังสู้อยู่

“ห๊ะ!? อะไรนะ!!!!”

“บอกให้เอาเลือดป้ายกำไล!!”

“ป้ายทำไม!!!”

“บอกให้ป้ายก็ป้าย!!” เป็นจังหวะที่ซายะวิ่งหลบมาใกล้พอดีเธอเอื้อมไปป้ายเลือดที่แก้มเขาก่อนจะเอามาป้ายที่กำไล

จู่ๆ บรรยากาศรอบๆ ตัวก็เปลี่ยนไป เหมือนมีกระแสไฟฟ้าจำนวนมหาศาลแล่นเข้าร่างกาย มีอักขระเวทย์ค่อยๆ ปรากฏตามแขนขวา

“เรียกเวทย์ออกมาเลย!!”

“แล้วมันเรียกยังไง!!”

“ตั้งจิตเรียกพลังออกมา!!-อั่ก!!” ซายะโดนดินที่แปรสภาพดึงยึดกับพื้นก่อนที่พวกอีลิธจะทำการร่ายเวทย์หมายจะเอาชีวิต

กินโทกิตั้งสมาธิรวบรวมจิตเรียกพลัง ไฟฟ้าในร่างให้รวมที่ดาบไม้ยึดถือดาบให้มั่นและพุ่งตัวโจมตีใส่พวกอีลิธทันที

ตูม!!!!

“อ๊ากกกก!!!!” พวกอีลิธกระเด็นกระดอนไปกันคนละทิศคนละทางบ้างก็โดนช็อตจนน็อคไป

กินโทกิมองดาบในมือที่ยังมีกระแสไฟฟ้าปรากฏให้เห็นอยู่กลายๆ ให้ตายเถอะ นี่เขากลายเป็นคนมีพลังแล้วหรอเนี่ย นี่มันยังเป็นกินทามะอยู่ใช่มั้ย

เสียงร้องโอดโอยที่ดูจะขาดใจกับชายคนหนึ่งที่กำลังคลานมาจับเท้า “แกจะต้องเสียใจ ที่ไปช่วยยัยนั่น”

กินโทกิมองชายตรงหน้าก่อนจะนึกอะไรบางอย่าง ไหนๆ ไอ้กำไลนี่ก็ทำให้เขามีพลังแล้วลองอันใหม่สิ ตั้งจิตนึกถึงสิ่งที่อยากให้ออกมา เปลี่ยนดาบไม้ให้เป็นค้อนอันโต

“วู้ว~เจ๋งว่ะ”

“นี่แก”

“อยากรู้ใช่มั้ยว่าทำไมฉันถึงช่วยยัยนั่น” กินโทกิยกยิ้มแสยะง้างค้อนขึ้นสุดเหนือหัวก่อนจะฟาดลงชายผู้นั้น “เพราะของเล่นมันสนุกไงล่ะ”

หย่อนตัวลงกับพื้นนั่งเอนหลังหลังพิงกับต้นไม้พลางยกมือขึ้นมาดู มือสั่นแรงจนน่าประหลาดใจไหนจะอาการเหนื่อยหอบที่มากจนแทบจะทำให้เขาพร้อมหลับได้ทุกวิ

“ไหวมั้ย” ซายะย่อตัวมาดูอาการกินโทกิ สภาพเขาตอนนี้ดูแย่มาก หอบเหนื่อยแถมยังมือสั่นอีกด้วย “สภาพนี้คิดว่ายังโอเคอีกมั้ยล่ะ”

“อ่า…คงไม่ไหวสินะ”

เสียงหวอที่มาพร้อมกับรถตำรวจชินเซ็นกุมิให้ทั้งสองคนหันไปมอง

“โห ใช้ได้เลยนี่”

“ฝากจัดการที่เหลือด้วยนะ” ซายะหันไปบอกกับพวกชินเซ็นกุมิก่อนจะหันหลังเตรียมจะเดินจากไป

