หลายปีต่อมา
ภาพงานศพของผู้ล่วงลับ เป็นที่โศกเศร้าของหมู่เครือญาติเพื่อนและมิตรสหาย หนึ่งในมิตรสหายย่อมมีมิตรที่แปลได้คือศัตรู แม้จะสำรวมสีหน้าเศร้าแต่ภายในจิตใจกำลังยิ้มร่ามีความสุขก็มี ชายหนุ่มร่างสูงยืนสงบไว้อาลัยผู้เป็นพ่อ
‘ป๊าไม่ต้องห่วงนะ ผมจะต้องตามหาเขาให้เจอ แล้วจะมอบทุกๆ อย่างให้กับเขาเอง ขอบคุณที่รับผมมาเลี้ยงและดูแลผมอย่างดี เกิดชาติหน้าฉันใดขอให้ผมเป็นลูกพ่อจริงๆ’
ชายผู้เป็นลูกชายเพียงคนเดียวมาโดยตลอดระยะเวลา25ปี แต่ความจริงนั้นคือเขาไม่ได้เป็นเชื่อสายเลือดในตระกูลนี้เลย เขาเพียงเป็นผู้มารับกรรมแทนลูกชายแท้ๆ ของพ่อแม่ แต่ใครจะรู้มันไม่ใช่กรรมชั่ว มันคือกรรมดีการสัมผัสได้ถึงความรัก แม้โลกของพ่อที่ให้มาจะดูโหดร้าย แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าลูกชายแท้ๆ จะมีความสุข ได้รับเหมือนสิ่งที่เขารับบ้างไหม เขาหมายถึงความรัก
“คุณเซียนครับ เจอเบาะแสนายน้อยแล้วครับ”
“เขาอยู่ที่ไหน?”
ในระหว่างช่วงเวลาโศกเศร้า เสียงลูกน้องเรียกสติเซียนกลับมา โดยไม่รู้เลยว่ามีใครกำลังจับตาดูเขาอยู่ ชายหนุ่มร่างสูงหน้าตาราวกับนายแบบ นั่งร่วมไว้อาลัยอย่างสุขุม
ภาพตัดมายังร้านขายน้ำหอมแบรนด์ชั้นนำในห้างดัง ชายร่างบางทำหน้าที่สุดความสามารถ ในการพรีเซนต์ขายของ ด้วยสกิลเฉพาะตัวที่ทำให้อีกไม่นานเขาจะเลื่อนมาเป็นผู้จัดการ เนื่องจากยอดขายทะลุทะลวงไม่มีเซลล์คนไหนเคยแตะยอดถึงเลยสักราย
“คุณพี่ๆ ขอโทษนะครับที่ผมเสียมารยาทบังเอิญได้ยินพี่คุยกัน คุณพี่กังวลเรื่องกลัวผู้ชายปฏิเสธเหรอครับ??” สองสาวทำหน้างงๆ แต่ก็ยอมตอบเพราะเห็นออร่าหน้าตาดีของคนถาม ..ก็แน่นอนสิ
“ค่ะ”
“ถ้าผมช่วยให้คุณพี่ได้คบกับเขาคนนั้นละครับ คุณพี่จะลองไหมผมช่วยได้นะ^^”
“ยังไงค่ะช่วยได้จริงไหม???” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์บอกได้คำเดียวว่า
“แน่นอน\~ คุณพี่สนใจฟังไหม??” สองสาวพยักหน้ารัวๆ
“อันดับแรกคุณพี่หน้าหวานอยู่แล้ว แต่เสน่ห์ดึงดูดยังไม่มี ลองเพิ่มความยั่วยวนเข้าไปอีกหน่อยไหมล่ะครับ”
“ยังไงคะ?”
“อะแอ้ม\~ผมเนี่ยไม่อยากจะบอกเคล็ดลับเลยแต่เอาเถอะ ผมก็มีพี่เป็นผู้หญิงเข้าใจ”
‘เดี๋ยวนะ...พี่กัสมีพี่สาวตั้งแต่เมื่อไหร่ว่ะวิกกี้?’ สองสาวพนักงานรุ่นน้องถึงกับงง
‘อย่าโง่การตลาดพี่เขา’
‘อ๋อออออ’
“ฟังต่อไหมครับ?” สองสาวก็ยังพยักหน้ารัวๆ อย่างสนอกสนใจ
“คุณพี่ต้องเปลี่ยนตัวเองจากสาวหวาน มาเป็นสาวแซ่บดูสิ เปลี่ยนที่นัดเดทไปร้านเหล้าแล้วค่อย พูดความใจในแน่นอนว่าต้องขยับเข้าไปใกล้ให้แนบชิด” ระหว่างบรรยายสองสาวท่าทางจะเคลิ้มตามตั้งใจฟังอย่างมาก
“จากนั้นก็...”
“ก็??”
“ก็”
“ก็อะไรคะ???”
“ก็ขึ้นอยู่ว่ากลิ่นกายอันแสนยั่วยวนของคุณพี่ จะสามารถจับผู้ชายคนนั้นให้อยู่ในเงื้อมมือคุณพี่ได้ไหม”
“แล้วฉันต้องใช้กลิ่นน้ำหอมแบบไหนละคะ ที่บ้านก็มีหลาย-”
“โน่ๆ ลืมน้ำหอมกลิ่นฉุนนั้นไปให้หมด ถ้ายังไม่ลองสิ่งนี้ คุณพี่จะไม่เชื่อที่ผมพูดเลย มันคืออาวุธลับในการ...ผู้ชาย^_<”
“พูดจริงปะเนี่ย??”
“แน่นอนคุณพี่พิชิตใจเขาได้แน่นอน”
“จริงเหรอฉันชอบเขามากเลยนะ\~”
“แน่นอนคุณพี่ พูดแล้วก็ไม่อยากจะพูด แต่ขอพูดนิดหน่อยมันคันปาก คืองี้เคยมีลูกค้าคนหนึ่งทะเลาะกับแฟนหน้าร้านเราเลย ผมเลยขอให้เธอฉีดกลิ่นนี้เข้าไป แน่นอนตอนแรกเธอก็ดูจะไม่ชอบโวยวายใส่ผม แบบคนบ้าอะไรคนเขาทะเลาะกันมาให้ฉีดน้ำหอมบ้าเปล่าาาา แต่คุณพี่รู้อะไรไหม??”
“อะไรคะ???” หญิงสาวเริ่มตาโตความสนใจคูณล้านแปด
“พอฉีดเข้าไปได้ไม่ถึง5วิ แฟนหนุ่มที่โกรธเธอเป็นฟืนเป็นไฟ จู่ๆ ก็ง้อเธอแล้วพาไปกินของอร่อยๆ”
“ทำไมแฟนเธอถึงได้หายโกรธเร็วขนาดนั้นละ? แค่กลิ่นน้ำหอมนี้เหรอ??”
“พูดไปคุณพี่อาจจะไม่เชื่อ เพราะกลิ่นธรรมดาของน้ำหอมกลิ่นพิเศษขวดนี้ ช่วยกระตุ้นให้สารเอ็นโดรฟินในร่างกายผู้สูดดม หลั่งมอร์ฟีนที่เรียกว่าสารสุขออกมา ทำให้รู้สึกผ่อนคลายและพึงพอใจที่สำคัญคล้อยตามได้ง่ายมาก เพียงคุณพี่ฉีดมันแล้วพร้อมสกิลคารมเข้าไป โป๊ะเชะ!”
“อู๊ยตกใจ” ความสนใจของหญิงสาวกลุ่มหนึ่ง สร้างความสนใจให้กับผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมา อดที่จะขอแวะเข้าไปดูไปฟังด้วยไม่ได้
“ชายคนนั้นตกลงคบคุณพี่แน่นอน” ชายร่างบางยืนยันคำเดิมเพิ่มเติมรุ่นน้องรีบเข้าเสริมเหมือนรู้งาน
“แน่นอนค่ะ น้ำหอมตัวนี้เป็นกลิ่นจากธรรมชาติอย่างสปาไลน์ จะดึงดูดอารมณ์ก้นบึ้งของผู้สูดดมยิ่งกว่าเป็นสารเสพติดชนิดติดหนึบ รับรองทั้งคุณพี่และคนสูดดมพึงพอใจอย่างแน่นอนค่ะ!\~^^”
“ฉันเอา4ขวด!”
“ฉันด้วยๆ”
“ผมก็ขอด้วย”
“เดี๋ยวก่อนครับทุกท่าน วันนี้ถ้าคุณพี่สมัครสมาชิกซื้อโปรเซต คุณพี่จะได้ดื่มด่ำกับอาณาจักรน้ำหอมยุคใหม่ ที่จะพาคุณพี่เพิ่มความ18+คู่ไหนมีปัญหาเรื่องนี้ จุ๊ๆๆ ผมแนะนำเลย”
“ผมรับครับๆๆๆ พี่ๆ ผมรับ3โปรเลยได้ไหม?”
“อู๊ยฮาๆ ใจเย็นๆ นะครับได้ทุกคน^_<”
20นาทีต่อมา \~ เกลี้ยงเชลฟ์ ชายร่างบางปัดมือยิ้มพอใจกับผลงานปรึกษาปัญหาบ้านๆ
“โอ้โห่ฉันเชื่อพี่เลย”
“อะไรกันฉันแค่รับปรึกษาปัญหาหัวใจเอง ที่เหลือก็แค่ผลพลอยได้^^”
“ได้เยอะเลย ขายร้านได้ก็คงจะขายไปแล้วทั้งมั้ง??”
“ก็ไม่รู้สินะ เลิกงานแล้วฉันขอตัวกลับก่อนนะยายรออยู่”
“ชั่งเป็นคนกตัญญูซะจริงๆ พรุ่งนี้ก็จะได้เลื่อนขั้นแล้วนิไปพักผ่อนเถอะคุณว่าที่ผู้จัดการ”
เสียงแซวของเพื่อนๆ และรุ่นน้องร่วมยินดี ผมชื่อกัสเป็นเซลล์มาพักใหญ่หลังจบมหาวิทยาลัย กว่าจะจบก็เล่นเลือดตาแทบกระเด็น เพราะต้องทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย ถ้าถามว่าชีวิตผมลำบากไหมต้องตอบว่ามาก เพราะผมเป็นกำพร้า ผมถูกรีบมาเลี้ยงโดยคุณยายกับคุณตา โชคร้ายคุณตาจากผมไปตั้งแต่ผมเรียนมัธยมปลาย แทนที่จะเศร้ากับชีวิตที่มีคุณยายเก็บของเก่าขาย แถมโดนเพื่อนล้อแต่ผมก็ไม่สนใจ กลับกันผมกับคุณยายเรามีความสุขมาก ถึงจะไม่ใช่เชื้อไขสายเลือด แต่ยายก็รักและเลี้ยงผมมาอย่างดีตั้งแต่เด็ก
“ไปละเจอกัน”
“ค่าาาาผู้จัดการคิคิ”
เขาโบกมือให้เพื่อนๆ อย่างกับจะไม่ได้เจอกันอีกทำไมกันนะ แต่ชั่งเถอะยังไงพรุ่งนี้เขาก็จะได้เลื่อนขั้นเงินเดือนก็จะเพิ่ม แล้วพอเวลานั้นจะขอร้องให้คุณยายเลิกออกไปหาของเก่า ยายจะยอมไหมนะทว่าพอออกมาหน้าร้าน ชายชุดดำไม่รู้มาจากไหนเดินดุ่มๆ เข้ามา
“เฮ้ย?? อะไรอะผมไม่เคยไปกู้เงินใครนะ-” ชายหลายคนถึงกับงง
“แต่ไม่ใช่คนเก็บเงินกู้ครับ เราแค่จะมารับนายน้อยกลับบ้านครับ”
โอ๊ะ!!! ห๊ะ!!!!!? เดี๋ยวๆ สมองตีรวนขอประมวลผลแป๊บ
“มะ เมื่อกี้พวกคุณว่าอะไรนะ?”
“ขอโทษที่เสียมารยาท คุณท่านหมายถึงคุณพ่อของคุณเสียชีวิตแล้วครับ”
“ท่านคงรอให้นายน้อยไปเจอเป็นครั้งสุดท้ายครับ”
“ห๊ะ!!!!!? นี่พูดเล่นเนี่ย???” พวกยัยนั้นต้องจ้างคนมาแกล้งเขาแน่ๆ หน็อยแบบนี้ต้องเข้าไปจัดสักหน่อย ทว่าแค่เขาก้าวหันหลัง
หมับ! กึก???? ขยับไม่ได้คอเสื้อถูกดึง!!!
“ขอโทษที่เสียมารยาทอีกรอบครับ แต่นายน้อยต้องไปกับเราแล้วครับ”
“หยุดเลย! ฉันไม่หลงกลพวกนายหรอกนะ ยัยพวกบ้านั้นจ้างพวกนายมาเท่าไหร่ นี่รู้ไหมพรุ่งนี้ฉันจะเป็นผู้จัดการแล้วนะอยากโดนเหรอ โดนจ้างมาเท่าไหร่?” ชายชุดดำมองหน้ากันมึนงง
“ครับ? ไม่มีใครจ้างมานะครับ”
“แต่ถ้านายถึงคุณเซียนละก็เขาเป็นคนจ้างพวกผมมาครับ”
“อ่อใช่ๆ นายน้อยคงหมายถึงคุณเซียนใช่ไหมครับ?” หื้อ?? เซียนไหนอีกว่ะเนี้ย ที่ร้านเรามีคนชื่อเซียนด้วยเหรอว่ะ??!
“ที่แท้ก็โดนจ้างมา โอเคฉันจับได้แล้วไม่สนว่าใครจะจ้างพวกนายมาเอาเป็นว่า ฉันรู้แล้วช่วยหลีกทางหน่อยฉันจะรีบกลับบ้าน” เขาไม่สนจะกลับบ้านอย่างเดียว แต่หารู้ไม่ตลอดทางเลย ถามว่าอะไรนะเหรอก็เสียงเดินตามนะสิ!
ควัก!!
“จะตามมาทำไมอีกละ!!??”
“ขึ้นรถเถอะครับนายน้อย”
“โอ๊ะนี้จ้างมาลักพาตัวด้วยเหรอ??”
“ปะ เปล่านะครับ”
“ก็บอกว่าจับได้แล้วไงรีบๆ กลับไปได้แล้ว ท่าทางจะจ้างมาแพงนะเนี้ยเล่นไม่เลิก” กัสบ่นเบาๆ แล้วหันหลังเดินไปขึ้นรถไฟเพื่อกลับบ้าน
‘นายน้อยกำลังจะไปขึ้นรถไฟรับช่วงต่อด้วย’
‘ครับพี่’
หลังดุไปก็นึกว่าชีวิตจะสงบแล้วที่ไหนได้ พอเงยหน้าจากมือถือ
พรึบ!!!!! โอ้อีเหี้ยยยยยยยย เต็มรถเลยมาจากไหนอีกเนี้ยยยยยย ก็ว่าทำไมที่นั่งทันโล่งๆ
‘หืยยยยยยย เรื่องบ้าอะไรวะ’
ทันทีที่ออกจากสถานีรถไฟ เขาเร่งฝีเท้าโดยไม่พูดจาใดๆ แล้วหวังให้คนพวกนี้หยุดตาม ผลกลับกลายเป็นว่ายังโดนตาม พอหันไปมอง
ฮันแน๊ะทำเป็นเล่นละคร ชุดดำกันขนาดนี้มองไม่ออกเลยมั้ง เขาสับขาเดินให้ไวขึ้นพอมาถึงทางเข้าบ้านทำไงดีถ้าเกิดเป็นพวกไม่ดีละ???
‘ไม่หรอกเพราะถ้าเป็นคนไม่ดี ป่านนี้แกโดนฆ่าทิ้งกลางทางแล้ว’
‘ใช่ที่ไหนละ! ดูหน้าตาพวกมันสิแกจะไปไว้ใจมันไม่ได้นะ’
‘อย่าไปฟังยัยนั้นนะ นายถามพวกเขาไปเลยชัดๆ ที่เหลืออยู่ที่นายจะตัดสินใจ’
‘เอ๊ะยัยนี่อย่าไปเชื่อพวกนี้น่ากลัวมัน-’
“โอ๊ยยยยย!!!” เสียงร้องลั่นทำชายชุดดำสะดุ้ง
“นี่พวกนายอะ สรุปโดนจ้างมาแกล้งฉันปะเนี่ย???” ทันใดนั้นรถคันสวยก็ขับเข้ามา ชายชุดดำเดินลงจากรถ เหลือเพียงหนึ่งคนยังคงนั่งอยู่ในรถ ความมืดทำให้มองไม่เห็น เขาทำได้เพียงโฟกัสกลุ่มชายตรงหน้า
“ผมไม่รู้ว่าคุณเข้าใจพวกเราแบบไหน แต่สิ่งที่ผมบอกไปในข้างต้นคือเรื่องจริง คุณคือนายน้อยของพวกเราครับ”
หะ ห่ะ ห๊าาาาาา!!!!! นี่มันเรื่องบ้าอะไรวะเนี้ยย!??
“ตลก” ยังๆ ยังอีกยังไม่เชื่ออีกทำชายบอดี้การ์ดคนแรกถึงกับกุมขมับ
“คุณพักอยู่ที่นี้เหรอครับ?” ชายบอดี้การ์ดคนเดิมเดินตามเข้ามาถาม กัสไม่มีท่าทีนึกกลัวหรืออะไรแต่อย่าง
“ใช่”
“กัสนั้นหลานเหรอลูก กลับมาแล้วเหรอ?” เสียงคุณยายกำลังเข็นรถเข็นเข้าบ้าน กัสเขาละความสนใจจากกลุ่มชุดดำไปหาคุณยายของตน
“มายายผมเข็นเองยายเข้าบ้านเถอะ”
“ได้ยังไงละ โอ๊ะนั้นใครอะ??” ยายเห็นเข้ากับชายชุดดำ อีกฝ่ายเดินเข้ามาใกล้แสงไฟทำให้เห็นหน้าคร่าตาชัดขึ้น
“เป็นเพื่อนกับกัสเลยลูก???” กัสผู้สงสัยว่าหน้าตาตัวเองมีอายุใกล้เคียงกับชายตรงหน้าจริงเหรอ???
‘หื้มมมม ไม่มั้งยาย’ ชายบอดี้การ์ดคนแรกท่าจะเป็นหัวหน้าชำเลืองมองที่กัสสลับกับคนเป็นยาย
“นี่หลานคุณยายสินะครับ??”
“ใช่ฉันเลี้ยงเขามาตั้งแต่เด็ก หรือว่าเขาไปสร้างปัญหา-”
“โอ้ไม่ครับๆ ยายผมขอเข้าไปคุยในบ้านได้ไหมครับ?” กัสมองคุณยายเธอดูชั่งใจจนชายคนนั้นหยิบรูปใบหนึ่งออกมาให้ยาย เธอมองดูแล้วตอบกลับเดินนำทันที
“เข้ามาสิ”
‘หื้ม??’
กัสถึงกับคิ้วขมวดชวนสงสัย สภาพบ้านก็ไม่ได้ถึงกับเก่าแต่อาจเพราะสร้างมานาน ชายชุดดำสำรวจในบ้านพอประมาณ อีกด้านชายนั่งรอในรถกำลังทอดสายตามองไปยังบ้านหลังนั้นที่ร่างบางหายเข้าไป รอบตัวรถเต็มไปด้วยชายชุดดำอย่างกับในหนัง มันไม่แปลกที่ร่างบางจะปรับตัวไม่ทัน
‘ยังมีอีกมากมายที่นายจะต้องตกใจมากกว่านี้อีก’ ชายร่างสูงพูดขึ้นเบาๆ
“เขาเพิ่งเสียชีวิตไปได้ไม่กี่วัน ขอโทษที่เพิ่งมาเอาป่านนี้เพราะมันคือคำสั่งของนายท่าน”
“อืมฉันเข้าใจ ตลอดระยะเวลาที่อยู่ที่นี่เขาดูแลเราดีมาก”
“เอ๊ะ?”
เดี๋ยวๆ คุณยายกำลังพูดอะไร??? สีหน้าชวนสงสัยของกัสทำให้คนเป็นยาย ต้องหันสนใจหลานชายเธอกุมมือหลานที่เธอเลี้ยงมาตลอดชีวิต
“สิ่งที่เขาพูดคือเรื่องจริง ยายขอโทษที่ไม่ได้บอกอะไรหลาน แต่มันคือสิ่งที่จะปกป้องหลานได้ ขอโทษที่พามาลำบากนะ” เธอลูบหัวหลายชายอย่างเอ็นดู ชายชุดดำเห็นแล้วก็ซึ้งใจไปด้วย
“พูดอะไรนะยาย ผมเป็นเด็กกำพร้านะจู่ๆ -”
“ยายเข้าใจว่าหลานยังทำใจรับไม่ได้ แต่มันคือความจริงหลานมีครอบครัว”
เขาถึงกับพูดอะไรไม่ออกชีวิตที่มีเพียงแค่ตายาย ตอนนี้กลับมีคนกลุ่มใหญ่ท่าทางอย่างกับคนไม่ดี มาบอกว่าเขาคือเจ้านายและพ่อแท้ๆ ต้องการให้ไปลาเป็นครั้งสุดท้ายนี่มันเรื่องจริงนะไม่ใช่ในละคร นี้คือชีวิตของเขาจริงๆ นะเหรอ??
“ไปเถอะพ่อเขารอหลานอยู่นะ แล้วก็อย่าได้ถือโทษโกรธเคืองท่านเลยนะ ท่านทำก็เพราะตัวหลานไม่ว่าหลานจะไปอยู่ที่ไหน จงจำไงเอาไว้การเป็นตัวของหลานเองมันดีที่สุดแล้ว” เธอโผล่กอดหลานอันเป็นที่รัก
“ไปกันเถอะครับ”
“ตะ ตอนนี้เลยเหรอ?”
พิสมัยเธอผู้เป็นยายยกยิ้มให้หลาน เขาจึงจำใจเดินตามชายชุดดำออกไป แต่อดที่จะเป็นห่วงยายไม่ได้และกลัวว่าจะไม่ได้เจอกันอีก เขายืนหยุดนิ่งที่หน้าบ้าน จนชายชุดดำเดินย้อนกลับม
“เป็นอะไรครับ?”
“นายชื่ออะไร?”
“ขอโทษครับที่ยังไม่แนะนำตัว ผมอิมครับเป็นบอดี้การ์ดคุณเซียน”
“ฉันเรียกพี่อิมได้ไหม?” อิมยกยิ้มเอ็นดู กัสหันกลับไปมองในบ้าน
“ยายเป็นคนเดียวที่ฉันเหลืออยู่-” อิมไม่รอให้กัสพูดจงเขาก็รู้ในทันที
“ไม่ต้องห่วงครับ เราจะรับเธอเข้าไปอยู่ด้วยที่นั่นมีบ้านสวนในบริเวณบ้านใหญ่ นายน้อยจะได้อยู่กับท่านแน่นอน” เขายิ้มอย่างกับถูกรางวัลที่หนึ่ง
“ทีนี้ไปได้อย่างไม่ต้องกังวลแล้วใช่ไหมครับ?” อิมยิ้มผายมือให้คนเป็นนายคนใหม่ ทว่าพอเข้ามาในรถพอหันข้างเท่านั้นแหละ
เชี้ยยย!!! อ๊ากกกกก!!!
“อุ๊บ\~” มือหนาอุดปากเข้ามาเต็มไปก็คนมันตกใจอะนึกว่าผีบ้าบอมานั่งทำบ้าอะไรมืดๆ
“ฉันคนไม่ใช่ผีจะร้องทำไม” ชายร่างสูงผิวขาวหน้าตี๋ไอ้หมอนี้ใคร??? อย่าบอกนะว่าคู่หมั้นเหมือนในละคร???
“นี่คือคุณเซียนเป็นพี่ชายต่างสายเลือดกับคุณกัสครับ”
เฮือกกกกกกก กัสตาโตเบิกค้างมือหนาผลักร่างกัสหัวเกือบชนเข้ากับขอบประตู
“อะไรกันแค่นี้ไม่เห็นต้องผลัก” เขาบ่นเบาๆ แต่ไอ้พี่ชายต่างสายเลือดดันได้ยินเข้า
“ฉันไม่ชอบให้ใครมาถูกเนื้อต้องตัว”
ชิ..โธ่\~ คิดว่าอยากจับนักละก็ใครทันจะไปรู้ว่านั่งเป็นพระอินทร์พระปูนอยู่ก่อนละ สองพี่น้องเจอกันครั้งแรกก็ไม่กินเส้นกันซะแล้ว อิมถึงกับกุมขมับรอเลย
และแล้วกัสก็ได้พบกับคนเป็นพ่อแท้ๆ จนได้ แต่น่าเสียดายเขาไม่มีโอกาสได้พูดคุยกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้น แม้จะไม่รู้แน่ชัดว่าทำไมพ่อถึงทิ้งเขา ถึงยังไงเขาก็คือพ่อผู้ให้กำเนิด เขาสัมผัสกรอบรูปของพ่ออย่างอาลัย จบการอาลัยเขากำลังจะเดินกลับมานั่ง ทว่าระหว่างนั้นเหมือนเห็นเงาชายคนหนึ่งเดินผ่านหน้าเขาไปอย่างรวดเร็ว ร่างของเขาเกือบชนเข้าไปใครคนหนึ่ง พอเงยหน้ามองภาพฉายชัด ชายร่างสูงผิวขาวนัยน์ตาคม มองลงมาที่เขาความสูงโดดเด่นทำต้องเงยมอง ออร่าราวแสงอาทิตย์จ้า ผิวขาวใสเนียนอย่างกับใช้ครีมรองพื้นระดับระดับไฮเอนด์ ป๊าดพ่อคุณคนอะไรมาหล่อโพดโพทว่า
หวืด!!!
“อ่ะ..????” เพียงเสี่ยววินาทีร่างของเขาถูกเหวี่ยงมากกว่าจะเรียกว่าผลัก
‘เกะกะ’
หน็อยทำหันขวับเลยที่มีตั้งเยอะตั้งแยะไม่เดินว่ะ หยุมหัวสักทีดีไหม!!!
หมับ!
“คุณกัสครับเราต้องกลับแล้ว” เดี๋ยวๆ ขอหยุมหัวไอ้บ้านั้นก่อนไม่ได้หรือไง!?
“ขอเวลาแป๊บ” คราวนี้แหละแก!
หมับ! หื้ม??
“ไม่ได้ครับ” อิมผู้ฉุดกระชากลากไม่ยอมปล่อยนายน้อยของเขา
‘หืยยยไอ้หน้าหล่อ...ฝากไว้ก่อนเถอะนะ’
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments