บทที่ 3 : การก่อตัว ของการแก้แค้น

บทที่ 3: การก่อตัว ของการแก้แค้น

….

 บทของ อาค์ 

 ผม กับ อาเรีย รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆ บ้านของเราอยู่ติดกัน เธอเป็นทั้งเพื่อนบ้าน และ เป็นคนที่ผมหลงรัก ผมชื่นชอบตอนที่เราได้คุย หัวเราะไปด้วยกัน เดินไปด้วยกัน กินข้าวด้วยกัน ที่บ้านของผมพ่อทำงานเป็นอัศวิน ท่านเป็นคนที่แข็งแกร่งมาก ส่วนแม่ผมไม่เคยเจอหน้าท่านมาก่อน ท่านหายไปหลังจากคลอดผมออกมา ส่วนน้องสาวจู่ๆพ่อก็พาเธอมาตอนที่ผมอายุได้ 6 ขวบ พ่อไม่เคยบอกอะไรเกี่ยวกับน้องสาวเลย บอกแค่ว่า " เธอชื่อ แมรี่ ต่อจากนี้เธอจะมาอยู่กับเรา " ที่เมืองร้างแห่งนั้นเคยมีชื่อว่า หาฟ์ฟิ้น เคยเป็นเมืองที่งดงามจนกระทั่งเกิดสงครามขึ้นภายในเมือง มีการขัดแย้งระหว่างกลุ่มขุนนางเนื่องจากเจ้าสาวจากตระกูลหนึ่งได้ฆ่าคู่หมั้นของตัวเองลงเพื่อหนีการหมั้นทันทีที่ข่าวนี้ถึงหูพ่อแม่ของคู่หมั้น พวกเขาก็ระดมกองกำลังและ ทหารที่ประจำการในเมืองก็ก่อสงครามภายในขึ้น จนกลายเป็นโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่สงครามรุนแรงมาก ส่วนพ่อผมที่เข้าร่วมกับกองทหาร หาฟ์ฟิ้น ในฐานะผู้บัญชาการสูงสุดของหน่วยรบอัศวินแนวหน้า แต่ถึงพ่อผมจะแข็งแกร่งขนาดไหน ก็ไม่สามารถรับมือกับกองกำลังนักเวทย์จากเมืองแห่งเวทย์มนต์ เอ็กซ์โชเบียร์ ได้ พ่อของผมถูกเวทมนตร์อุกกาบาตใหญ่ยักษ์ถล่มลงใส่ในตอนที่กำลังช่วยเพื่อนของเขาไปที่โบสถ์เพื่อที่จะรักษา ด้วยเหตุการณ์นั้นทำให้ทหารที่ขาดผู้นำ บวกกับกองกำลังจากเอ็กโซเบียร์ได้ล้อมรอบเอาไว้ ทั้งขวัญใจ และ โอกาสชนะก็ดับลง ทหารของหาฟ์ฟิ้นแตกกระจายกันออกไป ส่วนกองกำลังของเอ็กโซเบียร์ก็บุกเข้ามาทำลายบ้านเมืองจนไม่เหลือซาก หลังจาก สงครามจบลง ราชาแห่งอาณาจักรเทร่า ก็ได้สั่งตัดหัวของผู้นำของเมืองเอ็กซ์โชเบียร์ลงทันที ผู้ลี้ภัยของหาฟ์ฟิ้นได้รับการต้อนรับจาก ฟริ้งรัส เนื่องจากทั้งสองเมืองอยู่ใกล้กัน และ ก็เป็นเมืองพันธมิตรทางธุรกิจ ก่อนที่จะเกิดสงครามพ่อได้ส่งผม แมรี่ และ ลูกสาวของเพื่อนรักอย่าง อาเรีย แฟรนไชส์ ให้กับป้า เรเร่ ที่เป็นพี่สาวของพ่อที่เมืองฟริ้งรัส เป็นคนดูแล พอผม และ อาเรียได้อายุ 19 ป้าก็ได้เสียชีวิตลงเนื่องจากโรคร้าย ยังคงเหลือแค่ผมกับ อาเรีย และ น้องสาว ที่ยังอยู่ 3 ปีผ่านไป ผมกับอาเรียได้ตัดสินใจว่าอีกไม่นานเราก็จะแต่งงานกัน ผมทำงานอัศวิน และ กำลังจะได้เลื่อนขั้นเป็นหัวหน้ายามรักษาการณ์ที่ประตูหน้า ส่วนอาเรีย และ น้องสาวต้องอยู่ที่บ้านเพื่อทำร้านขายดอกไม้ พวกเรามีชีวิตที่ดีแล้วกำลังจะดีขึ้นเรื่อยๆ แต่หลังจากนั้น……. ความสุขนั้นก็ได้สูญสิ้น

อาเรีย หญิงสาวที่มีผมสีน้ำตาลเข้ม นัยน์ตาสีม่วง ผิวขาว น่ารัก และ สวยสุด เธอเป็นเหมือนกับแม่ที่คอยสั่งสอนนั่นนี่ให้ตลอด เวลาเธอยิ้มมันช่างสวยราวกับนางฟ้าบนสวรรค์ ทำให้ผมนั้นอยากให้เธอยิ้มตลอดไป ไม่อยากให้ลอยยิ้มนั้นหายไปเลย 

ผมกับอาเรียตัดสินใจไปเยี่ยมหลุมศพของพ่อแม่ของพวกเราเพื่อบอกเล่าเรื่องที่จะแต่งงาน หลุมศพของพวกท่านอยู่ตรงเขดหาฟ์ฟิ้น พวกเขาเลยจะเดินทางไปที่นั่นโดยไปแค่สองคนเพราะมันอันตรายถ้าหากพาน้องสาวไปด้วยอยู่ที่เมืองน่าจะปลอดภัยกว่า ผมบอกลุงเบลล์ที่อยู่ตรงข้ามบ้านว่าช่วยดูแลเธอด้วย ลุงเบลล์แกเป็นขุนนางมีสถานะและ เชื่อใจได้ ผมก็เลยไว้วางใจ ผมได้นำรถม้ามาเตรียมของให้พร้อม แล้วก็ออกเดินทาง. 

 หลังจากพวกเราเคารพหลุมศพเสร็จก็ตัดสินใจเข้าไปดูเมืองเพื่อระลึกเรื่องราวในตอนเด็ก เมืองที่เคยเต็มไปด้วยความงดงาม เมืองที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ร้านขนมหวานที่ผมเคยมาซื้อไปให้อาเรียอยู่บ่อยๆ. 

" อาค์ ดูนั่นสิ ร้านที่นายมาประจำนี่นา "

เธอยิ้มแล้วก็ชี้ไปทางร้านที่เป็นซากบ้านที่ถูกเผาจนดำไปหมด.

" อ่าใช่ ตรงนี้ฉันมาซื้อไปให้เธอประจำเลยละ เห็นบอกว่าชอบนี่น่า "

ผมพูดพร้อมกับ มองไปที่เธอ อาเรียหน้าแดงแล้วก็รีบวิ่งไป. 

" เฮ้!!จะวิ่ง เร็วเกินไปแล้ว!! รอก่อนสิอาเรีย ! "

แล้วผมก็วิ่งตามเธอไป แต่เธอหายไปจากสายตาไปแล้ว อยู่ไหนกันนะ 

" อาเรีย!! อยู่ไหน?? "

 ผมตระโกนเรียกเธอ แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ ผมเดินไปทางโบสถ์ แล้วก็ตะโกนอีกครั้ง.

" อาเรีย!!! เธออยู่ไหนนะ??? อาเรีย!!  ออกมาได้แล้ว!! "

"( กริ๊ด )….!!!!!!! "

 เสียงของอาเรียดังมาจากอีกทาง ผมรีบวิ่งตามเสียงไปทันที วิ่งมาก็เจอกับชายสี่คนที่ยืนรอ พวกเขาจับมือทั้งสองข้างของอาเรียแล้วเหยียบลงบนพื้น พร้อมกับมองมาที่ผม.

" อาค์!! "

อาเรียตะโกนเรียกผมพร้อมกับร้องไห้ออกมา.

" อาเรีย!!! พวกแกปล่อยเธอเดียวนี้นะ! รู้ไหมว่าฉันเป็นใคร?! " 

ผมถอดดาบออกมาจากฟักตรงเอว 

" อ้า ฮ่าๆๆๆ อ้า ฮะๆๆๆ "

  ชายสี่คนหัวเราะพร้อมกัน ส่วนคนที่เยียบอาเรียอยู่นั้นเป็นชายตัวดำสูงใหญ่ หัวโล้น ใส่ชุดสีขาวเหมือนกับอัศวิน ก็พูดขึ้นมา:

"  ทำไมเราจะไม่รู้  อาค์ ลาฟ์ชิลเน่ อัศวินดีเด่นแห่ง ฟริ้งรัส  ฮ่าๆๆ! "

เขาพูดแล้วก็หัวเราะ.

" เอาเท้าสกปรกของแก….ออกจากตัวเธอชะ!!! "

 ผมพุ่งเข้าไปด้วยความเร็ว แต่ก็ต้องหยุด… มีมีดจี้อยู่ที่คอของอาเรีย ผมเห็นแบบนั้นจึงหยุดทันที. 

" อ้า ฮ่าๆๆๆ อ้าวทำไมกันนะ  ทำไมไม่พุ่งมาละ~  กลัวจังเลยนะ ฮ่าๆๆ "

 คนด้ายช้ายของไอ้ดำ พูดแล้วก็หัวเราะออกมา มันมีผมสีทองยาว ใส่ชุดเหมือนกับไอ้ดำ ตัวไม่สูงมาก มือถือมีดสองเล่ม.

" ฉันว่า คงสะดุดอะไรสักอย่างนะ ฮ่าๆๆ "

  คนช้ายสุด หัวเราะจนปวดท้องพร้อมกับเอามือจับท้องเอาไว้อีกข้างส่วนอีกข้างจับแขนของอาเรียไว้ มันมีผมสีดำ

" คุณรู้ไหมว่าเรามาที่นี้ทำไม? " 

  อีกคนด้านขวาสุด ถามมาแล้วก็ยิ้ม อย่างสะใจ มันมีผมสีทอง ยาวจนถึงหู มือจับแขนอาเรียไว้ ส่วนอีข้างก็จับดาบที่อยู่ด้านหลัง. 

  " อาค์ หนีไป อั–!!!

เธอถูกชายหัวทองผมสั้นด้านช้ายเยียบที่หัว ก่อนจะพูดจบ.

" หุบปาก!! เอาละอาค์ ทิ้งอาวุธทั้งหมดชะ "

 หมอนั่นพูดแล้วมองมาที่ผม.

" พวกแกต้องการอะไรกันแน่ ? "

  ผมถามด้วยความใจเย็น 

" ฉันบอก!! ให้ว่างอาวุธลง!!! "

หมอนั่นตะโกนออกมาดังลั่นแล้วทอดดาบที่อยู่ข้างหลังพร้อมที่จะตัดลงมาที่หัวชองอาเรีย แกร๊ง! ผมทิ้งดาบลง.

" เอาละ ปล่อยเธอไปชะ "

ผมยกมือทั้งสองข้างขึ้น.

" เมวิส! ไปเอาดาบมาสิ! "

" ครับ!"

 คนด้านช้ายสุด เดินออกมาทางผม เขาเดินอ้อมไปข้างหลังแล้วเก็บดาบ หลังจากนั้น ตุ๊บ!! …

" อัก..!!! "

" อาค์ !!! " อาเรีย

 ผมรู้สึกเหมือนมีของแข็งฟาดเข้าที่ท้ายทอยอย่างแรง จนล้มลงไปที่พื้น พวกมันก็ขำกัน " ฮ่าๆๆๆ " ไอ้โล้นดำ มันมายกผมขึ้นแล้วลากไปที่เสาธง หลังจากนั้นก็มัดมือผมไว้แน่นติดกับเสาธง

" ดูสิ มันยังมีสติอยู่ล่ะทุกคน!! "

" เฮ้ย จริงดิ ๆ "

เสียงของชายสองคน ตาของผมพร่ามัว ผมค่อยๆรวบรวมสติ….

" พวกแก…คืดจะทำอะไรนะ ..? "

ผมพูดด้วยเสียงที่แผ่วเบา 

" อ้าา! อย่านะ! ไม่ๆ "

ฉูด!! ฉาด!! เสียงของอาเรียมาพร้อมกับเสียงของเสื้อผ้าที่เหมือนกับถูกฉีกขาด.

" ไม่ๆๆ ปล่อยอาค์ไปเถอะ อ้าา "

" ปล่อยหรอ ไม่ๆ มาสนุกกันเถอะ เดี๋ยวพวกเราจะเป็นอาค์สุดที่รักให้กับเธอเอง~~ !!"

" กรี๊ดดดด!!!! "

เสียงพวกโจรกำลังบังคับเธอ….

 " เสียงอะไรนะ……"

 ผมค่อยๆ มองเห็นฉัดขึ้น…….. พวกมันกำลัง…ข่— ขื—- ความโกรธที่กำลังกลืนกินตัวผม มันรุนแรง มันระเบิดออกมา … ผมดินสุดแรง…  " แกร๊ง!  " เสียงของเสาธงที่กระทบกับพื้นดังสนั่น " แกร๊ง! แกร๊ง! แกร๊ง! แกร๊ง!...."

" อาเรีย!!!!! อาเรีย อาเร– "

ตุ๊บ! ชายคนที่ยืนด้านข้างเตะที่ไต้ขางของผม … 

" หุบปาก! ร้องอยู่ได้ ! พวกแกเร็วๆ หน่อย ! "

หมอนั่นสั่งให้พวกนั้นที่กำลังฉีกกระชากเสื้อผ้าของเธอขาดกระเด็นจนหมด.

" ได้…..เว….ลา…. สนุกแล้ว~~~ "

" ฮ่าๆๆๆ เอา เลย เอาเลย เอาเลย "

สีหน้าที่ชั่วร้าย และ น่าเกลียดที่กำลังคิดจะทำอะไรสักอย่าง

 พวกมันกำลังสนุกที่ ได้กระทำกับเธออย่างโหดร้าย ทั้งข่มขืน สาระพัด ทุบตี จูบ กอด จับหน้าอก เลีย แล้วก็……

" หยุดเถอะ !! อย่า !!! อ้า ! "

เธอร้องด้วยความเจ็บปวด.

" หยุดไง….. บอกให้หยุด !!!!!!!! 

แกร๊ง! แกร๊ง ! แกร๊ง! แกร๊ง ! แกร๊ง! แกร๊ง ! แกร๊ง! แกร๊ง ! แกร๊ง! แกร๊ง ! แกร๊ง! แกร๊ง ! แกร๊ง! แกร๊ง ! แกร๊ง! แกร๊ง ! แกร๊ง! แกร๊ง ! 

 ฉันจะฆ่าพวกแกให้หมด!!!!!! "

ตุ๊บ! ตุบ! ตุบ! ผมถูกเตะ ต่อย ถุยน้ำลายใส่ แล้วก็เตะอีกครั้ง 

" นางนี่มันสวยจริงๆ ดูสิเธอยังไหวอยู่นายก็มาด้วยสิฉันจะดูหมอนั่นให้ ฮ่าๆๆ มันส์ดีจริง "

 แล้วคนที่ยืนข้างผมก็ เดินไปที่เธอ  เธอใช้มือจับขาแล้วกอดขาหมอนั่นไว้.

" ปล่….ปล่อย…อาค์ ไ- เถอะ "

เธอขอร้องให้พวกนั้นปล่อยผมไป น้ำตาของเธอไหลออกมาไม่หยุดร่างกายฟกช้ำไปหมด.

" ก็เอาสิ… หลังจากคบรอบเราทั้งสี่คนอะนะ!!!!! "

" ฮ่าๆๆๆๆๆ "

" ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ "

พวกมันหัวเราะกันอย่างมีความสุข…

" ไม่!!!!!!!! "

" แกร๊ง! แกร๊ง! แกร๊ง! แกร๊ง! แกร๊ง! อ้าาาาาาา!!!!!!! โถ่วโว้ยยยย "

อาเรีย และ ผมกรีดร้องเสียงดังลั่น หลังจากนั้นเธอใช้มือ ตบไปที่หน้าของ หัวหน้าพวกมันไอ้ผมสั้นหัวทอง (โพทิสเซ่ อามไรเนอร์) …. " เปรี๊ยะ!!! "

" ปล่อยอาค์ไปนะ !!! "

 เธอใช้แรงเฮือกสุดท้ายทุบตีหมอนั้น 

" ฉับ……….. "

ทุกอย่างเงียบลง…. เสียงของดาบตัดอะไรสักอย่าง ผมมองภาพทุกอย่างตรงหน้า การข่มขืน รอยยิ้มชั่วๆ ไปจนถึง ใช้ดาบตักมือเธอ…

" ทุบอยู่ได้! ใครจะต่อ "

" ฉันๆ "

…….

…………..

………………….

…………………………

 

ไม่รู้นานเท่าไหร่กว่าทุกอย่างจะเสร็จสิ้นเมื่อไหร่ ผ่านไปนานเท่าไหร่ รู้สึกว่ามันช่างยาวนานเหลือเกิน ทีมันทำร้ายเธอ ย่ำยีเธอแม้ว่าจะไม่มีทางสู้ แม้ว่าจะเจ็บปวดขนาดไหน เธอก็ยังตั้งใจที่จะมีชีวิตอยู่ต่อ ทำไมละอาเรีย ทำไมเธอไม่ยอมตายละอาเรีย ขอร้องหลับตาลงเถอะนะ ฉันไม่อยากเห็นเธอเจ็บปวดไปมากว่านี้ 

" โว้ว!! เหนื่อยจริงๆ จัดหนักไปหน่อย "

ชายตัวใหญ่หัวล้านพูด. 

" ฉันเสร็จไปสามรอบเลยละ ฮ่าๆๆๆ "

คนที่มีผมสีทองยาว พูดแล้วก็หัวเราะ… 

" เธอตายยังวะ…… เหลือจะเชื่อยังหายใจ!!! "

 ชายที่มีผมสีดำ พูดแล้วก็ตกใจ 

" พวกแกเล่นเยอะเกินไปแล้ว เอาละเก็บข้าวของแล้วกลับกันเถอะ "

ชายที่ผมสีทองยาวถึงหู พูด 

" อ่าๆ คุณเอานานที่สุดไม่ใช่หรอหัวหน้า "

ชายผมดำพูด 

" แล้วจะเอาไงกับหมอนี่ " ผมทองยาว 

" ทิ้งมันไว้เดี๋ยวก็ตายเอง ที่นี่ไม่มีใครผ่านมาหรอก จะมีก็แค่มอนสเตอร์เท่านั้นแหละ เอารถม้า และ ข้าวของมันไปให้หมด "

หลังจากนั้น พวกมันก็เดินจากไปโดยไม่สำนึกกับสิ่งที่มันทำลงไป…. 

" อาค์! อา– "

เสียงเรียกเบาๆ มาจากด้านหน้า ผมเงยหน้ามองไปดูต้นเสียง 

" ฉันรักนายนะ "

เธอยิ้มแล้วก็ร้องไห้ เธอ….. 

" ฉันขอโทษที่ อยู่กับนายต่อไปไม่ได้ ฉันขอโทษ "

เธอพูดเสียงดังที่ชัดเจนมาก … ทำไมละ ทำไมเธอถึงยัง…

" ลาก่อนนะ…….." 

ที่เธอไม่ยอมตาย เพื่อที่จะ…..   บอกกับเรา…เธอหลับตาแล้วก็จากไป ….. เลือดของเธอไหลออกมาทั่วพื้น…. แต่ทำไมเธอถึงอยู่จนถึงตอนนี้..

" ฉันก็รักเธออาเรีย "

" อาเรียยยยยยยยย!!!!! "

ผมร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ความโกรธ เศร้า แค้น!!

ผ่านไปสี่วันผมนอนไม่หลับ เอาแต่ร้องไห้ จนตอนกลางวันมีชายคนหนึ่งผ่านทางมา เป็นเอลฟ์ เขามีผมสีขาว  ตาสีน้ำเงิน เป็นดวงตาที่เหมือนไม่เหลืออะไรในชีวิต เขาเดินดูรอบๆ ไม่คิดแม้แต่จะสงสารหรือเหยียดหยาม มีสิ่งเดียวแค่สงใส เขาช่วยผมออกจากเสาธง ผมวิ่งไปกอดอาเรียทันที……. 

จากนั้นเขาก็ช่วยขุดหลุม แล้วช่วยฝังร่างไร้วิญญาณของเธอ.

...ผมจะมีชีวิตอยู่เพื่อที่จะ ฆ่าพวกมันเท่านั้น....

...ลาก่อน อาเรีย……...

...#ตอนต่อไป: นักผจญภัย และ อัศวิน...

...เขียนแล้วเศร้าจริงๆๆๆ !!! เอื้อ!!...

...เขียนโดย SEKI OFFICIAL...

...ผู้ช่วย: ...

...1.ยุยู...

...2.@Axion...

...3. ( เจ้าตัวไม่ระบุชื่อ )...

เลือกตอน

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!