ช่วงเวลา

ธีม ฤดูหนาว

จุ๊บ!

"อรุณสวัสดิ์ตอนเช้า ท่านพี่หลาน" เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยด้วยรอยยิ้มสดใส

"อรุณสวัสดิ์ตอนเช้า น้องเว่ยอิง" ตอนอยู่ด้วยกันสองคนเขามักจะเรียกอีกฝ่ายด้วยชื่อเดิมเสมอ หากอยู่ต่อหน้าคนอื่นจะเรียกว่าเสวี่ยนอวี่แทนหรือหลานฝูเหริน

"ไปเจอประมุขตระกูลเจียงมาสองสามวัน เป็นยังไงบ้าง"

"ข้าโดนบ่นจนหูชาหมดแล้ว หลานจ้าน" ก็เป็นตัวแสบประจำยุทธภพมาตลอด ทั้งเมื่อสิบสามปีก่อนรวมถึงตอนนี้ด้วย

"เรื่องทำให้ได้สนิทกับท่านพี่หลานซีเฉินงั้นรึ"

"ใช่ ข้าคิดว่าเจียงเฉินอาจจะรู้ว่าแผนนี้เป็นของข้าเลยโดนบ่นเต็มๆ"

"หึ! แล้วเข็ดไหมล่ะ"

"ไม่มีทางหรอก คนอย่างข้าไม่มีทางเข็ดเพราะเรื่องแค่นี้แน่"

เสียงหัวเราะที่ดังออกมาจากห้องของหานกวงจินนั้น ทำให้เหล่าลูกศิษย์รู้สึกสบายใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากหลานฝู เหรินไปท่าเรือสัตบงเป็นเวลาหลายสัปดาห์ พวกเขาที่เป็นศิษย์ต้องรับศึกหนักด้วยการเรียนอย่างเข้มงวดทุกวันไม่มีผ่อนปรน เมื่อมีข่าวมาว่าหลานฝูเหรินกำลังเดินทางมายังกูซู ทุกคนถึงกับดีอกดีใจออกนอกหน้าเพราะว่าถ้าภรรยาของหานกวงจินกลับมา ความตึงเครียดจะหายไปจนหมดสิ้น

"วั่งจี รู้ตัวไหมว่าตั้งแต่ที่หลานฝูเหรินไปท่าเรือสัตบง เจ้ามีท่าทีเคร่งเครียดตลอดเลย" หลานซีเฉินถามด้วยความเป็นห่วง เนื่องจากเขารู้ว่าน้องชายของตนเองติดภรรยามาก แล้วจู่ๆ เสวี่ยนอวี่บอกว่าจะไปท่าเรือสัตบง ความกังวลใจอะไรหลายอย่าง เกี่ยกับตระกูลรวมถึงความสนิทสนมเลยทำให้น่าเป็นห่วงยิ่งนัก โดยที่ประมุขตระกูลหลานไม่เคยรู้ว่าคุณชายเสวี่ยนอวี่คือเว่ยอู่เซี่ยน

ไม่ใช่ว่าเขากังวลเรื่องตระกูลเจียงไม่ชอบเสวี่ยนอวี่ สิ่งที่กังวลคือเจียงเฉินคือเพื่อนสนิทของเว่ยอิงต่างหาก หากเกิดการปะทะกันแล้วจะต่อต้านได้ไหมในเมื่อคนรักสูญเสียจินตานไปแล้ว โดยที่ไม่รู้เลยว่าความเครียดถูกแผ่ออกมาทางหน้าตา ท่าทาง และการใช้ชีวิตประจำวันด้วย

"ที่สำคัญเสวี่ยนอวี่ทำเพื่อท่านพี่ด้วย"

"เจ้าหมายความว่ายังไง วั่งจี"

"พวกเราช่วยกันทำให้ท่านพี่ได้รู้จักกับประมุขตระกูลเจียงมากขึ้น เพราะรู้มาว่าท่านพี่แอบชอบเจียงเฉิน ไม่เช่นนั้นก็คงไม่มีทางเจอกันที่ตลาดบ่อยขนาดนั้นหรอก"

"หมายความว่า เมื่อหลานเดือนก่อนเป็นฝีมือของพวกเจ้างั้นรึ" ไม่น่าเชื่อว่าน้องชายของเขาจะยอมเล่นอะไรเหมือนเด็กเป็นกับเขาด้วย แสดงว่าหลานฝูเหรินคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ แล้วทำไมคนภายนอกถึงบอกว่าลูกต่างมารดาคนนี้มีสติฟั่นเฟือนได้ล่ะ มันแตกต่างจากที่เห็นมากเลยนะ

"เป็นแผนของหลานฝูเหรินและมีข้าเป็นคนบอกตารางงานของท่านพี่" ความแสบของสองสามีภรรยาคู่นี้ไม่ธรรมดาจริงๆ ข่าวลือที่ว่าชอบหาวิชาแปลกๆ มาสอนลูกศิษย์หรือพาเที่ยวเล่นเป็นฝีมือของคุณชายเสวี่ยนอวี่อย่างไม่ตกสงสัยเลย

"ข้าพึงพอใจประมุขตระกูลเจียงอยู่ แต่ไม่รู้ว่าชอบพอหรือเปล่า"

"แบบนี้ท่านพี่ก็ชอบพอเขาแล้วล่ะ"

"แล้วทีนี้จะทำอย่างไรดี"

ครืด.....

"ท่านพี่รองหลาน ข้าพาเด็กๆ ไปจับปลามา วันนี้ย่างปลากันไหม" เว่ยอู่เซี่ยนถามอย่างอารมณ์ดีเพราะเขาจับมาได้หลายตัวมาก

"อืม" หลานวั่งจีขานรับพร้อมยิ้มตอบ

"ขอรับ เดี๋ยวข้าออกไปย่างนะ" ชุดสีขาวพริ้วไหวไปตามสายลมจนเผยให้เห็นช่วงขาขาว หลานวั่งจีรีบสะบัดชายผ้าให้ลงมาแบบเดิมในทันที บ่งบอกถึงความหวงแหนคนรักของตนมากแค่ไหน แต่ว่าลูกศิษย์ก็เห็นกันไปหลายคนแล้ว สายตาอาฆาตถูกส่งมายังคนแถวหน้าที่มองเห็นเหตุการณ์เมื่อสักครู่

"พวกเจ้าจะเห็นหรือไม่ แต่คงรู้ใช่ไหมว่าจะตอบเยี่ยงไร"

"พวกข้าไม่เห็นเลยขอรับ หานกวงจิน"

"ดี"

คนที่ถูกพูดถึงตั้งใจย่างปลาจนไม่ได้สังเกตสิ่งรอบข้างเลยว่าเกือบมีเหตุทะเลาะวิวาทเกิดขึ้นในกูซูเสียแล้ว เนื้อปลาถูกย่างกึ่งสุกกึ่งดิบเพราะเนื้อจะไม่นิ่มเกินและแข็งเกินไปด้วย

หมับ!

ร่างสูงรวบตัวอีกคนเข้ามากอดพลางหอมไปทั่วร่างกายทำให้คนที่ได้รับสัมผัสขัดเขินจนแก้มขาวแดงซ่านไปหมด มือขาวไม่สามารถหนีจากการเกาะกุมนี้ได้ เพราะเสียดายปลาในมือที่ย่างมานานจะอดกินถือเป็นช่องว่างให้หานกวงจินได้ลิ้มรสความหอมหวานที่ขาดหายไปเป็นเวลานาน

"ห... หลานจ้าน... ไม่กินปลาก่อนรึ"

"ไม่ล่ะ ข้าอยากกินเจ้า"

ปลาย่างในมือข้าวถูกวางไว้บนโต๊ะอาหาร มือหนาวาดสัมผัสไปทุกที่ที่เข้าถึงได้ราวกับต้องการจะบอกว่าตนเองอดกลั้นเอาไว้มากแค่ไหน ข้าวของในห้องจิ้งชื่อกระจัดกระจายไปคนละทิศคนละทาง ริมฝีปากขบกัดใบหูเรียวอย่างเอ็นดูแต่ท่าทางสั่นเหมือนลูกกวางน้อยทำให้บางสิ่งบางอย่างตื่นตัวมากกว่าเดิมหลายเท่านัก

"เจ้ากำลังจะทำให้ข้าคลั่ง เว่ยอิง"

สองมือประสานกันด้วยความรักความหวงแหน สาบเสื้อหลุดรุยลงตามร่างกายขาวไม่มีสิ่งใดมาเจือปน ริมฝีปากหนาไล่เลียสำรวจทุกจุดรวมถึงทำรอยแสดงความเป็นเจ้าของอย่างเต็มที่ เสียงครางหวานดังออกมาตลอดบทรักที่เกิดขึ้นกลางโต๊ะอาหาร การอดทนเหมือนยาพิษของวั่งจียิ่งนัก

เขาตักตวงทุกสิ่งทุกอย่างที่อยากได้ไปจนหมด เว่ยอู๋เซี่ยนปลดปล่อยครั้งแล้วครั้งเล่าจนอ่อนแรงที่จะต่อกรนอกจากตอบสนองคนรักที่มาสัมผัสตนเพียงเท่านั้น

"ท่านพี่รองหลาน... ข้าไม่ไหวแล้ว... อึก!"

"ข้าคิดถึงเจ้า เว่ยอิง"

"อ๊า!!! ตรงนั้น" เสียงทุ้มนุ่มร้องเสียงหลงเหมือนส่วนปลายโดนจุดกระสันที่ทำให้รู้สึกมากกว่าทุกครั้ง เมื่อหลานจ้านรับรู้ว่าตรงไหนที่จะทำให้ฝูเหรินรู้สึกดี ไม่รอช้าที่จะตอบรับเสียงนั้นให้ส่งเสียงให้เขาตลอดเวลา จนกระทั่งน้ำจำนวนมากพุ่งออกมาจากส่วนอ่อนไหวของเว่ยอิง

"ไหวไหม เว่ยอิง" มือหนาประคองใบหน้าหวานขึ้นมาด้วยความเป็นห่วง ร่างกายที่กำลังสอดประสานกันอยู่เกิดเคลื่อนไหวแตกต่างไปจากเดิม น้ำจำนวนมากไหลออกมาแต่แตกต่างจากทุกครั้งที่ผ่านมา ซึ่งเขาเองก็รู้ดีว่านี่คือการปวดเบาไม่ใช่น้ำสีขาวขุ่นเหมือนอย่างทุกที

"นี่เจ้ารู้สึกดีจนปวดเบาออกมาเลยรึ"

"แบบนี้เหมือนที่ถูกจับจองเป็นเจ้าของยังไงก็ไม่รู้"

"ท่านพี่อย่าเข้าใจผิด ฮึก!" อับอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว ร่างกายขาวพยายามขยับตัวหนีแต่การกระทำแบบนั้นเหมือนช่วยกิจกรรมที่อยู่ตรงหน้าเสียมากกว่า

"ไม่เอานะ ไม่ร้อง"

การปลอบใจถูกดำเนินไปค่อนคืนร่างกายที่อ่อนเพลียของคนรักหลับไหลไปเสียแล้ว หลานวั่งจีถอดสิ่งที่เชื่อมกันอยู่ออกแล้วทำความสะอาดร่างกายของคนรักจนหมด แม้กระทั่งการล้างภายในก็เช่นกัน เสียงครางหวานดังออกมาเป็นระลอก ช่างเป็นการช่วยที่ทรมาณเหลือเกิน

ร่างสูงเดินมาอาบน้ำเพื่อชำระร่างกายบ้าง สายตาคมเหลือบเห็นเงาของใครบางคนที่ยังนั่งแช่น้ำในยามดึกสงัดเช่นนี้

"ท่านพี่ใช่หรือไม่"

"ข้าเอง วั่งจี"

"ไม่เคยเห็นใบหน้าที่มีความสุขของเจ้ามานานมากแล้วนะ ตั้งแต่คุณชายโม่เข้ามาทุกอย่างก็ดีขึ้นจนน่าใจหาย ไม่ทราบว่าเคยเจอกันมาก่อนหรือเปล่า" ไม่มีคำตอบออกมาจากน้องชายของเขาแม้แต่คำเดียว แปลว่าเคยรู้จักกันมาก่อนแต่ไม่ยอมบอก

"ท่านพี่ลองส่งจดหมายหาประมุขตระกูลเจียงหรือยัง หลานฝูเหรินบอกข้าว่าวิธีนี้อาจจะช่วยได้"

"ดูเหมือนว่าฝูเหรินของเจ้าจะบอกข้าไปนะ ที่เขาหายไปนานเพราะนำจดหมายไปส่งให้ข้านี่ล่ะ"

"หึ! ร้ายไม่เคยเปลี่ยน" ใบหน้าคมส่ายหัวให้กับความแสบของเว่ยอิง ไม่ว่าจะกี่ปีผ่านไปนิสัยก็เหมือนเดิมสินะ ร่างเปลี่ยนแต่นิสัยไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิดเดียว

ณ ท่าเรือสัตบง

'จดหมายนี่เป็นลายมือของประมุขตระกูลหลาน ข้านำมาให้เจ้า หวั่นอิ๋น'

'เอามาให้ข้าทำไม พวกเราไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว'

'เจ้าก็รู้อยู่แก่ใจว่าท่านประมุขหลานชอบพอในตัวเจ้า ลองอ่านเสียหน่อยจะเป็นไรไป'

จะลองทำตามที่เว่ยอิงบอกสักครั้งก็แล้วกัน มือขาวเปิดจดหมายที่ถูกส่งมาด้วยตนเองจากเพื่อนรัก ดูท่าว่าจะหาเพื่อนเป็นฝูเหรินสกุลหลานด้วยกันแน่นอน เขายอมรับว่าพอหวั่นไหวกับประมุขตระกูลหลานตอนทำสงครามกับตระกูลเวินเหมือนกัน แต่ไม่เคยคิดจะสานต่อเพราะอาจจะเป็นที่ยอมรับได้ยากยิ่ง

แต่พอมาเห็นเพื่อนสนิทแต่งงานเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต ไม่มีใครในยุทธภพไม่รู้จักคู่รักหานกวงจินสุดโหดกับคุณชายโม่สุดต๊องแน่นอน นิสัยแตกต่างกันมากแต่สามารถอยู่ร่วมกันได้ถูกพูดถึงหลายต่อหลายดินแดนจนได้รับขนานนามว่าคู่รักตัวอย่างของเพศชายเลยทีเดียว

' ถึงประมุขตระกูลเจียง

                             ท่านคงจะทราบจากคุณชายโม่เสวี่ยนอวี่ว่าข้าชอบพอในตัวท่านไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการรบ สติปัญญา หรือนิสัยที่แสนดื้อรั้นนั่น ไม่ว่าจะเป็นสิ่งใดไม่มีอะไรที่ข้าไม่พึงพอใจในตัวท่าน จะดีกว่านี้ถ้าพวกเรามีเวลาคุยกันมากขึ้นเหมือนสมัยที่ยังทำสงครามกับตระกูลเวิน

                            นี่เป็นเพียงความในใจของข้า ซึ่งไม่รู้ว่าท่านคิดเช่นไร ไม่ว่าท่านจะชอบพอข้าหรือไม่ ก็อยากส่งจดหมายตอบกลับมาให้ข้ารับรู้ด้วยเถิด เจียงเฉิง

                                                                                                                      ประมุขตระกูลหลาน'

ไม่รู้ว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะถูกหรือไม่ มีแต่ต้องลองเขียนจดหมายตอบกลับไปก่อนเท่านั้น

ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!

"ท่านประมุขขอรับ มีคนมาขอพบขอรับ"

"ใครรึ มาเช้าถึงเพียงนี้"

"ลูกศิษย์ตระกูลหลาน บอกว่านำจดหมายจากประมุขตระกูลหลานมาส่งขอรับ"

"ให้เข้ามา"

"ขอรับ"

หลานฝูเหรินเพิ่งจะเดินทางกลับไปได้สองสามวันเอง ทำไมถึงส่งคนมาหาเร็วขนาดนี้ มีเรื่องด่วนอะไรหรือเปล่า ชักจะท่าไม่ดีแล้วสิ

"ข้า หลานซือจุย นำจดหมายของท่านประมุขกับหลานฝูเหรินมาส่งขอรับ" จดหมายถูกส่งมอบให้ทันทีที่เดินทางมาถึง

"ถ้าเช่นนั้นเจ้ารอสักสามชั่วยาม เพราะข้าจะฝากจดหมายส่งไปหาประมุขตระกูลหลานและหลานฝูเหรินด้วย"

จากปลายฝนต้นหนาวก็ถึงฤดูหนาวจนได้ เสื้อผ้าถูกสวมใส่มากขึ้นเพื่อคลายความเหน็บหนาวลง ถึงจะมีหิมะโปรยปรายที่ดูสวยงามแต่ความหนาวก็ไม่เคยคิดที่จะปราณีใครเช่นกัน การเดินทางของหลานซือจุยจากท่าเรือสัตบงมายังกูซูถือว่าใช้เวลาไม่น้อยเลยทีเดียว โชคยังดีที่หาซื้อเสื้อผ้ามาเพิ่มได้ทันเวลามิเช่นนั้นคงหนาวตายก่อนเป็นแน่

"จดหมายจากประมุขตระกูลเจียงส่งมาหาทั้งท่านประมุขและท่านหลานฝูเหรินขอรับ" หลานซือจุยส่งมอบให้กับทั้งสองท่านทันที เมื่อสักครู่เหมือนเขาจะเห็นสายตาที่ดูเจ้าเล่ห์ออกมาจากแววตาของทั้งคู่แต่มันเป็นเพียงแวบเดียวเท่านั้น เลยไม่มีอะไรที่จะยืนยันได้ว่าสิ่งที่เขาเห็นเป็นเรื่องจริงหรือไม่

"เจ้าทำงานได้ดีมากซือจุย ไปพักผ่อนเถิด"

"นี่ผลไม้ข้าเก็บได้จากในป่า เอาไปกินด้วยนะ ซือจุย"

"ขอรับ ขอบพระคุณขอรับท่านหลานฝูเหริน"

ครืด.....

"ทำไมหลานฝูเหรินถึงได้แสบถึงเพียงนี้ ข้าคิดว่าท่านเหมือนคนๆ หนึ่งที่ข้าเคยรู้จัก" หลานซีเฉินจงใจเค้นความจริง เพราะไม่มีทางที่คนเราจะเหมือนกันมากขนาดนี้ มันจะต้องมีอะไรบางอย่างแน่นอน

"การที่คุณชายสนิทกับประมุขตระกูลเจียง หรือว่าคุณชายหรือเว่ยอู๋เซี่ยนกันแน่" ร่างกายขาวสะดุ้งทันที เขาไม่คิดว่าประมุขตระกูลหลานจะสังเกตถึงเพียงนี้ ปกติจะอยู่แต่กับหลานจ้านจะเผลอไม่ระมัดระวังตัวไป จู่ๆ มีมือคู่หนึ่งมาโอบกอดทำให้เว่ยอิงตกใจมากกว่าเดิม

หมับ!

"ไม่ต้องกลัวนะเว่ยอิง ข้าจะปกป้องเจ้าเอง" เสียงทุ้มต่ำกระซิบใกล้ใบหูขาว ความกลัวเมื่อสักครู่หายไปจนหมดสิ้นเนื่องจากสามีได้มาช่วยเหลือแล้วนั่นเอง

"เว่ยอิงตายไปแล้วท่านพี่ ฝูเหรินของข้าไม่เหมือนเว่ยอิงเลยสักนิดเดียว"

"ข่าวลือที่ว่าเจ้าหวงภรรยามาก ดูท่าจะเป็นเรื่องจริง" เขาคิดว่าสิ่งที่เหล่าลูกศิษย์พูดเป็นเรื่องล้อเล่นเสียอีก แต่เห็นแววตาแข็งกร้าวของวั่งจีแล้วไม่เกินจริงเลยแม้แต่น้อย

"ภรรยาใครก็ย่อมหวงเป็นเรื่องธรรมดา ท่านพี่กำลังทำให้เสวี่ยนอวี่ตกใจ"

"ทั้งที่เขาก็ช่วยท่านพี่เรื่องจีบประมุขตระกูลเจียง หรือท่านกำลังระแวงอันใดกัน"

"ไม่หรอกวั่งจี ข้าคงคิดมากไปเอง"

แล้วประมุขตระกูลหลานก็เดินจากไปพร้อมเสียงหัวเราะที่ดังพอสมควร ไม่คิดว่าการถามแบบนี้จะทำให้วั่งจีมาปกป้องถึงเพียงนี้ เพราะปกติไม่เคยแสดงอารมณ์อะไรออกมาเลย คุณชายคนนี้น่าสนใจมากที่ทำให้น้องชายของเขาเป็นได้ถึงขนาดนี้ มือหนาเปิดอ่านจดหมายที่ได้รับมาทันทีด้วยความใคร่รู้

' ถึงประมุขตระกูลหลาน

                              ข้าเองก็รู้สึกดีกับท่านไม่น้อย หลานฮวาน แต่ไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้จะตรงกับท่านหรือไม่ หากท่านสะดวกใจจะมางานเทศกาลของท่าเรือสัตบงที่จะถูกจัดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ขอเชิญมาร่วมงานด้วยกัน ที่นี่มีของอร่อยมากมายที่กูซูไม่มี ข้าอยากให้ท่านได้ลองชิมดูสักครั้ง

                                                                                                                         ประมุขตระกูลเจียง'

มือหนากำจดหมายแน่นจนขาด ความรู้สึกดีใจที่เกิดขึ้นไม่สามารถบรรยายออกมาได้ทั้งหมด อีกฝ่ายไม่ปฏิเสธแบบนี้แปลว่าเขายังมีหวังใช่หรือไม่

"เชิญมาขนาดนี้แล้ว หากไม่ไปข้าคงพลาดแย่ หวั่นอิ๋น"

เลือกตอน

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!