ตีสามสี่สิบห้า กับบทสนทนาแนะนำตัวระหว่างพวกเขาสองคน
ไม่รู้จะไปทางไหนต่อดีเลยแฮะ
เท็นพยายามตบทีวีให้สัญญาณกลับเข้าที่เข้าทาง ลืมพวกโทรทัศน์สัญญาณเคเบิลซังกะบ๊วยพวกนั้นไปได้เลย ที่พึ่งได้ตอนนี้ก็มีแค่เจ้าหนวดกุ้งแค่นั้นแหละ
'ทางการขอประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในแถบภาคกลางของไต้หวัน ทางเราขอให้ประชาชนอยู่ในความสงบ นับจากเวลานี้เป็นต้นไป รถไฟธรรมดาและความเร็วสูง จะหยุดให้ใช้บริการตั้งแต่เขตไทจงจนถึงเกาสง ขอความร่วมมือประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางในระหว่างนี้ ส่วนจังหวัดอื่นยังอยู่ในพื้นที่สีเขียว ไม่เป็นอันตราย' ว่าแล้วผู้ประกาศข่าวสาวถึงได้เปิดโฮโลแกรมขึ้นมา ข้างในมีลักษณะแผนที่ของประเทศไต้หวัน พร้อมกับจุดมาร์คโซนสีอันตรายแต่ละจังหวัด
เยี่ยมจริงๆที่จังหวัดตัวเองเป็นสีแดงเถือก ในขณะที่จังหวัดตรงข้ามประปรายไปด้วยสีส้มบ้าง จะมีเพียงแค่เมืองหลวงภาคเหนือของไต้หวัน ไทเปจนถึงแถบเถาหยวนที่เป็นสีเขียวปกติ
'สิ่งที่ต้องระวังในช่วงนี้ ห้ามสัมผัสกับฝนเพื่อป้องกันกัมมันตรังสีจากโรงงาน อย่าสัมผัสกับผู้ป่วยติดเชื้อเพื่อป้องกันตัวเองไม่ให้ติดเชื้อด้วย ภายใน24ชั่วโมงจะมีเจ้าหน้าที่เข้าไปรับผู้รอดชีวิต โปรดฟังสัญญาณเตือนภัยฉุกเฉิน จุดอพยพหลักจะอยู่ไทจงสเตชั่น ย้ำอีกครั้ง จุดอพยพหลักอยู่ที่ไทจงสเตชั่น'
หลังจากนั้นสัญญาณถึงได้ตัดไป กอปรอกับเสียงหม้อแปลงระเบิดที่ดังขึ้นจากบ้านตรงข้าม
เยี่ยมจริงๆ
"เอาไงดีต่อละคุณ" แดเรียลก็ยังคงเป็นแดเรียล ถึงจะอยู่ในวันสิ้นโลกแต่เจ้าตัวก็ยังถือคติต้องดูดีตลอดเวลาสินะ แล้วขอเถอะ ไอ้การหั่นสเต๊กพร้อมกับทำหน้าเบื่อโลกแบบนั้นอะ ดูสถานการณ์ข้างนอกหน่อยเถอะนะ
"ไม่รู้สิ" ได้แต่ถอนหายใจพร้อมกับเดินสำรวจแต่ละห้องของบ้านหลังนี้ เปิดหน้าต่างออกไปดูถึงได้พบว่าฝนเริ่มตั้งเค้าอีกแล้ว
ก็คงต้องอยู่ที่นี่ก่อนแล้วล่ะ
"อันที่จริง" ได้ยินเสียงวางมีดและส้อมพร้อมกับกระแอมไอ เรียกให้เท็นหันกลับมามองอีกคนพร้อมขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
"ผมกำลังจะฆ่าตัวตาย"
ยังไงนะ
เด็กหนุ่มติดสตั๊นไปหนึ่งครั้งพร้อมกับเอียงหัวใช้ความคิด พ่อดาราทำเงินแห่งปีคนนี้น่ะนะ คิดจะฆ่าตัวตาย
"ใช่ ผมกำลังจะทำแบบนั้นล่ะ" ว่าแล้วผู้ใหญ่ตรงหน้าถึงได้อดยกยิ้มด้วยความเอ็นดูเสียไม่ได้เมื่อเห็นใบหน้าที่แสนจะตื่นตระหนกของเด็กน้อย
"ชีวิตในแสงไฟก็ไม่ได้มีความสุขทุกคนล่ะนะ อย่างน้อยก็ใช้ไม่ได้กับฉันที่ไม่มีครอบครัว ถูกผู้จัดการปั่นหัวสูบเงินไปจนหมด จนตอนนี้เหลือแค่เสื้อเบสบอลกับรองเท้าโง่ๆคู่หนึ่งอะ" ว่าแล้วก็ชี้นิ้วเข้าหาตัวเองพร้อมกับหัวเราะเบาๆ
โลกแม่งก็โหดร้ายแบบนี้แหละ
"อ่า แย่จังนะครับ" เท็นทำได้แค่อึกอักตอบอีกฝ่ายไปตามเรื่องราว จะว่าไปชื่อเสียงของแดเรียลค่อนข้างจะไม่ดีมาในช่วงหลังๆนี้นานแล้ว ตั้งแต่ทำผู้หญิงท้อง ติดหนี้การพนันเถื่อนจนโดนซ้อม แต่ละข่าวที่นำเสนอในช่วงหลังมานี้ก็ชวนปิดช่องทิ้งจริงๆแฮะ
แต่ก็นะ ถ้าจะปล่อยให้คนๆนี้เดินไปให้ซอมบี้กินด้านนอกคงไม่โอเคเท่าไหร่ เขายังมีคุณธรรมต่อเพื่อนมนุษย์อยู่นะ (แถมอยู่กันสองคนก็ต้องย่อมดีกว่าหนึ่งอยู่แล้วนี่)
ดังนั้นเท็นจึงแกล้งทำเป็นว่าลืมเรื่องที่แดเรียลเล่าไปก่อนหน้า
"ผมคิดว่าเราต้องนอนที่นี่หนึ่งคืนนะ ดูท่าทีแล้วฝนคงกำลังจะตกอีกครั้งน่ะ" เด็กชายเปิดม่านพร้อมกับชี้ไปข้างนอก ให้คนข้างตัวพยักหน้าหนึ่งที เท็นแอบเหล่สายตาเล็กน้อยเมื่อเห็นแดเรียลเปิดโทรศัพท์พร้อมกับหาสัญญาณโดยการชูมือโบกไปมาทั่วห้อง
"ไม่ได้แฮะ" ก็เอาเถอะ ไม่ได้คาดหวังอยู่แล้วล่ะนะ ตอนนี้โทรศัพท์ก็เป็นได้แค่เอ็มพีสามเคลื่อนที่เท่านั้นแหละ
"เอาจริงไอ้เรื่องข่าวพวกนี้มันก็มีนานแล้วล่ะ รัฐบาลประกาศซ่อมแซมโรงงานเคมีอะไรเทือกๆนั้น จริงๆก่อนหน้านี้ก็มีข่าวพนักงานคลุ้มคลั่งไล่อาละวาดกินคนงานไปทั่ว แต่สุดท้ายจบที่ข่าวเดทดาราเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจพร้อมกับการออกมาปฏิเสธว่าพนักงานคนนั้นแค่นอนน้อย" คนตรงหน้าได้แต่แค่นหัวเราะออกมาพร้อมกับหันไปมองคนข้างตัวที่ในเวลานี้จ้องเขาตาใสแป๋วด้วยความกระตือรือร้น
“อ้อ ...อีกอย่างนะ เจ้าพวกข้างนอกนั่นค่อนข้างจะไวต่อเสียงและกลิ่น เป็นไปได้อย่านั่งพิงกระจกมากล่ะ ระวังข้างหลังด้วย ”
“คุณรู้? ”
“ก็นะ เจอกับตัวเองนี่นา”
“ยังไงครับ? ”
“ไอ้เชื้อนั่นน่ะไม่มีใครรู้ที่มาแน่ชัดหรอก แต่ทว่าฉันน่ะมาพร้อมกับผู้คนที่เริ่มอพยพมาจากเขตพื้นที่ติดเชื้อ ฉันก็หนีมาเรื่อยๆ นี่ รู้ใช่ไหมว่าเขานัดรวมพลหลักกันที่ไทจงสเตชั่น” เท็นพยักหน้าตอบกลับไปเบาๆ
"อ่า .. นั่นแหละ อีกสักพักมันจะกลายเป็นแหล่งอาหารชั้นดีของเจ้าพวกนั้นเลยล่ะ การควบคุมประชากรที่เหลาะแหละจะนำพาความยุ่งยากมาให้ คนที่โดนกัดผ่านทางน้ำลาย ชั่วโมงแรกจะไม่แสดงอาการอะไรมากหรอกนะ แต่หลังจากนั้นจะเกิดไข้ขึ้นสูง ไอออกมาเป็นเลือด สติของนายจะค่อยๆหายไป แล้วก็ ... บู้ม แล้วคิดว่าคนที่โดนกัดจะยอมบอกเจ้าหน้าที่ไหมล่ะว่าตัวเองมีแผล ใครๆก็อยากรอดกันทั้งนั้นแหละนะ"
ฟังดูหน้าสยองจังเลยแฮะ เท็นภาวนาขอให้คุณลุงร้านหมั่นโถวกับครอบครัวหลีกเลี่ยงไปที่นั่นด้วยเถอะนะ
ปึง! ปึง!
พวกเขาได้ยินเสียงทุบประตูฝั่งหน้าบ้านทำให้เรามองตากันด้วยความเงียบ แดเรียลพยักหน้า เจ้าตัวค่อยๆลุกอย่างช้าๆก่อนจะลุกขึ้นย่องไปส่องตาแมว
และใช่ พวกมันกำลังรอจะเข้ามาในบ้านหลังนี้อยู่ สักสี่ตัวได้ล่ะมั้ง
"เรากำลังจะกลายเป็นอาหาร"
เขากระซิบพร้อมกับมองเด็กข้างตัวที่กำลังสติหายไป "ตั้งสติเดี๋ยวนี้เท็น ฉันจะดันประตูไว้ก่อน ตอนนี้นายต้องหยิบเป้ ใส่อาหาร น้ำ ภายในหนึ่งนาทีก่อนที่พวกมันจะเข้ามา ฉันจะดันประตูไว้ก่อน เร็วเข้า! "
ไม่เหลือเวลาให้เตรียมตัวอะไรทั้งนั้น เท็นรีบวิ่งเข้าไปในห้องครัว บนชั้นมีอาหารกระป๋องจำนวนมากอัดกันอยู่บนเคาน์เตอร์ นับว่าเป็นโชคดีที่ก่อนหน้านี้เขากริลเบค่อนเก็บไว้ในถุงซิปล้อค เท็นทำได้แค่ตั้งสติแล้วกวาดมันมาไว้กับตัวให้หมด
น้ำดื่ม เบค่อน ซุปกระป๋อง เทียนไขและไฟฉาย ได้แต่เก็บทุกสิ่งลงกระเป๋าให้หมด ในเวลานี้ไม่มีเวลามาจัดอะไรทั้งนั้น เท็นสบตากับแดเรียลที่กำลังดันประตูอยู่หน้าบ้าน
"เปิดประตูห้องด้านบนไว้ ฉันจะดันไว้จนกว่าฉันจะแน่ใจว่านายจะปลอดภัย" ได้แต่พยักหน้าส่งสายตาให้กัน
เท็นก้าวขึ้นบันไดด้วยใจที่เต้นแรง เหตุการณ์เมื่อกี้เหมือนกับตัวเองวิ่งเป็นกิโล เขากำลังจะกลัวจนแข้งขาอ่อน
สาบานเลยว่าตัวเองไม่เคยเฉียดใกล้ความตายมาก่อนขนาดนี้ในชีวิต
ถัดจากบันไดบ้านคือทางเชื่อม และห้องทั้งหมดสามห้องด้วยกัน และเพราะด้านล่างมีห้องน้ำในตัวพวกเขาเลยไม่ได้ขึ้นมาสำรวจข้างบน
เอาเป็นว่าเลือกมาซักห้องก็แล้วกัน เท็นตัดสินใจเลือกห้องทางด้านซ้าย ยังไงก็เชื่อโบราณไว้ก่อนแล้วกันนะไอ้คติที่ว่าขวาร้ายซ้ายดีเนี่ย
เด็กชายค่อยๆเปิดประตูเข้าไป
แอ๊ด
ฉุนเป็นบ้า และเหมือนจะได้กลิ่นเหม็นเน่าอะไรสักอย่าง อดที่จะย่นจมูกไม่ได้ ก่อนจะเพ่งสายตาไปด้านหน้า
ผู้..หญิง?
ข้างหน้าของเท็นมีผู้หญิงคนหนึ่งยืนหันหลังให้อยู่ มีผู้รอดชีวิตอยู่ที่นี่กับเรางั้นหรอกหรือ
"คุณครับ ข้างล่างมีซอมบี้อยู่หน้าบ้านประมาณสี่ห้าตัว เราต้องหนีเดี๋ยวนี้"
ไม่มีเวลาทักทายหรือแนะนำตัวอะไรทั้งนั้น
แต่ทว่าสิ่งที่ได้รับมีแต่ความเงียบที่ตอบกลับมา
ครั้งนั้นแหละที่เท็นรู้สึกใจคอไม่ดีขึ้น
อือ
และก่อนที่ผู้หญิงข้างหน้าจะค่อยๆหันมาพร้อมกับใบหน้าที่เละไปมากกว่าครึ่ง
ตึง!
"เห้ย!!! "
“ฮือออ”
ไม่ทันขาดคำร่างนั้น (ที่ไม่น่าจะใช้สรรพนามว่าคนได้) วิ่งมาหาเท็นด้วยความเร็วสูง โชคดีที่เขาสามารถใช้เท้ายันไปก่อนหน้า
แต่มันก็ทำให้ชะงักได้แค่ครู่เดียวเท่านั้น
ร่างที่เพิ่งจะกระเด็นไปจากแรงถีบ จู่ๆกลับลุกขึ้นมาแล้ววิ่งเข้ามาหาอีกครั้งพลางกรีดร้องด้วยเสียงดังก้อง
เวรเอ๊ย แบบนี้ไม่ต่างอะไรกับโทรโข่งเรียกพวกศพเดินได้ชั้นดีเลยนะ
ได้แต่ใช้มือดันชายเสื้อไว้ ทั้งเสียงฟันที่ขบกันอย่างน่ากลัว เสื้อผ้าที่เปื้อนเลือดทำให้อะดีนนารีนในตัวหลั่งอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะใช้แรงเฮือกสุดท้ายผลักซอมบี้ตรงหน้าไปให้ไกลที่สุด วิ่งไปทางประตูด้านหน้า อึดใจเดียวเท่านั้น
โถ่โว้ย!
ปัง!!!
สิ้นเสียงกรี้ดสุดท้ายของซอมบี้ จบลงพร้อมกับเจ้าตัวที่ปิดประตูลงทันพอดี มาทันพร้อมกับแดเรียลที่วิ่งขึ้นมาข้างบน
มือของเจ้าตัวจับมือเล็กข้างนึง ก่อนจะฉุดให้อีกฝ่ายเข้าไปในอีกห้อง
ปัง!
ได้แต่มองหน้ากันแล้วหอบหายใจ โชคดีที่ห้องนี้ไม่มีคราบเลือด หรือร่องรอยของตัวประหลาดอะไรทั้งนั้น แดเรียลหันไปมองตู้เสื้อผ้า พวกเขาพยักหน้าเข้าใจกันด้วยเวลาไม่นาน ตู้เสื้อผ้าก็ขวางทางประตูสำเร็จ
"เหนื่อย .. โครตๆเลย" ได้แต่ไถตัวพิงผนังอย่างหมดแรง แดเรียลขมวดคิ้วแน่น เขาเดินไปทางหน้าต่างที่มีผ้าม่านลายดอกจิ๋วสีชมพูอ่อน
เวลานี้ใกล้จะเช้าแล้ว แสงสีทองอ่อนๆกำลังลอดผ่านหน้าต่างพร้อมกับฝนที่เริ่มหยุดลง นี่พวกเขาหนีซอมบี้กันเกือบค่อนคืนเลยงั้นหรือ
"เยี่ยม" ได้แต่เดาะลิ้นด้วยความหงุดหงิด ตอนนี้ทั้งหน้าบ้านมีพวกกินคนประมาณสิบกว่าตัวมาออกันอยู่ได้ ยังไม่นับที่อยู่ด้านนอกห้องราวๆอีกสี่ห้าตัว..
มืดแปดด้านชะมัด... คงจบแค่นี้แล้วล่ะมั้ง
"คุณ" เท็นสะกิดคนข้างตัวให้หันไปหา
"บ้านตรงทางข้างหน้า แล้วก็ 9 นาฬิกา" จุดนำสายตาเลื่อนไปยังมือเล็กๆที่ชี้
ผู้ชาย?
และใช่ ผู้ชายคนหนึ่งอยู่ที่ดาดฟ้า เจ้าตัวใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวและแว่นกันแดดสีดำ ด้านข้างมีธงที่ถูกเขียนข้อความไว้
แต่ ... บัดซบเอ๊ย มันเป็นภาษาญี่ปุ่น
หากแต่โครงหน้าที่แสนจะคุ้นเคยทำให้แดเรียลต้องขยี้ตาเพื่อดูให้กระจ่างอีกครั้งหนึ่ง
ใบหน้าคม ผมสีทองแถมยังท่าทางเหมือนจะจำเขาได้นี่มัน
อ่า นั่นมันนากาโมโตะ ยูตะ มิตรแท้คนสุดท้ายในฝูงซอมบี้
.
.
.
to be con.
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments