ไทลืมตาของเขาขึ้นมาอีกครั้ง ทว่าจะบอกว่าลืมตาก็ไม่เชิงเพราะตัวเขาพบว่าตัวเองในตอนนี้ไม่มีร่างกายของเขาอยู่ ร่างกายที่เป็นมนุษย์ของเขาในตอนนี้เป็นเพียงจุดแสงหนึ่งที่มีขนาดเท่ากับลูกปิงปอง
นอกจากจิตสำนึกที่เหลืออยู่ ความคิดและการมองเห็น เขาขยับร่างกายของเขาไม่ได้ เขาพบว่าประสบการณ์ในครั้งนี้ถือเป็นเรื่องแปลกใหม่
‘ในชีวิตก่อนตัวเราไม่ได้เลือกที่จะหยิบมัน เราเลยได้แต่ฟังคนอื่นพูดถึงสิ่งนี้ มันคือข้อผิดพลาด!!’
หลังจากที่สำรวจตัวเองเสร็จ เขาเพิ่งจะพบว่ารอบข้างอันมืดมิดนี้ยังมีจุดแสงนอกจากเขาอยู่ ขนาดของมันมีทั้งเล็กใหญ่ต่างกันไป เล็กที่สุดนั้นมีขนาดเพียงเมล็ดข้าวจนไปถึงขนาดเท่ากับกำปั้น มันอยู่ห่างกันไม่ไกลนัก จากการมองเห็นของเขา มันมีจุดแสงอยู่นับไม่ถ้วน ไม่สามารถประเมินได้ว่าจำนวนของจุดแสงนี้ไม่จำนวนมากเท่าไหร่ แต่จากความทรงจำของเขาที่เคยผ่านมา ผู้คนที่เคยเข้ามาบอกว่ามันคือโลกทั้งใบ จำนวนจุดแสงคือตัวแทนของผู้คนทั่วโลกที่เลือกที่จะหยิบมัน ผลึกอีเธอร์!
ทันใดนั้นโลกทั้งใบพลันสั่นสะเทือน ไทรู้สึกถึงแรงกดดันต่อตัวเของเขาที่กดทับลงมาจนเขาหายใจแทบไม่ออก
ลำแสงสีขาวขนาดมหึมาสาดส่องลงมาจากความมืดมิดที่ว่างเปล่า ภายในลำแสงนั้น ร่างที่คล้ายคลึงกับมนุษย์ที่มีปีกสองปีกค่อยๆปรากฏตัวขึ้นในลำแสง
ร่างที่เปล่งประกายด้วยแสงหลากสีเรืองรองไม่อาจมองเห็นรายละเอียดได้ ค่อยๆคลายปีกที่ห่อหุ้มตัวเองออก
“ในที่สุดเราก็ได้พบกันเหล่ามนุษย์โลกของเรา”
“ทุกคนคงสงสัยในตอนนี้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ว่าที่เราจะอธิบายสิ่งต่างๆนั้นเหลือไม่มากแล้ว”
ไทมองไปที่ร่างในลำแสง เขารู้สึกว่าถึงการปรากฏตัวนี้ภายนอกดูสูงส่ง แต่กลับมีความรู้สึกร้อนรนและอ่อนแอปะปนอยู่
แน่นอนว่าเขารู้ว่าสิ่งนี้คืออะไร มันคือโลก! แก่นแท้วิญญาณของโลกทั้งใบที่กำลังวิวัฒนาการและอยู่ในช่วงที่อ่อนแอที่สุด
“เราคือโลกของท่าน หรือจะให้พูดให้เข้าใจคือเราคือแก่นของโลก คล้ายกับสิ่งมีชีวิตที่ต้องมีหัวใจ เราคือหัวใจของโลกใบนี้ เราคือวิญญาณแก่นแท้ของโลกนี้!”
“เรา ตัวเราในจักรวาลนี้กำลังวิวัฒนาการ เราไม่อาจที่จะห้ามหรือหยุดมันได้ สิ่งนี้ทำได้เพียงดำเนินต่อไป มันคือกฏของธรรมชาติ กฏของจักรวาล!”
“นี่คือต้นเหตุทั้งหมด ทันทีที่ตัวเรากำลังจะวิวัฒนาการ พลังของโลกจะเปลี่ยนแปลง โลกจะแข็งแกร่งขึ้นในขณะที่ดูดซับพลังจากเรา สสารชนิดใหม่ แร่ชนิดใหม่ พลังงานใหม่จะถือกำเนิดขึ้น หนึ่งในสิ่งที่ทรงพลังและมีความสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงโลกมากที่สุด คือมัน ‘อีเธอร์’ บนโลกสิ่งนี้คล้ายกับเวทมนตร์ เหมือนกับคำว่า ‘มานา’ที่มนุษย์มักใช้สร้างจินตนาการและสร้างสรรค์ขึ้น เมื่ออยู่ใกล้ชิดกับอีเธอร์ สิ่งมีชีวิตจะปรับตัวและสามารถดูดซับมันได้เพื่อทำลายขีดจำกัดของตนเอง ไม่เว้นแม้แต่มนุษย์”
“ทว่าสิ่งนี้จะใช้เวลานานและโลกนี้ไม่อาจรอได้อีกต่อไป”
“โลกกำลังอยู่ในภาวะสูญสิ้น ในจักรวาลอื่นมีเผ่าพันธุ์ที่ตามล่าอีเธอร์เพื่อขยายเผ่าพันธุ์ของมัน สิ่งที่มากับอุกกาบาตที่ชนโลกครั้งนี้เป็นเพียงการสำรวจของพวกมัน เมื่อพบสิ่งที่ต้องการ เผ่าพันธุ์ของมันจะลงมายังโลกอีกมากขึ้น สิ่งนี้เรียกกันว่า ‘มิมิค’ มันทำลายเผ่าพันธุ์อื่นเพื่อขยายเผ่าพันธุ์ของตัวเอง นี่คือศัตรูของพวกคุณ!”
“เพื่อให้มนุษย์มีความหวัง เราได้ใช้พลังแห่งการวิวัฒนาการเร่งกระบวณการควบแน่นอีเธอร์ให้ตกผลึก มันคือตัวกลางที่นำทุกคนมายังใจกลางแก่นแท้ของโลกในครั้งนี้”
“เพื่อให้มนุษย์ปรับตัวเข้ากับพลังใหม่นี้ให้เร็วที่ เราจะใช้ผลึกอีเธอร์นี้ในการหลอมรวมและสร้างการซิงโครไนซ์กับร่างกายของทุกคนโดยมีพลังของเราเป็นตัวนำ เราจะส่งต่อมรดกของโลกในยุคอดีตกาลที่ผ่านมาหลายล้านล้านปีให้ทุกคน แต่จะสามารถรับไปได้มากแค่ไหนก็อยู่ที่ตัวของพวกคุณเอง มันอาจจะเจ็บปวด ทรมาณในการเร่งปฏิกิริยานี้ แต่จงจำไว้ว่าอนาคตของโลกนี้จะเลวร้ายยิ่งกว่า”
ยิ่งแก่นแท้ของโลกอธิบายไปนานเท่าไหร่ ร่างกายของเขาก็ยิ่งเจือจางลงเท่านั้น และเหมือนวิญญาณแก่นแท้ก็ทราบสิ่งนี้ดี
“ถึงเวลาแล้ว และขอโทษที่ไม่สามารถนำมนุษย์ทุกคนบนโลกเข้ามาสู่กระบวณการได้ ตอนนี้ก่อนที่เราจะหลับไปในกระบวณการวิวัฒนาการเราจะส่งต่อมรดกความทรงจำและช่วยพวกคุณทุกคนปรับตัวเข้ากับอีเธอร์”
วิญญาณแก่นแท้ค่อยๆหลับตาลงก่อนจะผายมือทั้งสองออกมา คลื่นลำแสงสีขาวที่หนาแน่นกระจายเป็นละอองแสงจำนวนนับไม่ถ้วน กระจายออกไปยังโลกที่มืดมิดนี้
ไทมองไปที่ละอองแสงที่ค่อยๆตกลงมาบนผลึกอีเธอร์ของเขา เขารู้สึกได้ถึงพลังที่ค่อยๆพุ่งพล่าน
‘ผู้ย้อนเวลาเอ๋ย’
‘หืม?’
‘อย่าตกใจไป เรารู้สึกได้ถึงสิ่งที่คล้ายกับเราในตัวของคุณแม้มันจะเล็กน้อยก็ตามที’
‘พลังที่เหมือนกับคุณ?’
‘ใช่ เศษของวิญญาณแก่นแท้ คุณคงได้รับมัน’
‘แต่ ได้ยังไง’ ไทนึกไปถึงภารกิจของเขา เขาได้รับสิ่งนั้นโดยบังเอิญก่อนจะกลืนมันลงท้องและระเบิดตาย!
‘มันไม่ใช่ตัวเรา แต่ก็คือตัวเราเช่นกัน อาจอธิบายได้ว่าเป็นตัวเราในระนาบอื่น’
‘มิติอื่น?’
‘ใช่ มีจักรวาลในมิติอื่นอีกมากมาย และตัวเราแก่นแท้ของโลกสามารถเชื่อมโยงกับตัวเราในมิติอื่นๆตลอดเวลา’
‘งั้นแล้วผม ผมยังอยู่ในโลกเดิมไหม’
‘ใช่ วิญญาณของคุณอยู่กับเราเสมอ อาจเป็นเพราะในอนาคตที่ผ่านมาของคุณไปพบเข้ากับเศษของแก่นแท้ของโลกที่ถูกส่งผ่านมิติมาจากระนาบอื่น หรือจะบอกว่าสิ่งที่คุณได้รับคือเศษของแก่นแท้โลกที่ดับสูญ มันตายไปแล้ว’
‘ผมเข้าใจ’
‘ดีที่คุณเข้าใจ เพราะเราเองหลังจากใช้พลังทั้งหมดในครั้งนี้เราใกล้จะหลับใหลแล้ว การตื่นอีกครั้งของเรา คือหลังจากที่การวิวัฒนาการเสร็จสิ้น หรือถ้ามนุษย์ถึงจุดจบและมิมิคดึงพลังของอีเธอร์ไปทั้งหมดเราอาจไม่ตื่นอีกตลอดกาล เราในมิตินี้จะเข้าสู่การหลับใหลชั่วนิรันดร์’
‘ผมจะช่วยคุณได้ยังไง’ ไทถามออกไป ไม่มีทางที่อยู่ดีๆตัวละครที่ไม่สำคัญอย่างเขาจะได้คุยกับแก่นแท้ของโลกเป็นการส่วนตัว
‘เราต้องการมัน และอีกนัยหนึ่งมันเป็นการช่วยคุณไปในตัว’
‘คุณหมายถึงเศษของแก่นแท้? มันยังคงอยู่ในตัวผมเหรอ ผมไม่สามารถรู้สึกถึงมันได้’
‘แน่นอนสำหรับตอนนี้ ทว่าหลังจากที่คุณทำการปรับตัวเข้ากับอีเธอร์ ในระหว่างการปรับตัวนี้ คุณจะรู้สึกถึงมันแน่นอน ถึงแม้มันจะเหลือพลังไม่มากแล้วหลังจากพาคุณย้อนเวลากลับมา แต่พลังที่เป็นของโลกนี้ไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์จะรับไว้ได้ เราแน่ใจว่าคุณไม่อยากสัมผัสกับการระเบิดตัวเองอีกครั้ง’
ถึงแม้ไม่มีร่างกายในตอนนี้ ไทกับรู้สึกสั่นสะท้านไปถึงดวงวิญญาณทันทีที่นึกถึงการระเบิดตัวเองของเขา
‘ผมต้องทำยังไง’
‘คุณไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น เราจะดึงพลังนี้ออกมาเอง ถึงมันไม่มีประโยชน์กับคุณแล้ว แต่พลังที่เหลือนี้จะช่วยในการวิวัฒนาการของเรา แม้จะเล็กน้อยก็ตาม’
‘ทำตามที่คุณเห็นสมควร ขอบคุณ’
วิญญาณแก้นแท้มองไปที่ไท เงียบไปสักพักก่อนจะเอ่ยอีกครั้ง
‘มันอาจจะถูกลิขิตเอาไว้ โชคชะตาไม่เคยแน่นอน เราจะไม่เอาสิ่งนี้ไปจากคุณฝ่ายเดียว ในกระบวณการนี้เราจะใช้พลังส่วนหนึ่งที่หลงเหลือของมันเพื่อช่วยในการปรับตัวของคุณให้ดียิ่งขึ้น’
‘นะ นี่คือนิ้วทองคำ???’
‘หึๆ คุณช่างมีอารมณ์ขัน แต่จะว่าอย่างนั้นก็ได้ เราไม่อาจมอบระบบแปลกๆที่ไม่มีอยู่จริงเหมือนในสิ่งที่มนุษย์เรียกมันว่านิยาย แต่จะบอกว่าสิ่งนี้คือนิ้วทองคำของคุณก็ไม่ผิด เวลาเหลือน้อยแล้ว เราจะเริ่มจัดการกับสิ่งนี้ทันที’
‘ขอบคุณ’ ไทตอบกลับไปอย่างตื่นเต้น
นึกไปถึงช่วงเวลาที่ยากลำบากในชีวิตก่อนของเขา เขารู้สึกว่าการตายของเขาคือ โชคดี!!!
เสียงของแก่นแท้ของโลกเงียบหายไปแล้ว ในระหว่างนี้ละอองแสงนับไม่ถ้วนยังคงตกลงมาจากบำแสงจนาดมหึมาอน่าวต่อเนื่อง มันถูกส่งไปยังผลึกอีเธอร์ทุกตัวในโลกอันมืดมิด
ทันใดนั้น ไทรู้สึกว่ามีพลังบางอย่างปะทุขึ้นจากตัวของเขาก่อนจะค่อยๆถูกดึงออกไป แทนที่เขาจะรู้สึกอึดอัดกับมันที่ต้องเสียพลังอันยิ่งใหญ่นี้ไปแต่เขากลับรู้สึกโล่งใจแทน
ดีแค่ไหนแล้วที่ไม่ตายอีกรอบ!! แถมรอบนี้เขามีความรู้สึกว่า เขาจะตายจริงๆ ไม่มีการคืนชีพ ไม่มีการย้อนเวลา!!
หลังจากที่วิญญาณแก่นแท้ดึงพลังนี้ออกไป ตัวของไทเองก็เริ่มเข้าสู่กระบวณการปรับปรุงของเขาทันที ผลึกอีเธอร์ค่อยๆเปลี่ยนไป ผลึกขนาดลูกปิงปองค่อยๆเปลี้ยนแปลงขนาดของมัน มันมีแขน และขาปรากฏขึ้นก่อนจะเปลี่ยนแปลงกลายเป็นมนุษย์ ใช่ เป็นรูปร่างของตัวไทเอง
ทว่าในกระบวณการนี้ เขาไม่สามารถมองเห็นตัวเองได้อีกต่อไป แทนที่จะรู่สึกเจ็บปวด เขารู้สึกถึงกระแสพลังอันอบอุ่นค่อยๆรากฏขึ้น ตอนแรกมันมีขนาดเล็กยิ่งกว่าเส้นด้าย ทว่ายิ่งนานวัน ขนาดของมันกลับขยายใหญ่ขึ้น ขนาดของเส้นด้าย …เท่ากับเส้นเอ็น ..ขนาดไหมพรม…จนจวบจนบัดนี้ มันมีขนาดเท่ากับเชือกเส้นใหญ่!!
เขาจมลงสู่ความอบอุ่น รู้สึกสบายไปทั้งร่างกาย
ไทไม่รู้เวลาเวลาผ่านไปเท่าไหร่ ทว่าในตอนนี้เอง ภาพความทรงจำบางอย่างค่อยๆไหลเข้ามาทีละเล็กทีละน้อย ภาพแรกเป็นแบบของหมู่บ้านเล็กๆ มีผู้คนไม่มากนักแต่ละคนสวมเสื้อผ้าที่ทำด้วยในหนังสัตว์ มีเกราะขนาดต่างๆอยู่บนร่างกาย พวกเขาเหมือนนักรบคนเถื่อน!! โดยเฉพาะกับอาวุธขนาดใหญ่ที่เขาเห็น ดาบใหญ่สีดำที่ดูเหมือนทำจากกระดูกสัตว์ร้าย หอกยาวขนาดมหึมา ธนูเขี้ยวสัตว์ร้ายที่นักรบถือ
ไทไม่เคยเห็นมันมาก่อน แต่ทันทีที่ความทรงจำนี้แล่นเข้ามา เขากลับรู้สึกว่าเขาเคยอยู่ในช่วงเวลานี้ ถ้าเขาพยายามเพ่งรายละเอียดดีๆ เขารู้สึกว่าเขารู้ได้แม้กระทั่งว่าดาบใหญ่เล่มนั้นทำมากจากสัตว์ชนิดใด
มังกร!! ดาบเล่มนั้นทำจากเขี้ยวมังกรบินกลายพันธุ์ ถึงจะเป็นมังกรพันธุ์ทาง แต่ก็ยังเป็นมังกร มังกรจริงๆ !
จากนั้นก็เป็นภาพอื่น ภาพของเมืองที่เจริญรุ่งเรืองกำบังพังทลาย กลุ่มคนในชุดผ้าคลุมดำปรากฏตัวขึ้น ในมือของแต่ละคนมีกระบอกปืนที่ดูไม่คุ้นเคยแต่การออกแบบกลับดูปราณีตสง่างาม หนึ่งในนั้นยิงลำแสงออกมาจากปืนยาวไปยังพวกสัตว์ประหลาดสีดำ ….มิมิค!!
เขาไม่มีทางลืมพวกมันที่เขาต่อสู้อย่างอยากลำบากมาเกือบยี่สิบปีเต็ม
นี่คือช่วงเวลาของอีกโลกหนึ่งที่กำลังทำสงครามกับพวกมิมิค!
หลังจากภาพที่ไทเห็นเหล่านี้ ความทรงจำอื่นๆก็ไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง มันกลายเป็นความทรงจำจากภาพถ่าย ค้อยๆซ้อนเรียงกันเหมือนเป็นแฟ้มหนาที่คอยให้เขามาเปิดอ่าน
ไทรู้สึกตื่นเต้น!
เหล่านี้คือมรดกที่แก่นแท้โลกส่งผ่านให้กับมนุษย์ในโลกอันมืดมิดนี้
เจาจำได้อย่าวแม่นยำว่าสิ่งนี้เคยเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่อดีตกาล เป็นเรื่องราวของโลกที่เจริญรุ่งเรืองและล่มสลายผ่านกาลเวลาจากอดีตสู่อนาคต เป็นสิ่งที่วิญญาณแก่นแท้ของโลกได้ประสบพบเจอ และเลือกที่จะส่งผ่านมันในหายนะครั้งนี้
อย่างที่แก่นแท้ของโลกได้บอกเอาไว้ ใครจะได้มากได้น้อยก็อยู่ที่ตัวของแต่ละคนเอง
ทว่ามีสิ่งหนึ่งที่ไทไม่รู้ ระหว่างที่เขาพยกับการปรับปรุงอย่างสงบสุข ในผลึกอีเธอร์อื่นๆนับไม่ถ้วน มนุษย์แต่ละคนมีสีหน้าบิดเบี้ยวทรมานต่างกันออกไป การจะหาช่วงเวลาอันอบอุ่นอย่างไท อาจพูดได้ว่าเป็นหนึ่งในหมื่น
แม้ช่วงแรกๆจะผ่านไปด้วยดี แต่ยิ่งนานเข้าความรู้สึกเจ็บปวดจะทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และในระหว่างความเจ็บปวดนี้ ยังต้องทำความเข้าใจต่อมรดกที่ไหลผ่านความทรงจำ พูดได้ว่าใครที่สบายเท่าไท ไม่มี!!
เวลาค่อยๆผ่านไป ร่างของมนุษย์ที่ซิงโครไนซ์เจ้ากับพบังของอีเธอร์เสร็จสิ้น ร่างกายนั้นพลันไปจากโลกนี้ทันที
ร่างแล้วร่างเล่า ตื่นขึ้นและหายไป!
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ร่างกายของไทในตอนนี้ชัดเจนขึ้นแม้จะอยู่ในแสงสว่าง ผมสีดำที่งอกยาวถึงกลางหลัง ร่างกายสมส่วนที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อที่เรียงกันอย่างสมบูรณ์ปรากฏขึ้น ผิวของเขาที่สร้างใหม่นั้นขาวราวกับผิวเด็กทารก
แม้ว่าใบหน้าของเขาจะถือได้ว่าเป็นเพียงมาตราฐานกลางๆของผู้ชาย แต่กับร่างกายนี้ ไม่มีใครกบ้าปฏิเสธว่ามันช่างดูดีอย่างไม่น่าเชื่อ
ระหว่างที่ไทกำลังจมอยู่กับความทรงจำมหาศาล ร่างกายของเขาก็ปรับตัวเข้ากับอีเธอร์ได้สำเร็จ
เปลือกตาของเขาขยับ เขาจึงลืมตาของเขาขึ้น
ยังคงเป็นโลกแก้นแท้อันมืดมิด อย่างแรกเขาทำการสำรวจร่างกายของเขาเอง มันแตกต่างจากอดีต เขารู้สึกได้ถึงพลังงานจำนวนมาก แม้จะยังห่างไกลจากช่วงเวลาที่เขาเสียชีวิต แต่ต้องรู้ว่าตอนนี้ เขาเพิ่งเริ่มต้น!!!
สามดาว??
“หรือสี่ดาว?” ไทสงสัย
ในชีวิตก่อน การแบ่งระดับของมนุษย์ถูกแบ่งออกเป็นระดับดาวเพื่อแสดงถึงศักยภาพของนักรบแต่ละคน
ต่ำสุดคือนักรบหนึ่งดาวสูงสุดในชีวิตที่แล้วของเขามนุษย์ชาติไต่ระดับไปถึง 8 ดาวในระยะเวลายี่สิบปี
ทว่าสิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจยิ่งกว่าคือในความทรงจำของเขา จากอีกโลกหนึ่ง
มีมากกว่าระดับดาว!!
ยิ่งมนุษย์มีพลังมากขึ้น อายุขัยของพวกเขาก็มากขึ้นตาม 9ดาวที่มีอายุหลายพันปี
แต่กลับมีระดับที่สูงกว่านั้น ดาวเงิน กับ ดาวทอง
หนึ่งดาวถึงเก้าดาวถูกเรียกว่านักรบ
หนึ่งดาวเงินถึงเก้าดาวเงินถูกเรียกว่าแม่ทัพ
หนึ่งดาวทองถึงเก้าดาวทองถูกเรียกว่าปราชญ์
ที่ทรงพลังยิ่งกว่า นามนั้น ราชัน!!!
ไทรู้สึกตื่นเต้นจนตัวสั่นความรู้พวกนี้นอกจากนักรบระดับสูงแล้ว น้อยคนนักที่จะได้รับรู้ ยิ่งนักรบรับจ้างแบบเขาในชีวิตก่อนที่ไม่ได้รับสืบทอดมรดกก็เหมือนกบในบ่อ!!
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 16
Comments