บทที่ 1: ต่างเผ่าพันธุ์
……
ผมเดินไปเรื่อยๆมาสี่ชั่วโมงแล้ว น้ำก็หิว อาหารก็ไม่มี ผมมองเห็นเมฆสีดำเริ่มเกาะกลุ่มกัน เลยตัดสินใจเดินเข้าป่าไปดีกว่า เพราะถ้าฝนตกกลางทุ่งแบบนี้มีหวังฟ้าได้ผ่าลงมากลางหัวแน่ ผมใช้เวลาเดินไปป่าทางขวาทิดตะวันออกเพื่อหลบฝน เดินแค่20นาทีก็ถึงป่าอย่างไว บอกตามตรงว่าป่ารกมาก ถ้าไม่มีฝนผมไม่มีทางที่จะเข้าไปเด็ดขาด คิดแล้วฝนก็เริ่มรินลงมาทันที ให้มันได้อย่างนี้สิ!!
ผมอาใสเดินริมป่าเอาไว้เพื่อไม่ให้เข้าไปลึกมากนัก ผมไม่มีอาวุธ หรือ ที่จุดไฟ เพราะงั้นการเข้าป่าจึงเสี่ยงมาก ผมโชคดีมาที่เดินไปเจอต้นไม้ใหญ่พอดี ผมเลยใช้ใบไม้จากแถวนั้นกลองเอาน้ำฝนมาดื่ม ผมรู้ว่ามันไม่สะอาดแน่ แต่สถานะการแบบนี้ป่วยก็ดีกว่าตายล่ะวะ ใช่ผมเปียกน้ำแล้วก็หนาวสุดๆ ผมทำได้แค่ถอดชุดที่เปียกออกหลังจากนั้นก็นั่งรอไต้ต้นไม้ใหญ่ๆนั้นจนกว่าฝนจะหยุด…… ผมมีนาฬิกาข้อมือติดมาด้วย โชคดีที่มันกันน้ำ แต่นี่มันก็ผ่านมานานแล้วนะแถมอีกสองชั่วโมงก็มืดแล้ว ฝนตกแบบนี้ไม่หนาวตายก็ยุงกัดตายแน่ๆ…
ผมนั่งอยู่แบบนั้นทั้งคืน มีทั้งยุง และ แมลงแปลกๆ มาเกาะไต่ตัวไปมาตลอด เป็นคืนที่ทรหดมาก ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ในความมืดนั้น และแล้วดวงอาทิตย์ก็โผล่หัวออกมาได้สักที ผมมองไปรอบๆถึงจะยังมืดอยู่บ้างแต่ก็มีแสงที่ส่องผ่านกิ่งไม้ หน้าผิดหวังไปหน่อยเพราะในป่ามีแต่หมอก ตอนเข้ามามันมืดแต่ตอนออกนี่สิชิบหายแล้ว กูเข้ามาจากทางไหน อาหารก็ไม่มีนอนก็ไม่ได้ ตอนนี้สติก็เริ่มจะหายไปทีละนิด ป่าก็หนาสะจนมองไม่เห็นทางข้างหน้า และ ข้างบนเลย มองจากเงาของต้นไม้แล้วบ่งบอกได้ว่าพระอาทิตย์ขึ้นทางไหน งั้นเราเข้าป่ามาทางตาวันตกสินะ ผมตัดสินใจเดินไปทิศทางเดียวกับเงาของต้นไม้ แต่เมื่อเดินไปเรื่อยๆก็เจอทางออกจากป่า โอ้ววว! ผมทำท่าดีใจพร้อมกับยื่นมือทั้งสองข้างไปข้างหน้า แต่ว่ารู้ตัวอีกที เสื้อผ้ากูละ….. ผมเหลือแต่กางเกงใน ผมเริ่มจะร้องไห้กับความโง่ของตัวเอง แล้วแบบนี้ถ้าเจอมนุษย์จะพูดยังไงดีละเนี่ย.
ท้องของผมเริ่มร้องดังขึ้นเรื่อยๆ …. ผมเดินไปทางเหนือเรื่อยๆมันเป็นทางเดียวกับเมืองที่เป็นเงาลางๆถึงแม้จะมีหมอกแต่ก็ยังมองเห็น พอเดินมาได้สักผมก็ได้ยินเสียงที่รอคอยมานาน มันคือเสียงร้องของม้า แล้วก็เสียงวิ่งขอบม้า ผมมองเห็นมันไม่ได้ไกลมาก เหมือนจะใกล้เข้ามามากกว่า มีม้าสามตัวพร้อมกับคนอีกสามคน ผมไม่รู้ว่าจะเป็นคนดีหรือโจร อันที่จริงคนที่เหมือนโจรอาจจะเป็นเราแทนก็ได้ พวกเขาขี่ม้ามาตามริมป่า เหมือนกับมาราดตระเวรยังไงอย่างงั้น เหมือนพวกเขาจะมองเห็นผมที่อยู่ทุ่งหญ้า พวกเขาขี่เข้ามาใกล้ ผมรู้แล้วล่ะว่า นี่น่ะ ต่างโลกของแท้แน่ตอน คนที่ขี่ม้ามาเป็นเอลฟ์ ไม่อยากจะเชื่อ เป็นผู้หญิงพร้อมกับชุดเกาะหนังสามคน ผมยาวสีทองแวววาว มีในตาสีเขียวมรกต บอกตามตรงว่าพวกเธอมีหน้าตาสวยกว่าสาวในจินตนาการของผมสะอีก ผมเอามือกุมที่ว่างขาเอาไว้ทันที หนึ่งในนั้นถามออกมาว่า:
" นายเป็นใคร? สภาพแบบนั้นถูกโจรปล้นมาสินะ "
ผมแปลกใจที่คุยกันเข้าใจแต่ก็ดีเหมือนกัน นึกว่าจะพูดภาษาเอลฟ์เหมือนในอนิเมะสะอีก.
"...ขอโทษที่ให้เห็นสภาพนี้แต่ ที่จริงแล้วฉัน….."
ผมเล่าทุกอย่างให้ฟัง แต่ว่ายกเว้นเรื่องมาจากโลกอื่น ผมบอกแค่ว่าความจำเสื่อม มุขแบบนี้พวกเธอจะเชื่อไหมนะ.
" นี่นายจะบอกว่า เพราะความจำเสื่อมเลยไม่รู้มาจากไหน แล้วก็มาโผล่ในป่าสินะ ส่วนชุดของนายที่ทอดไว้ก็ลืมว่าทิ้งไว้ไหน เพราะรีบออกจากป่า?? "
" ใช่ "
พวกเธอสามคนยกยิ้มขึ้นแล้วก็หัวเราะ…. " อะ…ฮ่าๆๆๆ " แล้วเธอก็ถามอีก ผมสงใสเหลือเกินทำไมสองคนนั้นถึงไม่พูดอะไรเอาแต่ขำ.
" โทษทีๆ เอาเถอะ เดี๋ยวนายก็สบายแล้ว ฉัน เนย์ ส่วนคนด้านขวาคือ นีน่า ด้านช้ายคือ นีนี่ พวกเราเรียกตัวเองเองว่า อิสเตอร์ [Eater] "
ผมสงใสจังว่าทำไมโลกนี้มีภาษาาอังกฤษด้วยแต่ก็ช่างมัน พวกเธอพูดแปลกๆคงเป็นเพราะเอลฟ์อาจจะพูดภาษามนุษย์ยาก.
" ฉัน …..เรย์ ยินดีที่ได้รู้จัก "
พวกเธอทำหน้าตาตกใจมาก ….
" นี่นายไม่รู้จักพวกเราหรอ? "
เพราะไม่รู้จักเนี่ยแหละเลยไม่บอกชื่อจริงไป แต่บอกแบบนั้นไม่ได้นะสิ ฉันแปลกใจตั้งแต่ที่เธอพูดอยู่คนเดียวแล้วสองคนนั้นเป็นไบ้ หรือ เห็นฉันเป็นไอ้โรคจิตเลยไม่อยากคุยด้วยกันหะ.
" ใช่นะสิ ฉันจำอะไรไม่ได้เลย ถ้าพวกเธอพาฉันไปที่หมู่บ้านใกล้ๆนี้จะขอบคุณมากครับ "
พวกเธอยิ้มอีกแล้ว เลิกจ้องฉันได้แล้วอายโว้ยยย…
" ที่นี่ไม่มีหมู่บ้านใกล้ๆหรอก เดี๋ยวไปพักที่บ้านของพวกเราก่อนไหมจะต้อนรับอย่างดีเลย "
" ใจดีจังเลยนะครับ "
" ไม่เป็นไร " เธอยิ้มแล้วก็ยื่นมือมาเพื่อช่วยให้ผมขึ้นไปนั่งบนม้าของเธอ.
ผมขึ้นไปกับพวกเธอแล้วก็ออกเดินทาง ระหว่างทางผมก็ถามถึงพวกเธอว่า ทำไมถึงมาอยู่ที่แบบนี้ พวกเธอบอกว่า พวกเธอเป็นนักผจญภัยก็เลยออกมาที่นี่เพื่อล่าสัตว์ และ มอนสเตอร์เพื่อนำไปขาย ที่นี่เหมือนจะเป็นถิ่นออกล่าประจำสำหรับพวกเธอ พอดีเช้านี้ออกมาขี่ม้าเล่นก็เลยเห็นฉันเข้า ถือว่าโชคดีสุดๆ ผมถามถึงเมืองที่อยู่ทางทิศเหนือ พวกเธอบอกว่า มันคือเมืองร้างที่ไม่มีคนอาศัยอยู่แล้ว เนื่องจากสงครามภายในจึงทำให้เมืองแตก และ ล่มสะหลายไปเอง ….นี่ถ้าผมเดินต่อไปจนถึงเมืองละก็มีหวัง สิ่งที่จะล่มสะหลายต่อไปคงเป็นผมแน่ บ้านของพวกเธออยู่ไม่ห่างจากเมืองร้างนั่นหนัก ลึกเข้าไปในป่าใกล้เมือง เข้าไปประมาณสองกิโลก็เห็นบ้านยุโรปแบบสองชั้น มีน้าตางสี่บานด้านล่าง และ ด้านบน เป็นบ้านที่ค่อนข้างจะกว้างสีขาว หลังคาปูด้วยแผ่นไม้สีเทาสะอาดตา เก่าไปหน่อยแต่ก็พออยู่ได้ มาถึงพวกเธอก็ให้คนที่พูดกับผมพาเข้าไปในบ้านส่วนอีกสองคนเอาม้าไปผูกไว้ข้างบ้าน ผมเดินตามเธอเข้าไปในบ้าน พายในบ้านด้านขวาก็เป็นห้องรับแขก มีโชฟาที่ไม่เก่ามากเหมือนว่าพึ่งถูกปัดฝุ่นออกไม่นาน เธอบอกให้ผมนั่งอยู่ตรงนั้นสักพัก แล้วเธอเดินขึ้นไปบนชั้นสองของบ้าน.
หลังจากนั้นสองคนนั้นก็เดินเข้ามา พวกเธอนั่งโชฟาด้านตรงข้ามกับผม พวกเธอเอาแต่มองมาที่ร่างกายผมแล้วก็หน้าแดง… คนที่ควรจะเขินมันฉันเฟ้ย!! แต่พอมองดูดีๆแล้วพวกนี้หน้าเหมือนกันอย่างกับแยกร่างออกมาเลยถ้าไม่มีชุดเกาะที่มีสีต่างกันผมคงแยกไม่ออกนะเนี่ย แล้วผมจึงถามออกไป:
" พวกเธอเป็นแฝดกันหรอครับ? "
สองคนนั้นมองหน้ากันแล้วก็ตอบพร้อมกัน.
" ใช่…"
……..
" แล้วพวกเธอเป็นเอลฟ์หรอ? "
" ใช่ค่ะ ……แต่ …เดี๋ยวนะ…"
ผมต่างหากที่ต้องพูดคำนั้นเพาะเล่นพูดพร้อมกันได้ตรงเปะเกิน
" ไม่ใช่ว่าคุณเสียความทรงจำงั้นหรอ? "
….ควรแปลกใจแต่ตอนฉันบอกชื่อไปแล้วไม่ใช่หรอ -_-
" ที่จริงแล้ว มีแต่บางส่วนที่หายไป ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นเรื่องราวของตัวเอง และ โลกใบนี้น่ะครับ บางเรื่องผมก็อาจจะรู้ และ ไม่รู้ก็ได้ "
พวกเธอพะยักหน้าแล้ว ทำหน้าประหลาดใจแล้วก็เงียบไป หลังจากนั้นอีกคนก็ลงมาพร้อมกับยื่นชุดให้กับผม มันเป็นชุดเก่าๆ เหมือนกับชุด NPC ในเกมส์ที่มีอาชีพเป็นชาวนาเลย แต่ก็ไม่ได้แย่.
" ขอบคุณครับ " แล้วผมก็สวมชุด ที่จริงก็อยากอาบน้ำอยู่หรอกแต่บ้านแบบนี้ไม่น่าจะมีน้ำใช้แน่.
แล้ว เนย์ ก็พูดออกมาว่า " เดี๋ยวพวกเราทำอาหารให้ นายไปรอที่ชั้นสองห้องช้ายสุดนะ เสร็จแล้วเราจะไปเรียก "
" ครับ "
ผมเดินขึ้นไปข้างบน ทุกก้าวที่เดินได้ยินเสียงของไม้ที่เหมือนจะถล่มลงไปได้ตลอดเวลา ผมเปีดห้องด้านช้ายสุดตามที่เขาบอก เข้ามาข้างในมีเตียงเก่าๆ กับผ้าห่มที่ มีกลิ่นแปลกๆ เหมือนกลิ่นของสัตว์ป่า หรือ ไม่ก็เหมือนกลิ่นคาวปลา ผมจรึงเอามันไปไว้ข้างเตียงแทน ทันทีที่ผมนอนลงบนเตียงก็หลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ ผมตื่นมาอีกทีก็ได้ยินเสียงคนคุยกันจากหน้าห้อง.
" ต้องอร่อยแน่ๆ!!! "
" คืนนี้ฉันต้องได้กินก่อน "
" ไม่ได้ๆ เขาหน้าตาใช้ได้เลยนะ ขอสักคืนเถอะ "
" พวกเธอสองคนหยุดพูดก่อนชิ เดี๋ยวเขาก็ตื่นหรอก "
และเสียงเปิดประตูก็ดังขึ้น ผมจึงค่อยๆแกล้งลืมตา แล้วลุกขึ้นมา…
" ขอโทษนะครับ ผมเผลอหลับไป "
เนย์ตอบกลับมาแล้วยิ้ม.
" ไม่เป็นไรเดี๋ยวนายตามลงมานะอาหารเสร็จแล้ว "
แล้วเธอก็เดินออกไป อีกสองคนก็เอาแต่ยิ้มแล้วก็เดินตามไป บางครั้งผมก็เริ่มรู้สึกกลัวกับรอยยิ้มพวกนั้นเลยล่ะ รู้สึกมีบางอย่างไม่ดียังไงไม่รู้ เมื่อก่อนที่จะมายังที่แห่งนี้ ผมทำงานเป็นคนของรัฐบาล ทุกวันเจอแต่รอยยิ้มจอมปลอมของพวกนักการเมืองที่เอาแต่ใส่หน้ากากเข้าหากัน ผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น พวกเขาใช้คำพูดทุกอย่างเพื่อเอาใจของอีกฝ่ายเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง นอกจากนั้นการที่ผมจะได้มาเป็นแบบนั้นผมต้องไปเกณฑ์ทหาร และ ฝึกอะไรหลายๆอย่าง ตอนนี้ยังรู้สึกขอบคุณที่ฝึกมา ไม่งั้นได้หนาวตายในป่าแน่.
ผมเดินลงไปที่ห้องรับแขกพวกเธอสามคนนั่งรอผมอยู่ข้างล่างแล้ว.
" ขอโทษที่มาช้านะครับพอดี พึ่งตื่นเลยยังมึนๆอยู่นิดหน่อย "
" ไม่เป็นไร มานั่งสิ นายคงหิวแล้ว " เนย์พูด
ผมนั่งลงบนโซฟาที่เดิม แต่เหมือนว่าพวกเธอจะยกโต๊ะมาตรงโชฟานี้ตั้งแต่เมื่อไรกันน่ะ แปลกจังเลยนะทั้งทีใส่เกาะแบบนั้นแต่กับไม่มีดาบ หรือ ไม้เท้าเวท พวกเธอเป็นนักสู้มือเปล่าละมั้ง ผมมองไปที่อาหาร…..สัญชาติญาณมันบอกผมว่าอย่ากินสตูเนื้อนั้นเด็ดขาด…. ไอ้ความรู้สึกนี้มันอะไร มันก็แค่สตูธรรมดา แต่ทำไมร่างกายถึงต่อต้าน ในโต๊ะมีสตูเนื้อ ข้าวปั้น และ มันฝรั่ง ผมเลือกที่จะกินมันฝรั่งแค่หัวเดียว ส่วนทั้งสามก็ทานอาหารกันปกติ ผ่านไปสักพักก็อิ่มกันหมด พวกเธอเหมือนจะมีความสุขมาก.
" เดี๋ยวผมเอาจานไปล้างที่ครัวนะครับ "
พูดเสร็จก็เก็บจาน มือผมไม่ทันได้ถึงจานด้วยซ้ำเนย์ก็ตอบทันที.
" ไม่!!! "
นำเสียงดูเยือกเย็น และ น่ากลัวมาก.
" แต่ฉันช่วยได้น– "
" ไม่!! "
ผมตกใจมากก็เลยนั่งลง
" เรย์ละก็ นายเป็นแขกนะ เราทำเองน่านะ "
เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวาน ผมจึงทำได้แค่พยักหน้า เธอก็เก็บจานแล้วเดินไปที่ครัว ผ่านไปสักพักคนที่นั่งข้างๆ ผมก็ พูดขึ้นมา ทั้งๆที่ตอนนั้นยังไม่ค่อยจะพูดอะไรเลย คนๆนี้คงจะเป็น นีนี่ สินะ.
" นี่ สกิลของนายคืออะไรหรอ? "
เอ๋ะ…เหมือนกับในเกมนะหรอ จะว่าไปฉันก็ยังไม่ได้ตรวจสอบเลย ที่ผ่านนึกว่าไม่ใช่ต่างโลกเลยไม่ได้ลองดู ว่าแต่มันดูยังไงละเนี่ย.
" เธอหมายถึงอะไรหรอครับ? "
ถ้าถามแบบนี้อีกฝ่ายก็จะแสดงให้เราดูสินะ
" นายลองเพ่งสมาธิแล้วนึกถึงสกิลก็จะเห็นมันเอง "
" อย่าไปถามเรื่องส่วนตัวสิ นินี่!! " นิน่าที่อยู่อีกฝั่งของโชฟาพูดขึ้นมา.
" ฉันไม่เห็นอะไรเลย "
เหมือนว่าเจ้านี้จะยังใช้งานไม่ได้ แต่ว่าไอ้ความสามารถรับรู้ถึงอันตรายเนี่ยเป็นสกิลที่ดีเลยไม่ใช่หรอ เอาเป็นว่าตอนนี้โกหกไปก่อน เพาะเรายังไม่รู้อะไรมากนักอีกอย่าง พวกเธอเองก็น่าจะไม่คิดอะไรอยู่แล้ว ยังไงคนพวกนี้ก็ช่วยชีวิตผมไว้ เดี๋ยวเจ้านี้ใช้งานได้ปกติค่อยบอกดีกว่า .
………
หลังจากนั้น ผมก็ไม่ได้คุยอะไรกับพวกเธออีก ผมบอกกับพวกเธอว่าผมจะขึ้นไปบนห้อง นี่ก็เริ่มจะมืดแล้วสินะ 17:04 ผมลองเช็คดูอีกทีแต่ไอ้หน้าต่างเจ้ากรรมนี้ก็ยังใช้งานไม่ได้ เหมือนจะมีอะไรผิดพลาด สกิลรับรู้ถึงอันตรายคืออะไรกันนะ ผมนอนอยู่ในห้องแล้วก็เริ่มสงใสอะไรขึ้นมา ทำไมผมถึงเป็นเอลฟ์นะ ทั้งที่ตอนมาก็นึกว่าเป็นมนุษย์ นี่มันคือโลกแฟนตาซีสินะ ก็น่าจะมีเลเวลอะไรทำนองนั้น คนที่เล่นเกมส์อยู่ตลอดอย่างผมไม่มีทางไม่รู้!!. สักพักผมได้ยินเสียงของพวกนั้นคุยกัน เสียงมันเบามากฟังไม่ค่อยชัดแฮะ ออกไปฟังสิคุยไรกัน แอ๊ดดด! เสียงเปิดประตูก็ชะดังจริง โอ้ไม่ แผนการล้มเหลว รินเอ้ย… ผมเดินออกไปแล้วลงบันได พวกนั้นยังอยู่โชฟา ผมมองผ่านห้องครัวเหมือนว่าห้องนั้นจะล๋อกไว้ ……มีอะไรอยู่ในนั้นนะ เพราะเป็นนักผจญภัยเลยต้องหวงสเบียงไว้หรอ มันแปลกๆน่ะตั้งแต่ที่โต๊ะกินข้าวแล้ว …ผมสงสัยจริงว่าในนั้นมีอะไร ทำไมต้องปิดบังไว้นะ ผมเดินผ่านทางเดินไปที่ประตูหน้า เนย์ถามทันที:
" คุณจะไปไหนคะ?! "
" เอ่อ….ไปสูดอากาศนิดหน่อยน่ะ ฮ่าๆ "
เธอถามมาด้วยสีหน้าระแวงเอามากๆ ผมเดินออกมานอกบ้าน ข้างนอกไม่ได้มืดสนิท ยังมีแสงจากดวงจันทร์ที่ส่องลงมาอยู่ ผมเงยหน้ามอง ภาพตรงหน้าทำให้ผมตกใจมาก ที่นี่ มีดวงจันทร์สองดวง…
มีดวงจันทร์สองดวงอยู่ใกล้กัน ขนาดของมันเท่าๆกัน แถมใหญ่มาก เกิดมาพึ่งเคยเห็นดวงจันทร์ใหญ่ขนาดนี้ ผมหันหน้าซ้ายขวา ถ้าจำไม่ผิดห้องครัวอยู่ด้านช้าย เมื่อเข้าไปดูทางประตูไม่ได้ก็ดูทางหน้าต่างก็ได้นิ ผมกำลังจะก้าวขาออกไปแต่ก็มีเสียงเรียกสะก่อน.
" คุณเรย์คะ! "
ผมหันไปดู เป็นสาวเอลฟ์ใส่ชุดนอนใต้แสงจันทร์…ผมของเธอสะท้อนกับแสงจันทร์ทำให้ผมสีทองที่ปกติก็สวยอยู่แล้ว แต่นี่มันยิ่งกว่าในเทพนิยาย หรือ จินตนาการที่ผมเคยรู้จัก…มันสวยงามมาก.
" คุณจะไปไหนหรอ? มานี่สิ "
" เอ๋? "
ผมเดินตรงไปหาเธอ แต่นี่มันใครวะ หน้าตาเหมือนกันแบบนี้จะให้แยกยังไงละเนี่ยแถมไม่ได้ใส่ชุดเกาะแล้วยิ่งแล้วใหญ่ …พอไม่ใช่ชุดเกาะแล้ว มันมีอะไรที่ยิ่งใหญ่อยู่ตรงหน้าของผม …ใช่แล้ว มันใหญ่กว่าดวงจันสองลูกชะอีก …
" ลามกจังเลยนะคะ ตามฉันมาสิ เดี๋ยวฉันมีอะไรให้คุณดู "
ผมเดินตามเธอไปแบบไม่คิดอะไร นี่มันต้องใช่แน่ๆ อีเว้นท์ที่รอมานาน อีเว้นท์ที่ชายหนุ่มต่างแสวงหามัน ผมเดินตามเธอไปไม่ไกลก็ถึงที่ที่เป็นเหมือนกับทุ่งกว้าง มีโขดหินอยู่ตรงนั้นเป็นที่ชมวิวได้ดี เราไปนั่งกันตรงโขดหินนั้น เธอมองมาทีผมแล้วก็พูด:
" คืนนี้คุณว่างไหมคะ? "
คำถามนี้ชวนคิดลึกจริงๆ แต่ฉันเองก็รู้จักตัวเองดี เก็บความต้องการไว้แล้วคิดถึงสถานการณ์นี้ก่อน ทำไมเธอถึงชวนเรามาที่ลับตาคนแบบนี้ อีเว้นท์โรแมนติกใต้แสงจันทร์จะเกิดได้แน่หรอ เรารู้จักกันไม่ถึงวันด้วยช้ำ มันคงเป็นอีเว้นท์มอบเควสให้ทำสินะ เธอคงมีเรื่องอยากจะขอให้ฉันช่วย.
" ก็ว่างอยู่หรอกทำไหมหรอ? "
" งั้น….."
เธอลูบไล่แล้วก็ค่อยๆเข้ามาใกล้ๆ เธอค่อยๆ จับมือของผม หลังจากนั้น ก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ…
" คืนนี้…ช่วยอยู่กับฉันที่นี้ทีสิ "
เธอจับมือผมไปที่หน้าอกของเธอหลังจากนั้นก็ยื่นหน้ามา ริมฟีปากกำลังจะประกบกัน ทันใดนั้น.
[ อันตราย ] !!!!!!
มีเสียงอยู่ในหัวดังขึ้น…. ผมตั้งสติในเสี้ยววินาทีนั้นเอง… เจอกับตะขาบที่ไต้โขดหิน มันกำลังจะกัดที่เท้าของผม … ผมกระโดดออกอย่างว่องไว… ผมมองไปที่เธอ ดูเหมือนเธอเองก็ตกใจเหมือนกัน ลางไม่ดีเลยขอกลับก่อนดีกว่า.
" โทษทีนะ ฉันขอกลับก่อน "
ผมเดินกลับไปที่บ้าน เข้าไปในบ้าน กำลังจะขึ้นบันได แต่เหมือนได้ยินเสียงอะไรจากห้องครัว ประตูมันอัดไม่มิด มีเสียงเหมือนคนกำลังเคี้ยวอะไรสักอย่าง อย่างเอร็ดอร่อย ผมค่อยๆเดินไปช้าๆ…
[ อันตราย!!! อันตราย! อันตราย!!!! ]
สกิลของผมเตือนช้ำๆ แต่ผมแค่อยากเห็นข้างในนั้น ผมเดินมาถึงประตู แล้วส่องดูแง้มประตูที่ปิดไม่มิดนั่น ภาพที่เห็นตรงหน้าทำให้ผมแทบช็อก…. เนย์ และ นีนี่ กำลัง… กินไส้ของมนุษย์ ในห้องครัวเต็มไปด้วย ศพมากมาย มีทั้งหัวที่ห้อยอยู่บนเพดาน มีหนังหน้ามนุษย์ที่พึ่งถูกเลาะจากกะโหลกออกมาแขวนไว้ที่ตรงโต๊ะ…. เนย์ กำลังเดินไปที่โต๊ะ มีชายคนหนึ่งอยู่บนนั้น เขาถูกมัดเอาไว้ให้ติดกับโต๊ะ เธอเดินไป…แล้วจูบกับชายคนนั้น หลังจากนั้นเธอก็ถอดเสื้อผ้าเขาออกทั้งหมด เธอใช้เล็บของเธอ กระชากอะไวยะเพศของชายคนนั้นออกอย่างเลือดเย็น เลือดที่กระเด็นเต็มห้องเสียงร้องโหยหวนที่ดังออกมาไม่ทันไรก็อ่อนลง เพราะ นีนี่ ใช้มือหุบปากของเขาเอาไว้ ผมไม่สามารถ ดูภาพตรงหน้าได้อีกต่อไป มันเป็นอะไรที่ รับไม่ได้อย่างที่สุด ท้องไส้ของผมเริ่มปั่นป่วนพร้อมที่เอาสิ่งที่กินไปออกมาทันที ผมกำลังจะย่องกลับไปแต่…ผมมัวแต่ช็อกจนลืมไปว่ามี นีน่า อยู่ข้างนอก เธอยืนดูผมที่กำลังจะออกจากประตูห้องครัวพร้อมยิ้มให้กับผม รอยยิ้มนั้นช่างเป็นรอยยิ้มที่น่ากลัว และ วิปริต ผมน่าจะเชื่อสกิลตัวเองตั้งแต่แรก… นิน่า ยิ้มแล้วก็ยกมือขึ้นมาตรงผิวปากของผม.
" ฉู่~~~ เงียบๆสิจ๊ะ ตามฉันมาสิแล้วฉันจะไม่ส่งเสียงให้พวกนนั้นรู้ หรือ นายอยากตายที่นี่ "
เธอกระซิบบอกผม แต่ว่า….
[ อันตราย! อันตราย! ]
เสียงในหัวบอกผมว่า ถ้าไปกับเธอไม่มีอะไรดีขึ้นแน่ ตอนนี่ผมรู้ทุกอย่าง...จงตั้งสติตัวฉัน...เธอไม่มีอาวุธแต่สกิลยังบอกว่าอันตราย เธอมีอะไรบางอย่างที่ฆ่าเราได้แน่นอน ที่นี่คือโลกแฟนตาชี ทิ้งสามัญสำนึกไว้ได้เลย ผมได้แค่ทำตามข้อเสนอของเธอเท่านั้น
เธอพาผมไปที่โขดหินเดิม เธอเริ่มที่จะถอดเสื้อผ้าของผมออก เธอเลียตรงใบหู และ หน้าอกของผม มือของเธอค่อยๆ ลูบลงไปที่น้องชายของผมอย่างช้าๆ …. แล้วผมก็พลิกตัวเธอลงไปที่พื้น.
" ผมว่า ผมเป็นฝ่ายทำให้ดีกว่า "
เธอยิ้มแล้วก็ พยักหน้า
ผมค่อยๆ จับหน้าอกเธอทีละน้อย หลังจากนั้นผมก็ค่อยๆ ลูบไปที่หน้าจนมือของผมไปถึงศีรษะของเธอ ถ้าแค่ในความคิด ถ้าผมคิดจะฆ่าเธอละก็! ถ้าหากทางเลือกนี้ เป็นทางที่ผิดสกิลก็จะต้อง!!!
แค็ก!!!
[ อันตราย ]
ตู้ม!!!!!!!!!!!
เสียงระเบิดดังก้องขึ้นในป่า ผมกระเด็นไปไกลถึง 14เมตร จากโขดหิน…ตาของผมพล่ามัว เหมือนกับจะหมดสติไป ร่างกายชาไปหมด หูก็เช่นกัน… ไม่อยากจะเชื่อ ว่าต่อให้หักคอเธอไปแล้ว แต่เธอก็ยังใช้เวทย์มนต์ได้ เวทย์ระเบิดสินะ ทันทีที่ผมฆ่าเธอวงเวทย์ที่มือก็ปรากฏขึ้น ทำให้สกิลของผมทำงาน จึงทำให้รู้ว่าต้องหนีทันที เกือบไม่รอดแล้วเรา แต่ตอนนี้ต้องลุกให้ได้ก่อน เสียงระเบิดนั้น คงดังไปถึงพวกที่อยู่ในบ้านแน่ และ แน่นอนว่าการสู้กับคนพวกนั้นซึ่งๆหน้าคงไม่ใช่เรื่องที่ฉลาดนัก พวกนั้นแกร่งกว่าเรามาก ทำไงดี ต้องรีบหนี!!!.
" นีน่า!!!!!!! "
เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น ผมหันไปมอง หัวใจก็พลางเต้นแรงแทบจะวายตาย พวกเธอเอาม้ามาด้วยจะให้หนียังไง ผมต้องวิ่งเข้าป่าไป!!
" แกฆ่าเธอ!!!! ฉันจะฆ่าแกแล้วเอามาทำเป็นสตูเนื้อ!!! "
พวกนี้มันบ้าไปแล้วแน่ๆ ผมวิ่งเข้าป่าไป ให้ตายสิ… ตู้ม!!! สายฟ้าวิ่งผ่านหน้าของผมไป ….. เวทย์สายฟ้า… เนย์ นิมันใช้เวทย์สายฟ้าได้ ตู้ม!! เวทย์เฉี่ยวแขนผมไป เกีดเป็นแผลไหม้ทั้งร้อน และ แสบ " อึ๊ก!! " เจ็บโว้ย… อีกคนละ ทำไมมีแค่ เนย์ ตามเรามาแค่คนเดียว อ๊ะเดี๋ยวสิ! มันคงกลัวว่าถ้าหาผมไม่เจอ ผมคงจะอ้อมไปเอาม้าหนีไปสินะ เลยให้อีกคนเฝ้าไว้ ให้ตายสิ หนีแค่หล่อนคนเดียวก็เต็มกลืนแล้ว
" ฉันจะฆ่าแก!!! "
ใยนี่กำลังโกรธ คงจะยิงเวทย์มารัวๆไม่ได้สินะ แต่ยังวิ่งตามเรามา มันคงเก็บมานาไว้ใช้สินะ ถ้ายิงมั่วเดี๋ยวจะแย่เอา ใยนี้ก็ฉลาดไม่เบาแฮะ นึกว่าจะบ้าเป็นอย่างเดียว แต่ว่านะ ถ้าเมื่อไร่ฉันหายไปจากสายตาเธอได้ นั่นคือ จุดจบของเธอ …ผมวิ่งหนีไปเรื่อยๆ จนไปถึงลำธาร ถึงจะมืดแต่แสงจันทร์ยังส่องสว่าง การวิ่งลงไปในน้ำไม่ใช่ความคิดที่ดีเท่าไร่ ….. งั้นผมจึงคิดอะไรดีๆออก.
" ยอมแล้วฉันจะไม่หนีอีกแล้ว…ขอร้องอย่าฆ่าฉัน "
ผมตะโกนไปอย่างงั้น … เธอยิงเวทย์มาอีกครั้ง ครั้งนี้ถูกมือช้ายผมอย่างจัง ตู้ม!!! " อ้าาา "...
" พอแล้ว… ฉันยอมแล้ว "
เธอเดีนออกมาจากป่า มาใกล้ๆผม แล้วเตะมาที่หน้า ตุ๊บ!!! ผมล้มลงไปนอนอยู่กับพื้น …
" แก!! ฆ่าเธอ!! น้องสาวของฉัน!!!!! "
เธอกระทืบผมช้ำๆ ….ตุบ! ตุบ! ตุบ!ๆ
" ฉั….. ฉัน.."
ผมพูดเสียงเบา จนเธอกล้มหน้ามาใกล้เพื่อจะฟัง ….ทันใดนั้นผมก็สาด ซายที่พื้นใส่ตาเธออย่างจัง " อ้าาาาา!!!!! " เธอกรีดร้องดังลั่น หลังจากนั้นก็ล้มลงไปที่พื้น เธอดิ้นแล้วยิงเวทย์ไปทั่ว
ตู้ม!! ตู้มมม ! ตู้ม!!!
ผมลุกขึ้นเดินไปหาเธอช้าๆ หลังจากนั้นก็เยียบแขนที่เธอใช้ยิ่งเวทย์สุดแรง ตุ๊บ!!!!! " อ้าาาา " เธอร้องด้วยความเจ็บปวด ผมหยิบเอาก้อนหินที่อยู่พื้นขึ้นมา เธอเงียบทันทีเมื่อได้ยินเสียง ก้อนหินกระทบกัน.
" อย่านะ….. ฉันกลัวแล้ว ปล่อยฉันไป ฉันผิดไปแล้ว!!! "
ผมนั่งลงบนตัวเธอ เพื่อไม่ให้เธอพยายามที่จะคลานหนีไป.
" ฉันก็อยากจะปล่อยเธอไปอยู่หรอก แต่ว่า….. เมื่อไหร่ที่เธอหายดีละก็ วันนั้นฉันจะต้องลำบากแน่ ส่วนความแค้นน่ะ ก็คงจบด้วยความตายแบบนี้แหละ!! "
" ไม่ๆๆๆๆๆๆ ไม่!!! "
ผมใช้ก้อนหินนั้นทุบลงไปที่ใบ้หน้าของเธอช้ำๆ
ตุ๊บ!!!!!! ตุ๊บ!!! " อ้าาา " ตุ๊บ!! "อั้ก…." ตุ๊บ! ตุ๊บ! ตุ๊บ!....
ผมค้นตัวของเธอ ก็เจอมีมีด และ หินอะไรสักอย่าง ผมเชื่อว่าต้องเป็นของที่มีค่าแน่ๆ แล้วผมก็เดินกลับไปทางเดิม … ผมเดินไปจนถึงจุดที่มีม้า ที่ นีนี่ เฝ้าอยู่ ผมเดินไปใกล้ๆแถวนั้นแล้วล้มลง…
ตึก! ตึก! เสียงเท้าคนเดินมาใกล้ๆ หลังจากนั้นก็พูดขึ้นว่า.
" ดูเหมือนว่าพี่จะคิดถูกนะ ว่าแกต้องใช้แผนนี้ ฉันจะเอาแกไปต้มรอพี่กลับมา ฮ่าๆ ๆๆ "
เธอเดินเข้ามาแล้วกำลังจะอุ้มผม.
ฉับบบ!!!! " อั้ก..! แก… อะ…"
ผมใช้มีดเสียบเข้าไปที่คอของเธอ ….เลือดพุ่งกระฉูดแล้วเธอก็ล้มลงแน่นิ่งไป.
……เช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากที่ผมฆ่า นีนี่ ผมก็หมดสติไปเพราะพิษจากบาดแผล แต่ก็ยังดีที่เป็นแผลไหม้ จึงทำให้ไม่มีเลือดไหลออกมา ผมพาม้ากลับไปที่บ้านหลังนั้น... สองวันที่ผมพักผ่อนที่นั้น และ ค้นที่ตัวบ้าน รู้อีกทีว่าบ้านหลังนี้ไม่ใช่บ้านของใยพวกนี้ แต่เป็นของหัวหน้าหมู่บ้านที่เป็นชาวนา แกอาไสอยู่ในละแวกนี้ เมื่อ 46 ปีก่อนที่เมืองนี้เคยงดงาม และ เฟื่องฟู แต่ด้วยเหตุใดไม่รู้ ที่เมืองกลายเป็นแบบนี้ไปได้ ผมไปตรวจสอบห้องครัวมาแล้ว ดูเหมือนศพพวกนั้นจะเป็นของคนเร่ร่อนไม่ก็นักผจญภัย คนพวกนี้คงถูกหลอกมาเหมือนกับเรา แล้วดูเหมือนว่า ใยพวกนี้จะใช้ห้องใต้ดินที่ช่อนอยู่ในครัวเป็นที่ช่อนศพ และ คนที่จับมาได้ ถือว่าเรายังโชคดี ถ้าเราไม่แกล้งความจำเสื่อมละก็ ได้ลงไปอยู่ในนี้แล้วกลายเป็นซอยจุแน่ ผมเจออาหารเช่นมันฝรั่ง และ ขนมปังนิดหน่อยแต่ก็พอที่จะออกเดินทางได้ ผมเอาชุดของชายคนหนึ่งที่ถูกฆ่ามาใช้ หว้าย " ขอละนะครับ~~ " เนื่องจากผมขี่ม้าไม่เป็นดังนั้นผมจึงต้องเดินเท้า แล้วใช้ม้าเป็นที่ขนของ เอาล่ะ ผมจะต้องออกเดินทางเพื่อที่จะใช้ชีวิตที่ดีให้ได้ การผจญภัยมันพึ่งจะเริ่ม!
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 4
Comments