เช้าอันสดใสอยู่ในช่วงดอกเดซี่กำลังผลิบาน เวลาผ่านไป 2 เดือนเร็วเหมือนโกหก ถึงเวลาที่ฉันจะได้ไปวัดพลังแต่ฉันเลือกที่จะทำความสะอาดบ้านซักผ้าเหมือนเดิม
ถึงฉันจะไปวัดพลังก็ไม่มีความหมายเพราะฉันยังไงก็ไม่ได้เรียนหนังสืออยู่ดีเพราะคีเนียนาบอกว่ามันไม่จำเป็นสำหรับฉันเพราะว่าชีวิตของฉันต้องทำงานบ้านอยู่ที่บ้านเท่านั้นฉันละสงสัยจริงๆว่าถ้าวันหนึ่งฉันไม่อยู่ บ้านจะอยู่ในสภาพไหน
วันนี้อากาศสดใสฉันจึงคิดว่าจะไปเก็บเห็ดในป่าฉันถือตะกร้าใส่และใส่เสื้อคุมในเสื้อคุมนั้นฉันใส่กางเกงขาสั้นเพื่อจะได้สะดวกในการเคลื่อนที่และใส่เสื้อสายเดียว. จริงๆเวลาเข้าป่าไม่ควรใส่ชุดแบบนี้เลยเพราะมียุ่งและแมลง แต่เพราะฉันใช้สมุนไพรกันยุ่งและแมลงที่หาได้ตามป่ามาทาที่ตัว. เสื้อผ้าฉันมีไม่กี่ตัวเองส่วนใหญ่จะเป็นเสื้อผ้าของแม่ฉัน.
ฉันจะเอาชุดของแม่มาตัดเย็บให้เข้ารูป เวลาเข้าป่าฉันจะไม่ใส่รองเท้าเพราะไม่มี ฉันเริ่มเดินเข้าป่าและกระโดดขึ้นต้นไม้ และเริ่มกระโดดข้ามต้นไม้ไปมาเหมือนลิงต่างกันที่ฉันนั้นไม่ใช้มือแต่ใช้เท้าเพื่อเคลื่อนที่ไปมาฉันเริ่มเข้าไปในป่าลึกกว่าเดิมและลึกกว่าเดิมฉันเริ่มได้ยินเสียงแปลๆ
เป็นเสียงปีศาจร้องด้วยความโกรธ ก่อนที่ฉันจะเข้าป่าฉันได้เดินไปดูที่กลางเมืองมันจะรวมข้อมูลข่าวสารต่างๆเอาไวรวมถึงการปรากฏตัวของปีศาจฉันตรวจสอบและแน่ใจและว่าจะไม่มีปีศาจอยู่ในป่าแห่งนี้ในตอนที่ฉันนั้นกำลังจะรีบกับบ้านเพื่อควาปลอดภัยของฉัน อยู่ดีก็ได้ยินเสียงเด็กผู้ชายคนหนึ่งร้องของความช่วยเหลือฉันจึงรีบไปที่เกิดเหตุทันทีฉันเห็นผู้ชายร่ายใหญ่รายคนนอนสลบอยู่รอบข้างเด็กผู้ชายที่ดูทรงจะอายุเยอะกว่าฉัน ปีศาจตัวนั้นคือเจ้าชายแห่งป่าเป็นปีศาจที่จะอยู่ในต้นไม้ขนาดใหญ่โต
และจะมีรูปทรงแปลๆที่คนเข้าป่าจะรู้ดีถ้าอยู่ในชวนฤดูผสมพันธุ์ของเจ้าชายแห่งป่า. มันจะเริ่มเคลื่อนที่ไปตามป่าเพื่อหาเจ้าหญิงแห่งป่าและผสมพันธุ์แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาของมันแล้วพวกมันมาจากไหนกัน ดูทรงมันคงจะหมายตาเด็กคนนั้นสินะ อีกอย่างคือปกติการที่จะเจอมันถึงว่ามีโอกาสน้อยมากเพราะปกติมันจะปรากฏตัวในป่าส่วนที่ลึกมากๆแต่ตรงที่เราอยู่ตรงนี้มันไม่ได้ลึงมากพอที่จะเจอมัน. เด็กคนนั้นมีแผลที่หลังใหญ่มากๆฉันเห็นก็เจ็บแทนเห็นแล้วก็สงสาร เด็กคนนั้นเอาแต่เรียกหาแม่ของเขาอยู่ ตลอดคนที่คิดจะเข้าไปช่วยดูทรงน่าจะถูกหมายหัวไปด้วย แต่ตัวฉันก็มาปรากฏอยู่ต่อหน้าเจ้าชายแห่งป่าได้ไงก็ไม่รู้ มันเริ่มคำรามออกแต่ฉันกลับไม่รู้กลัวแม้แต่น้อยเพราะเหตุการณ์แบบเกิดขึ้นกับฉันบ่อยมาก บ้างที่ก็รู้สึกสู้ไม่ไหวจึงเลือกที่จะแอบแทนฉันต้องทนเห็นฉากน่ากลัวกว่านี้เป็นพันเท่าเพื่อที่จะรอดชีวิต
มันเริ่มใช้แขนของมันตีมาที่ฉัน ฉันลบได้และยิบมีดในกระเป๋าที่ขาของฉันออกมาเพื่อฟันไปที่มันมีดฉันเล็กจนแทงไม่เข้าเลย จุดอ่อนของมันจะอยู่จุดที่สูงที่สุดของมัน มันมักจะจมตีในขนาดที่เรากำลังคิดที่จะปีนมัน. มันจึงเป็นการยากที่จะปีนขึ้นไป เพื่อฆ่ามันเพราะมันมีขนาดตัวใหญ่ฉันเริ่มพยายามปีนขึ้นไปที่หัวมันฉันตีลังกา หลบแขนอันใหญ่ของมันฉันจับกิ่งไม้เล็กๆของมันเพื่อปีนขึ้น ฉันใช้เวลาในการสู้กับมันเป็น ช.ม เพื่อที่จะฆ่ามันให้ได้และสุดท้ายฉันใช้พลังครั้งสุดท้ายเพื่อกระโดดขึ้นไปหักกิ่งไม้เล็กๆบนหัวมันจนสำเร็จและดูเหมือนจะโดดมันฟันที่หน้าอกจนเป็นแผลมันเลือดออกมา . ฉันเดินไปที่เด็กคนนั้นเเละถามว่าเป็นอะไรหรือเปล่า เด็กผู้ชายผมดำสนิทมองมาที่ฉันด้วยดวงตาสีแดงและร้องไห้ ฉันไม่รู้จะทำยังจึงได้แต่ถามชื่อของเด็กคนนั้นไว้ เด็กคนนั้นพูดขึ้น"ชื่อนิโคน. เบญจามิลเลียม"เขาพูดด้วยความสะอึกสะอื้น น้ำมูกของเขาเริ่มไหลออกมา ฉันได้แต่ยิ้มมุมปาก "โอเคไม่เป็นไรแล้วนะใจเย็นๆ"ฉันเดินไปปลุกพวกคนตัวใหญ่ๆที่มากับเขา หลักจากฉันปลุกเสร็จก็ได้จากไปแบบไม่ได้ลา.
ฉันกระโดดข้ามต้นไม้ไปมาจนไปถึงที่เห็ดขึ้นข้างๆที่เห็ดขึ้นมีสระน้ำเล็กๆฉันจึงไปล้างแผลและเอาสมุนไพรที่เก็บไว้กับตัวเอามาใส่แผลเพื่อ ลดอาการเจ็บ ฉันทำแผลจนเสร็จและฉันก็ได้เก็บเห็ดกับบ้านและนำไปทำอาหารเย็นนี้. บ้างที่ฉันก็คิดนะถ้าฉันไปโรงเรียนมันจะวิเศษแค่ไหนฉันเองก็อยากมีเพื่อนๆเหมือนคนอื่นๆ ฉันอาจจะได้เล่นกับเพื่อนผู้หญิงแบบเด็กทั่วไปเล่ย ตุ๊กตา ทำอาหารเล่น มันคงจะมีความสุขมาก
ชีวิตฉันบ้างที่ก็วุ่นวายจนลืมอะไรไปบ้างอย่างฉันลืมตอนที่ฉันนั้นเจอกวางสีขาวตัวนั้นและลืมไปว่าตอนนั้นฉันบินได้ด้วย ฉันเริ่มสงสัยฉันเดินเข้าไปป่าอีกครั้ง ฉันปีนต้นไม้และยืนบนกิ่งไม้และค่อยๆกระโดดลงมาสรุปฉันก็ตกลงมาจากต้นไม้เหมือนเดิม. ฉันเริ่มทำ หลายๆรอบแต่ผลลัพธ์ก็ออกมาเป็นเหมือนเดิมฉันตกลงมาจากต้นไม้จนมีแผลที่ขา แต่ตอนนี้ดูเหมือนพระอาทิตย์จะตกดินแล้วฉันจึงรีบกลับบ้านวันต่อมาฉันก็ทำเหมือนปีนต้นไม้และกระโดดลงมาบ้างคนมองดู ดูเหมือนฉันเป็นคนบ้าตัวจริงและ แต่ฉันไม่คิดอย่างนั้น ฉันยังทำเเบบนี้เหมือนเดิมทำไปเรื่อยๆ จนขาฉันมีแต่แผลเต็มไปหมด. แต่ไม่ใช่ปัญหาสำหรับฉันเพราะจะมีสัตว์น้อยใหญ่มาดูแลแผลของฉันให้เสมอที่นี้ก็เข้าทางฉันเลย ฉันทำแบบนี้ไปหลายอาทิตย์เลยแต่ก็ไม่มีท่าทีจะบินได้เลย อยู่ดีๆก็มีเสียงผู้ชายมีอายุพูดขึ้น " เธอจะฝึกแบบนี้ไปถึงเมื่อไร" เขาเดินออกมาผู้ชายคนนั้นมีผมสีแดงตาสีมวงใส่เสื้อคุมตัวใหญ่ๆๆออกมาจากพุ่งไม้ ฉันเริ่มเดินถอยหลังช้าๆที่ละก้าว ฉันพูดขึ้น "คุณเป็นใคร" ชายคนนั้นหัวเราะและพูดขึ้น "ชาร์ล็อตเจ้ามีพรสวรรค์นะแต่แค่เจ้าอยู่ผิดที่" ฉันพูด "หมายความว่าไงคุณต้องการอะไร" ชายคนนั้นพูดขึ้นด้วยความมั้นใจ "เจ้าหนูน้อยเจ้ามาเป็นลูกศิษย์ฉันเถอะ" ฉันงงและพูดขึ้นด้วยความงง " หมายความว่าไงฉันไม่เข้าใจ "เขาพูดขึ้น"เชื่อฉันเถอะเธอยังไม่เก่งพอและยังไม่พร้อมจะออกไปเจอโลกข้างนอก" ฉันถามเขา "แล้วคุณรู้จักชื่อฉันได้ยังไง" เขาพูด "เชื่อฉันเถอะมันอาจฟังดูแปลสำคนเพิ่งเคยเจอกันแต่การที่ฉันไม่บอกเธอมันเป็นผลดีกับตัวเธอมากกว่า"
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments