ในการพัฒนาต้นไม้แห่งชีวิต ความสมบูรณ์และแข็งแรงขึ้นอยู่กับจำนวนของผลึกแร่ที่ใช้ บรรดามดงานทั้ง4รวบรวมมาได้เพียง7-8ก้อน เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่เคยถูกกวาดล้างมาก่อน ทำให้สิ่งมีชีวิตในทวีป ต้องใช้เวลานานในการเติบโตและเริ่มขยายพันธุ์กันใหม่ จูจัดการตามที่สั่ง และตอนนี้เขาสามารถเดินห่างออกมาได้ราว15เมตร มันน้อยจนน่าตกใจ จึงคิดถึงแผนการใหม่เพื่อความรวดเร็วในการพัฒนา
"จู เปลี่ยนหน้าที่หมายเลข1-2-3ใหม่ ให้คอยเป็นผู้ลำเลียงวัตถุดิบอย่างเดียว"
"ค่ะนายท่าน เรียบร้อยค่ะ แล้วเรื่องการออกล่าล่ะคะ จะให้ใครทำหน้าที่นี้ดี"
เขาเหลือบมองผลึกแร่บนพื้น ซึ่งมีสีแดงอยู่3ก้อน สีฟ้า2 และสีเขียวอีก1 ก่อนออกคำสั่ง
"ใช้ผลึกสีแดงพัตนาขนาดผึ้ง4ตัว2ก้อน ส่วนอีกก้อนใช้เสริมความแข็งแรงของเปลือกและปีก แบบนี้ได้มั้ย? "
จูนิ่งไปอึดใจ ก่อนตอบเสียงใส
"ได้ค่ะ แต่ยังเหลือความเข้มข้นของผลึกรูนที่ใช้อยู่นิดหน่อย ให้นำไปใช้พัฒนาด้านไหนดีคะ"
"พัฒนาความแข็งแรงของข้า"
"เรียบร้อยค่ะ รู้สึกยังไงบ้างคะ"
เขาลองขยับร่างกาย พบว่ามันดูคล่องแคล่วขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนพยักหน้าอย่างพอใจและออกคำสั่ง
"ใช้ผลึกรูนสีฟ้า1ก้อน พัฒนาความรู้ให้ผึ้งทั้ง4 และใช้ผลึกรูนสีเขียวอีกก้อน เพิ่มอายุไขของมันด้วย"
"ได้ค่ะ"
"ส่วนผลึกรูนสีฟ้าที่เหลือ เจ้ารับไปเลย พัฒนาตัวเองซะ จู"
"ค.ค่ะ ขอบคุณค่ะ" ผีเสื้อน้อยเอ่ยอย่างดีใจ แล้วจัดการตามที่เขาสั่งทันที หลังจากผึ้งทั้ง4ได้รับการพัฒนา ขนาดของพวกมันก็ขยายเทียบเท่ากับนกอินทรีย์ตัวเต็มวัย ด้วยความที่ปีกถูกพัฒนาไปด้วย ทำให้พวกมันบินได้รวดเร็วไม่ผิดลมพัด ส่วนเปลือกที่แข็งและหนา จนยากที่ศัตรูตามธรรมชาติจะต่อกรและล่าพวกมันเป็นอาหารได้ ผึ้งถูกเรียกว่าหน่วยบินที่1-2-3-4ตามลำดับ มันออกล่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันนั้นเอง มดงานทั้ง4ก็ทำงานประสานกันได้อย่างลงตัว
ผ่านไป3วัน มดก็ถูกพัฒนาขึ้นมาอีก10ตัว โดยในครั้งนี้นางพญามดคือ1ใน10ที่ว่านั่น และที่พิเศษยิ่งกว่านั้นก็คือ ตัวนางพญาได้รับการพัฒนาด้านความรู้เป็นพิเศษ ด้วยความที่นางพญามดถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ร่างกายของมันเริ่มแปรสภาพ จนสามารถยืน2ขา และมีขนาดตัวพอๆ กับเด็ก7ขวบ ส่วนลำตัว ก้น ใบหน้า ดูผสมผสานกันระหว่างมดกับมนุษย์คล้ายปีศาจ เขาและจูพยายามสื่อสารกับนางพญา ซึ่งดูเหมือนจะรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง
"พูดได้มั้ย? " เขาถามเสียงเย็นชา นางพญามดส่ายหน้ารัวๆ
"แล้วฟังที่ข้าพูดออกรึเปล่า" นางพญาพยักหน้า เขายิ้มมุมปากอย่างพอใจ
"ดี แล้วตอนนี้ในรังใครมีหน้าที่ผลิตไข่ " นางพญาทำท่าถอดมงกุฎ แล้วชี้ลงไปในรังใต้ดิน สื่อความหมายกลายๆ ว่า ได้มอบหน้าที่วางไข่และขยายพันธุ์แก่นางพญารุ่นใหม่ เขาพยักหน้ารับแล้วถามต่อ
"แล้วแบบนี้เจ้าจะสั่งงานมดในรังได้รึเปล่า เพราะมีนางพญาตัวใหม่แล้ว" นางพญาพยักหน้าอีกครั้ง สื่อความหมายว่าสั่งได้
"งั้นเหรอ เอาล่ะ ข้าจะตั้งชื่อให้เจ้าว่า ควีน ทำหน้าหน้าที่ควบคุมหน่วยราบ รวมถึงจัดการความเรียบร้อยภายในรังมด โดยอิงแนวทางของคำสั่งจากข้าอีกทอดนึง"
ควีนก้มหัวรับทราบ แล้วเดินไปควบคุมมดงานทั้ง13ตัวทันที ปัญหายุ่งยากเรื่องมดถูกแก้ไปหนึ่งเปราะ ทว่ายังคงเหลืออีกเปราะ นั่นก็คือหน่วยบินของฝูงผึ้ง เขาพัฒนาผึ้งงานขึ้นมาอีก10ตัว และเช่นเคย ว่ามีนางพญาผึ้งรวมอยู่ในนั้นด้วย นางพญาผึ้งถูกตั้งชื่อว่า แจ็ค หล่อนมีลักษณะท่าทางกระตือรือร้นคล้ายอยู่ไม่สุขตลอดเวลา หน้าที่ของแจ็คคือควบคุมหน่วยบิน โดยอิงแนวทางของคำสั่งเช่นเดิม นอกเหนือจากนั้นคืออิสระในการสั่งการ เพราะได้รับการพัฒนาด้านความรู้ จนสามารถตัดสินใจในสิ่งที่เกิดประโยชน์ได้
ระยะห่างจากต้นไม้แห่งชีวิตเพิ่มเป็น50เมตร สิ่งที่ได้เพิ่มขึ้นมาคือด้วง1ตัว ซึ่งเดินหลงเข้ามาในสภาพใกล้ตาย ปีกของมันหัก1ข้าง บ่งบอกว่าได้รับบาดเจ็บจากผู้ล่า เขาหยิบส่วนเขาของมันขึ้นมาพิจารณา แล้วพูดกับตัวเองว่าเจ้านี่แหล่ะ ที่จะกลายเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุด ในบรรดาแมลงซึ่งอยู่ใต้อาณัติเขา เขาสั่งการไปยังจูให้พัฒนาด้วงตัวนี้ โดยเน้นที่ผลึกรูนสีแดงให้มากที่สุด และเสริมด้วยผลึกรูนสีเขียวเพื่อยืดอายุของมัน ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดีและเรียบง่าย จนวันหนึ่ง ในวันที่ความสงบเริ่มถูกรบกวน
"นายท่านคะ ข้าทำตามที่นายท่านสั่งแล้วค่ะ พวกผึ้งจะเน้นล่าเฉพาะสัตว์หรือมอนสเตอร์ตัวเต็มวัย โดยละเว้นตัวเมียที่มีลูก เพื่อรักษาวงจรวัฏจักรไม่ให้ถูกทำลาย มีอย่างอื่นจะสั่งข้าอีกมั้ยคะ"
เขาส่ายหน้า ขณะนั่งกินเนื้อย่างบริเวณสุดเขต50เมตร สายตาของเขาจ้องไปยังทุ่งกราเวนอย่างไร้ความหมาย พร้อมคำถามที่ผุดขึ้นในใจ หันไปถามจู
"นี่จู ไอ้ความทรงจำที่ถูกส่งต่อมาเนี่ย มันของใคร แล้วทำไมถึงได้มีแต่ความเกลียดชังทั้งนั้นล่ะ"
ผีเสื้อน้อยนิ่งไปสักพัก ก่อนตอบเสียงใส
"เท่าที่ข้าได้รับรู้มา มันเป็นของอัศวินคนหนึ่ง อัศวินคนนั้นมีนามว่า อีรอส เขาน่าจะสังกัดอยู่ในพันธสัญญาแห่งแสงนะคะ"
"พันธสัญญาแห่งแสง? "
"ค่ะนายท่าน อยากที่บอก ว่าข้าคือส่วนนึงของชีวิตท่าน การที่ท่านมีความทรงจำแบบนั้น เท่ากับว่าข้าก็มีตามไปด้วย แต่ผิดกันตรงที่ว่าของข้าจะชัดเจนกว่า เพราะบังเอิญได้สารอาหารจากไข่ ที่มีความทรงจำพวกนั้นเข้มข้นกว่าของนายท่าน งงมั้ยคะ? "
เขาขมวดคิ้ว
"ก็ ..งงนิดหน่อย แต่ช่างมันเถอะ ชื่ออีรอสสินะ"
"ค่ะ ชื่อเท่ดีนะคะ "
เขายิ้มมุมปาก แล้วสลัดอารมณ์ฟุ้งซ่านพวกนั้นทิ้งไป ถึงแม้จิตวิญญาณที่มีในตัวเขาจะคุกรุ่นไปด้วยไฟแค้น แต่เก็บตัวแบบนี้ไปก่อนคงจะดีซะกว่า แน่นอน การจะรบราฆ่าฟันกับใครในตอนนี้ไม่ใช่เรื่องดี เพราะนอกจากจะเสียเปรียบเรื่องกำลัง ก็ยังมีอีกเรื่องคือเขาไม่สามารถออกไปไหนได้ เมื่อตระหนักได้จึงลุกและกำลังจะเดินกลับ ทว่าเสียงของใครบางคนดังขึ้น
"โห แถวนี้มีคนป่าด้วยว่ะ " น้ำเสียงนั้นแฝงด้วยคำถากถาง และมันตามมาด้วยเสียงหัวเราะชอบใจ เขาเหลือบมองไปในทิศทางของเสียงที่ว่า พบชายฉกรรจ์ราว10คน ห่มด้วยชุดเกราะหนังและถือดาบยาวไว้ในมือ ด้านหลังคนพวกนั้นมีร่างของมอนสเตอร์กึ่งมนุษย์ ซึ่งเขาก็บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าเป็นมอนสเตอร์ชนิดไหน ที่เห็นได้ชัดคือมีพ่อ แม่ และลูก กำลังถูกล่ามโซ่และบังคับให้เดินตาม
"เห้ยดูมันดิ มันทำสายตาเมินพวกเราด้วยว่ะ " หนึ่งในชายฉกรรจ์โพล่งขึ้น อีกคนโพล่งตาม
"เออจริง ข้าว่าถ้าเราเอามันไปขายด้วยอีกตัว คิดว่าราคามันจะดีเหมือนไอ้สามตัวข้างหลังมั้ยวะ"
ทั้งสองทำท่าปรึกษากัน ขณะที่เขามองด้วยสายตาอันเย็นชา แล้วหันหลังเดินหนีเสีย
"เห้ยๆ ! แกจะไปไหน คิดจะหนีเรอะ"
ชายฉกรรจ์2คนกระโจนมาขวางหน้า พร้อมกุมดาบในท่าทางข่มขู่ ความจริงเขาไม่ได้สนใจพวกมันแม้แต่นิดเดียว ถ้าไม่ติดตรงที่ว่า สายตาดันไปสะดุดเข้ากับสัญลักษณ์อย่างหนึ่ง ที่เป็นเข็มกลัดติดอยู่บนปกเสื้อ สัญลักษณ์นั้นเป็นรูปดาบปักพื้น และมีพื้นหลังเป็นรูปดวงอาทิตย์ ความทรงจำบางส่วนของเขาผุดขึ้นมาทันที ถามเสียงเย็นชา
"นั่นมันสัญลักษณ์อะไร? "
ชายฉกรรจ์ทั้ง2ทำสีหน้าประหลาดใจ ก่อนปล่อยก๊ากอย่างไร้เหตุผล เขาขมวดคิ้ว
"ข้าถามเจ้า มันมีอะไรน่าขำ"
"ขำสิวะ แกไม่รู้จักพันธสัญญาแห่งแสงรึไง นี่ๆ …" (ขยับปกเสื้อให้ดูชัดๆ) "...เห็นมั้ย มันบ่งบอกว่าพวกข้าคือตัวแทนขององกรณ์ ที่แกจะไม่มีวันขัดขืนได้ยังไงล่ะ"
พันธสัญญาแห่งแสง เป็นที่น่าแปลกเมื่อได้ยินคำๆ นี้ ความโกรธของเขาก็พุ่งพล่านอย่างน่าประหลาด ยิ่งคำพูดนั้นมาจากพวกที่ไม่ผิดกับสวะ อารมณ์อยากฉีกพวกมันเป็นชิ้นๆ ก็ยิ่งทวีคูณ ทว่ามันไร้สาระ เขาเดินเลี่ยงพวกมันเสีย ซึ่งแน่นอนว่าคงไม่ง่ายอย่างที่คิด มันทั้ง2กระโจนเข้าขวางอีกครั้ง พร้อมกระชากเสียงดุ
"อย่าขัดขืน มากับข้าซะดีดี"
เขายังคงมองด้วยสีหน้าเรียบเฉย เอ่ยเสียงเย็นชา
"อยากให้ข้าไปกับพวกเจ้างั้นรึ"
หนึ่งในชายฉกรรจ์ยิ้มแยกเขี้ยว
"ใช่ บางทีแกอาจจะราคาดีกว่าที่คิด ยอมซะจะได้ไม่เจ็บตัว"
เขาก็ยิ้มแยกเขี้ยวเช่นกัน
"งั้นรึ ถ้าต้องการแบบนั้น ลองถามสัตว์เลี้ยงของข้าดูก่อนแล้วกัน"
ทั้ง10มองหน้ากันด้วยความงุนงง ก่อนประสานเสียงหัวเราะจนดังลั่นป่า ทั้ง10ไม่ได้รู้ตัวเลยว่า บัดนี้ร่างของตัวอะไรบางอย่าง กำลังคืบคลานช้าๆ ตรงมายังพวกมันทุกคน มัจจุราชตัวนี้มีเปลือกที่หนาดุจเหล็กกล้า และมีสีของเปลือกที่ดำเงาดุจอัญมณี ส่วนเขาของมันโค้งเข้าหากันดูแข็งแรงทรงพลัง มัจจุราชตัวนี้มองเนื้อสดในชุดหนังด้วยแววตาที่แดงก่ำ และมันมีชื่อว่า คิง
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 64
Comments