โปรดเข้าใจ ข้ามิใช่ผู้หญิง!
"กรี๊ด คุณหนูเหมยตกน้ำ!" เสียงแสบหูของสาวใช้หน้าตาบ้านๆคนหนึ่งทำให้ทั่วบริเวณแตกฮือราวกับมดที่ถูกเหยียบ
"คุณหนูรอง เป็นคนทำเจ้าค่ะ!" บทละครใหญ่กำลังเริ่มต้นขึ้น มีคนเข้ามาจับจองพื้นที่มากมายเพื่อรอชม ส่วนใหญ่จะเป็นสาวใช้ที่มารอชมเพื่อหาเรื่องไปรายงานให้กับนายตนเอง
และ 'เขา'ดันบังเอิญได้ที่นั่งพิเศษหน้าเวทีมารับชมอย่างไม่รู้ตัว นัยต์ตาสีดอกท้อปรือขึ้นติดง่วงงุน ขณะที่คิวเรียวขมวดมุ่นเพราะอาการหงุดหงิด โดยมีสาเหตุจากการที่มีคนรบกวนเวลานอนหลับ
บิดาพวกนางเถอะ!.. จะทำอะไรก็ช่วยเงียบๆหน่อยมิได้หรือ!
อ่า แต่บิดาของพวกนางก็บิดาของเขาเช่นกัน อยากจะสาปแช่งแต่ก็ทำไม่ลง สุดท้ายเขาที่ตื่นเต็มตาก็ต้องมานั่งชมละครห่วยๆนั้นจนได้
'เหมยฮวา' น้องคนสามเกิดจากอนุรองผู้เป็นที่รักของท่านพ่อ นางถูกถนุถนอมอันดับต้นๆของจวน ต่างจาก 'ไป่ฮวา' ที่เกิดจากฮูหยินใหญ่ แต่กลับไม่ได้เป็นที่โปรดปรานนัก พวกเขากำลังแย่งชิงกันอยากเป็นคนรักขององค์ชายรอง
อ่า ตัวละครใหม่ ..นี้ข้าต้องอธิบายอีกหรือว่าองค์ชายรองนั้นเป็นใคร
"หลี่ฮวา เจ้าอยู่ที่นี้เอง" น้ำเสียงสดใสร่าเริงดังขึ้นข้างกาย ก่อนที่ไอคนหน้าหมั่นไส้จะปรากฎตัวขึ้น
ข้าขอเตือนพวกเจ้าเล็กน้อย ...หลี่ฮวา นั้นคือนามของข้าเอง แม้นามจะดูไพเราะราวกับสตรีเพศเช่นนั้นแต่ทว่าข้าเป็นผู้ชาย... ชายทั้งแท่งไม่มีอื่นเจือปน
"เจ้ายังคงงามเช่นเคยสหายรัก"
"....."
ข้าหันไปจิกตาใส่สหายเวรที่ทำให้ภาพลักษณ์ข้าแปดเปื้อน ประเดี๋ยวนี้ข้าที่เป็นท่านชายรอง เดินทางไปไหนมาไหนกับ ไป่หลง ก็ถูกมองว่าเป็นผู้หญิงของอาไป่เสียหมด
นั้นแหละ เป็นเหตุที่ข้าพึ่งเขียนปฎิเสธคำเชิญในการออกไปเที่ยวที่ไหนฉบับที่ร้อยไปเสร็จสรรพเมื่อตอนสาย
ไม่คิดว่าจะเมินเฉยต่อคำปฎิเสธของข้าอย่างไม่ใยดีแถมยังโผล่หน้าระรื่นมากวนเวลานอนข้าเช่นนี้...
"เจ้าเลิกทำหน้าเหมือนโลกจะถล่มได้แล้วอาหลี่" ไป่หลงพูดพลางเหลือบมองสหายคนงามที่ยังหงุดหงิดได้ทุกเวลา 'เห็นกี่คราก็น่ากลั้นแกล้งเสียเหลือเกิน ..'
อ่า แต่ครานี้เขามาด้วยธุระสำคัญ เพราะฉะนั้นเรื่องแกล้งเอาไว้ทีหลัง..
เมื่อคิดได้เช่นนั้นไป่หลงที่ขึ้นชื่อเรื่องความมุทะลุก็เอ่ยขึ้นมาทันทีโดยที่ไม่รอให้อาหลี่ของเขาถาม
"มังกรที่ข้าเลี้ยงไว้ยามนี้เกล็ดเปลี่ยนเป็นสีแดงฉาน เจ้าช่วยไปดูหน่อยได้หรือไม่"
หลี่ฮวาชะงัก เขาเลียริมฝีปากที่แห้งผากขณะที่ถอดความหมายของข้อความนั้น
'พี่ใหญ่บาดเจ็บหนัก เจ้าไปดูอาการหน่อยเถิด'
พวกเราที่เป็นพี่น้องสาบานต่างสายเลือดนั้นมีอยู่สี่คน พี่ใหญ่ เขาพี่รอง อาไป่เป็นพี่สาม เเละสุดท้ายน้องสี่
ทุกคนจะมีสัตว์ที่เป็นตัวแทนอยู่ มังกร พยัคฆ์ จิ้งจอก กระต่าย ตามลำดับ
อาบย้อมด้วยเกล็ดสีแดง ตามสามัญสำนึกแล้วมังกรไม่ได้มีเกล็ดเช่นนั้น สีแดงสื่อถึงเลือด แปลว่ามังกรตัวนั้นบาดเจ็บหนัก...
"นี้เจ้าน่าเหลือเชื่อเลย" ข้ามองสหายด้วยสายตาว่างเปล่า ประโยคดังกล่าวมิใช่คำชมแต่เป็นคำด่าเสียมากกว่า เรื่องสำคัญเช่นนี้กลับปล่อยไว้อยู่นานไม่เร่งรีบพูด นี้ไม่รู้ว่าสมองในด้านการจัดลำดับความสำคัญยังสามารถใช้ได้อยู่หรือไม่?
และดูเหมือนคนที่ถูกจ้องจะไม่สะทกสะท้านอันใด แถมยังหันมาแยกยิ้มกวนๆใส่เสียอีก
"เหตุนั้นข้าจึงต้องมารับเจ้าอย่างไรเล่า..." ไป่หลงลากเสียง แววตาติดเจ้าเล่ห์นัก ก่อนที่อยู่ๆร่างของเขาจะลอยสูงขึ้นเหนือพื้น... ใช่ ไป่หลงอุ้มเขา
เขาที่เป็นผู้ชายตัวเป็นๆ
ไอ้.....!
มีคำพูดมากมายที่ติดอยู่ที่ริมฝีปาก อยากจะด่าออกมาแต่เมื่อเริ่มใช้วรยุทธ เดินเหินบนอากาศเป็นเขาเองที่ต้องรียผวากอดคอสหายรักเพราะกลัวว่าตนจะตกลงไปคอหักตาย
เขาไม่มีวรยุทธ เรียกว่าไม่ชำนาญด้านบู๋เสียมากกว่า เพราะเขาเกลียดเหงื่อ เกลียดแดด และไม่มีเหตุผลที่ต้องไปทรมานตัวเองเช่นนั้น
หลี่ไป่ เป็นถึงคุณชายรองของสกุล ฮวา .. สกุลของหนึ่งในเสนาบดีที่มีกำลังทรัพย์มากที่สุดในแคว้น เขาเกิดมาบนกองเงินกองทองที่มากพอจะเอาไปละลายน้ำกินวันละลิตรได้ หรือไม่ก็เอาเงินมาปูบนทางเดินให้เขาเหยียบเดินได้
เหมยฮวาเป็นบุตรีที่ท่านพ่อรัก แต่ความรักนั้นไม่สามารถเทียบเท่า หลี่ไป่ ได้แม้แต่เสี้ยว เขาครองตำแหน่งลูกรักของคนในบ้านมาตั้งแต่เด็ก มารดาของเขาเป็นคนที่ท่านพ่อรักที่สุด เมื่อมารดาเสีย เขาก็เป็นคนที่ท่านพ่อรักที่สุดไปโดยปริยาย
ไม่ต้องกระเสือกกระสนดิ้นรนเหมือนคนอื่น ที่ต้องไปเรียนในสิ่งที่ไม่ชอบ ดังนั้นการที่ถูกพวกบ้าพลังสายบู๊ที่ไร้สมองหิ้วกระเตงไปมานับเป็นเรื่องที่เขาเกลียดที่สุดอันดับสอง รองจากการที่ถูกคนโง่ขอให้เขาไปเป็นสตรีอุ่นเตียงให้
"ถึงแล้ว..เห็นมั้ยพลังของข้านั้นรวดเร็วกว่ารถม้าเป็นไหนๆ" ไป่หลงโอ้อวดวรยุทธ์ของตน ก่อนที่จะร่อนลงยังสวนหลังวัง
พวกข้าในตอนนี้เหมือนกับโจรย่องเบาที่แอบลักลอบเข้ามาไม่ผิด...
แต่ช่างเถิด ต่อให้มีใครมาพบเห็นเข้ายามนี้คงไม่มีใครจับสังเกตุหรอกว่าข้ามาที่นี้ตอนไหน ในเมื่อข้าสามารถเข้ามาเมื่อไหร่ก็ได้
แถมยังมีบัตรผ่านที่ดีที่สุดอย่างเจ้าคนข้างๆอยู่ด้วย สบายใจหายห่วงเรื่องการถูกพวกองครักษ์จับเข้าคุกหลวงข้อหาบุกรุก
พวกเราเดินต่อมาอีกหน่อยก็ถึงห้องรับรอง พอเปิดเข้ามา กงกงที่เหมือนกำลังจะเทศนาคนที่หายตัวไปก็ชะงักปากเมื่อเห็น 'เขา' ก่อนที่จะเอ่ยทักตามความชิน
"คุณชายหลี่"
"ท่านกงกง พี่ใหญ่เป็นเช่นไรบ้าง" ข้าถามทันที เพราะจับสังเกตุได้ว่าเจ้าจิ้งจอกไป่หลงที่ดีดอยู่ทุกวันอยู่ๆก็สงบขึ้นแปลกตา แปลว่าอาการของพี่ใหญ่คงน่ากังวลไม่น้อย
และเป็นอย่างที่ข้าคิด..
กงกงเผยสีหน้าตึงเครียด หันซ้ายขวาสั่งให้สาวใช้คนอื่นออกไปให้หมด ก่อนที่จะบอก
"ยามนี้องค์ชายรัชทายาทไม่ได้สติมาสามวัน คาดว่าถูกพิษรุนแรงจากแดนใต้ แต่หมอหลวงคนแล้วคนเล่าล้วนจนปัญญารักษา" กงกงบอก สีหน้าตึงเครียดนั้นทำให้เขาเผลอเหยียดหลังตรง เพิ่มความจริงจังขึ้นมาในหนึ่งระดับ
"ได้โปรดช่วยองค์ชายด้วยเถิดขอรับคุณชายหลี่"
กงกงเปรียบเสมือนญาติผู้ใหญ่คนหนึ่งของเขา อีกทั้งสถานะที่ปรึกษาของฮวงตี๋นั้นไม่จำเป็นที่ต้องขอร้องเด็กที่อายุไม่ถึงครึ่งชีวิตของตนแม้แต่น้อย
"ข้าจะช่วยท่านพี่ให้สุดความสามารถขอรับ" ข้าพูดขึ้นทันที เสียอย่างไรกงกงเองก็แก่แล้ว ไม่อยากให้เครียดจนเป็นความดันขึ้น ประเดี๋ยวจะไม่มีใครคอยช่วยอยู่บ่นไป่หลงจอมเสเพล ว่าแล้วเขาก็เผยรอยยิ้มหวานเอาใจ
"ท่านไปพักก่อนเถิดกงกง ที่เหลือให้ข้าจัดการเองเถิด"
ข้าส่งสายตาให้ไป่หลงพากงกงไปพัก ส่วนเรื่องที่ว่า จัดการเองนั้น..
ข้าเองก็พูดไปเช่นนั้นแหละ จะจัดการได้มั้ยก็ค่อยมาว่ากันอีกเรื่อง
พออีกสองคนเดินหายไป ในห้องก็เหลือเพียงเขาโดดเดี่ยว ยืนเกาหัวแกรกๆพลางถอนหายใจ
เฮ้อ นี้ข้าควรเริ่มจากตรงไหนดีนะ...
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments