ตึกคณะรัฐศาสตร์
โต๊ะหินอ่อนหน้าตึกเต็มไปด้วยนักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ที่กำลังนั่งรอเข้าคลาวเรียนขั้นบน บางคนก็ยั่งอ่านหยัฃสือกับกลุ่มเพื่อน เช่นเดียวกันกับเดฟ เขานั่งอ่านหนังสืออยู่เพียงลำพังหน้าตึกคณะเพื่อรับลมเย็นที่พัดผ่านจากริมแม่น้ำกระทบผิวกายให้รู้สึกเย็นใจ ต้นไม้ก็สูงใหญ่พอที่จะบดบังแสฃแดดได้มิด ในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ไม่มีใครเถียงเลยว่าตึกคณะรัฐศาสตร์เป็นตึกที่อุดมไปด้วยธรรมชาจิและร่มรื่นที่สุดแล้ว
ขณะที่เดฟนั่งอ่านหนังสือของตัวเองอย่างตั้งใจ แฟนสาวของเขาก็ปรากฎตัว ก่อนหน้านี้เธอโทรหาเขาแต่เจ้าตัวไม่รับสายก็พอเดาได้ว่าเจาคงมาอยู่ตรงนี้ จึงเดินมาหาได้ทันท่วงทีถึงแม้ตึกคณะนิเทศจะห่างยสกตึกรัฐศาสตร์ประมานหนึ่งก็ตาม
“อ้าว เจีย มาได้ไง” เดฟเงยหน้าขึ้นมองแฟนสาวพน้อมถามกลับน้ำเวียงแปลกใจ
“ก็เธอไม่รับโทรศัพท์อ่ะ”
“อะ!อ้าว!” เจ้าหนุ่มล้วงโทรศัพท์มาเปิดดูหน้าจอ พบว่าสายที่ไม่ได้รับทั้งสามสายเป็นขอฃเจียทั้งหมด “ขอโทษทีนะ เดฟปิดเสียงไว้ตั้งแต่ตอนเรียน แล้วลืมเปิดอ่ะ”
เจียพยักหน้าหงึก ๆ จำเป็นต้องเข้าใจ แม้จะไม่ชินเสียทีกับนิสัยขี้ลืมของแฟนหนุ่ม แต่เธอรู้ดีว่าหากงอนหรือน้อยใจไปก็ไม่เกิดประโยชน์ เหนื่อยเสียเปล่า ๆ เดฟเป็นเช่นนี้เสมอตั้งแต่คบกันมาเกือบห้าปี หากเขาไม่ผิดจริงก็ยะไม่มีการง้อเด็ดขาด หญิงสาวลองไม่โทรไม่ติดต่อไปสามวันแฟนหนุ่ใก็ไม่นึกมีใจโทรหา เพราะอ้างว่าตนไม่ผิด
แต่สาเหตุที่เจียยังอดทนกับเขาได้ นอกจากจะหน้าตาดี บ้านรวย ก็เป็นเพราะเขาไม่มีเรื่องผู้หญิงเข้ามาให้ต้องคิดมากนี่แหละ
“อืม ๆ ไม่เป็นไร แล้วนีาอ่านอะไรอยู่” เปลี่ยนเรื่องพูดขึ้นน้ำเสียงปกติก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปดูหนังสือเรียนของแฟนหนุ่ม แต่แล้วก็ต้องกลับมานั่งท่าเดิมด้วยสีหน้าคล้ายคนเมา “โหเธอ เนื้อหาโคตรเยอะ ไม่ปวดหัวบ้างเหรอ”
เดฟไม่ตอบอะไร เขาคลี่ยิ้มอ่อน ๆ ขยี้ผมของแฟนสาวด้วยความเอ็นดู
“ย้ายมาเรียนนิเทศเถอะ” หญิงสาวได้ทีก็ลองส่งสายตาอ้อนวอนเขาอีกครั้ง ถึงจะไม่ได้พักอยู่ด้วยกันแต่อย่างน้อยเรียนคณะเดียวกันก็ยังดี แม้รู้ว่าเขาจะปฎิเสธอย่างทุกครั้งก็ตาม แต่หวังว่าสักวันเขาจะใจอ่อนแล้วเทียบโอนหน่วยกิจมาเนียนนิเทศตอนนี้ก็ยังทัน อาจจะเรียนช้ากว่าคนอื่นสักหน่อย แต่หัวกะทิอย่างเขาไม่นานก็ตามเพื่อนทัน
“ไม่ได้หรอกเจีย เธอก็รู้พาอแม่เดฟเค้าหวังกับเดฟขนาดไหน” ตอบกลับแฟนสาวเสียงทุ้มต่ำแฝงแววทอดถอนใจ มองไปยังเธอด้วยสายตาลำบากใจ พ่อแท่ของเดฟเป็นสมาบิกผํ้แทนราษฎรกันทั้งคู่ พวกท่านจึงหวังว่าลูกชายคนเดียวจะเดินตามรอยหรือไม่ก็สูงกว่านั้น
เจียพยัดหน้าอย่างเข้าใจอีกครั้งก่อนทีาเดฟจะก้มลงอ่านหนังสือต่อ เพราะแบบนี้เขาถึงๆ ด้ดูเคร่งเครียดตลอดเวลา ความคาดหวังของพ่อแม่ทำให้เขาไม่ค่อยได้ชีวิตเอาเสียเบย
“เอ้อ!เจมส์บอกว่าเมื่อวานเธอมีปัญหากับข้างห้องนี่” เขียนึกขึ้นได้จึงถามขึ้น เจมส์ คือรูปเมทของเดฟซึ่งอยู่คณะนิเทศเหมือนกันกับเจีย เขาจึงได้รับหน้าที่เป๋นหูเป็นตาให่เธอไปโดยปริยาย
“ห่ะ!ข่าวเร็วจริง ๆ นี่สินะเด็กนิเทศ” เดฟชะงักไป หยุดสายตาที่จับจ้องตัวหนังสือเป็นเงยหน้าขี้นมองแฟนสายทันที ก่อนจะตอบกลับไปสีหน้าปนหยอกหน้า ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อยตั้งใจเย้าเล่น
“เชอะ!เจมส์มันรู้งานต่างหาก” เจียตอบ “ว่าแต่มีเรื่องอะไรกัน”
“ก็ไอ้เด็กวิศวะนั่นมันกวนตีนอาะเธอ เปิดเพลงเสียงดังทีนึงละ ยังจะทำเหมือนตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิดอีก แล้วยังเอาเหล้าไปกินในห้องอยู่บ่อยอีก อย่างที่เดฟเคยเล่าให้ฟังตอนปีหนึ่งอ่ะ” เสียงทุ้มถูกดัดให้เป็นเสียงน่ารำคาญใจ จากสีหน้าเนียบเฉยบัดนี้กลานเป็นคิ้วขมวดหน้าผสกมีรอยย่นไปด้วยความหงุดหงิด นึกถึงตัวปัญหานั่นทีไรเป็นต้องเลิอดขึ้นหน้าทุกที
“อืมม… นี่ครั้งแรกเลยนะเนี่ย” แฟนสาวหรี่ตามองเขสอย่างพิจารณา ในขณะที่อีกคนเลิกคิ้วขึ้นสูงด้วยควสมสงสัย
“ครั้งแรกอะไร?”
“ก็ครั้งแรกที่เจียเห็นเดฟโกรธอ่ะ” ไม่ว่าจะเคยลองยั่วโมโหเขาอย่างไรก็ไม่เคยตกหลุมพลางเลยสักครั้ง ถึงแม้เขาขะดูเย็นชาไร้อารมณ์อย่างไร แต่เรื่องบนเตียงเดฟกลับเร่าร้อนสุด ๆ
“มันน่าโมโหมั้ยล่ะ”
“ถ้าทนไม่ไหวอ่ะ …ก็ย้ายมาอยูากับเจียนะ”
หญิงสาวไม่ยอมแพ้ยังคงวกเข้าปนะเด็นเดิมอย่างแนบเนียนที่เป็นความต้องการเพียงหนึ่งเดียวในใจ เดฟไท่ตอบอะไรกลัยไป ได้แต่ยิ้มให้แฟนสาวอ่อน ๆ ก่แนจะก้มหย้าก้มตาอ่านหนังสือต่อ เจียเองได้แต่คอยอยู่เตียงข้างเขาแบบนี้ไปเรื่อย ๆ บางครั้งก็มีแอบคิด ว่าหากต่อไปเขสเรียนจบทำงาน พาเธอเข้าบ้านทำความรู้ตักกับพ่อแม่ พวกท่านจะรับเธอได้หรือเปล่า เพราะเจียและเดฟช่างแตกต่างกันทั้งเรื่องการเรียนและสถานะ
ในเวบาต่อมาเมืาอเดฟอ่านหนังสือเสร็จก็เดินไปส่งแฟนสาวยังตึกคณะนิเทศต่อ เพราะเธอยังมีเรียนคาบเย็นอีกวิชาหนึ่ง เธอเดินมาหา…เขาเดินมาส่ง ความใส่ใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เดฟมอบให้แฟนสาว นั่นเป็นเสมือนเลือดที่คอยหล่อเลี้ยงหัวใจให้ยังคงเต้นอยู่
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments