ชายหนุ่มไม่รีรอ รีบคว้าหยิบแก้วไวน์ชั้นดีขึ้นมาถือไว้ในกำมือหนา พรางเด้งร่างออกจากเก้าอี้หนังตัวยาว บรรดาสาวๆที่มาเต้นข้างกายยั่วยัวเขานั้นบางคนถึงกับเหว๋อไปเลยทีเดียว
ฝีเท้าคู่หนา รีบเร่งเคลื่อนไหว หมายมุ่งตรงไปทางต้นเสียงบทเพลงที่เปิดออกมาเสียงดัง เหล่าแสงสีที่ทำให้แสบตา นาสีๆ
แววตาอันเฉียบคบของคุณเพลิงพราย นั้น เฝ่ามองจับจ้องเรือนร่างสวยบาง ที่น่าค้นหาอย่างมาก แววตาของชายหนุ่มนั้นไม่เคยที่จะลดละหรือพละไส ภายในนัยน์ตาคมเต็มไปด้วยความเฉิดฉายของเลห์สนัยต่างๆนาๆ ยิ่งถ้ามองลึกเข้าไปยิ่งดูเเพรวพราวเหลือเกิน เป็นเหมือนดั่งนักล่าที่กำลังจับจ้องเหยื่อของตนเอง
เมื่อชายหนุ่นนั้นหยุดลงการเคลื่อนไหวลง บนใบหน้าคมพรางมีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ลำแขนแกร่งของชายหนุ่มนักธุรกิจถูกยกขึ้นชูแก้วเหล้าชั้นดีในกำมือ เขาเขย่ามันเล็กน้อยทำให้ก้อนน้ำแข็งในแก้วกระทบกัน อย่างเป็นจังหว่ะ ตามการเคลื่อนไหว แม้ว่าเสียงมันจะบางเบาเพียงใด แต่ถ้าลองมาอยู่ใกล้หรือในอ้อมกอดของชายหมุ่นผู้ที่กระทำ มันจะได้ยินเสียงแหลมกระทบอย่างชัดเจนกึกก้อง
ริมฝีปากกระจับสีชมพูสดของชายหนุ่มร่างแกร่ง ถูกประทับลงบนปากแก้ว ตามด้วยการลั่นไหวของลำคอ ลูกกระเดื่อลูกโตค่อยๆ ยกขึ้นลงเป็นจัวหวะ ตามเจ้าของมันที่กำลังกลืนเครื่องดื่มลงคอ การเครื่องไหวในตอนนี้ของเขา ดูสง่างาม ดึงดูดเพศตรงข้ามหรือเพศเดียวกันได้เป็นอย่างดี สาวๆ ที่อยู่รอบบริเวณข้างกายชอยหนุ่ม ถึงกับกลืนน้ำลายเสียงดัง กรื๊บ กรื๊บ มารยาทผู้ดีที่สั่งสมมานานได้จางหานไปหมดสิ้น เพียงเพราะคุณเพลิงพรายคนนั้นหล่อเหลาเอาการ
นันย์ตาสีน้ำตาลคบเข้ม ของชายหมุ่นนักธุรกิจ ยังคงจับจ้องอยู่เช่นเดิม ณ จุด จุด นั้น ตรงที่ ชายหนุ่มร่างบางนั้นทำการแสดงอยู่ แม้เจ้าของร่างสวยบางที่เขาหมายพร้องต้องใจไม่ได้สนใจหรือเห็นเขาก็ตาม
หากแต่ในตอนนี้นักธุรกิจหนุ่ม คุณเพลิงพราย เขานั้นได้เกิดอาการครั่งอย่างหนึ่ง ถึงจะควบคุมไว้ได้ แต่ถ้ายิ่งเข้าใกล้เจ้าของร่างสวยหยดย้อยนั่น สติอารมณ์อาจจะคุมไว้ไม่อยู่ ชายหมุ่นในตอนนี้มีทั้งอารมณ์ความต้องการ อาหื่นกระหาย อยากจะลิ้มลองรสชาติริมฝีปากอวบอิ่ม ของร่างบาง เห็นได้ชัดว่าเขาจะเอาคนนี้เป็นแน่
นักศึกษาหนุ่มน้อยร่างสวยบางที่กำลังไร่รำอยู่นั้น แม้ร่างกายจะยังขยับเขยื้อนต่อ บนใบหน้ายังคงมีรอยยิ้มประดับ แต่กลับส่งไม่ถึงแววตานันย์ตากลมโตกลับฉายแววความเบื่อหน่าย สายตาของเขานั้น คอยสอดส่องรอบข้างเวทีการแสดง อย่างไม่ลดละ ราวกับต้องการสืบอะไรอยู่บางอย่าง
โชติชตานั้นได้เข้าข้างคนร่างแกร่งจึงทำให้เขาที่คอยด้อมมองอยู่แล้วนั้น ได้สบตาเข้าอย่างจัง กับดวงตาที่พึ่งมองมาทางเขา
ดวงตาทั้งสองคู่ของสองหมุ่นที่ค่อนข้างแตกต่างกัน ถูกประสานงานกันเข้าอย่างจัง นั้นถือเป็นเรื่องดีของคุณเพลิงพราย เขาจึงไม่คิดที่จะหลบแววตาคู่หวานของเหนือริน ชายหนุ่มจะไม่ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเด็ดขาด เพราะเขาเป็นพวกไม่ชอบโกหก และไม่ชอบคนโกหก เขาเลือที่จะยอมรับว่าเขานั้นมองเรือนร่างเจ้าของแววตาคู่นั้นอยู่โทนโท่ ก่อนที่แววตาสีน้ำตาลประกายหม่น ของชายหนุ่มร่างบางจะทำการ หักหลบก่อน เพื่อเป็นการรักษามารยาทตามมาตรฐานของทางร้าน
ขืนเขามองต่อละก็ มันอาจจะเกิดเรื่องที่ไม่คาดคิดขึ้น ถึงจะบอกว่าเป็นกฏแต่ภายในใจกลับแอบไหวหวั่นไปบ้างเล็กน้อย
"หล่อจังเลยเเฮะ"เหนือรินทำได้เพียงหลบหลีกสายตา หันมองไปทางด้านอื่น พร้อมกับกล่าวชมเจ้าของนัยน์ตาสีคมเข้มเมื่อครู่
เหนือรินไม่อาจหักห้ามใจ ที่มันเกเรของตนได้ ทำได้เพียง ลอบมองคนที่ยังคงยืนอยู่ตรงหน้าเขา แต่ทุกครั้งเขาก็ต้องพบกับนันย์ตาคมเข้มที่เปร่งประกาย แม้บนใบหน้าเรียบนิ่งเย็นชาเช่นเดิมที่ ถึงกระนั้นเจ้าของนันย์ตสตากลับยกยิ้มให้แก่เขาในทุกครา ที่เขานั้นมองมา
หากเป็นคนอื่นที่ถูกจับจ้องปานจะกลืนกินเช่นนี้แล้วละก็ ก็คงต้องผวาหวาดกลัวกันบ้าง ถึงแม้ใบหน้านั้นจะหล่อเหลาเพียงใดก็ตาม แต่เรื่องทั้งหมดนี้สำหรับ-เหนือริน-นั้นมันถือเป็นเรื่องปกติเป็นอย่างมาก
อาจเป็นเพราะเรืองร่างของเขานั้นถูกเพ่งมอง หรือถูกแววตาสำรวจครบทุกสัสส่วน ครั้งเมื่อทำการแสดงพิเศษ ที่เป็นระบำเปลื้องผ้า แต่มันก็เปลื้องหมดไม่ได้ เป็นเพราะมีกฏหมายรองรับอยู่ หากต้องการรับงานเสริม หลังทำงานเสร็จก็ให้ไปถามกับเจ๊ หยี่หรา เบต้าผู้จัดการสถานบังเถิงแห่งนี้
การแสดงที่กล่าวถึง ดังกล่าวมีแต่ต้องนุ่มน้อยห่มน้อย แถมผืนผ้าอันน้อยชิ้นนั้น ยังบางทำให้เกลือบเห็นของรักอีก อาจพูดได้ว่าเรือนร่างนี้ถูกผู้อื่นเห็นมานักต่อนัก แต่ถึงอย่างไรก็ไม่มีใครได้ลิ้มลอง เพราะชายหนุ่มนั้นไม่รับงานประเภทนั้นเป็นอันขาด
-ผมไม่รับงานนะครับ และก็ไม่เคยแคร์ว่าใครจะว่ายังไง คนเรามองคนแค่ภายนอก จากอาชีพเท่านั้นแหละ บางคนดูดี ดูรวยแต่กลับโหดร้ายยิ่งกว่าสัตว์ร้ายอีก ผมรู้สึกว่าผมชินกับคำพูดพันธ์นั้นไปแล้ว
ไม่แปลกที่คนจะมองเพราะเรือนร่างอันน่าพิศวาทนั้นมันดึงดูดสายตาได้ดีมาก
และอีกอย่างผมต้องหาเงิน มารักษาแม่ เรื่องแค่นี้ถึงผมทำได้สบาย-
เหนือริน ชายหนุ่มนั้นเป็นคนที่ขยันและยังเป็นเสาร์หลักที่ต้องทำงานเลี้ยงครอบครัวอีก ฉะนั้นมันจำเป็นที่จะต้องทำถูกวิถีทาง เพื่อให้ได้เงินเหล่านั้นมาจุนเจือภาระหนี้สินในครอบครัว และงานนี้เป็นงานที่ได้เงินดีที่สุดแล้ว ถ้าเทียบกับงานอื่นๆ
ภายในงาน เสียงบทเพลงที่ค่อนข้างดังเมื่อครู่ ได้ค่อยๆลดระดับความดังลงให้เบาที่สุด ตามด้วยน้ำเสียงใสของหญิงสาวใบหน้าจิ้มลิ้ม -ลินดา -เธอนั้นต้องการกล่าวเชิญชวนให้บรรดาเเขกของเธอสนุกสนานเพลิดเพลิน ก่อนจะกว่าถึงการแสดงสุดพิเศษชุดต่อไป ที่เธอนั้นจัดเตรียมการเเสดงนี้มาเป็นพิเศษ เนื่องในโอกาสเล็กๆน้อย เรื่องเเบบนี้เป็นเรื่องปกติที่พวกลูกคนใหญ่คนโตจะจัดขึ้น และนั้นถือว่าเป็นการที่ดีเลยทีเดียว เหนือรินจะได้มีงานเข้ามาไม่ขาดสาย ถึงจะเหนื่อยหน่อย แต่ชายหนุ่มนั้นก็ยินดีและเต็มใจที่จะทำมัน
เหล่าบรรดาอัลฟ่า ลูกคนใหญ่คนโต ซึ่งนั้นอยู่ในห้องหรู ต่างพร้อมเพียงกันปรบมือเล็กๆน้อย เป็นมารยาททางสังคมอย่างหนึ่ง และนี่ยังเป็นการให้เกียรติเจ้าภาพอีกด้วย สำหรับคนมีชาติตระกูล เรื่องแบบนี้เขาจะบังคับกันตั้งแต่เป็นเด็ก ต่างจากคนบ้านนอกคอกนาอย่าง เหนือริน
ทุกคนต่างยิ้มยินดี เมื่อได้ฟังผู้พูดจบลง แต่ดูเหมือนว่านักธุรกิจหนุ่มไฟแรงอย่าง คุณเพลิงพรายไม่ค่อยจะสนใจเรื่องอะไรแบบนั้นนัก บนใบหน้าอันหล่อเหลาเฉียบคบ ยังมีเพียงความเรียบนิ่งเฉยชา
แต่แววตาคบเข้มของคุณเพลิงพรายกลับไม่เรียบนิ่งตามสีหน้าท่าทาง แววตาเฉียบคมนั้น กำลังมองหาอะไรบางสิ่ง แต่ไม่อาจจะเดาออก ด้วยความที่เขาถูกฝึกให้เก็บสีหน้าท่าทางตนเอาไว้อย่างดี เพื่อจะทำให้ตัวเขาเองและคนที่เขารักปลอดภัยที่สุดจากสัตรู
เขาไม่รีรอให้เวลาล่วงเลยนานเกินไป ชายหนุ่มจึงหาข้ออ้างในการรีบปลีกตัวออก"ผมขอตัวนะครับ มีประชุมด่วน" น้ำเสียงเรียบนิ่งถูกเปร่งออกมาจากชายหนุ่มที่ดูภูมิฐาน ว่าจาและถ้อยคำดูสุภาพ แต่กลับแฝงไปด้วยความเย็นยะเยือกอย่างบอกไม่ถูก
ที่เขาเลือที่จะทำเช่นนั้นเป็นเพราะว่า ทุกคนนั้นคิดว่าเขานั้น รักการทำงานเป็นอย่างมาก และด้วยภาพลักษณ์ ก็ไม่แปลกที่คนส่วนใหญ่จะคิดเช่นนั้น เรื่องเข้าใจผิดพวกนี้มันก็มีประโยชน์กับเขาเล็กๆน้อยๆ เพราะทุกครั้งที่เขาบอกว่าคิกประชุม ทุกคนก็จะปล่อยให้ไปทันที ไม่มีคนไหนที่กล้าทัก ถ่วงเลยสักคน จึงทำให้เขานั้นตรงต่อเวลาเสมอ
ทางด้าน เหนือริน ชายหนุ่มรีบจัดของที่พกมันมา จัดใส่เข้าไปไหน กระเป๋าสะพายใบโต ลายลูกเป็ดน่ารัก ในทันที แต่ก็รีบสาวเท้า ตรงออกไปจากตัวห้อง แต่ยังไม่ถึงไหน
"พี่เหนือครับ"เด็กชายน่าตาน่ารัก กล่าวทักถ้วงขึ้น เมื่อเห็นคนพี่นั้น เดินออกห่างไปจากเจ้าตัว
ฝีเท้างามหยุดลงในทันทีที่ได้ยิน เสียงทักถ้วงที่ดูเหมือนจะต้องการรั้งเขาไว้ก่อน เชกเช่นทุกครั้ง ใบหน้าสวยหวานค่อยๆหันทั้งตัวกลับไปมองยังเด็กน้อย คนเมื่อครู่
"คร้าาาาบ น้องการันต์ "ชายหนุ่มเลือที่จะทำเสียงออดอ้อนแทนการใช้น้ำเสียงปกติ เพราะทุกครั้งมันจะได้ผล ดีเสมอ
"น้องรันต์ กลับด้วยครับ"แววตาออดอ้อน เว้าวอนแสดงถึงความต้องการอย่างแจ่มแจ้ง ชายหนุ่มร่างสวยซึ้งถือว่าเป็นพี่ชาย ถึงกับส่ายหัวเบาๆ หมดวิธีที่จะเอาชนะการอ้อนของเด็กน้อยคนนี้เลยทีเดียว มันทั้งน่ารัก น่าเอ็นดู และยิ่งเขานั้น แพ้ลูกอ้อนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
ถึงเขาจะอยากพากลับบ้านด้วยขนาดไหนก็ตาม แต่มันก็ไม่สามารถทำได้ เพราะเด็กน้อยไม่ใช่ลูกของเขา ชายหนุ่มจำเป็นต้องคิดอย่างหนักในทุกครา เเละก็ต้องอยู่เป็นเพื่อนเด็กน้อยตลอด
"งั้น น้องการันต์ไปถามมามี๊ก่อนนะครับ"
น้ำเสียงหวานถูกเปร่งออกมา หลังจากการเงียบงำอยู่สักพัก ที่เขาทำอย่างนี้หน่ะมันดีกับทั้งสองฝ่ายเขาจะไม่ต้องมาเข้าคุก ข้อหาพรากผู้เยาว์ด้วย แต่หากถ้าผู้เป็นแม่นั้นอนุญาต เหนือรินก็จะไม่รีรอที่จะเอาเด็กชายการันต์กลับบ้านด้วยเลย แต่ถ้าแม่เขาไม่อนุญาติละก็...อื้ย~ไม่อย่างจะคิด แค่คิดก็ขนลุกขันแล้ว
เด็กชายการันต์นั้นเป็น อัลฟ่าหน้าหวานละมุน คลับคล้ายคลับคลากับเด็กหญิง เด็กชายเกิดจากครอบครัวของเบต้าทั้งหมด ทั้งมารดาที่เป็นผู้จัดการของสถานบันเทิงแห่งนี้ กับเบต้าค้าผู้เป็นสามี และเป็นพ่อของเด็กชาย "สินทัพ" แต่ก็ไม่รู้ทำไม อัลฟ่าอย่างเด็กชายการันต์ถึงได้สวยราวกับผู้หญิงแบบนี้
หลังจากการเงียบงำสักพัก
ก็มีเสียงของเด็กชายเปร่งออกมา ด้วยน้ำเสียงสิ้นหวัง
"น้องการันต์ไม่กลับก็ได้ครับ" เด็กชายเอ๋ย
ชายหนุ่มเขาไม่รู้จะทำอย่างไร เลยเอ๋ยเพื่อเป็นการปลอบโยน
"โอ๋ นะคร้าบบบ ~~วันนี้แม่ไม่ให้กลับ วันหลังก็มีนะครับ"ชายหนุ่มคุกเข่าลงตรงหน้า พรางเอามือขึ้นมาลูบเส้นผมสวย เพื่อเป็นการปลอบโยนความเสียงใจ
"แต่ตอนนี้พี่มีธุระ งั้นพี่ไปก่อนนะครับ" ร่างชายหนุ่นค่อยๆพยุงร่างกาย ลุกขึ้นมายืนอยู่ตรงหน้า ร่างเล็กของเด็กชาย ก่อนจะหันหลัง ฝีก้าวเท้าคู่งามนั้นได้รีบก้าวเดินไปข้างหน้า ตรงไปยังทางออกจากห้องแต่งตัวไปในทันที
ทางเดินหน้าห้องพักของโรงแรม ที่ทางด้านล่างเปิดสถานบันเทิงไว้อยู่
"อื้ม~"เสียงครางต่ำค่อยดังขึ้นทีละนิด พร้อมกับ เสียงแต่กระจักจายของเเก้วแจกัน ที่ถูกวางเรียงรายกัน
เเกร๊ง!
"ไปในห้องดีกว่านะคะ" เสียงกระเส่า ที่น่าจะเป็นของหญิงสาวค่อยๆดังตามหลังมา
"ครับ" เสียงทุ้มต่ำเอ่ยขึ้นอีกครา แขนเเกร่งรีบคว้าตัว ช้อนตัวหญิงสาวร่างบางขึ้นมาให้ในอ้อมมือ ชายหนุ่มร่างแกร่งรีบเก้าเท้าต่อ เพื่อไปทางห้องที่ตนจ้องไว้ให้รวดเร็วที่สุด
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 4
Comments