ตอนที่ 5 มันคือหมีจริงๆ

“เป็นยังไงบ้างมิรุ” ชานเอ่ยถามเสียงเบา

 

“ข้างหน้าปกติค่ะ”เด็กสาวตอบกลับ เธอกระโดดออกไปข้างหน้าด้วยความระมัดระวัง ใช้สายตาสาดส่องอันตรายไปรอบๆ

 

คนอื่นๆกลืนน้ำลายเช่นกัน เป็นที่รู้กันว่าพวกมิมิคไม่ค่อยชอบแสงแดดสักเท่าไหร่ช่วงดวงอาทิตย์ขึ้นสูงและแดดแรงพวกมันจึงมักเข้ามากบดานอยู่ตามอาคารเก่าๆหรือที่ที่มืดมิด

 

“พวกมันไม่ได้กลัวแสงแดด เพียงแต่ว่าพวกมันจะรู้สึกไม่ค่อยสบายตัวเท่านั้น ร่างกายของพวกมันพิเศษ อาวุธของมนุษย์ธรรมดาอย่างอาวุธเย็นสมัยก่อนหรือแม้แต่อาวุธปืนนั้นยากที่จะฆ่ามันให้ตายทันที พวกมันกลืนกินอีเธอร์ตามตามชาติแล้วแปลงเป็นพลังของพวกมันเอง ร่างกายของพวกมันถือว่าเป็นแร่ธาตุตามธรรมชาติ พลังงานอีเธอร์ที่พวกมันกลืนกินเข้าไปจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของพวกมันเอง หล่อเลี้ยงร่างอุกกาบาตของพวกมันให้แข็งแกร่งยิงขึ้น ระดับยิ่งสูงแม้แต่ขีปนาวุธก็ไม่สามารถฆ่ามันตายได้ทันที โดยธรรมชาติที่ๆพวกมัรอาศัยโดยกำเนิดนั้นไม่มีแสงแดด” ชานเอ่ยเสียงเรียบ ก่อนจะหันมาถามความเห็นไทด้วยสายตา

 

“เพราะฉะนั้น อาวุธที่สามารถฆ่ามันได้ตามธรรมชาติแล้วคือแร่และทุกอย่างที่เกิดขึ้นหลังจากโลกเกิดวิวัฒนาการ ยกตัวเองอย่างเช่นดาบเล่มนี้” ไทพยักหน้าตอบว่าความรู้ของชานนั้นถูกต้อง ก่อนจะกล่าวต่ออย่างผิดหวัง

 

“แต่ดาบเล่มนี้ทำจากแร่เหล็กที่คุณภาพต่ำเกินไป คาดว่าแร่เหล็กที่ตีดาบขึ้นนั้นมีส่วนผสมของอีเธอร์อยู่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น”

 

ไม่มีใครสามารถเถียงไทได้พวกเขาเห็นฉากที่ดาบแตกกระจายต่อหน้าต่อตาของพวกเขาเอง

 

“ค่ายของเราอยู่แค่ชายแดนครับพี่ไท พวกเราไม่ได้รับการสนับสนุนจากกองทัพมากนัก ในอาณาเขตของยูเรเซีย มีค่ายจำนวนมากเกินไป” ซุย นักดาบชายอีกคนในทีมพูดขึ้น หน้าตาของเขาค่อนข้างธรรมดา แต่เขามีร่างกายที่ค่อนแข็งดูดีในสายตาของไท เด็กหนุ่มใช้ดาบคาตานะยาวสี่ฟุต ใบดาบกว้างสองนิ้ว มือของเขาไม่เคยห่างออกจากดาบ

 

ไทพยักหน้า ในชีวิตก่อน เขาหลบหนีด้วยความช่วยเหลือของหน่วยกู้ภัยไปยังศูนย์อพยพทันทีก่อนถูกส่งตัวไปยังเขตอื่นก่อนที่หลังจากสถานปนากองทัพพันธมิตรขึ้นที่นั่นจึงเรียกว่าค่าย G039

 

ในทีมนอกจาก ชาน เฟย์ ซุย มิรุ ยังมีมือปืนหญิงอีกคน เมเดีย หญิงสาวค่อนข้างมีหน้าตาและรูปร่างที่ดีแต่ค่อนข้างเก็บตัวเข้ากับคนยากเล็กน้อย ไทสามารถนับคำที่อีกฝ่ายพูดคุยได้หลังจากอยู่ด้วยกันตั้งแต่เมื่อวาน

 

ทว่าทันทีที่พูดคุยถึงเรื่องอาวุธ เขาเห็นดวงตาเด็กสาวเป็นประกายเล็กน้อย

 

“แล้วนอกจากแร่เหล็กตอนนี้กองทัพมีวิธีสร้างอาวุธเย็นยังไง”ไทถามแม้ว่าเขาเองจะรู้อยู่แล้ว

 

ห้าปี ผ่านไปห้าปี ช่วงนี้พวกนักวิทยาศาสตร์ที่ได้รับความรู้จากมรดกคงรู้แล้วว่านอกจากเหล็กและโลหะชนิดต่างๆแล้ว ร่างกายของพวกมิมิคเองก็เป็นวัตถุดิบส่วนประกอบทั้งหลักและเสริมชั้นดีในการสร้างอาวุธ เกราะ หรือแม้กระทั่งเทคโนโลยีอื่นๆอย่างพวกยานพาหนะ

 

เสียดายที่พวกโง่นั่นจะส่งผ่านความรู้นี้ก็อีกห้าปีต่อมา

 

ในตอนนั้นมนุษยชาติเสียพื้นที่ให้กับพวกมิมิคไปครึ่งหนึ่ง ทั้งเสียชีวิตและถูกเปลี่ยนเป็นพวกมันเกือบครึ่งหนึ่งของที่มีไทเดาะลิ้นด้วยสีหน้าเหยียดหยามหลังจากทราบความจริงข้อนี้ การส่งผ่านมรดกยิ่งเป็นสิ่งที่ยืนยันข่าวที่เขาได้รู้ในชีวิตก่อน

 

ทันใดนั้นชานยกมือขึ้นก่อนกำหมัดเหนือหัวส่งสัญญาณให้คนอื่นหยุด ทุกคนแทบจะหยุดหายใจ

 

ในที่สุดอาคารนี้ก็มีพวกมันอยู่จริงๆ!

 

มีเพียงไท เขาเดินต่อไปด้วยท่าทางสบายๆก่อนกลั้นขำแล้วพูดขึ้น

 

“ลืมความรู้ที่พวกคุณได้ยินได้ฟังมาซะ ต่อให้พวกคุณหยุดพูด กลั้นหายใจจนตาย หรือทำเสียงเงียบขนาดไหน พวกมิมิคก็ยังรับรู้ถึงคุณได้ผ่านอีเธอร์ที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกายของพวกคุณอยู่ดี พวกมันไม่ใช่หมีนะ??”

 

ไทพูดไปขำไป ทว่าเมื่อเขาพลันหยุดเดินแล้วเงียบกะทันหัน คิ้วของเขาขมวดขึ้น จิตใจของทุกคนก็ล่วงไปอยู่ตาตุ่ม มิมิคประเภทไหนที่ทำให้นักรบสี่ดาวยังต้องหยุดขมวดคิ้ว!!

 

“เอ่อ…พี่ไท” มิรุแสดงท่าทางประหม่าทันที

 

“อืม จะพูดยังไงดี” ไทหันมาพูดด้วยหน้านิ่งแล้วชี้ไปทางอีกด้านหนึ่ง

 

“มันเป็นหมีจริงๆด้วย” ไทยิ้มอย่างขี้เล่นให้กับทุกคน เขาถือดาบในมือขวาก่อนถือปืนในมือซ้าย

 

“จัดรูปแบบสนับสนุนด้านหลังผม ศัตรูมีแค่ตัวเดียว”

 

[พบเป้าหมาย มิมิคระดับทหารรูปแบบหมี ระดับพลังงานอีเธอร์ 295]

 

“เฮ้ ระวังรอบๆด้วย หลังจากจัดการมันหวังว่าจะถือกระเป๋าใหญ่ๆสักใบ” ไทพูดขึ้น

 

เขายิงปืนทันที กระสุนอีเธอร์สีขาวพุ่งออกไปทันที มันมีขนาดใหญ่กว่าลูกปิงเล็กน้อยก่อนขยายไปเกือบเท่าขนาดกำปั้น

เปรี๊ย!!

 

กระสุนพุ่งออกไป มิมิคตรงหน้าของไทร่างสูงกว่าสามเมตร มันต้องการหลบกระสุนของเขาทว่ายังคงพลาด กระสุนระเบิดไหล่ซ้ายของมันทันที แขนข้างซ้ายของมันเกือบขาดจากไหล่ที่หายไป

 

กรรรร!!

 

มิมิคกระโจนเข้าหาเขาทันที ปากของมันอ้าออกพ่นกระสุนอีเธอร์ออกมาเช่นกัน ความเร็วของกระสุนนั้นเร็วพอๆกับปืนในมือของไท

 

“กระจายตัว” เสียงช้ายิ่งกว่าการเคลื่อนไหวของเขา ทันทีที่คนอื่นในทีมได้ยินเสียงของเขา ร่างกายของเขาก็หลบไปอีกด้านหนึ่งเรียบร้อยแล้ว เห็นเพียงปืนในมือของเขารีโหลดเสร็จ กระสุนอีเธอร์พุ่งไปข้างหน้าอีกครั้ง

 

ร่างของเขาพุ่งไปข้างหน้าทันทีที่ลั่นไก เสียงกระสุนกระทบร่างของมิมิคและเสียงคำรามของมัน ในวินาทีต่อมาไทปรากฏขึ้นตรงหน้าร่างของมิมิคที่สั่น ดาบวาดไปทางซ้ายขวาสลับกันอย่างรวดเร็ว เสียงเหมือนเหล็กกระทบกัน แขนข้างหนึ่งของมิมิคขาดออก บาดแผลที่ขาดอีกข้างตื้นเกินไป ไทเดาะลิ้น ก่อนจะพลิกตัวฟันเข้าไปอีกครั้งด้วยพลังที่มากกว่า

 

กรร

 

“ช้าเกินไปไอ้หมีควาย!” ไทถีบตัวออกห่างเล็กน้อย ในขณะที่มันยังคร่ำครวญกับบาดแผลสาหัส ไทยกปืนในมือขึ้นกระสุนลั่นไกอีกครั้ง

 

เพียงได้ยินเสียงคล้ายเสียงโลหะแตก หัวของมิมิคตรงหน้าเขายุบหายไปครึ่งหนึ่ง

 

ในตอนนั้นเองที่ไทวาดดาบในมืออีกครั้ง คลื่นดาบทะลวงผ่านลำคอของมัน แขนที่เหลือตกลงข้างลำตัว ร่างของมันทรุดลงกับพื้น

 

ตุบ!!

 

“นี่มันการต่อสู้แน่เหรอ!!” ซุยถือดาบในมือของเขาสั่น

 

“ระดับต่างกันโดยสิ้นเชิง” แม้แต่เมเดียที่เงียบมาโดยตลอด ดวงตาเป็นประกายอยู่ชั่วขณะ กำปืนในมือแน่น

 

ไม่ว่าใครในระดับนี้ที่เห็นการต่อสู้นี้ก็ต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นในใจของพวกเขา

 

แข็งแกร่ง!!