“เดี๋ยวก่อนสิคุณผู้หญิง ทำคนอื่นหมดแรงขนาดนี้ต้องรับผิดชอบสิจะมาหนีกันได้ไง” สองขาหยุดกึกหันมองคนหน้าตายที่กำลังเลิกคิ้วอย่างกวนบาทา

“ช่วยไม่ได้หนิ มือใหม่ก็แบบนี้แหละ ทนๆ ไปเถอะ”

“หา? แล้วเรื่องอะไรที่ฉันต้องทนล่ะ เธอเป็นคนมายัดให้ฉันเองนะ”

“ที่ให้ก็เพราะจะได้ช่วยตัวเองได้ไง ยังจะมาบ่นอีก”

“เดี๋ยวๆๆๆๆ ทั้งสองคนพูดเรื่องอะไรกันเนี่ย ช่วยตัวอะไร ยัดอะไรกัน” ดูเหมือนคอนโดจะเข้าใจประโยคพูดของทั้งสองคนผิดไปดันไปเข้าใจว่าทั้งสองคนทำเรื่องบัดสีบัดเถลิงซะงั้น

“ใจเย็นครับคุณคอนโด เขาคุยเรื่องกำไลที่พี่สาวให้ลูกพี่ต่างหาก”

“อ่าว อย่างงั้นหรอ” ดีนะที่โอคิตะคอยช่วยแก้ไม่งั้นได้เข้าใจผิดกันยาวแน่ๆ

“นี่ ไอ้พวกที่มาโจมตีมันมีแค่นี้ใช่มั้ย” ฮิจิคาตะเดินมาสมทบพร้อมกับหันมาถามพวกกินโทกิ

“ใช่ทำไม”

“เหมือนจะมีคนหลบหนีไปคนนึงนะ”

“ว่าไงนะ” ซายะเดินไปดูตามฮิจิคาตะบอก มันมีรอยเลือดหยดเป็นทางเข้าไปทางป่าที่อยู่ใกล้ๆ

“ดูเหมือนจะเป็นตัวหัวหน้าด้วยนะครับเนี่ย”

“พวกนาย ตามมันไป-”

“ไม่ต้อง” ยังไม่ทันที่คอนโดจะพูดจบซายะก็แทรกขึ้นมาก่อน

“เดี๋ยวสิ ถ้าไม่ตามไปเดี๋ยวมันก็หนีไปได้หรอก”

“ตามแล้วสู้กับมันได้หรอ ไม่ได้จะดูถูกนะ แต่อย่าลืมว่ามันมีพลังมากกว่าพวกคุณ มันไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา เพราะฉะนั้นเดี๋ยวฉันจัดการเอง”

ซายะเดินตามรอยเลือดเข้าป่าไปทิ้งคนที่หลือได้แต่ยืนมอง

“ลูกพี่ไม่ตามไปหรอครับ” โอคิตะหันไปถามกินโทกิที่เอาแต่นั่งเงียบ

“นายว่าฉันควรตามไปมั้ย”

“ก็ควรนะครับ เพราะในตอนนี้นอกจากคุณพี่สาวก็มีแค่ลูกพี่นี่แหละครับที่ใช้พลังได้”

กินโทกินั่งครุ่นคริดอยู่ครู่ก่อนยันตัวลุกเดินตามซายะไป “ฝากตรงนี้ด้วยล่ะกัน เดี๋ยวยัยนั่นฉันพากลับเอง”

“ฝากคุณพี่สาวด้วยนะครับลูกพี่”

ภายในป่าที่ทึบหนาสองขาเรียวเดินรอยเลือดมาเรื่อยๆ จนมาถึงลานกว้างกลางป่า พลางกวาดสายตามองหาเป้าหมายรอบๆ ก่อนจะไปหยุดที่หลังหินก้อนใหญ่ก้อนหนึ่ง

ซายะเดินตรงไปยังหินก้อนนั้นแต่จู่ๆ เซ้นท์มันดันบอกว่ามีบางอย่างอยู่ด้านหลังห้อนหินนั่นแน่ หยุดเดินและยืนครุ่นคิดก่อนจะจะร่ายเวทย์ทำลายก้อนหินเพื่อให้เผยสิ่งที่อยู่ด้านหลัง

“อ๊ากกกกกก!!!!”

เสียงกรีดร้องกับร่างที่ปรากฏออกมาโชคดีที่เธอเอะใจทันไม่งั้นคนที่จะเละคงจะเป็นเธอแทน

ซายะเดินตรงไปหาศัตรูพลางใช้ตีนเขี่ยก่อนจะมีแท่งบางอย่างพุ่งแสกหน้าแต่ก็หลบได้ทัน

“คิดเรอะว่าฉันจะยอมให้จับง่ายๆ น่ะ เหอะ! ฝันไปเหอะ”

“โอย~ ยอมสักทีเถอะ ขี้เกียจแล้วนะ”

“ไม่มีทาง!!!”

ชายคนนั้นแปรสภาพพื้นดินให้กลายเเป็นหอกแหลมพุ่งมาทางเธอ ซายะทำการเรียกดาบใหญ่ออกมาก่อนจะทำการตวัดดาบทำลายแท่งดินจนหมด แต่จังหวะนั้นเองก็มีแท่งดินอีกแท่งพุ่งมาทางเธอก่อนที่จู่ๆ จะมีดาบไม้ปริศนาตวัดลงมาทำลายแท่งดินนั่น

“ดูให้ละเอียดหน่อยสิ เห็นมั้ยเนี่ยว่ามันยังไม่หมด”

กินโทกิที่มาจากก็ไม่รู้บ่นพลางใช้เวทย์จากกำไลสแตนเลสเรียกสายฟ้าออกมาฟาดใส่คืนชายจากกลุ่มอีลิธไป

“ตามมาทำไมเนี่ย” ซายะเอ่ยถามพลางปั้นหน้าคิ้วขมวดใส่

“ก็ไม่อยากจะตามมาหรอกนะ แต่ดันไปเซ็นต์สัญญาแล้วก็ต้องทำหน้าที่ให้ถึงที่สุด”

ซายะมองคนตรงหน้าอย่างพิจารณาก่อนจะถอนหายใจแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดยิกๆ “ขอเลขบัญชีหน่อย”

“หือ? เอาไปทำไม”

“บอกมา”

“ทำไม จะโอนเงินให้แล้วไล่ฉันกลับรึไง” ท่าทางแบบนี้เขารู้

“โอนให้แล้วไง มันได้จะจบสักหน่อย ฉันก้าวขาเข้ามาเกี่ยวข้องจนเต็มตัวแล้วนี่ออกไปก็โดนล่าอยู่ดีมั้ย”

คิดตามแล้วมันก็จริง จะออกตอนนี้กินโทกิก็คงจะโดนหมายหัวไปแล้วจะหนีก็คงไม่ทันแล้ว

สายเหลือบเห็นอะไรบางอย่างที่พุ่งมาจากด้านหลังของกินโทกิ ซายะเอื้อมคว้าผมของกินโทกิก่อนจะลากดึงตัวเขาหลบแล้วยกมือหอกดินจนมือทะลุก่อนจะปามันคืนไปจนแทงทะลุตัวของชายคนนั้นจนล้มลงไป

“เฮ้อ จบสักที”

“นี่เธอ!! จบแล้วก็ช่วยปล่อยผมฉันด้วย! จับนานๆ เดี๋ยวผมฉันหลุดหมด ช่วงนี่ผมยิ่งร่วงง่ายอยู่” ปล่อยมือผมดันเผลอกำนานไปหน่อย

“โทษที”

มือหนายกมือลูบผม เกือบหลุดแล้วนี่ถ้ากำนานอีกหน่อยผมได้หลุดมือติดยัยนั่นไปแน่ๆ

ซายะเดินตรงเข้าไปหาร่างของหัวหน้ากลุ่มอีลิธก่อนจะทำการร่ายเวทย์มัดตัวเขาเอาไว้เพื่อไม่ให้หลุดหนีไปอีก

“นี่พวกนาย!!! ยังอยู่ดีกันใช่มั้ย!!” เสียงของคอนโดตะโกนดังมาแต่ไกลพอหันไปก็พบว่าเป็นพวกชินเซ็นกุมิที่วิ่งตามมา

“ก็เห็นอยู่นี่ว่ายังไม่ตาย” กินโทกิพูดสวนกลับอน่างกวนประสาท

“คนอย่างแกน่ะน่าจะตายๆ ไปซะดี”

“นี่ๆ ท่านรองหัวหน้าปีศาจพูดแบบนี้ได้ไงห๊ะ ถ้าเกิดฉันตายไปพวกนายจะไม่มีคนช่วยนาเหวย อย่าลืมสิว่านอกจากยัยนั่นฉันก็ใช้พลังได้เหมือนกันนา”

“งั้นหรอ งั้นตัดมือนั่นเลยดีมั้ยแกจะได้กลายเป็นคนธรรมดา”

ฮิจิคาตะเอื้อมมือไปจับแขนคนหัวเงินพร้อมกับง้างดาบฟันจริงๆ จนกินโทกิต้องยกมือห้าม

“เฮ้ยๆๆๆ!! เดี๋ยวก่อนสิ!! ถ้าแกตัดมือฉันแกจะต้องโทษทำร้ายประชาชนจนอันเป็นเหตุให้พิการนะเหวย!!!”

“อดีตนักรบขับไล่ต่างแดนอย่างแกไม่มีใครเขามาสนใจหรอก!!”

“ก็บอกแล้วไงว่าตอนนี้คุณกินใสบริสุทธิ์แล้ว!!! นั่นมันเรื่องในอดีตจบแล้วก็แล้วกันไปสิ!!”

“นี่”

“หา? ฉันก็อยากจะจบอยู่หรอก แต่แกอย่าลืมว่าแกเป็นถึงชิโรยาฉะผู้เลื่องชื่อ ต่อให้สงครามมันจบไปแล้วแต่เรื่องตามจับนักรบขับไล่ต่างแดนมันไม่เคยจบหรอกเว้ย!!”

“เฮ้ย!!!!!!!” เสียงสาวเข้มตะโกนเรียกให้ชายทั้งสองคนที่กำลังเถียงกันถึงกับสะดุ้งเฮือกแล้วกันไปมอง พบว่าเป็นซายะที่ตอนนี้กำลังปั้นหน้านิ่งมองพวกเขาอยู่

“มีอะไรหรอ”

“ไอ้หัวหน้ามันกลายเป็นผงไปล่ะ”

“ห๊ะ?!!!” ทั้งสองหนุ่มเดินแหวกมาดูพบว่ามันกลายเป็นผงอย่างที่ว่าจริงๆ

“แล้วทำไมเธอปล่อยให้เป็นแบบนี้ล่ะห๊ะ แบบนี้มันก็หลุดรอดไปได้อ่ะดิ” กินโทกิหันมาถามพลางใช้เท้าเขี่ยเศษผงที่อยู่บนพื้น

“มันไม่ได้หลุดรอด มันตายต่างหาก”

“มันก็เหมือนๆ กันนั่นแหละ”

“แล้วจะให้ฉันทำไงล่ะ ห้ามให้มันตายงี้หรอ ต่อให้ฉันแกร่งแค่ไหนก็ห้ามคนไม่ให้ตายไม่ได้นะ”

นึกคิดตาม เออ นั่นสิเนาะ

“นี่คุณพี่สาว ไอ้เจ้านี่มันคืออะไรหรอครับ” โอคิตะหยิบของบางอย่างจากขี้เถ้าบนพื้นส่งให้ซายะดู

มันคือก้อนอะไรบางอย่างขนาดเท่าเหรียญ มีลักษณะก้อนสีแดงใสรูปร่างเหมือนหอยเม่น

“หินพลัง?”

“หือ? อะไรคือหินพลัง” กินโทกิชะเง้อหน้าจากด้านหลังของซายะเข้ามาดูก้อนในมือของโอคิตะจนซายะปั้นหน้าคิ้วขมวดหันไปมอง

“คิดว่าน่าจะนะครับ”

ซายะหยิบขึ้นมาพิจารณาดูแต่จู่ๆ ก้อนหินนั้นก็ระเบิดจนวงเกือบแตก โชคดีที่ระเบิดแค่เล็กๆ ไม่งั้นได้เจ็บหนักกันแน่

ณ ที่กรมตำรวจแห่งชาติภายในห้องประชุมที่กำลังประชุมกันอย่างเคร่งเครียด คงเป็นเพราะวันนี้ถึงจะจับพวกอีลิธที่ทำการบุกมาได้จำนวนหนึ่งแต่กลับไม่ได้ข้อมูลอะไรที่เกี่ยวกับพวกมันเลย ทำให้ทุกคนในที่นี่ต่างปวดหัสกันทั้งนั้น

“นี่” กินโทกิเอ่ยขึ้นมาท่ามกลางความเงียบทำให้ทุกคนใรห้องต่างพากันหันไปมองยกเว้นซายะที่เอาแต่ยืนเหม่อมองวิวที่ด้านนอกหน้าต่าง

“ไม่มีอะไรแล้วฉันกลับเลยได้มั้ย”

“ไม่ได้ เรายังประชุมกันไม่เสร็จ” ฮิจิคาตะเอ่ยพร้อมกับพ่นควันออกจากปอด

“แล้วไม่ประชุมสักทีล่ะฟร่ะ เอาแต่นั่งเงียบกันอยู่นั่นแหละ คนเขามีการมีงานนะเฟร้ย”

“คนอย่างแกเนี่ยนะมีการมีงาน วันๆ เห็นไปร้านปาจิงโกะไม่ก็นั่งหาวอ่านซีคิดส์ไปวันๆ”

“โถ่~โองูชิคุง นายไม่ได้ตัวติดกับฉันสักหน่อยจะไปรู้ได้ไงว่าวันๆ นึงฉันต้องทำงานหนักขนาดไหน”

“นี่ซายะจะไปไหนน่ะ” คอนโดเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าซายะกำลังจะเดินออกจากห้องประชุม

“ไปนอน ง่วง”

“แต่เรายังประชุมไม่สร็จกันเลยนะ ท่านผบ.ยังไม่มาเลย”

“ไม่เป็นไรๆ งานวันนี้จบแล้ว” ประตูห้องเปิดออกพร้อมกับผบ.ตร.มัตสึไดระที่เดินเข้าห้องมาพอดี

“ท่านผบ.เรายังไม่สรุปผลกันเลยนะครับ”

“หรอ งั้นก็สรุปเลยก็แล้วกัน ผลงานของพวกนายวันนี้ทำได้ดีมาก ส่วนข้อมูลก็ช่างมัน หาต่อไป เอาล่ะ กลับกันได้แล้วไป”

พูดจบมัตสึไดระก็เดินออกจากห้องประชุมไปทิ้งไว้ให้คนอื่นนั่งงง

“งั้นฉันไปก่อนนะ” ไม่รอช้าซายะก็เดินตามออกไปอีกคน “งั้นฉันไปด้วยดีกว่า ไปล่ะนะไอ้พวกตำรวจกิ๊กก๊อก”

“ไอ้…” ฮิจิคาตะที่ทำท่าจะพุ่งไปใส่เดี่ยวกับกินโทกิก็ถูกคอนโดห้ามเอาไว้ “ช่างมันเถอะ เราก็ไปมั่งดีกว่า”

ภายในลิฟต์อันเงียบสนิทกินโทกิและซายะต่างคนต่างยืนกันคนละมุมลิฟต์โดยที่ไม่ได้พูดคุยกัน

คนหัวเงินเหลือบมองอีกคนผ่านกำแพงลิฟต์ก่อนที่จู่ๆ ตัวลิฟต์จะเกิดเสียงดังตึงขึ้นมา

“เฮ้ยๆ~อย่าบอกนะว่าลิฟต์ค้างน่ะ ไม่เอานะฉันต้องไปซื้อคิดส์นะเหวย”

กินโทกิบ่นไปกดปุ่มลิฟต์ไปแต่ก็ไม่มีวี่แววจะขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อย

“เอาไงคุณผู้หญิง ดูท่าเราจะติดลิฟต์ซะแล้วล่ะ”

ซายะมองคนหัวเงินด้วยสีหน้านิ่งเดินไปแปะมือที่แผงวงจรก่อนจะเกิดประกายไฟแปล๊บๆ ขึ้น

“ทำอะไร-”

ยังไม่ทันได้พูดจบจู่ๆ ลิฟต์ก็ขยับก่อนจะร่วงสู่ชั้นล่างสุด ทั้งกินโทกิและซายะต่างต้องนอนหมอบราบกับพื้นเพื่อหาที่ยึดก่อนซายะจะร่ายเวทย์ลมประคองลิฟต์ให้ค่อยๆ ลงสู่ชั้นที่ 1 อย่างปลอดภัย

“ซายะทำบ้าอะไรเนี่ย!!!! จะฆ่าตัวตายรึยังไงกันห๊ะ!!!!!! อ้วก!!!”

“โทษที ลืมไปว่าไม่ได้อยู่คนเดียว”

“ยัยเด็กนี่ ใครสั่งใครสอนให้ทำแบบนั้นกันห๊ะ” กินโทกิเอ่ยเสียงแหบนอนหมดแรงกับพื้นลิฟต์

“รับผิดชอบเลยนะ ไม่งั้นฉันจะฆ่าเธอ”

ซายะเดินไปดึงกินโทกิให้ลุกขึ้นก่อนจะดันตัวเขาให้ขึ้นหลัง “นี่เธอจะทำอะไรเนี่ย อย่าบอกนะว่าจะแบกฉันขึ้นหลังแล้วพากลับบ้านน่ะ”

“ก็คุณบอกให้รับผิดชอบนี่”

ซายะทำจริง คือการแบกกินโทกิิขึ้นหลังแล้วพากลับบ้าน แต่ด้วยน้ำหนักที่ห่างกันเกินไปทำให้ในการเดินทีละก้าวมันช่างทุลักทุเลยิ่งนัก

ผ่านมากว่า 20 นาทีทั้งสองคนพึ่งจะออกมาจากกรมตำรวจมาได้แค่ 2 กิโล กินโทกิที่อยู่บนหลังของซายะที่ตอนนี้อาการดีขึ้นแล้วเหลือบมองคนตัวเล็กที่พยายามจะแบกเขาให้ถึงบ้าน

“ไหวมั้ยเนี่ย ไม่ไหวก็ปล่อยฉันได้นะ”

“ไม่ เป็น ไร” เป็นชัดๆ

ซายะยังคงพยายามจะเดินต่อแต่เพียงไม่นานเธอก็ล้มหน้าทิ่มลงกับพื้น กินโทกิยันตัวขึ้นโดยที่ไม่ลืมที่จะดึงเธอขึ้นมาด้วย “จุกเลยล่ะสิ”

ซายะปั้นหน้าเบ้ทำปากเบะอย่างไม่ชอบใจ “จุก”

“เห็นมั้ยล่ะ บอกแล้วก็ยังดื้อจะแบกอีก”

“ก็คุณบอกให้รัลผิดชอบนี่”

“แล้วรับผิดชอบอย่างอื่นไม่ได้รึยังไง”

“คิดไม่ทัน”

ได้แต่ถอนหายใจและส่ายหัวเนือยๆ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าหญิงแกร่งขนาดเทียบเท่าอุซึโระแต่กลับคิดไม่ทันกับอีเรื่องแค่นี้ได้

ช่างเด็กน้อยเสียจริง

กินโทกิจับตัวเธอแบกขึ้นหลังพลางกระชับให้พอดี “บ้านอยู่ไหน เดี๋ยวไปส่ง”

“เดี๋ยวเดินเอง”

“สภาพแบบนี้เดี๋ยวก็เดินตกท่อหรอก บอกมาว่าพักอยู่ที่ไหน”

“โรงแรมตรงนู่น” ซายะชี้ไปที่ตึกที่ตั้งอยู่ในย่านคากุระซากะ

“ไกลใช่เล่นเลยนะเนี่ย”

“กลับเองก็ได้นะ”

“เฮ้อ! ไปก็ไปวะ!”

เดินกันไปตามถนนระหว่างทางทั้งคู่ก็คึยกีนไปตีกันไปตลอดจนตกเป็นเป้าสายตาของที่คนที่ผ่านไปมา เดินกันมาจนถึงคากุระซากะเดินตรงต่อไปจนมาถึงโรงแรมที่ซายะบอก

พอมาถึงซายะก็กระโดดออกจากหลังของกินโทกิก่อนจะหันมาบอกลา

“ขอบคุณที่มาส่งนะ”

“นี่เธอ อยู่ในโรงแรมหรูขนาดนี้เลยหรอ”

กินโทกิแหงนหน้ามองตึกสูงตระหง่านตรงหน้า เป็นโรงแรมที่มีการตกแต่งสไตล์ตะวันตกโทนสีออกขาวทอง ดูก็รู้ราคาห้องพักน่าจะต้องแพงมากแน่ๆ

“ก็ลุงแกบอกให้พักที่นี่”

ลุงที่ว่าก็คือมัตสึไดระ เขาแนะนำให้เธอมาพักที่นี่ ภายในโรงแรมจะมีคนของชินเซ็นกุมิคอยเฝ้าตรวจตราแล้วเธอก็วางเวทย์ไว้อีกชั้นเพื่อป้องกันไม่พวกอีลิธตามเจอ

“เอาเป็นว่าขอบคุณอีกครั้งนะ” ซายะหยิบเงินในกระเป๋ายัดใส่มือของกินโทกิก่

“ไม่เอาเฟ้ย เอาคืนไปเลย ถึงฉันจะจนแต่ฉันก็มีศักดิ์ศรีนะ” กินโทกิส่งเงินคืนแต่ก็ถูกเด็กสาวที่อายุอ่อนกว่าดันมือกลับมา

“ศักดิ์ศรีมันกินไม่ได้หรอก มนุษย์เราถ้าจะให้อิ่มมันต้องกินข้าวมากกว่า” ดันมือเสร็จซายะก็หันหลังเดินตรงดิ่งเข้าโรงแรมไปโดยไม่สนเสียงคัดค้านของเขา

“ซายะ! ซายะ! นี่!”

จริงๆ เลย กินโทกิก้มมองปึกเงินจำนวนหนึ่งพอนับดูแล้วนี่มันตั้งห้าแสนเยนเลยนะ จะว่าไปดูจากการแต่งตัวรวมถึงแอคเซสเซอรี่ต่างๆ บนตัวก็ดูท่าจะเป็นของแบนด์เนมทั้งหมดด้วยยัยนี่มันรวยขนาดนี้เลยหรอเนี่ย

แต่ช่างเถอะ ในเมื่อให้มาแล้วก็ถือว่าเป็นของเขาจะมาเอาคืนทีหลังเขาไม่ให้นะ

เลือกตอน

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!