เสร็จสิ้นจากการเติมความหวานให้แฟนสาว เดฟก็กลับหอพักในมหา’ ลัยทันที ชายหนุ่มมีท่าทางเหนื่ิอยล้าเล็กน้อย ทั้งจากการเรียนและการเดินทางจากคอนโดแฟนสาวมายังหอพักแต่เขากลับรู้สึกว่ามันคือวิ่งจำเป็นที่ร้องทำ
ระหว่างเดินขึ้นบันไดไปยังก้องพักของตนชั้นที่ห้า มือข้างหนึ่งจับราวบันไดส่วนอีกข้างจีบสายสะพายกระเป๋าสีดำ คิดในใจว่าหากถึงห้องขอนอนพักผ่อนสบาย ๆ สักที แต่ทว่าฝันของเขาก็สลายไปในทันใด เมื่อห้องข้าง ๆ ที่ติดกันยังเปิดเพลงดังกระหึ่มอยู่ด้านใน เดฟเดินผ่านมองประตูห้องดังกล่าวด้วยสายตาไม่สบอารมณ์
เป็นเช่นนี้เสมอเมื่อพระอาทิตย์ตกดิน ทุกคนในหอพักรู้ ลุงรปภ.ที่อยู่ยามก็รู้ ว่ากลุ่มสักศึกษาที่อยู่ในห้องนี้แอบเอาแอลกอฮอล์เข้ามาดื่มกันทุกเย็น บางวันตีสองตีสามเวียงเพลงก็ยังดังกระกึ่มอยู่ จนต้องทำให้เดฟหนุ่มรัฐศาสตร์รักเรียน ต้องหนีไปอ่านหนังสือที่ห้องสมุดเป็นประจำ
เดฟไม่มีเพื่อนสนิท เพื่อนร่วมห้องอีกสามคนที่เขาอยู่ร่วมด้วยก็อยู่คนละคณะและมีคนรักกันทั้งนั้น จึงน้อยครั้งหากจะได้อยู่ในก้องครบกันทั้งสี่คน
ทันใดนั้นเองขณะที่เดฟหยุดยืนนิ่งอยู่หน้าห้องดังกล่าวอยู่ครู่หนึ่ง ประตูบานนั้นก็ถูกเปิดออก เผยให้เห็นหนุ่มเจ้าของห้องที่ยังอยู่ในเสื้อช็อปวิศวะ ความจรืงก่อนหน้านี้ช่วงสายของวัย เดฟก็เคยได้เห็นหน้าค่าตาอยู่บ้าง แต่ไม่ถึงขั้นทักทายพูดคุย เพราะเขาเกลียดขี้หน้าหนุ่มวิศวะผู้นี้ตั้งแต่ปี1 เหตุเพราะไร้ความเกรงใจแถมยังทำกร่างว่าตนเป็นใหญ่อีกด้วย
“มองไรวะ!”
“เปล่า” เดฟตอบกลับ เสียงทุ้มของเขามีรอยสะกดกลั้นอารมณ์ ถึงอย่างนั้นสีหน้าก็ยังนิ่งเฉยทำให้หยุ่มเลือดร้อนอย่างบลูโมโหได้ไม่น้อย
“เดี๋ยว!!” บลูรั้งไว้ขณะที่เขาผู้นั้นทำท่าจะเดินหันไปอีกทาง
เดฟหันกลับมาทางชายหนุ่มข้างห้องเจ้าปัญหาอีกครั้ฃ แววตาแอบแฝงความรำคาญใจเล็กน้อย ส่ายศีรษะไปมาเบา ๆ ด้วยคงามเบื่อหน่ายก่อนที่อีกคนจะเริ่มเดินเข้ามาใกล้ด้วยสีหน้าพร้อมมีเรื่อง จนกระทั่งเดฟต้องหันกลับมาจ้องตาเขานิ่ง ทั้งคู่ส่วนสูงเท่ากันแต่ทว่าเรื่องรูปร่างนั้นบลูยังสู้เดฟไม่ได้
“นี่ไง!มึงมองกูอยู่!” เสียงเดือดดาลของหนุ่มวิศวะไม่มีผลต่อหนุ่มรัฐศาสตร์ เขายังคงมีใบหย้านิ่งเฉยๆ ม่เกรงกลัวตาอารมณ์ของอีกคน
“ก็มึงมองกูก่อนเอง” เดฟตอบกลับเสียงเบา ไม่เข้าใจว่าอยู่ใกล้ขนาดนี้อีกคนจะตะโกนไปทำไม ก่อนที่ซันเพื่อนของบลูจะเปิดประตูออกมาดู
“เฮ้ยยย!ไอ้บลู ยังไม่ไปซื้ออีกเหรอวะ” เขาได้ยินเสียงโหวกเหวงโวยวายอยู่หน้าห้องจึงอยากรู้ว่าใครกันที่มันกล้าขัดใจเพื่อนสนิทอย่าบลู
“ยัง!สงสัยเด็กข้างห้องอยากมีเรื่องว่ะ!” บลูตอบกลับเพื่อนแต่สายตายังคงจับจ้องไปยังคนตรงหน้าด้วยสีหน้าพร้อมมีเรื่องตบอดเวลา รอเพียงคนเปอดเท่านั้น แต่ท่าท่างเฉยชาของหนุ่มรัฐศาสตร์มันน่าหงุดหงิดใจเสียจริง
ซันได้ยินเช่นนั้นก็กลั้วขำในลำคอออกมาก่อนจะพูดขึ้น “เหอะ!มาทาวไหนก็กลับทางนั้นไป๊ มึงไม่รู้รึไงพ่อแม่ไอ้บลูเป็นใคร?” พูดพลางชี้นิ้วไปทางบันได
“ไม่รุู่ และไม่อยากรู่ด้วย รู้แค่ว่าห้องพวกมึงเสียงดังกันมากนะ หัดเกรงใขคนอื่นเค้าบ้าง”
“เสียงดังอะไรวะ ไม่เห็นใครมีปัญหาแบบมึงเลย” บลูตอบกลับ ทำหน้าทำตาไม่รู้ไม่ชี้ ในเมื่ออีกคนไม่ยอมเปืดฉากบทต่อสู้เสียทร เขาก็ใช้วิชากวนประสาทแทน “ใช่มะไอ้ซัน” หันไปทางเพื่อนพร้อมทั้งหัวเราะชอบใจ
“ฮ่า ๆ เออ ๆ”
“จบนะ หลีกทางหน่อยครับ ผมจะไปซื่อ…เหล้า!” หนุ่มวิศวะพูดขึ้นใส่หน้าอีกคนเสียงเยาะเย้ย เล่นหูเล่นตาจนน่ารำคาญก่อนจะเดินกระแทกไหล่เดฟและตรงไปยังบันไดทันที
ทันใดนั้นเองซันก๋กบับเข้าห้องเปืดเพลงเวียงดังกระหึ่มต่อไป เดฟเอฃได้ยืนถอนหายใจก่อนจะกลับเข้าห้องตัวเองในเวลาต่อมา ไม่เข้าใจเสียจริง ขณะที่เขากำลังโต้เถียงกับเจ้าของห้องเจ้าปัญหา นักศึกษาที่อยู่ห้องใกล้เตียงก็น่าจะได้ยิน หากออกมาช่วยกันช่วยพูดช่วยกันต่อต้านบ้าง เจ้าคนอวดเบ่งก็คงเลิกกร่างได้บ้าง
เป็นครั้งแรกในรอบสองปีที่เดฟได้เผชิญหน้ากับบลูหลังจากที่อดทนมานาน สงสัยต่อจากนี้คงต้องใช้เวลาอยู่ในห้องนานกว่าเดิมเสียแล้ว
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments