นั่งดูอดีตอยู่ดีๆถูกย้อนอดีตไปช่วยเสาหลักเพลิงสะงั้น
โลกอนาคต
เสียงตะโกนอย่างเอาตายของใครบางคนดังขึ้นภายในกรอบสี่เหลี่ยมคล้ายกับจอทีวีกลางห้องสีมืด ไม่สินั้นไม่อาจจะเรียกว่าทีวีได้มันเหมือนกับเครืองอะไรบางอย่างที่ดูล้ำกว่านั้น มันเหมือนกับเตียงนอนของคนไข้ที่ล้อมลอบไปด้วยทีวีขนาดใหญ่ มันเหมือนกับร่มอันใหญ่ยักษที่เต็มไปด้วยสายไฟทั่วห้องราวกับเถาวัลย์ที่ย้อมด้วยสีดำสนิทครอบเด็กคนนึงไว้ เด็กหนุ่มที่เอนตัวนอนลงจ้องมองไปที่หน้าจอนั้น ในตาสีเขียวของเขานั้นประกายไปด้วยความหวังที่หลั่งมาพร้อมหยดน้ำตาเล็กๆ เขากำหมัดแน่น ปากที่ดูเรียวคมฉีกยีออก
จิกัง
ขาดสิ ขาด ขาดสักที!! ไม่นะคุณเรนโงคุ!! ใครก็ได้ เสาหลักสักคนมาช่วยเขาที ใครก็ได้ โถ่เว้ยยย!!!
มือข้างนึงที่ดูหนาแต่กลับเรียวเล็กจนมองเห็นเส้นเลือดแข็งปูดออกมาดั่งรากไม้เล็กๆปลายนิ้วทั้งห้า กำเส้นผมแดงฉานเหมือนกระดาษที่ถูกขย้ำ
จิกัง
ไม่นะมันหนีไปได้อีกแล้ว เจ้าข้างขึ้นที่สามนั่น
ท่ามกลางความโกรธเกรี้ยวที่คลุกกรุน เสียงตบมือเล็กๆก็ดังขึ้นด้านหน้าประตู เสียงแหลมเล็กแต่กลับฟังดูอบอุ่นก็แทรกขึ้นมาพร้อมความเบื่อหนาย
ฟุน
เห้อ.. จิกัง เลิกดูตำนานอะไรนี่สักทีเถอะน่า นี่นายดูมาเป็นร้อยๆรอบได้แล้วมั้ง ยังไงเขาก็ตายอยู่ดีไม่ใช่รึไง
หญิงสาวที่ยืนอยู่ หลังจากตบมือเสร็จก็เอ่ยปากพร้อมกอดอกไปพลางๆ ผิวที่ขาวอมชมพูเหมือนดอกซารุกะบาน ริมฝีปากเรียวงามอมชมพูไม่ต่างจากผิวมากนัก ถ้ามองจากคนทั่วไปอาจจะคิดว่าเป็นคุณหนูชนชั้นสูงก็เป็นได้ ผมสีมุกของเธอนั้นดูห่อเหียวอมไปด้วยหยดน้ำเล็กๆสะท้อนกับแสงไฟในห้อง แววตาคมโตสีขาวครีมพร้อมใบหน้าที่เรียวเล็กมองจิกไปที่น้องชายของตน จิกังที่ได้ยินแบบนั้นเขาเหลือบมองด้วยน้ำตาที่นองหน้า ปลายนิ้วที่จิกเส้นผมจนไม่เป็นทรง ชี้ไปที่จอสี่เหลี่ยม
จิกัง
แต่ว่าผม อยากไปช่วยคุณเรนโงคุ เขาไม่ควรมาเสียที่นี่ด้วยซ้ำ ความแข็งแกร่งของเขาคนนั้นหนะ ฮืออออ T_T
ฟุน
พอทีเถอะน่า บ้านเราเป็นตระกูลนักสู้นะ จะมาร้องไห้ฟูมฟายกับอดีตแบบนี้ได้ยังไงกัน เอ้า ลุกได้แล้ว ได้เวลาฝึกต่อแล้ว ลมปราณหนะ ลมปราณ ถ้าอยากเป็นตำนานแบบคุณเรนโงคุก็ลุกมาฝึกแบบทุกวันซะ
จิกัง
รู้แล้วน่า โถ่... T_T
จิกันได้ลุกขึ้นจากเตียงของตน เผยร่างกายที่เต็มไปด้วยบาดแผลมากมายบนร่างกายของเขา เหมือนกับนักรบที่ผ่านศึกมานับไม่ถ้วน กล้ามท้องที่มองเห็นชัดจนน่ากลัว มันนูนแข็งดั่งเหล็กกล้า คมมีดที่ไม่ได้รับคมมาอย่างดีอาจจะเจาะทะลุผิวของเขาไม่ได้ด้วยซ้ำ
ตระกูลของจิกังนั้นเป็นตระกูลที่สืบทอดกันมาหลายยุคหลายสมัย ต่อสู้กับสิ่งแปลกปลอมไม่ก็อาชญากรรมหรือเหนือกว่านั้นมามากมาย ทำให้บ้านเรามีเงินมหาศาลคนรุ่นหลังที่เกิดมาแทบจะไม่ต้องทำงานเลยด้วยซ้ำ แต่พักหลังมานี่หลังจากที่พี่ชายของเขาได้หายตัวไป เหตุการณ์ประหลาดทุกอย่างก็เงียบลงเหมือนกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น แต่ทุกอย่างก็ต้องดำเนินต่อไปไม่ว่าจะเป็นการฝึกร่างกาย หรือการต่อสู้ด้วยอาวุธต่างๆอย่างชำนาญเพื่อรองรับสถานการณ์ไม่คาดฝันที่จะเกิดขึ้น
กลางห้องโถงใหญ่สีขาวที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ออกกำลังที่ดูไม่ใช่ของที่คนทั่วไปที่จะยกขึ้นมาได้ ดำเบลที่จิกังยกอยู่ตอนนี้นั้นใหญ่พอๆกับช้างที่โตเต็มวัย แต่ด้วยด้ามจับทำมาแบบพิเศษทำให้การถือยกหรือเหวียงไปมานั่นไม่ใช่เรื่องยากนัก ส่วนข้างๆของจิกันพี่สาวของเขาอยู่บนลู่วิ่งที่วิ่งด้วยความเร็ว 1000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เสียงลมหายใจของทั้งสองดังก้องไปทั่วห้องเหมือนมีพายุลูกเล็กๆสองลูกกำลังวิ่งชนกัน พลังปอดของทั้งคู่ที่สูดลมหายใจนั้นไม่ได้มาจากพลังปอดเพียงอย่างเดียว เพราะมีเครืองฟอกอากาศจากอนาคตที่กรองความบริสุทธิ์นั้น พละกำลังพวกเขาจึงดูมหาศาลด้วยลมปราณที่ไหลผ่านทั่วร่าง
ฟุน
จิกังนี่เราสองคนไม่ได้กลับโลกกันมานานแค่ไหนแล้วนะ
จิกัง
ประมาณห้าปีได้แล้วมั้งพี่ฟุน ตั้งแต่พี่โทโมนิหายตัวไป
ฟุน
จริงด้วยสินะ ตอนนั้นพี่จำได้ว่าก่อนที่เขาจะหายตัวไป เขากำลังดูอะไรสักอย่างบนจอนั้น แต่ตอนนั้นมันถึงเวลาฝึกพอดี ทำเอาวุ่นวายกันเลยหละ ปกติก็เป็นคนที่ดูเย็นชาแท้ๆไม่คิดเลยว่าจะหายไปเฉยๆแบบนี้
จิกัง
เขาอาจจะมีเหตผลอะไรก็ได้นะครับ ก็เขาเป็นพี่ชายของพวกเรานี่นา
ฟุน
พูดถึงก็น่าคิดถึงจังเลยน้า วันที่พวกเรานอนดูเหตุการณ์ต่างๆในอดีตด้วยกันผ่านจอนั้น คนที่ฉลาดและแข็งแกร่งขนาดนั้นเขาหายไปไหนกันนะ
จิกังกวาดสายตาไปที่เพดานสีขาวไปมาราวกับนึกอะไรบางอย่าง
จิกัง
อืม....ถ้างั้นเรามาดูด้วยกันอีกมั้ยละครับพี่ นานแล้วนะที่เราไม่ได้ดูอดีตด้วยกันน่ะ
ฟุนได้ยินแบบนั้นจึงหลี่ตามองไปที่จิกัง
ฟุน
ที่พี่ไม่ดูเพราะว่าแกเอาแต่ดูตำนานรถไฟนั้นซ้ำๆนั้นแหละ แถมดูทีไรแกก็ชอบทำหน้าตายี่ๆน้ำตาเข้าน้ำตาออกทุกที -__-
จิกัง
เอาเถอะน่าพี่ แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวผมจะไม่ดูอีกแล้วก็ได้
ในดวงตาสีขาวครีมของฟุนนั้นจ้องมองไปที่ใบหน้าของน้องชายของเธอมันช่างดูไร้วิญญาณ..
แต่กระนั้นแววตาที่ดูกลมโตอ้อนวอนก็โผล่ขึ้นมาชนกับดวงตาของเธอ เสียงถอนหายใจเฮือกดังขึ้น ด้วยความที่เธอเป็นพี่สาวเธอจะใจอ่อนกับน้องชายจึงไม่ใช่เรื่องแปลก
ฟุน
เห้ออออ ก็ได้ๆ หลังจากฝึกเสร็จค่อยไปดูละกัน แค่ครั้งนี้นะ พี่ขอร้อง
จิกังชู่แขนที่เหมือนยกช้างไว้สองตัวลอยพุ่งกระแทกไปที่เพดานสีขาวจนเกิดรอยราว แล้วเขาก็ห่อยอยู่แบบนั้น พร้อมกับใบหน้าที่เปื้อนยิ้มแห้งกรอบราวกับขอโทษในใจ
ณ ห้องเก็บอาวุธ มันเหมือนกับห้องสมุดขนาดใหญ่ที่วางอาวุธไว้ในช่องราวกับหนังสือที่ปกดูแหลมคม กลิ่นคาวเลือดตลบจนต้องปิดจมูกเล็กน้อย
ฟุน
พี่ว่าเราควรทำความสะอาดที่นี่กันบ้างนะ
ทั้งคู่เดินไปทั่วห้องเหมือนกับเดินดูสวนสัตว์
จิกัง
ช่วยไม่ได้นี่ครับก็เราไม่ได้มากันนานแล้วนี่นา ทั้งที่ปกติเราต้องฝึกอาวุธกันทุกวันแท้ๆ
ฟุน
ก็จริงนะ ถ้าเป็นเมื่อก่อนน่ะนะ แต่พี่คิดว่าถ้าจับมาควงนิดหน่อยก็น่าจะใช้ได้เหมือนเดิมนั้นแหละ ปกติบ้านเราเน้นระยะประชิดด้วยสิ
จิกังได้ยินแบบนั้น ถึงจะน่ารำคาญใจเบาๆแต่ที่เธอพูดก็ไม่เกินจริง เพราะด้วยฝีมือของเธอจะทำแบบนั้นได้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ตอนเธออายุเพียง13ปี ในสงครามบนโลก เธอถูกส่งไปแนวหน้า ด้วยผลงานของเธอจนทำให้ได้ฉายาว่า หมอกสีเลือด
จิกัง
ประหลาดเกินไปแล้วนะพี่ อ๊ะ! นั้นไง
จิกังเจอดาบที่เขาตามหา ดาบนั้นคือดาบซามูไรที่พี่ชายของเขาเคยใช้ แต่เขาก็ไม่ได้คิดจะใช้มันต่อจากพี่ แต่เขาจะทำการก็อปปี้รูปทรงดาบ เพื่อจะมาใช้เอง
ตั้งแต่ปลอกดาบไปจนถึงด้ามดาบ มีเพียงสีม่วงที่อาบจนคิดว่ามันคือสิ่งเดียวกัน แต่เมือดึงปลอกออก มันเหมือนกับมีทะเลยามค่ำคืนอยู่ที่คมดาบ ตัวดาบสะท้อนแสงจนแสบตา จิกังเห็นแบบนั้นจึงปิดฝักลง พร้อมถอนหายใจเบาๆ
ฟุน
จะพกของแบบนั้นเพื่อไปดูตำนานในจอนั้นน่ะนะ
จิกัง
เพื่อให้สมบทบาทไงครับพี่สาว อ๊ะ แล้วก็ผมทำเสื้อมาด้วยนะ เครืองเย็บที่บ้านเรานี่สุดยอดไปเลย ออกมาตามแบบเป๊ะเลย
จิกังที่ไปชี้ตู้กระจกข้างๆ และเดินเข้าไปเพื่อจะหยิบสิ่งนั้นออกมา
จิกังชูเสื้อสีดำออกมาพร้อมมีตัวอักษรแปะด้านหลังด้วยคำว่าพิฆาต
ถึงจะดูเหมือนเสื้อทั่วไปแต่ใยไหมที่ทำมาจากสิ่งที่หาไม่ได้จากบนโลก ความยืดหยุ่นของมันแม้แต่กระสุนของปืนใหญ่ยังไม่อาจทำอะไรเสื้อตัวนี้ได้
ด้วยความเป็นพี่สาวของฟุน เขาถึงรู้สึกหนายนิดหน่อย กับนิสัยของน้องชายของตน เธอคิดว่าความเป็นเด็กของเขาไม่สมกับใบหน้าที่ดูเป็นผู้ใหญ่ที่หล่อเหล่าจนสามารถทำให้สาวใจเต้นได้เอาเสียเลย
ฟุน
เอาจริงดิ นี่แกเอาอุปกรณ์ทำมาหากินของตระกูลมาทำเรื่องแบบนี้เนี้ยนะ
ทั้งคู่นอนดูอยู่ข้างกันจนลมหายใจอุ่นๆของทั้งคู่กระทบผิวกายของกันและกัน ในขณะนั้น เสียงสายฟ้าฟาดดังติดต่อกันหกครั้งก็ได้ดังขึ้นในจอสี่เหลี่ยมกลางห้องมืด ฟุนหันจ้องตาจิกังด้วยความสงสัย
จิกังได้ยินแบบนั้นเขาจึงตอบกลับด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย
จิกัง
อืม..ถึงจะไวมากก็จริง แต่ก็มองทันอยู่นะครับ
ฟุน
ไม่คิดเลยนะว่าคนสมัยก่อนจะแกร่งขนาดนี้ได้ ถึงเจ้าหัวเหลืองนี่จะดูงองแงตอนตื่นก็เถอะ
จิกัง
เขาชื่อคุณเซ็นอิซึน่ะครับ
จิกัง
พลังขาของเขาแข็งแรงมาก เพราะเขาใช้ได้เพียงกระบวนท่าเดียว
ปลายนิ้วที่เรียวยาวจับที่คาง ฟุนครุ่นคิดเล็กน้อย
ฟุน
อืมม..น่าสนใจนะ แต่เสียอย่างเดียว เจ้าหั- ไม่สิ คุณเซ็นอิซึ ดูบ้าผู้หญิงชะมัดเลย
ฟุน
อืม..อสูรรถไฟตายง่ายจังเลยนะ
ฟุน
โอ๊ะ เสาหลักเพลิงคนนี้สอนเรื่องลมปรานให้เด็กคนนั้นด้วยแหะ
จิกัง
ขั้นพื้นฐานสุดๆไปเลย
จิกัง
แผลแค่นั้นไม่กี่วินาทีเเบบๆเราคงรักษาได้สบายๆ
ฟุน
อืม ก็จริงนะ แล้วเจ้าตัวไหนหละที่สังหารเสาหลักเพลิง
เสียงตึงดังขึ้นอย่างสั่นไหว ควันดินตลบไปทั่ว จนเผยร่างอสูรในตามีตัวที่เขียนว่าสามอยู่
จิกัง
มาแล้วครับ เจ้านั้นแหละ ข้างขึ้นที่สาม
ดวงตาไข่มุกบีบลงดั่งเหยียวจ้องศัตรู น้ำเสียงที่ฟังดูหนักแน่นกว่าทุกที
ฟุน
นี่พวกเขาต้องสู้กับเจ้าตัวแบบนี้จริงๆหรอ
จิกัง
จากประสบการณ์การต่อสู้ของผม ถ้าโลกนั้นมีแค่เสาหลักที่พอสู้ได้
จิกัง
ผมประเมินไว้ว่าน่าจะใช่ ประมาณสองถึงสาม เสาหลัก
น้ำเสียงที่แผวเบาแต่หลักแน่นได้แทรกขึ้น
ฟุน
ห้าคนยังไม่พอด้วยซ้ำ พวกเขาได้ตายกันหมดแน่
ฟุน
พี่เข้าใจแล้วหละ แค่มองปราดเดียวก็รู้ได้เลย
จิกัง
นั้นสินะครับ ผมอยากช่วยพวกเขาจริงๆ
เสียงกำปั้นที่รัดแน่นดังเอียดเพราะเสียงเบียด จากจิกัง
ฟุนเหลือบมองต่ำไปที่มือของจิกัง เขาเข้าใจน้องชายเป็นอย่างดี เพราะเธอได้ดูเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นจนจบ
ฟุน
พี่ก็ไม่ได้อยากช่วยอะไรหรอกนะ
ฟุน
แต่พี่อยากสู้กับอสูรตนนั้นมากกว่า
จิกังเห็นริมฝีปากที่งดงามเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม เขาจึงเข้าใจพี่สาวของตน
จิกัง
ถ้าเราไปช่วยได้ก็คงดี
เสียงปริศนาดังฟึ้บเหมือนเสียงกระพือของผึ้งทั้งฝูงนับพัน
บนจอสี่เหลี่ยมนั้น มีตัวอักษรประหลาด
เหตุการณ์ในอดีตได้หยุดลงตรงฉากที่เสาหลักและอสูรได้สาดกระบวนท่าใส่กัน
ทีวี
"ต้องการที่จะช่วยเหลือหรือไม่"
ทั้งคู่จ้องไปที่ตัวอักษรด้วยความสงสัย
จิกัง
นี่เราสามารถเข้าไปช่วยได้จริงๆหรอ
กระนั้นจิกังเหมือนตกในมนต์สะกด เขาไม่ได้ยินเสียงถามของฟุน
ทีวี
เราจะไปช่วยเสาหลักเพลิงกัน
จิกังเอื้อมมือของตนจะไปกดที่จอ แต่ฟุนก็ได้หยุดมือนั้นไว้
จิกัง
ปล่อยผมนะพี่ผมจะไปช่วยเขา
ฟุน
ไม่ได้นะจิกัง แกนี่เองสินะเหตผลที่โทโมนิหายตัวไป
ทีวี
ไม่ว่าจะเป็นการหายตัวไปของพี่ชายของเธอ
ทีวี
หรือที่เหตุการณ์ร้ายๆหายไปหมดน่ะ..
ฟุน
อะไรของแก ส่งพี่โทโมนิคืนมานะ
สุดกำลังที่ฟุนดึง ด้วยร่างกายที่ยืดหยุ่น แต่กำลังของเทอนั้นต่างจากน้องชาย เขาจึงสู้แรงนั้นไม่ไหว จนทำให้ทั้งคู่ หลุดเข้าไปด้านในจอสี่เหลี่ยม แล้วทุกอย่างก็เงียบลง
ทีวี
โทโมนิงั้นเหรอ น่าคิดถึงจริงๆ ฮ่า ฮ่า #(_+_+฿(#_-+฿(฿)#)฿__+3'!_+฿(฿(#(
Comments