NovelToon NovelToon

โปรดเข้าใจ ข้ามิใช่ผู้หญิง!

1

"กรี๊ด คุณหนูเหมยตกน้ำ!" เสียงแสบหูของสาวใช้หน้าตาบ้านๆคนหนึ่งทำให้ทั่วบริเวณแตกฮือราวกับมดที่ถูกเหยียบ

"คุณหนูรอง เป็นคนทำเจ้าค่ะ!" บทละครใหญ่กำลังเริ่มต้นขึ้น มีคนเข้ามาจับจองพื้นที่มากมายเพื่อรอชม ส่วนใหญ่จะเป็นสาวใช้ที่มารอชมเพื่อหาเรื่องไปรายงานให้กับนายตนเอง

และ 'เขา'ดันบังเอิญได้ที่นั่งพิเศษหน้าเวทีมารับชมอย่างไม่รู้ตัว นัยต์ตาสีดอกท้อปรือขึ้นติดง่วงงุน ขณะที่คิวเรียวขมวดมุ่นเพราะอาการหงุดหงิด โดยมีสาเหตุจากการที่มีคนรบกวนเวลานอนหลับ

บิดาพวกนางเถอะ!.. จะทำอะไรก็ช่วยเงียบๆหน่อยมิได้หรือ!

อ่า แต่บิดาของพวกนางก็บิดาของเขาเช่นกัน อยากจะสาปแช่งแต่ก็ทำไม่ลง สุดท้ายเขาที่ตื่นเต็มตาก็ต้องมานั่งชมละครห่วยๆนั้นจนได้

'เหมยฮวา' น้องคนสามเกิดจากอนุรองผู้เป็นที่รักของท่านพ่อ นางถูกถนุถนอมอันดับต้นๆของจวน ต่างจาก 'ไป่ฮวา' ที่เกิดจากฮูหยินใหญ่ แต่กลับไม่ได้เป็นที่โปรดปรานนัก พวกเขากำลังแย่งชิงกันอยากเป็นคนรักขององค์ชายรอง

อ่า ตัวละครใหม่ ..นี้ข้าต้องอธิบายอีกหรือว่าองค์ชายรองนั้นเป็นใคร

"หลี่ฮวา เจ้าอยู่ที่นี้เอง" น้ำเสียงสดใสร่าเริงดังขึ้นข้างกาย ก่อนที่ไอคนหน้าหมั่นไส้จะปรากฎตัวขึ้น

ข้าขอเตือนพวกเจ้าเล็กน้อย ...หลี่ฮวา นั้นคือนามของข้าเอง แม้นามจะดูไพเราะราวกับสตรีเพศเช่นนั้นแต่ทว่าข้าเป็นผู้ชาย... ชายทั้งแท่งไม่มีอื่นเจือปน

"เจ้ายังคงงามเช่นเคยสหายรัก"

"....."

ข้าหันไปจิกตาใส่สหายเวรที่ทำให้ภาพลักษณ์ข้าแปดเปื้อน ประเดี๋ยวนี้ข้าที่เป็นท่านชายรอง เดินทางไปไหนมาไหนกับ ไป่หลง ก็ถูกมองว่าเป็นผู้หญิงของอาไป่เสียหมด

นั้นแหละ เป็นเหตุที่ข้าพึ่งเขียนปฎิเสธคำเชิญในการออกไปเที่ยวที่ไหนฉบับที่ร้อยไปเสร็จสรรพเมื่อตอนสาย

ไม่คิดว่าจะเมินเฉยต่อคำปฎิเสธของข้าอย่างไม่ใยดีแถมยังโผล่หน้าระรื่นมากวนเวลานอนข้าเช่นนี้...

"เจ้าเลิกทำหน้าเหมือนโลกจะถล่มได้แล้วอาหลี่" ไป่หลงพูดพลางเหลือบมองสหายคนงามที่ยังหงุดหงิดได้ทุกเวลา 'เห็นกี่คราก็น่ากลั้นแกล้งเสียเหลือเกิน ..'

อ่า แต่ครานี้เขามาด้วยธุระสำคัญ เพราะฉะนั้นเรื่องแกล้งเอาไว้ทีหลัง..

เมื่อคิดได้เช่นนั้นไป่หลงที่ขึ้นชื่อเรื่องความมุทะลุก็เอ่ยขึ้นมาทันทีโดยที่ไม่รอให้อาหลี่ของเขาถาม

"มังกรที่ข้าเลี้ยงไว้ยามนี้เกล็ดเปลี่ยนเป็นสีแดงฉาน เจ้าช่วยไปดูหน่อยได้หรือไม่"

หลี่ฮวาชะงัก เขาเลียริมฝีปากที่แห้งผากขณะที่ถอดความหมายของข้อความนั้น

'พี่ใหญ่บาดเจ็บหนัก เจ้าไปดูอาการหน่อยเถิด'

พวกเราที่เป็นพี่น้องสาบานต่างสายเลือดนั้นมีอยู่สี่คน พี่ใหญ่ เขาพี่รอง อาไป่เป็นพี่สาม เเละสุดท้ายน้องสี่

ทุกคนจะมีสัตว์ที่เป็นตัวแทนอยู่ มังกร พยัคฆ์ จิ้งจอก กระต่าย ตามลำดับ

อาบย้อมด้วยเกล็ดสีแดง ตามสามัญสำนึกแล้วมังกรไม่ได้มีเกล็ดเช่นนั้น สีแดงสื่อถึงเลือด แปลว่ามังกรตัวนั้นบาดเจ็บหนัก...

"นี้เจ้าน่าเหลือเชื่อเลย" ข้ามองสหายด้วยสายตาว่างเปล่า ประโยคดังกล่าวมิใช่คำชมแต่เป็นคำด่าเสียมากกว่า เรื่องสำคัญเช่นนี้กลับปล่อยไว้อยู่นานไม่เร่งรีบพูด นี้ไม่รู้ว่าสมองในด้านการจัดลำดับความสำคัญยังสามารถใช้ได้อยู่หรือไม่?

และดูเหมือนคนที่ถูกจ้องจะไม่สะทกสะท้านอันใด แถมยังหันมาแยกยิ้มกวนๆใส่เสียอีก

"เหตุนั้นข้าจึงต้องมารับเจ้าอย่างไรเล่า..." ไป่หลงลากเสียง แววตาติดเจ้าเล่ห์นัก ก่อนที่อยู่ๆร่างของเขาจะลอยสูงขึ้นเหนือพื้น... ใช่ ไป่หลงอุ้มเขา

เขาที่เป็นผู้ชายตัวเป็นๆ

ไอ้.....!

มีคำพูดมากมายที่ติดอยู่ที่ริมฝีปาก อยากจะด่าออกมาแต่เมื่อเริ่มใช้วรยุทธ เดินเหินบนอากาศเป็นเขาเองที่ต้องรียผวากอดคอสหายรักเพราะกลัวว่าตนจะตกลงไปคอหักตาย

เขาไม่มีวรยุทธ เรียกว่าไม่ชำนาญด้านบู๋เสียมากกว่า เพราะเขาเกลียดเหงื่อ เกลียดแดด และไม่มีเหตุผลที่ต้องไปทรมานตัวเองเช่นนั้น

หลี่ไป่ เป็นถึงคุณชายรองของสกุล ฮวา .. สกุลของหนึ่งในเสนาบดีที่มีกำลังทรัพย์มากที่สุดในแคว้น เขาเกิดมาบนกองเงินกองทองที่มากพอจะเอาไปละลายน้ำกินวันละลิตรได้ หรือไม่ก็เอาเงินมาปูบนทางเดินให้เขาเหยียบเดินได้

เหมยฮวาเป็นบุตรีที่ท่านพ่อรัก แต่ความรักนั้นไม่สามารถเทียบเท่า หลี่ไป่ ได้แม้แต่เสี้ยว เขาครองตำแหน่งลูกรักของคนในบ้านมาตั้งแต่เด็ก มารดาของเขาเป็นคนที่ท่านพ่อรักที่สุด เมื่อมารดาเสีย เขาก็เป็นคนที่ท่านพ่อรักที่สุดไปโดยปริยาย

ไม่ต้องกระเสือกกระสนดิ้นรนเหมือนคนอื่น ที่ต้องไปเรียนในสิ่งที่ไม่ชอบ ดังนั้นการที่ถูกพวกบ้าพลังสายบู๊ที่ไร้สมองหิ้วกระเตงไปมานับเป็นเรื่องที่เขาเกลียดที่สุดอันดับสอง รองจากการที่ถูกคนโง่ขอให้เขาไปเป็นสตรีอุ่นเตียงให้

"ถึงแล้ว..เห็นมั้ยพลังของข้านั้นรวดเร็วกว่ารถม้าเป็นไหนๆ" ไป่หลงโอ้อวดวรยุทธ์ของตน ก่อนที่จะร่อนลงยังสวนหลังวัง

พวกข้าในตอนนี้เหมือนกับโจรย่องเบาที่แอบลักลอบเข้ามาไม่ผิด...

แต่ช่างเถิด ต่อให้มีใครมาพบเห็นเข้ายามนี้คงไม่มีใครจับสังเกตุหรอกว่าข้ามาที่นี้ตอนไหน ในเมื่อข้าสามารถเข้ามาเมื่อไหร่ก็ได้

แถมยังมีบัตรผ่านที่ดีที่สุดอย่างเจ้าคนข้างๆอยู่ด้วย สบายใจหายห่วงเรื่องการถูกพวกองครักษ์จับเข้าคุกหลวงข้อหาบุกรุก

พวกเราเดินต่อมาอีกหน่อยก็ถึงห้องรับรอง พอเปิดเข้ามา กงกงที่เหมือนกำลังจะเทศนาคนที่หายตัวไปก็ชะงักปากเมื่อเห็น 'เขา' ก่อนที่จะเอ่ยทักตามความชิน

"คุณชายหลี่"

"ท่านกงกง พี่ใหญ่เป็นเช่นไรบ้าง" ข้าถามทันที เพราะจับสังเกตุได้ว่าเจ้าจิ้งจอกไป่หลงที่ดีดอยู่ทุกวันอยู่ๆก็สงบขึ้นแปลกตา แปลว่าอาการของพี่ใหญ่คงน่ากังวลไม่น้อย

และเป็นอย่างที่ข้าคิด..

กงกงเผยสีหน้าตึงเครียด หันซ้ายขวาสั่งให้สาวใช้คนอื่นออกไปให้หมด ก่อนที่จะบอก

"ยามนี้องค์ชายรัชทายาทไม่ได้สติมาสามวัน คาดว่าถูกพิษรุนแรงจากแดนใต้ แต่หมอหลวงคนแล้วคนเล่าล้วนจนปัญญารักษา" กงกงบอก สีหน้าตึงเครียดนั้นทำให้เขาเผลอเหยียดหลังตรง เพิ่มความจริงจังขึ้นมาในหนึ่งระดับ

"ได้โปรดช่วยองค์ชายด้วยเถิดขอรับคุณชายหลี่"

กงกงเปรียบเสมือนญาติผู้ใหญ่คนหนึ่งของเขา อีกทั้งสถานะที่ปรึกษาของฮวงตี๋นั้นไม่จำเป็นที่ต้องขอร้องเด็กที่อายุไม่ถึงครึ่งชีวิตของตนแม้แต่น้อย

"ข้าจะช่วยท่านพี่ให้สุดความสามารถขอรับ" ข้าพูดขึ้นทันที เสียอย่างไรกงกงเองก็แก่แล้ว ไม่อยากให้เครียดจนเป็นความดันขึ้น ประเดี๋ยวจะไม่มีใครคอยช่วยอยู่บ่นไป่หลงจอมเสเพล ว่าแล้วเขาก็เผยรอยยิ้มหวานเอาใจ

"ท่านไปพักก่อนเถิดกงกง ที่เหลือให้ข้าจัดการเองเถิด"

ข้าส่งสายตาให้ไป่หลงพากงกงไปพัก ส่วนเรื่องที่ว่า จัดการเองนั้น..

ข้าเองก็พูดไปเช่นนั้นแหละ จะจัดการได้มั้ยก็ค่อยมาว่ากันอีกเรื่อง

พออีกสองคนเดินหายไป ในห้องก็เหลือเพียงเขาโดดเดี่ยว ยืนเกาหัวแกรกๆพลางถอนหายใจ

เฮ้อ นี้ข้าควรเริ่มจากตรงไหนดีนะ...

2

หลี่ฮวาเคยเรียนแพทย์มาก่อน.... นั้นเป็นข้อเท็จจริง แต่ทว่านี้ก็ผ่านมาหลายปี เขาปล่อยทิ้งตำราจนฝุ่งเครอะหมดแล้ว จะบอกว่าให้รักษาก็ไม่รู้ว่าควรเริ่มจากตรงไหน

ที่จริงถึงเขาจะรู้ก็เถิดว่าพวกนั้นไม่ได้ต้องการให้เขาใช้ความรู้แพทย์ทั่วไปรักษา แต่เป็นพลังที่เขาได้จาก เซียน แห่งศตวรรษต่างหาก

นี้เขาต้องเล่าเรื่องนี้ด้วยใช่หรือไม่ .... ? อ่า ข้าจะเล่าย่อๆแล้วกัน อย่างที่เจ้าเห็นสหายข้าเป็นคนใหญ่คนโตในราชวัง ไป่หลงคือองค์ชายรอง ส่วนองค์ชายใหญ่ก็นอนเป็นคนป่วยอยู่บนเตียงเรียบร้อย ยังมีองค์ชายเล็กตัวป่วนอีกคน แต่การที่เขาไม่ได้อยู่ตรงนี้ก็อาจจะมีบางอย่างเกิดขึ้น หรือไม่พวกเขาไม่อยากให้เรื่องนี้เอิกเกริกเกินไป

การที่ หวงหลง ป่วยเป็นสิ่งที่ห้ามให้ใครรู้เด็ดขาด เพราะมิเช่นนั้นความชิบหายจะมาเยือนไม่หยุดแน่

  หวงหลง เขาอายุเพียงยี่สิบสาม ห่างกับข้าเพียงสี่ปีแต่แบกรับเรื่องราวไว้หนักหนานัก เขาเป็นองค์ชายรัชทายาทพ่วงด้วยตำแหน่งแม่ทัพใหญ่ ใหญ่โตขนาดชนิดที่ถ้าเขาล่มมีผลต่อความมั่นคงของแคว้น เราอาจจะเสียชีวิตนับพันไปได้ หากต่างแคว้นนึกคึกอยากทำศึกแล้วบุกเข้ามา

แคว้นเราคงจบเห่...

นี้ข้าคงไม่ต้องพูดถึงพวกเสนาบดีและขุนนางที่วันๆเอาแต่ฉ้อโกง แต่ไร้ความสามารถใช่หรือไม่ มีพวกนั้นไปอีกร้อยคนก็ไม่สามารถทดแทนองค์ชายของเราได้หรอก ถึงพวกมันจะหลงระเริงในอำนาจกับฝีมือของคนจนเริ่มเหิมเกริมช่วงนี้ก็เถิด

อ่า นี้ข้ามัวแต่ใส่น้ำมากไปหรือไม่

งั้นสรุปจริงๆแล้วนะ ข้าแค่... บังเอิญไปได้สมุดบันทึกของเซียนสาวเเพทย์ท่านหนึ่งมาก็เท่านั้น เท่านั้นเอง... ใช่แล้ว

นี้ข้าไม่ได้ทำให้พวกเจ้าผิดหวังใช่หรือไม่?

อย่าหวังในตัวข้ามากสิ ข้าแค่คุณชายรองสายบุ๋นผู้อ่อนแอคนหนึ่งเท่านั้นเอง แค่ฝึกในให้ได้พลังตามตำราก็ใช้เวลาไปหลายปีแล้ว แถมข้ายังเลิกฝึกไปนานมาก ไม่รู้ตอนนี้เสี้ยวพลังจะสามารถเค้นออกมาใช้งานได้หรือไม่

ข้าใช้เวลาในจุดเตาผิงอยู่นาน ปิดหน้าต่างไม่ให้ระบายลมออก สิ่งที่ต้องการคือการขับเหงื่อออกจากผู้ป่วย ให้พิษออกมากับเหงื่อ มันเป็นกระบวนการขั้นต้นในการใช้ศาสตร์รักษานี้

ข้อดีคือสามารถรักษาได้เกือบทุกพิษบนโลก ข้อเสียคือข้าเกลียดความร้อน.. และต้องอยู่ในห้องร้อนๆตลอดหลายชั่วยาม

แค่คิดก็เผลอเบะปาก นั้นเป็นสาเหตุที่ข้าเลิกเป็นแพทย์อย่างไรเล่า ค่าจ้างก็น้อย รายได้ทั้งปียังน้อยกว่าเงินก้นถุงของข้าเดือนเดียว แถมต้องลำบากอีก

มือเรียวค่อยๆปลดอาภรณ์นอกของตนออก ไม่นานก็เหลือเพียงอาภรณ์ชิ้นตัวน้อย หลี่ฮวา พาดเสื้อตนไว้บนพนักพิงของเก้าอี้ไม้ตัวหนึ่ง ก่อนที่จะก้าวเข้าไปหาคนป่วยที่หลับใหลประหนึ่งองค์ชายในนิยายน้ำเน่าปกเหลือง ที่รอการช่วยเหลือของฮองเฮาคู่ลิขิตตนด้วยการจุมพิษ

ผิดที่เขาไม่ใช่ฮูหยิน และไม่ได้ช่วยด้วยการจุมพิษก็เท่านั้น

เริ่มแรกเขาใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นพรมเช่นไปทั่วร่างของพี่ชายใหญ่ สัดส่วนอะไรก็เห็นมาตั้งแต่เด็ก การจะถอดเสื้อออกมาแล้วเช็ดตัวนั้นเป็นเรื่องธรรมดาแสนธรรมดามาก

พอทำเสร็จเขาก็คว้ามือของพี่ใหญ่มากุมแน่น สัมผัสได้ถึงสายตาคู่หนึ่งที่มองมาอย่างสนใจ ไม่รู้กำลังคิดอันใดอยู่... เขาไม่สนใจ รีบรักษาให้เสร็จจะได้รีบไปรับลมชมดอกไม้ เห็นว่าครัวหลวงทำขนมกลีบดอกบัว เขาอยากกินจะแย่แล้ว

พลังไร้ลักษณ์ซึมซาบผ่านผิวหนังโดยเชื่อมกันจากมือที่สัมผัสอยู่ หลี่ฮวา ไม่ได้เป็นพวกมีความสามารถพิเศษเหมือนพวกสายบู๊ เขาไม่เห็นพลังแต่สัมผัสได้ แต่เห็นว่าถ้าคนที่เก่งมีความสามารถหน่อยจะเห็นสีของพลังเขาเป็นสีขาวๆอมฟ้า

มันเหมือนกับพลังชีวิต ... พลังนี้จะไปขับพิษทั่วร่างผู้ป่วย ขับพิษออกมาทางผิวหนังพร้อมเหงื่อเป็นเมือกข้นเหนียวสีดำกลิ่นแรง

สาบานว่าถ้าไม่ใช่เพราะเป็นท่านพี่คงไม่ลดตัวมาทำเรื่องพรรค์นี้..

เขาย่นจมูก เบ้หน้าใส่เมือกพิษที่เหม็นรุนแรง ทั้งข้นเหนียวมีสีดำปี๊ สัมผัสก็เหนอะหนะ บ่งว่ามันเป็นพิษรุนแรงมาก

ใช้ผ้าชุบน้ำทำความสะอาดสลับกับขับพิษไปมาอยู่นาน จนพิษที่ขับออกมาหายหมดเกลี้ยง สุดท้ายเขาก็พ่นลมหายใจขึ้นฟ้า ไม่รู้เวลาผ่านไปเท่าไร เวลาเขาใส่ใจกับเรื่องใดก็มักจดจ่อจนลืมเวลาเสมอ

เขาเปิดหน้าต่างออก หวังว่ามันจะระบายอากาศเหม็นเน่าตอนนี้ไปบ้าง รู้ตัวอีกทีดวงจันทร์ก็เผยให้ยลโฉมเด่นหราอยู่กลางท้องฟ้า

เขาย่นคิ้ว ขนมกลีบดอกบัวป่านนี้คงเย็นชืดหมดแล้วกระมั้ง... แค่คิดก็รู้สึกปวดใจอย่างบอกไม่ถูก

แต่ความเสียใจอยู่ได้ไม่นาน อารามเขารีบลุกขึ้นทั้งที่นั่งมานาน รู้สึกมึนหัวอย่างบอกไม่ถูก ไม่รู้เพราะอยู่กับกลิ่นเหม็นหรือเพราะใช้พลังจนเกินขีดจำกัด รู้ตัวอีกทีภาพก็เอนเอียง

ฟุ่บ...

แต่เหมือนสวรรค์จะไม่อยากให้ หลี่ฮวา สิ้นชื่อในเร็ววัน จึงส่งให้ใครคนหนึ่งที่เฝ้าสังเกตุมาตลอดเข้ามาช่วย คว้าเอวผอมบางนั้นเข้าหาตัวได้ทันก่อนที่จะล้มไปกองกับพื้น

มันควรเป็นฉากโรแมนติกที่พบเห็นได้ในนิยายตามตลาด หลี่ฮวา สบกับนัยต์ตาสีดำสนิท เห็นใบหน้าหล่อเหลาที่คุ้นตาอยู่ใกล้เพียงคืบ ลมหายใจอุ่นร้อนวนเวียนอยู่แถวบริเวณพวงแก้มเขา ส่วนมือที่เกาะกุมอยู่ตรงเอวเขาก็ยังนิ่งสนิทไม่ปล่อย

ก่อนที่เขาจะได้ทันพูดอะไร ประตูก็ถูกเปิดพรวดเข้ามา

"อาหลี่ เจ้ารักษาเสร็จแล้วหรือ ข้าเห็นหน้าต่างเปิดอยู่...... อุ้ย" ไป่หลงชะงักเหมือนเห็นสถานการณ์ตรงหน้าเต็มตา เขาเอ่ยอย่างเก้อเขินรีบปิดประตูหนี ไม่กล้ามองหน้าสหายตนแต่อย่างใด

"ข้าขออภัย พวกท่านทำกันต่อเถิด!"

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!