 

“นี่ มีใครมีมีดสั้นบ้างไหม?” ไทถามขึ้น

 

“ผมมี” ซุยรีบปลดมีดสั้นออกจากเอวก่อนจะส่งให้ทันที

 

“เจ้าตัวนี้อาจมีผลึกอีเธอร์?” ชานมองด้วยความอยากรู้เช่นกัน

 

“อืม มันน่าจะมีผลึกอีเธอร์ที่จับตัวเป็นก้อนแล้ว แต่อย่าหวังมากไปนัก” ไทตอบ

 

“ถ้ามีผลึกอีเธอร์จริงๆ คุณคงโชคดีเหมือนถูกด้วย เพียงก้อนเล็กๆเท่าเม็ดถั่วมันยังมีราคาสูงหลายแสนดอลลาล์”

 

“ถ้าคุณรู้คุณค่าของพวกมัน คุณจะไม่ขายมันด้วยเงินเพียงแค่นั้นแน่นอนเชื่อผมสิ” ไทตอบ

 

“นอกจากประโยชน์ในการตัวแกนพลังงาน กับการสร้างอาวุธและเกราะแล้วมันทำอย่างอื่นได้อีกเหรอคะพี่?” มิรุถามด้วยความอยากรู้

 

“อ่ะ เจอแล้ว!” ไทไม่ได้ตอบกลับ เขาล้วงมือของเขาแล้วหยิบหินที่เรืองแสงสีเทาออกมา มันมีขนาดเพียงเมล็ดข้าวเท่านั้น

 

“หืม นี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่พวกเราเจอผลึกอีเธอร์หลังจากจัดการพวกมัน

 

“ครั้งแรก? เอ่อ” ไทเงียบในทันที เขาลืมไปชั่วขณะว่าในห้าคนนี้ ทุกคนล้วนเป็นมือใหม่ไม่เว้นแม้แต่ชานในสายตาของเขา

 

“ส่วนใหญ่พวกเราจะเห็นพวกมันผ่านย่านการค้าในค่ายหรือไม่ก็จากทีมอื่นน่ะ” ชานเป็นคนตอบ สีหน้าเขาดูเขินอายเล็กน้อย

 

ไทมองไปที่ทั้งห้าคน เขาเงียบไปสักพัก

 

“ไปกันต่อเถอะ ระหว่างนี้คุณช่วยเล่าเกี่ยวกับค่ายของคุณให้ผมฟังได้ไหม” ไทพูด

 

“แน่นอน” ชานตอบกลับ

 

ระหว่างการค้นหาเส้นทาง รายละเอียดเกี่ยวกับค่าย G107 ก็ถูกเล่าออกมาอย่างละเอียดไม่ว่าจะเป็นผู้นำค่ายจนกระทั่งการเป็นอยู่พื้นฐาน

 

“อืม แปลว่าพวกคุณถูกส่งมาประจำที่ค่ายนี้เมื่อปีก่อน?”

 

“ใช่ ถ้าจะพูดให้ถูก ผมกับเฟย์เรามาพร้อมกัน พวกมิรุ ซุยกับเมเดียเป็นรุ่นต่อมา พวกเขาถูกส่งตัวมาจากที่ๆต่างกัน ส่วนใหญ่คนที่มาที่ค่ายจากปีเดียวกันจะจับกลุ่มกันง่ายกว่า”

 

ไทพยักหน้าเข้าใจ แต่เมืองใหญ่ย่อมคำนึงถึงประชากรในแต่ละเขต ในยุคสงครามที่ปกครองด้วยระบอบทหาร ทุกคนย่อมมีภาระหน้าที่ของตัวเอง

 

“นักรบในค่ายส่วนใหญ่จะประกอบไปด้วยทหารจากกองทัพและนักรบอิสระ พวกเขาไม่ทำงานให้กองทัพโดยตรงแต่ประกาศตนเป็นทหารรับจ้างอิสระที่ทำงานตามค่าจ้าง เมื่อสองปีก่อน ระบบทหารรับจ้างเองก็เริ่มมีการใช้กันอย่างแพร่หลาย แม้ว่าจะเรียกตัวเองว่าทหารรับจ้าง แต่พวกเขาก็ยังต้องฟังทางกองทัพ”

 

“แล้วพวกคุณล่ะ เป็นทหารจากกองทัพรึทหารรับจ้าง”

 

“พอดีว่าพวกเราชอบอิสระมากกว่า” ชานยิ้ม เขาล้วงตราสัญลักษณ์ของเขาออกมา มันเป็นเข็มกลัดธรรมดาที่สั่งทำเป็นตรารูปวงกลม ด้านมนเป็นสัญลักษณ์ปีกสีฟ้า

 

“กองทัพพันธมิตรมีตราสัญลักษณ์เป็นรูปนกฟีนิกซ์สีเงิน ส่วนพวกเราทหารรับจ้างจะมีสัญลักษณ์เป็นปีกสีฟ้าเพื่อแบ่งแยกพวกเราให้ชัดเจนขึ้น ทันทีที่คุณลงทะเบียนเป็นนักรบ คุณจะได้รับไอดีของคุณผ่านตราของคุณ” ชานอธิบาย

 

“พี่ไท ครูมาดูตรงนี้เร็ว!!” เสียงของมิรุดังขึ้นด้วยความตื่นตระหนก

 

ทุกคนรีบดึงอาวุธออก ทว่าภาพตรงหน้าทำให้พวกเขาตกตะลึง

 

“นี่มัน!” ชานอุทาน

 

ปัง!

 

ไทถีบบานประตูออกเพื่อให้ทางเปิดกว้างขึ้น

 

ตรงหน้าของเขาเหมือนจะเคยเป็นห้องของพนักงาน มันอยู่ลึกเข้ามาในทางเดินเฉพาะ ทางเข้าที่พวกเขาเข้ามาจึงดูแคปเล็กน้อย

 

“ใครมันทำแบบนี้!!” ชานสบถขึ้น เขาเดินมาอยู่ด้านหลังของไท มองไปด้านหน้าด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความโกรธ

กะโหลกและโครงกระดูกจำนวนมากถูกกองอยู่บนพื้น!! ยังมีศพที่เน่าเปื่อย ตามร่างกายมีร่องรอยการถูกกัด!

 

ไทมองดูภาพตรงหน้า ดวงตาของเขาประกายแสงเย็น เขาค่อยๆเดินไปใกล้ๆก่อนสังเกตพวกเขาอย่างละเอียดถี่ถ้วน

 

อ้วกกก…

 

มิรุ กับเฟย์ไม่อาจทนไหวก่อนหันไปคนละทิศทางเพื่อหาที่ระบาย ซุยกับเมเดียนั้นนอกจากสีหน้าที่ซีด แต่ยังคงเก็บอาการไว้ได้อยู่

 

“พวกเขาถูกสัตว์ร้ายกัดกินรึเปล่า?” ซุยถามขึ้น

 

นอกจากพวกมิมิคแล้ว สัตว์และสิ่งมีชีวิตอื่นๆบนโลกเองยังกลายพันธุ์จากพลังงานของอีเธอร์ พวกเขาถูกเรียกว่า ‘สัตว์ร้าย’

 

“ไม่ใช่ ไม่มีสัตว์ร้ายที่มีรอยฟันแบบนี้ สิ่งนี้ พวกนอกรีต!”

 

“ครู ครูแน่ใจว่าเป็นพวกนั้น” ซุยถามด้วยความตื่นตระหนก

 

ไทมองไปด้านหน้า ทันทีที่กถึงพวกนอกรีต ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยประกายฆ่าฟัน ชานคิดว่าไทอาจจะยังไม่รู้จึงรีบอธิบาย

 

“พวกนอกรีตคือพวกที่ปนเปื้อนเลือดของพวกมิมิค พวกเขาส่วนใหญ่เริ่มขึ้นจากคนที่เหมือนคุณ พวกคนที่กลับมาจากการรับมรดกโลก ในตอนแรกพวกเขาอ้างว่าการดื่มเลือดและพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาจะทำให้ร่างกายของมนุษย์แข็งแกร่งขึ้นผ่านการกลายพันธุ์ มนุษย์จะมีร่างกายที่แข็งแกร่งเหมือนกับทิมิค อีกทั้งยังใช้พลังงานอีเธอร์ได้ดีขึ้น”

 

“มันไม่ใช่แบบนั้น” ไทพูด

 

ปล.ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนิยายของข้าพเจ้า ขอบคุณทุกท่านที่กดติดตามมา ณ ที่นี้

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!