ไม่ว่ายังไง

ตอนที่  5 ไม่ว่ายังไง วันพรุ่งนี้แกกับฉันต้องไปขึ้นเตียง

บนโต๊ะอาหารมี กุ้งเทมปุระ ผัดหอยลายราดพริก

น้ำพริกกะปิ ผัดเผ็ดมะเขือยาว หอยจ๊อ และต้มจืดทะเล

ซึ่งก้อยเป็นคนลงมือทำเสียส่วนใหญ่โดยมีไบสันเป็นลูกมือคอยช่วยและโบ้ที่มาคอยนั่งกิน

“ไปหุงข้าวไป๊” เด็กสาวไล่ให้โบ้ผู้ซึ่งยืนเอ้อระเหย

รอรับประทานอาหารให้ไปทำตัวให้เกิดประโยชน์

“ใส่แค่ข้าวกับน้ำใช่ปะ” โบ้เอ่ยถาม

เพราะเขาไม่ใช่คนที่ชอบทำอาหารเท่าไหร่นัก เขาเดินไปเปิดตู้และนำถุงข้าวออกมา

สำหรับโบ้แล้วเขากับก้อยเป็นเพื่อนบ้านที่สนิทกันจนรู้หมดว่าอะไรอยู่ตรงไหน

จะหยิบจะจับอะไรก็หาได้หมด “แล้วให้หุงเยอะไหม?”

“ใช้ข้าวห้าถ้วยตวงละกัน” ก้อยกำลังคำนวณ

“ล้างข้าวก่อนสักน้ำเดียวพอ ใส่น้ำท่วมข้าวประมาณหนึ่งขีดนิด ๆ บีบมะนาวสี่หยด

น้ำมันพืชหนึ่งช้อนชา เกลือป่นหนึ่งหยิบ”

“โห แค่หุงข้าวมันยุ่งยากจัง” โบ้บ่นกระปอดกระแปด

“เกลือหยิบมือนึงนี่ประมาณไหนอะ? หยิบใหญ่หรือหยิบเล็ก?

หยิบของฉันกับของแกมันไม่เหมือนกันนะ

เกิดหยิบมาใหญ่เกินข้าวเค็มปี๋ฉันไม่ผิดนะบอกก่อน”

“ไบสันครับ ช่วยหน่อย” เด็กสาวขี้เกียจสาธยาย

คำว่าช่วยหน่อยก็หมายถึงทำทุกขั้นตอนนั่นแหละ “ส่วนแก

ไอ้โบ้เอาแรงควายมาคนให้ครีมเทียมขึ้นฟูเป็นวิปนี่มา”

ก้อยขยับตัวออกจากชามสแตนเลสพร้อมกับอุปกรณ์ที่ใช้คน

“มีของหวานด้วย?” โบ้ความอย่างสนอกสนใจ

“อืมลูกตาลซื้อมานานละ

เดียววันนี้เอามาทำวิปครีมลูกตาลราดน้ำผึ้ง”

ก้อยบอกขณะหั่นลูกตาลออกเป็นแนวยาวชิ้นเล็กๆ “เพราะพรุ่งนี้น่าจะใช้พลังงานเยอะ”

โบ้ทำหน้าเหยเก ขณะออกแรงคนครีมเทียมให้ข้นเป็นวิปครีม

ไม่นานนักทั้งของหวานและของคาวก็เสร็จเรียบร้อย

เด็กหนุ่มทั้งสองรับประทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อยด้วยมารยาทบนโต๊ะอาหารที่ค่อนข้างทราม

แต่ในความรู้สึกของเด็กสาวกลับมองว่ามันคือความอบอุ่นรูปแบบหนึ่งที่เธอไม่ค่อยได้สัมผัสเพราะส่วนใหญ่มักจะทำอะไรง่าย

ๆกินเองคนเดียวในตอนเย็น

นาน ๆ

ทีโบ้กับไบสันจะแวะมากินข้าวด้วยถ้าเวลาตรงกันหรือพ่อของทั้งสองคนกลับมาค่ำ

วันไหนที่ก้อยนึกขี้เกียจเธอเองก็มักจะไปฝากท้องที่บ้านของโบ้สลับกันแบบนี้

และแน่นอนว่าก้อยเองก็รู้ดีว่าข้าวของภายในครัวอยู่ตรงไหนดีพอ ๆ

กับโบ้ที่รู้จักบ้านของเธอนั่นแหละ

บางครั้งที่กาสรงานยุ่งก็มักจะเป็นก้อยนั่นแหละที่เป็นคนเตรียมอาหารเย็น

โดยมีไบสันซึ่งเป็นลูกมือที่ดี

ต่างกับโบ้ที่ทำอะไรแทบจะไม่เป็นขนาดเจียวไข่ยังไหม้เป็นตอตะโก

และด้วยวันนี้ก้อยรู้สึกครึ้มอกครึ้มใจที่ทำการบ้านด้วยตัวเองเสร็จก่อนกลับโรงเรียนเป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือน

เธอจึงมีเวลาที่จะทำอาหารมากมายหลายเมนู ซึ่งเอาจริง ๆ

ก้อยเองก็ชอบทำอาหารด้วยนั่นแหละ

เพราะเธอรู้สึกมีความสุขเวลาที่ได้รับประทานอาหารอร่อย ๆ

และการที่ได้ทำอาหารเองมันก็สามารถปรุงรสได้เองและสามารถเพิ่มเติมหรือสร้างสรรค์เมนูอะไรตามใจชอบได้ด้วย

สามารถลองเมนูอะไรใหม่ ๆ

ที่ไม่เคยได้รับประทานจากร้านข้าวแกงที่เน้นทำแต่เมนูพื้นฐานทั่วไปเพราะเวลาทำอะไรใหม่

ๆ ลูกค้ามักกลัวที่จะลอง จึงทำให้ก้อยชอบและค่อย ๆ

ซึมซับวิธีการทำอาหารให้ถูกปากตัวเองและผู้อื่นมากขึ้นเรื่อย ๆ

อีกอย่างก็เพราะเธอต้องอยู่บ้านตัวคนเดียวเนี่ยแหละนะ....

ด้วยเวลาที่เหลือเชื่อเด็กหนุ่มทั้งสองก็จัดการข้าวจนหมดหม้อกับแกงเหลืออยู่นิดหน่อยบนโต๊ะ

แต่ก้อยยังค่อย ๆ เคี้ยวข้าวกินไปครึ่งเดียวอยู่เลย

“ไบสันครับ

พี่ก้อยวานเก็บจานที่หมดแล้วไปล้างให้หน่อยนะครับ” ก้อยบอกกับเด็กหนุ่มที่เพิ่งจะจัดการของหวานเสร็จ

“แล้วหุงข้าวเพิ่มอีกหน่อยนะครับ เผื่อคุณพ่อด้วย”

ไบสันเก็บจานพ้นจากโต๊ะไปแล้ว

ก้อยก็หันไปหาเด็กหนุ่มอีกคนที่กำลังโรยน้ำผึ้งบนวิปครีมลูกตาลของตัวเอง

“ว่าแต่แกไม่บอกแก้วจะดีเหรอ?”

“บอกเรื่อง?” โบ้เลิกคิ้ว มือเทน้ำผึ้งที่ไหลออกมาช้า

ๆ ค้างอยู่

“ก็เรื่องที่พรุ่งนี้เราจะไปซ้อมเอากันไง”

แก้วพูดคำว่าเอาแบบไม่มีเสียงเผื่อไบสันได้ยิน

“อืม....”

โบ้ทำท่าคิดหนักขณะที่ราดน้ำผึ้งที่ไหลช้า ๆ ไปทั่ว “คืองี้นะ....

ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลไหน การที่ฉันไปไหนต่อไหนกับแกที่เป็นผู้หญิง ถึงแม้ว่าเราจะสนิทกันแบบเพื่อนพี่น้องมากแค่ไหน

แต่ฉันไม่คิดว่าแก้วจะโอเคด้วยเหตุผลใด ๆ ก็ตามบนโลกใบนี้”

โบ้สาธยายเพราะแฟนของเขาขี้หึงมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก กอ ไก่ ล้านตัว

“นั่นสินะ” ก้อยพูดด้วยน้ำเสียงอ่อย ๆ

เพราะเธอเคยเจออิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ความหึงสาของแก้วมากับตัว

จนเธอนึกขยาดไม่อยากจะเป็นผู้หญิงแบบเดียวกับแก้วเลยแม้สักนิด

“ขอโทษที่หน้าตาดีว่ะ” โบ้เอ่ยขรึม ๆ

ขณะราดน้ำผึ้งที่ไหลช้า ๆ “ทำเอาคนรักคนหลงโงหัวไม่ขึ้น โอ้ย -- รู้สึกบาปจริง ๆ ”

“ค่ะ -- พ่อคนหล่อ พ่อคนบาปหนา” ก้อยเบ้ปากมองบน

“อะ แน่นอนอยู่แล้ว”

“แต่ไม่ใช่ว่าควรบอกหรอกเหรอ

เกิดแก้วมาเจองี้เดี๋ยวก็ทะเลาะกันอีก”

ก้อยบอกขณะใช้ปลายช้อนดันน้ำผึ้งที่เด็กหนุ่มเทราดจนเกือบจะล้นลงโต๊ะ

“ก็นั่นสินะ” โบ้บอกเซ็ง ๆ

ดูเหมือนเขาไม่ค่อยมีความสุขกับความสัมพันธ์นี้สักเท่าไหร่

“ว่าแต่พวกแกเอากันยัง?” ก้อยถาม

“พรู่ดดดดดดด -- ”

โบ้พ่นวิปครีมลูกตาลราดน้ำผึ้งลงเต็มโต๊ะ “ถามบ้าอะไรของแกวะเนี่ย?”

“ก็แค่ถามว่าเอากันรึยังไง?”

“เออ -- รู้แล้ว!! ได้ยินแล้ว อย่าพูดว่าเอามากได้มั้ย?”

โบ้กลัวว่าน้องชายจะมาได้ยิน

“แล้วสรุปได้เอากันรึยัง?”

ก้อยถามโดยไม่ออกเสียงคำว่าเอา

เด็กหนุ่มหน้าแดงขึ้นมาเล็กน้อยขณะกำลังเช็ดโต๊ะอาหารอยู่

ก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจว่า

“เออ... ไม่ต้องรู้หรอกน่ะ”

เขาบอกด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดเล็กน้อย

“คืองี้นะ”

ก้อยบอกขณะวางช้อนกับส้อมลงแต่ในหัวคิดอะไรสรตะ (แน่นอนไม่ว่ากับใครก็ตามที่มีคนใกล้ชิดย่อมจะหึงหวงเวลาคนที่เราคิดว่าสนิทกัน

ดันไปสนิทกับคนอื่น --

ขนาดก้อยเองบางครั้งเห็นแจนไปพูดจาสนิทสนมกับคนอื่นแล้วไม่ค่อยพูดกับเธอ

ก้อยยังรู้สึกงอนหน่อย ๆ หรือบางครั้งที่แจนไม่สบายไม่มาโรงเรียน

ก้อยเองก็จะเงียบเหงาเปล่าเปลี่ยวมาก ๆ เพราะเพื่อนสนิทหายไป.... แล้วนี่ถ้ายิ่งเป็นแฟนกัน

มันก็จะยิ่งเป็นความรู้สึกที่มากกว่าและพิเศษกว่าเพื่อนสนิทมากมายนัก --

แม้ว่าก้อยเองจะยังไม่มีแฟน

แต่ถ้าเธอมีแฟนแล้วเห็นว่าแฟนไปอยู่กับผู้หญิงคนอื่นซึ่งแม้จะเป็นญาติกันก็เถอะ

เธอก็อาจจะมีความรู้สึกหึงหวงเกิดขึ้นมาบ้างไม่มากก็น้อย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงผู้หญิงคนอื่นที่ไม่ใช่ญาติแต่เป็นเพื่อนกันยังไงเธอก็หึง100%....

แล้วแค่คิดว่าถ้าเป็นเธอซึ่งเห็นแฟนของตัวเองเดินกับผู้หญิงคนอื่นที่ไม่ใช่ญาติท่าทางสนิทกัน

ยังไง ๆ เธอก็คงจะหึง 1000% และคงจะมีปัญหาถึงขึ้นทะเลาะกันล้าน% -- ถ้าแฟนไม่บอกเธอสักคำว่าจะไปไหนกับใคร...

ยิ่งเป็นแฟนที่มีอะไรกันแล้วความหึงคงจะพุ่งขึ้นไป1000ล้าน%.... ไม่รู้ว่าทำไมโบ้ถึงไม่เห็นว่าเรื่องนี้เป็นปัญหาระดับประเทศ

ยิ่งเป็นประเทศแก้วซึ่งพร้อมกดระเบิดนิวเคลียร์ทุกเมื่อแบบนี้....

ก้อยควรจะเตือนโบ้สินะ ต้องเตือนแหละ.... แต่จะเตือนยังไงล่ะ ก็มันเรื่องของโบ้กับก้อยนี่นา....) ก่อนจะเห็นด้วยกับโบ้ที่บอกเธอกลาย ๆ ว่าไม่ใช่เรื่องของเธอ “อืม...

ไม่มีอะไรละ”

“เอ๊า!?” โบ้ร้อง “อีกละ

ทำไมพวกผู้หญิงถึงชอบพูดว่าไม่มีอะไรด้วยวะ มันมีอะไรชัด ๆ”

“เอาเถอะ ๆ”

ก้อยบอกอย่างใจเย็นและกลับไปรับประทานอาหารต่อ “ยังไงก็ตามแกเก็บไปคิดดี ๆ

ก็แล้วกัน ฉันไม่อยากเป็นต้นเหตุให้พวกแกทะเลาะกัน”

“แล้วคือยังไง ๆ

แกก็ไม่ล้มเลิกที่จะไปวันพรุ่งนี้ใช่หรือเปล่า?” โบ้ถามประชด

“แน่นอน -- ไม่ว่ายังไง

วันพรุ่งนี้แกกับฉันต้องไปขึ้นเตียง”  ก้อยพูดอย่างหนักแน่นและบรรจงเคี้ยวข้าวข้างละสิบครั้งแล้วค่อยกลืนเพื่อให้กระเพราะอาหารของเธอย่อยอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!