ห่างออกไปไม่ไกลจากโรงเรียนเวทมนตร์โนวามีดันเจี้ยนเกิดขึ้นเมื่อครั้งอดีต มันได้เป็นทั้งที่ฝึกฝีมือของเหล่านักเรียนรวมถึงแหล่งหารายได้ของนักผจญภัย เทียบกับดันเจี้ยนที่ฮารุโตะไปช่วยกลุ่มนักผจญใว้ถือว่าดันเจี้ยนนี้มีขนาดเล็กกว่ามาก..
"อาจารย์ รบกวนหน่อยนะคะรับ..."
"หืม? ฮารุโตะเองหรอ.."
ก่อนลุยดันเจี้ยนฮารุโตะพาเรย์วี่มาพบกับอาจารย์ที่ปรึกษา...ชายชาตรีรูปหล่อเหลาผมสีดำเป็นประกาย..
"หืม~เด็กข้างหลังเธอคือ?."
"เรย์วี่ น้องสาวบุญธรรมที่ผมเคยเล่าให้ฟังไงครับ เรย์วี่ทักทายอาจารย์โซว์ทีสิ..."
"ยะ ยินดีที่ได้พบค่ะอาจารย์ เรย์วี่ ฟาวเลย์ ค่ะ..." น้ำเสียงของเธอตะกุกตะกักเล็กน้อยเมื่อต้องเผชิญหน้ากับอาจารย์หนุ่มที่มีหน้าตาดั่งสตรี...
"คงเหมือนเดิมสินะ.."
"ครับ รบกวนด้วยนะครับ.."
"ถ้างั้นรอซักครู่.." อาจารย์เดินออกห่างไปหยิบอะไรบางอย่างหลังจากพูดคุยกับฮารุโตะ..
"พี่ อาจารย์เขาคือ?.."
"อาจารย์โซว์เป็นครูที่ปรึกษาพี่น่ะ คอยจัดการเรื่องภายในโรงเรียนต่างๆให้.."
"เห็นเงียบๆแบบนั้นแต่ฮารุโตะก็สร้างปัญหาให้ฉันไม่น้อยเลยนะ อย่างการปกปิดข้อมูลน่ะ.."
"ฮ่าๆๆ เรื่องนั้นก็ขอโทษที่รบกวนนะครับ.." บรรยากาศการพูดคุยระหว่างทั้งสองนั้นเรียบง่ายและเป็นกันเอง ทำให้เรย์วี่ที่ยืนเกร็งอยู่แต่แรกเริ่มที่จะผ่อนคลายลง...
"เอ้า~เรียบร้อย.."
"ขอบคุณครับอาจารย์.."
"เธอนี่มีวันหยุดก็หัดใช้บ้างเถอะนะ ว่างทีไรก็เห็นลงแต่ดันเจี้ยนอย่างเดียว.."
"พอดีไม่อยากให้ฝีมือตกน่ะครับ และก็อยากจะหาเงินเก็บไว้ด้วย.."
"เรย์วี่จังก็จะไปด้วยหรอ? มันอันตรายนะ.."
"ค่ะ! เพราะฉันอยากจะเข้าร่วมเทศกาลเวทมนตร์กับพี่ เลยอยากจะฝึกเพิ่มนิดหน่อย.."
"เทศกาลเวทมนตร์หรอ? อืม~นี่เป็นความคิดเห็นของฉันนะแต่ฉันว่าปีนี้....พวกเธออย่าไปเข้าร่วมจะดีกว่า..."
ก็นั่นสินะ ปีนี้มันมีอะไรแปลกๆจริงๆนั่นล่ะ
สิ้นสุดบทสนทนาทั้งคู่จึงออกจากโรงเรียนและมุ่งหน้าไปยังดันเจี้ยนที่อยู่ห่างออกไป...
"อาจารย์โซว์ดูใจดีกับพี่มากเลยนะ แถมยังบรรยากาศที่ดูสบายๆนั่นอีก..."
"อาจารย์เป็นแบบนั้นล่ะ ช่วงปีหนึ่งฉันต้องรบกวนเขาแทบทุกวัน เกรงใจแบบสุดๆเลย รวมถึงเรื่องดันเจี้ยนด้วยอาจารย์ก็เป็นคนเซ็นอนุมัติให้.."
"ว่าแต่เครื่องเอกสาร ใบที่พี่ถืออยู่มันคืออะไรหรอ?.." เรย์วี่ถามขึ้นขณะมองไปบังเอกสารที่ฮารุโตะกำลังถืออยู่ในมือ..
"มันคือคำขออนุญาตจากอาจารย์ผู้ดูแลน่ะ นักเรียนจะลงดันเจี้ยนได้ก็ต่อเมื่อได้รับอนุญาตจากอาจารย์แล้วเท่านั้น ถ้าไม่มีเจ้านี่ก็ลงไม่ได้นะ "
"เห~ดูยุ่งยากจัง.."
1 ชั่วโมงต่อมา ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงตำแหน่งที่ตั้งของดันเจี้ยนภายในป่า รอบๆนั้นมีนักผจญภัยมากมายที่กิลด์ส่งมาเพื่อดูแลความเรียบร้อย ฮารุโตะนำใบอนุญาตให้กับคนเฝ้าประตูเพื่อตรวจสอบ...
"ยืนยันเรียบร้อย สัมภาระที่เธอฝากใว้อยู่ที่ล็อค37นะ..." หญิงสาวจากกิลด์นักผจญภัยตรวจสอบเอกสารอย่างถี่ถ้วนก่อนจะอนุมัติอย่างง่ายดาย...เธอคือคนที่เผ้าทางเข้าของที่นี่และเจอฮารุโตะอยู่บ่อยครั้ง..
"ขอบคุณมากครับคุณเบลลา พักนี้ไม่มีข่าวอะไรแปลกๆในดันเจี้ยนใช่ไหมครับ?."
"ก็~ยังปกติดีอยู่นะ ถึงพักนี้จะได้ยินมาว่าดันเจี้ยนอื่นจะเกิดสแตมปีชขึ้นแต่ฉันรับรองเลยว่าที่นี่ไม่มีแน่นอน.."
"ถ้าแบบนั้นผมก็เบาใจหน่อย ถ้างั้นขอตัวก่อนนะครับ.."
"เดี๋ยวก่อน.." เธอเรียกฮารุโตะให้หยุดก่อนจะชำเรืองมองเด็กสาวที่เดินตามหลังเขา..
"เด็กสาวน่ารักคนนี้คือใครน่ะ มีแฟนเด็กหรอ?."
"เอ๊ะ!?.."
"ชะ ใช่ที่ไหนกันเล่า!!..." คำพูดได้เอ่ยขึ้นอย่างอัตโนมัติขัดกับความคิดของหญิงสาว...
"หืม? แล้วสรุปคือ?.."
"ขอโทษที่แนะนำตัวช้าค่ะ เรย์วี่ ฟาวเลย์ เป็นน้องสาวค่ะ..."
"หืม~ฮ่าๆๆๆ อย่างงั้นเองหรอๆ ขอโทษนะ พอดีไม่เคยเห็นฮารุโตะมากับผู้หญิงเลยเผลอคิดไปหน่อย แหม~คุณน้องสาวนี่น่ารักจังเลยน้า~ถ้าฉันมีบ้างคงนอนกอดทั้งคืนแน่ๆ..."
"ขอบคุณที่ ชมค่ะ.." เรย์วี่เมื่อได้รับคำชมก็เกิดอาการเขินเล็กน้อย แต่ก็ยังคงยืนข้างฮารุโตะอย่างเงียบๆ ฮารุโตะที่เห็นแบบนั้นก็อดที่จะยิ้มไม่ได้
"คุณเบลลานี่พูดหยอกเก่งจังเลยนะครับ.." ฮารุโตะพูดพร้อมกับทำสรหน้าหนักใจ...
"ก็จริงนี่นา เรย์วี่น่ารักขนาดนี้ใครจะไม่อยากมีน้องสาวแบบนี้บ้างล่ะ" เบลลาตอบกลับพร้อมกับทำท่าทีอิจฉาเล่นๆ เรย์วี่ที่ได้ยินดังนั้นก็ยิ่งหน้าแดงขึ้นไปอีก
"เอ่อ... ขอบคุณค่ะ" เรย์วี่ตอบรับอย่างเขินอายอีกครั้ง
"เอาล่ะๆ ไม่รบกวนเวลาของสองพี่น้องแล้ว ไปเถอะ" เบลลาโบกมือลา พร้อมกับส่งยิ้มให้ทั้งสองคน..
ภายในดันเจี้ยน...หลังจากที่เตรียมอุปกรณ์เสร็จทั้งสองจึงมุ่งหน้าลงสู่ชั้นลึกทันที...
"พี่ใช้ดาบจริงๆด้วย!?.." ดาบสุดบางเบาแถมมีความยาวที่พอๆกับตัวของฮารุโตะ...
"จำไม่ได้หรอ ดาบเล่มนี้น่ะ..." เขาพูดขึ้นก่อนจะดาบนั้นมาให้เรย์วี่ดูใกล้ๆ...
"อักษรนี้~ของท่านพ่อไม่ใช่หรอ!?.." เมื่อแกะลายลักษณ์อักษรจากสันดาบได้เรย์วี่จึงรู้ได้ทันที..
"อืม ครูฝึกเป็นคนให้น่ะเป็นของขวัญก่อนเข้าโรงเรียน เพราะฉันใช้ธาตุต่างๆของเวทมนตร์ไม่ได้ล่ะนะ เลยต้องหันมาพึ่งดาบแทน ฮ่าๆๆ.."
"แล้วทำไมพี่ถึงไม่ไปเข้าโรงเรียนอัศวินล่ะ? ที่นั้นมีการสอนใช้ดาบด้วยนะ? น่าจะเหมาะกับพี่มากกว่าโรงเรียนเวทมนตร์ไม่ใช่หรอ?.." เด็กสาวเมื่อรู้สึกสงใสเธอก็กล่าวถามออกมาทันทีโดยไม่คำนึงถึงความรู้สึกใดๆของอีกฝ่าย..
ฮารุโตะนิ่งไปชั่วขณะเมื่อได้ยินคำถามของเรย์วี่ ดวงตาของเขาแฝงไปด้วยความรู้สึกบางอย่างที่ยากจะอธิบาย ก่อนที่เขาจะหัวเราะเบาๆ และยกดาบขึ้นดูด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความทรงจำ
"ก็จริงนะ ถ้าพูดถึงการต่อสู้ด้วยดาบ โรงเรียนอัศวินน่าจะเหมาะกับฉันมากกว่า... แต่ในตอนนั้น ฉันมีเหตุผลบางอย่างที่ทำให้เลือกโรงเรียนเวทมนตร์แทน" ฮารุโตะพูดเสียงเบา แต่หนักแน่น
เรย์วี่ขมวดคิ้ว “เหตุผล? เหตุผลอะไรล่ะ? พี่ไม่ได้ใช้เวทมนตร์เลยนี่”
ฮารุโตะถอนหายใจเบาๆ “ใช่ ฉันใช้เวทมนตร์แบบคนอื่นไม่ได้ แต่สิ่งที่ฉันต้องการตอนนั้น ไม่ใช่การเรียนรู้วิธีใช้ดาบ... มันเป็นอะไรบางอย่างที่ลึกซึ้งกว่านั้น โรงเรียนเวทมนตร์สอนให้ฉันรู้จักการใช้ปัญญาและความเข้าใจ... และมันยังเป็นสถานที่ที่มีคำตอบสำหรับบางอย่างที่ฉันตามหาอยู่”
เรย์วี่จ้องมองฮารุโตะ รู้สึกได้ถึงความเศร้าแปลกๆ ที่แฝงอยู่ในคำพูดของเขา “พี่ตามหาอะไรอยู่กันแน่...?”
“บางทีวันหนึ่งฉันอาจจะบอกเธอได้...แต่ตอนนี้ มันไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม” ฮารุโตะยิ้มอ่อนๆ แล้วจึงหันกลับไปมองดาบในมือของเขาอีกครั้ง “ดาบเล่มนี้เป็นเครื่องเตือนใจถึงเส้นทางที่ฉันเลือก... เส้นทางที่ยากลำบากและเต็มไปด้วยความท้าทาย แต่มันก็ทำให้ฉันแข็งแกร่งขึ้น”
เรย์วี่เงียบไปชั่วขณะ ก่อนจะยิ้มบางๆ “ถ้าอย่างนั้นหนูจะไม่ถามพี่ต่อแล้วล่ะ แต่พี่ต้องสัญญานะ ว่าจะบอกหนูเมื่อถึงเวลา”
ฮารุโตะหัวเราะเบาๆ “สัญญาสิ เมื่อถึงเวลาฉันจะเล่าให้เธอฟังแน่นอน”
ทั้งสองคนยิ้มให้กันอย่างเข้าใจ จากนั้นก็หันหน้าเดินเข้าสู่ส่วนลึกของดันเจี้ยน เสียงฝีเท้าของพวกเขาก้องสะท้อนไปทั่วทางเดินหินที่มืดมิด...
เมื่อพวกเขาเดินลึกเข้าไปในดันเจี้ยน ความมืดเริ่มเข้าปกคลุมรอบตัว แต่ด้วยแสงจากคริสตัลเวทมนตร์ที่เรย์วี่ถือไว้ ทุกสิ่งรอบข้างยังคงมองเห็นได้อย่างชัดเจน แสงสีฟ้าจางๆ จากคริสตัลสะท้อนกับผนังหินเก่าแก่เผยให้เห็นรายละเอียดที่ชวนให้ขนลุก รอยแตกและลวดลายโบราณประดับอยู่ตามผนัง เหมือนว่าที่นี่เคยเป็นสถานที่สำคัญมาก่อนที่จะกลายเป็นดันเจี้ยนที่ถูกลืมเลือนไป
“พี่ว่า...มันเงียบเกินไปมั้ย?” เรย์วี่ถามพลางมองไปรอบๆ เสียงฝีเท้าของเธอสะท้อนกลับมาเบาๆ
ฮารุโตะพยักหน้า “ใช่ ปกติดันเจี้ยนชั้นนี้น่าจะมีมอนสเตอร์หรือกับดักอยู่บ้าง... แต่ดูเหมือนทุกอย่างเงียบสงัดผิดปกติ”
เรย์วี่รู้สึกถึงความหนาวเย็นที่ไหลผ่านตัวเธอ แต่เธอพยายามไม่แสดงความกลัวออกมา เธอรู้ว่าฮารุโตะจะปกป้องเธอ แต่ความเงียบสงัดนี้ทำให้เธอระแวง
ทันใดนั้น พื้นใต้เท้าของเรย์วี่ก็สั่นไหวอย่างกะทันหัน!
“ระวัง!” ฮารุโตะตะโกนพร้อมกับดึงเรย์วี่เข้ามาใกล้เขา ทันใดนั้นพื้นหินตรงหน้าพวกเขาก็ถล่มลง เผยให้เห็นหลุมลึกเบื้องล่าง
“เกือบไปแล้ว...” เรย์วี่พูดหอบเบาๆ ขณะที่มองดูหลุมลึกที่เพิ่งเปิดเผยออกมา
“ดันเจี้ยนนี้มีแต่ความไม่แน่นอน อย่าประมาทเชียว” ฮารุโตะเตือนพลางใช้ดาบเคาะที่พื้นเบาๆ ตรวจสอบเสถียรภาพของมัน
พวกเขาเดินต่อไปอย่างระมัดระวัง หลีกเลี่ยงกับดักและช่องว่างที่เกิดขึ้นเป็นครั้งคราว เสียงของพวกเขาค่อยๆ เงียบลงเมื่อเข้าใกล้ส่วนที่ลึกยิ่งขึ้น แสงจากคริสตัลในมือเรย์วี่เริ่มส่องสว่างน้อยลง บ่งบอกว่าพวกเขากำลังเข้าใกล้จุดที่มืดมิดที่สุดของดันเจี้ยน
ทันใดนั้น พวกเขาได้ยินเสียงบางอย่าง—เสียงที่ไม่คุ้นเคยและน่าหวาดกลัว มันดังมาจากด้านหน้าของพวกเขา เสียงครืดคราดเหมือนสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่กำลังเคลื่อนไหวในเงามืด
"พี่...เสียงนั่น..." เรย์วี่พูดเสียงสั่นเบาๆ
"ฉันรู้ เราต้องระวังให้มากกว่านี้" ฮารุโตะพูดพลางกุมดาบแน่น เขาก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับเตรียมพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับอะไรก็ตามที่อยู่ในเงามืด
แสงจากคริสตัลของเรย์วี่เผยให้เห็นเงาร่างสูงใหญ่ที่ค่อยๆ เคลื่อนตัวออกมาจากความมืด มันเป็นมอนสเตอร์ขนาดมหึมา ร่างกายเต็มไปด้วยเกล็ดแข็งหนา ตาของมันเปล่งประกายสีแดงสด
"เจ้านี่มัน...มอนสเตอร์ระดับสูง" ฮารุโตะตะโกน ขณะที่มอนสเตอร์คำรามเสียงดังก้อง
มอนสเตอร์ร่างยักษ์คำรามเสียงดังราวกับจะทำให้ดันเจี้ยนสั่นสะเทือน ผนังหินรอบข้างสะท้อนเสียงจนทำให้ทุกอย่างดูยิ่งใหญ่และน่ากลัวมากขึ้น ร่างของมันปกคลุมด้วยเกล็ดหนาและแข็งราวกับเหล็ก ตาสีแดงเพลิงจ้องมองมาที่พวกเขาด้วยความเกรี้ยวกราด
"มอนสเตอร์ระดับนี้...อยู่ในดันเจี้ยนเล็กๆนี้เนี่ยนะ!?!" เรย์วี่พูดเสียงสั่นเล็กน้อย แต่พยายามตั้งสติ
“ใจเย็นไว้ เรย์วี่ เราจัดการมันได้” ฮารุโตะปลอบพลางกุมดาบในมือแน่น
มอนสเตอร์พุ่งเข้ามาหาพวกเขาอย่างรวดเร็ว! มันส่งเสียงคำรามและเหวี่ยงกรงเล็บอันใหญ่โตของมันมาทางฮารุโตะ
"ถอยออกไป!" ฮารุโตะตะโกน ขณะที่เขากระโดดหลบไปด้านข้างในพริบตา กรงเล็บของมอนสเตอร์ฟาดลงมาบนพื้นหินจนแตกเป็นเสี่ยงๆ พื้นสะเทือนจนเรย์วี่ต้องเสียหลักเล็กน้อย
ฮารุโตะใช้จังหวะนั้น พุ่งเข้าไปฟาดดาบเข้าใส่มอนสเตอร์ ทว่าดาบของเขากระทบกับเกล็ดของมันแล้วกระเด้งออกมาโดยไม่สามารถทำอันตรายอะไรได้เลย
“เกล็ดมันแข็งเกินไป!” ฮารุโตะกัดฟันพูด เขาต้องหาจุดอ่อนของมันให้เจอ
เรย์วี่ที่ยืนอยู่ด้านหลัง เริ่มตั้งสมาธิและร่ายเวทมนตร์ “พี่! ถ่วงเวลามันไว้ก่อน หนูจะใช้เวทมนตร์ช่วย!”
ฮารุโตะพยักหน้าและพยายามดึงความสนใจของมอนสเตอร์ไว้ เขาหลบการโจมตีอย่างรวดเร็วและแม่นยำ แต่ละการเคลื่อนไหวของเขานั้นมั่นคงและเต็มไปด้วยประสบการณ์
ในขณะเดียวกัน เรย์วี่ก็เร่งร่ายเวทมนตร์ แสงสีฟ้าจากคริสตัลเริ่มสว่างวาบขึ้นในมือของเธอ พลังเวทมนตร์เริ่มสะสมอยู่รอบตัวเธอ จนเกิดเป็นประกายแสงที่ลอยล่องในอากาศ
"วิช..."
- เมี้ยว~
เรย์วี่เรียกภูติของตนออกมาเพื่อจะเตรียมร่ายเวทย์โจมตี...
“เหมันต์แห่งธารา! จงกลายเป็นหอกทะลวง!” เรย์วี่ตะโกนและปลดปล่อยเวทมนตร์ที่เธอร่ายออกมา หอกน้ำแข็งพุ่งตรงไปที่จุดอ่อนใต้ท้องของมอนสเตอร์ ซึ่งเป็นจุดที่เกล็ดของมันบางที่สุด
"พี่! ฉันเจอจุดอ่อนมันแล้ว!" เรย์วี่ตะโกนบอกฮารุโตะ ขณะที่หอกน้ำแข็งของเธอพุ่งทะลวงเข้าท้องของมอนสเตอร์ มันคำรามด้วยความเจ็บปวด พยายามถอยหลัง แต่ฮารุโตะไม่ปล่อยโอกาสนี้ให้หลุดไป
“ดีมาก เรย์วี่! ฉันจะจบมันเดี๋ยวนี้!” ฮารุโตะพูดพลางพุ่งตัวเข้าไปพร้อมกับดาบในมือ เขากระโดดขึ้นสูงเหนือร่างของมอนสเตอร์ และฟาดดาบลงไปที่จุดเดิมใต้ท้องที่เรย์วี่ทำให้มันอ่อนแอ
เสียงดาบของฮารุโตะตัดผ่านเกล็ดและเนื้อของมอนสเตอร์อย่างรวดเร็ว เลือดสีดำกระเซ็นออกมา มอนสเตอร์ร้องคำรามครั้งสุดท้ายก่อนจะล้มลงกับพื้นอย่างรุนแรง เสียงกระแทกดังก้องไปทั่วดันเจี้ยน
เรย์วี่ถอนหายใจอย่างโล่งอก ขณะที่ฮารุโตะยืนหอบเหนื่อยอยู่ข้างร่างของมอนสเตอร์ที่สิ้นชีวิตไป
“สะ สุดยอดมาก! เราทำได้แล้ว!” เรย์วี่พูดด้วยความดีใจ
“ใช่... แต่พวกเราต้องระวังมากกว่านี้ ชั้นลึกของดันเจี้ยนนี้อันตรายกว่าที่คิด” ฮารุโตะพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ขณะที่เขามองไปยังความมืดข้างหน้า
การต่อสู้ครั้งนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของความท้าทายที่รออยู่ในส่วนลึกของดันเจี้ยน...
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 38
Comments